ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ชมรมบริหารงานบุคคล
dot
bulletสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย
bulletชมรมบริหารงานบุคคล
bulletชมรมบริหารงานบุคคล อยุธยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลรังสิต
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคล อมตะนคร
bulletสมาคมการบริหารงานบุคคล (PAAs)
bulletชมรมบริหารงานบุคคลบางพลี
bulletชมรมนักบริหารงานบุคคลพัทยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลยุคใหม่
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคลจังหวัดราชบุรี
bulletงานบริหารงานบุคคล
bulletชมรมงานบริหารงานบุคคลกรุงเทพฯ
bulletชมรมบริหารงานบุคลสุขสวัสดิ์
dot
ติดต่อราชการศาล
dot
bulletศาลแรงงานกลาง
bulletศาลแรงงานภาค ๒
bulletศาลยุติธรรม
bulletศาลปกครอง
bulletศาลรัฐธรมนูญ
bulletสำนักงานอัยการสูงสุด
bulletกระทรวงยุติธรรม
bulletคณะกรรมการกฤษฎีกา
bulletกรมบังคับคดี
bulletสภาทนายความ
dot
หน่วยงานราชการสำคัญ
dot
bulletกระทรวงแรงงาน
bulletกรมการจัดหางาน
bulletกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
bulletกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
bulletสำนักงานประกันสังคม
bulletกรมสรรพากร
bulletกรมบัญชีกลาง
bulletกรมพัฒนาธุรกิจกาค้า
bulletกระทรวงอุตสาหกรรม
bulletกรมโรงงานอุตสาหกรรม
bulletกรมส่งเสริมอุตสาหรม
bulletการนิคมอุตสาหกรรม
dot
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน
dot
bulletสมบัติลีกัล
bulletเอกเซลสำหรับงาน HR โดย อ.สำเริง
bulletบทความดี ๆ จากโกป้อม
dot
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
dot
dot
Newsletter

dot


พยากรณ์อากาศวันนี้
..................................


ราคาน้ำมันวันนี้
..................................



เลือกปฏิบัติในการลงโทษระเบียบการห้ามใส่ตุ้มหูมาทำงาน บังคับใช้ได้ แต่เลือกปฏิบัติในการลงโทษไม่ได้ article

คำพิพากษาฎีกาที่    ๙๔๐๐ - ๙๔๒/๕๘

เลือกปฏิบัติในการลงโทษระเบียบการห้ามใส่ตุ้มหูมาทำงาน  บังคับใช้ได้  แต่เลือกปฏิบัติในการลงโทษไม่ได้

               

                ผู้ร้องทั้งสามสำนวนยื่นคำร้องว่า   ผู้คัดค้านทั้งสามได้รับแต่งตั้งจากสหภาพแรงงานโซดิกให้เป็นกรรมการลูกจ้างในสถานประกอบกิจการของผู้ร้อง   เมื่อวันที่  ๒๔  พฤษภาคม  ๒๕๕๐  เวลา  ๒๐.๓๐ นาฬิกา  ถึงเวลา  ๒๑  นาฬิกา  ซึ่งเป็นเวลาหลังเลิกปฏิบัติงาน   ผู้คัดค้านที่  ๑  เข้ามาอยู่ในพื้นที่อาคารสำนักงานบริเวณส่วนที่เป็นห้องประชุมโดยไม่มีหน้าที่เกี่ยวข้องและไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ร้อง อีกทั้งระหว่างเดือนมีนาคม  ๒๕๕๐  ถึงวันที่  ๒๔   พฤษภาคม   ๒๕๕๐  ในขณะเวลาทำงานตามหน้าที่  ผู้คัดค้านที่  ๑ แต่งกายผิดระเบียบและข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานอันชอบด้วยกฎหมายของผู้ร้องโดยใส่ตุ้มหูหรือต่างหูมาทำงาน  การกระทำของผู้คัดค้านที่ ๑ ถือว่ามีเจตนากระทำการโดยขาดความยำเกรงต่อระเบียบและข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานและการปกครองบังคับบัญชาภายในองค์กร  ซึ่งเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานในหมวด  ๗  ว่าด้วยวินัยและโทษทางวินัย  ข้อ  ๒  วินัยพนักงาน   พนักงานจะต้องปฏิบัติตามระเบียบ  ดังต่อไปนี้   คือ  ข้อ  ๒.๑.๑  เชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา  ข้อ   ๒.๑.๖   พนักงานที่เข้ามาในบริเวณของบริษัทจะต้องแต่งกายให้ถูกต้องตามระเรียบของบริษัท ข้อ  ๒.๑.๗   นอกจากการทำงานตามหน้าที่ห้ามเข้ามาหรืออยู่ภายในสถานที่ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ร้องสามารถใช้อำนาจลงโทษผู้คัดค้านที่  ๑  ได้ตามระเบียบและข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานในหมวด  ๗  ข้อ  ๓  โทษทางวินัย  ที่พนักงานต้องพึงปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ผู้ใดฝ่าฝืนถือว่ากระทำผิด นอกจากนี้เมื่อวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๕๐  เวลา  ๑๐.๒๐  นาฬิกา  ถึง ๑๑ นาฬิกา  ผู้ร้องโดยนายภราดร  คงมณี  ผู้จัดการฝ่ายบุคคล  ซึ่งได้รับมอบหมายจากผู้มีอำนาจของผู้ร้องเรียกนายจรูญ เถื่อนมิ่งมาศ  ลูกจ้างในแผนก  Assembly  (อยู่ที่อาคารโรงงาน  ๓)   ให้มารับทราบการลงโทษเป็นลายลักษณ์อักษร  ฐานฝ่าฝืนระเบียบและข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของผู้ร้องในหมวด  ๓  ว่าด้วยวันลาและหลักเกณฑ์การลา  ข้อ  ๒  และหมวด  ๗  ว่าด้วยวินัยและโทษทางวินัย ข้อ  ๒  และข้อ  ๓  ณ  ที่ทำการของฝ่ายบุคคล (อาคาร ๑)  แต่ปรากฏว่าในช่วงเวลาดังกล่าวผู้คัดค้านทั้งสามเดินทางยังที่ทำการฝ่ายบุคคลพร้อมนายจรูญ  ซึ่งผู้ร้องหรือผู้มีอำนาจของผู้ร้องมิได้มีคำสั่งเรียก  ทั้งนี้โดยขาดความเคารพยำเกรงต่อผู้บังคับบัญชา ผู้คัดค้านทั้งสามยังกล่าวข้อความอันเป็นเท็จต่อหัวหน้างานและขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ว่าผู้ร้องโดยฝ่ายบุคคลเรียกให้มาพบ และมีเจตนาที่จะกระทำการอันเป็นปฏิปักษ์ต่อผู้ร้อง ระเบียบและข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของผู้ร้อง  โดยร่วมกันพูดจายุยงให้นายจรูญไม่ต้องลงชื่อรับทราบการลงโทษตามระเบียบและข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของผู้ร้องที่ถูกต้องตามกฎหมาย    การกระทำของผู้คัดค้านทั้งสามถือว่ามีเจตนากระทำการโดยก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ร้อง ขาดความยำเกรงต่อระเบียบข้อบังคับและการปกครองบังคับบัญชาภายในองค์กร   ละทิ้งหน้าที่การงานโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร  จนเป็นเหตุให้ผู้ร้องได้รับความเสียหาย   เพื่อเป็นการรักษาไว้ซึ่งระเบียบและข้อบังคับ   อำนาจบังคับบัญชา   และความเสมอภาคเท่าเทียมกันในการปฏิบัติระหว่างผู้ร้องกับลูกจ้างคนอื่น  ผู้ร้องพิจารณาการกระทำของผู้คัดค้านทั้งสามแล้ว  เห็นว่า  เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานในหมวด ๗ ว่าด้วยวินัยและโทษทางวินัย   ข้อ  ๒  วินัยพนักงาน  พนักงานต้องปฏิบัติตามระเบียบดังต่อไปนี้  ข้อ  ๒.๑.๑  เชื่อฟังและปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา  ข้อ  ๒.๑.๒  ห้ามช่วยเหลือหรือสนับสนุนชักจูงรู้เห็นเป็นใจหรือเพิกเฉยต่อการกระทำความผิดของพนักงานอื่น  ข้อ   ๒.๑.๑๗   ห้ามละทิ้งหน้าที่หรือขาดงานไปโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร  ขอให้ศาลอนุญาตให้ผู้ร้องลงโทษผู้คัดค้านที่  ๑  โดยการตักเตือนด้วยวาจาและเป็นหนังสือ   และผู้คัดค้านที่  ๒  และที่  ๓  โดยการตักเตือนเป็นหนังสือ

 

                ผู้คัดค้านทั้งสามยื่นคำคัดค้านว่า  เมื่อวันที่   ๒๔  พฤษภาคม  ๒๕๕๐  เวลา  ๒๐.๓๐ นาฬิกา ผู้คัดค้านที่  ๑  เลิกงานตามปกติและออกจากอาคารที่ทำงานโรงงาน  ๑  เดินมาที่อาคารสำนักงาน  ขณะนั้นนอกเวลาการทำงาน  แต่ผู้คัดค้านที่  ๑  มีเหตุจำเป็นต้องไปพบกับนายพิชิต  โสมิ่งมี  และนายภูธร  เจริญตาม  ที่ปรึกษาของสหภาพแรงงานโซดิกที่มาเข้าร่วมเจรจาข้อเรียกร้องของบริษัทคิตะมูระ  จำกัด  ซึ่งตั้งอยู่ภายในบริเวณเดียวกับบริษัทผู้ร้องที่ห้องรับแขกอาคารสำนักงาน  เมื่อผู้คัดค้านที่  ๑  พบและปรึกษาเกี่ยวกับข้อเรียกร้องและผลการเจรจาแล้ว  ผู้คัดค้านที่  ๑  ก็ออกจากบริษัทผู้ร้อง  ผู้คัดค้านที่  ๑  ไม่มีเจตนาที่จะฝ่าฝืนระเบียบและข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของผู้ร้อง ที่ผู้ร้องกล่าวหาว่าฝ่าฝืนระเบียบและข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานในข้อ  ๒.๑.๗ จึงไม่ชอบด้วยเหตุผล  ส่วนการแต่งกายที่ลูกจ้างได้ปฏิบัติมาโดยตลอด  ตามระเบียบและข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานข้อ ๒.๑.๖ การใส่ตุ้มหูหรือต่างหูมาทำงานนั้นมีทั้งลูกจ้างหญิงและลูกจ้างชายจำนวนมากและผู้ร้องไม่ถือว่ามีความผิดแต่อย่างใด   การที่ผู้ร้องกล่าวหาว่าผู้คัดค้านที่  ๑  ฝ่าฝืนระเบียบเกี่ยวกับการแต่งกายดังกล่าวจึงไม่ชอบด้วยการปฏิบัติ   ผู้ร้องยกเหตุใส่ตุ้มหูหรือต่างหูเพื่อมาลงโทษผู้คัดค้านที่  ๑  จึงเป็นการเลือกปฏิบัติต่อกรรมการลูกจ้าง  ไม่ชอบและไม่เป็นธรรม   สำหรับวันที่  ๔  กรกฎาคม  ๒๕๕๐  เวลาประมาณ  ๘.๓๐  นาฬิกา   ผู้คัดค้านทั้งสามได้รับการร้องทุกข์ด้วยวาจาจากพนักงานคือนายจรูญ  เถื่อนมิ่งมาศ เกี่ยวกับการลงโทษตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรกรณีลางาน   ผู้คัดค้านทั้งสามจึงแจ้งให้นางชลธิชา  เปลี่ยนผดุง  นายจักรพงษ์  ขวัญเมือง  และนายเสน่ห์  จันทร์ฟู   ซึ่งเป็นหัวหน้างานได้รับทราบ   และขอขึ้นไปพร้อมกับนายจรูญในเวลา  ๑๐.๒๐   นาฬิกา   เพื่อพบกับนายภราดร  คงมณี   ผู้จัดการฝ่ายบุคคล   ซึ่งหัวหน้างานก็อนุญาตให้ไปได้  เมื่อผู้คัดค้านทั้งสามพบกับฝ่ายบุคคลได้รับฟังข้อเท็จจริงต่างๆ   เกี่ยวกับนายจรูญไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ    กับฝ่ายบุคคลการประชุมรับฟังข้อเท็จจริงใช้เวลาประมาณ  ๒๐  นาที  หลังจากนั้นผู้คัดค้านทั้งสามก็กลับไปทำงานที่แผนกตามปกติ การกระทำหน้าที่ดังกล่าวของผู้คัดค้านทั้งสามไม่ได้ทำความเสียหายแก่งาน และได้บอกกล่าวแก่ผู้บังคับบัญชาให้ทราบล่วงหน้าตามที่มีการปฏิบัติประจำมาก่อนแล้ว ผู้คัดค้านทั้งสามไม่มีเจตนาที่จะขัดคำสั่งของผู้บังคับบัญชาหรือกล่าววาจาเท็จหรือฝ่าฝืนระเบียบและข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของผู้ร้อง   ไม่ได้ละทิ้งหน้าที่การงานไปโดยไม่มีเหตุผลอันสมควรและระยะเวลาเพียง  ๒๐  นาที  ไม่ได้ทำให้ผู้ร้องเกิดความเสียหายใดๆ   ผู้คัดค้านทั้งสามจึงไม่มีความผิดตามระเบียบและข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานตามคำร้อง  ผู้คัดค้านทั้งสามเพิ่งทราบว่าผู้ร้องขออนุญาตลงโทษโดยการตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร   ซึ่งผู้ร้องไม่เคยแจ้งให้ผู้คัดค้านทั้งสามทราบเรื่องมาก่อน ผู้คัดค้านทั้งสามจึงไม่มีโอกาสที่จะปรึกษาหารือเพื่อทำความเข้าใจกับผู้ร้อง   ทำให้เกิดคดีความตามที่ปรากฏอยู่   ผู้คัดค้านทั้งสามไม่ได้รับความเป็นธรรมในการปฏิบัติตามระเบียบและข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน   ขอให้ยกคำร้อง 

 

                ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว   มีคำสั่งอนุญาตให้ลงโทษตักเตือนผู้คัดค้านที่  ๑  ด้วยวาจา   ฐานแต่งกายผิดระเบียบของผู้ร้อง  คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

 

                ผู้ร้องและผู้คัดค้านที่  ๑  อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

 

                ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว  ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงและปรากฏข้อเท็จจริงตามที่คู่ความไม่โต้แย้งกันและศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าผู้คัดค้านทั้งสามเป็นพนักงานของผู้ร้อง   ขณะเกิดเหตุเป็นกรรมการลูกจ้าง  โดยผู้คัดค้านที่  ๑  เป็นประธานสหภาพแรงงานโซดิก  กรณีเมื่อวันที่   ๒๔  พฤษภาคม   ๒๕๕๐  ระหว่างเวลา  ๒๐.๓๐  นาฬิกา  ถึง ๒๑  นาฬิกา  ผู้คัดค้านที่  ๑  ซึ่งเลิกจากงานแล้วเข้ามาอยู่ในพื้นที่อาคารสำนักงานของบริษัทผู้ร้องส่วนที่เป็นห้องรับแขกของอาคาร  ๑  ไม่ได้เข้าไปในห้องประชุม และเข้าไปเพื่อพูดคุยกับบุคคลภายนอกที่ได้รับอนุญาตให้ผ่านเข้ามาในบริเวณดังกล่าวเพื่อร่วมประชุมโดยเพียงนั่งพูดคุยกันบริเวณห้องรับแขกของอาคารเท่านั้น ซึ่งบริเวณห้องรับแขกดังกล่าวไม่น่าจะเป็นบริเวณที่ผู้ร้องห้ามมิให้พนักงานของผู้ร้องเข้าไปหรือต้องขออนุญาตโดยเฉพาะทั้งนายกฤษฎา  อังควานิช พนักงานรักษาความปลอดภัยบริเวณห้องรับแขก  และนายสมพงษ์  ปลาโพธิ์   พนักงานรักษาความปลอดภัยบริเวณประตูเข้าออกบริษัทผู้ร้องซึ่งเห็นผู้คัดค้านที่ ๑ เข้าไปพูดคุยกับบุคคลภายนอกบริเวณห้องรับแขกดังกล่าวก็มิได้แจ้งให้ผู้คัดค้านที่  ๑  ออกไปจากบริเวณห้องรับแขก  ผู้คัดค้านที่  ๑  จึงมิได้มีเจตนาฝ่าฝืนเข้าไปในอาคารสถานที่ทำงานของผู้ร้องซึ่งเป็นบริเวณที่ห้ามเข้าอันจะถือว่าเป็นการขัดคำสั่งและผิดวินัย จึงไม่อนุญาตให้ลงโทษตักเตือนด้วยวาจาผู้คัดค้านที่  ๑  ในกรณีนี้   สำหรับกรณีที่ผู้คัดค้านที่  ๑  ใส่ตุ้มหูหรือต่างหูมาทำงานนั้นผู้ร้องมีประกาศ   เรื่องระเบียบการแต่งกายของพนักงานเอกสารหมาย  ร.๒  ข้อ  ๔   ห้ามพนักงานชายทุกคนสวมใส่ตุ้มหู  ตั้งแต่ผู้คัดค้านที่  ๑  เข้ามาทำงานใส่ตุ้มหูหรือต่างหูมาตลอดและมีพนักงานชายคนอื่นใส่ตุ้มหูหรือต่างหูมาทำงานโดยผู้ร้องไม่เคยลงโทษ  เมื่อผู้คัดค้านที่ ๑  รับว่าได้กระทำผิดโดยใส่ตุ้มหูหรือต่างหูมาทำงานจริงอันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบการแต่งกายดังกล่าวของผู้ร้องที่ยังคงมีอยู่   ที่ผู้คัดค้านที่  ๑  อ้างว่าตั้งแต่เข้ามาทำงานก็ใส่ตุ้มหูหรือต่างหูมาตลอด ทั้งพนักงานชายหลายคนใส่ตุ้มหูหรือต่างหูมาทำงานผู้ร้องไม่ถือเป็นการผิดระเบียบที่สำคัญและไม่เคยลงโทษ  ไม่ได้หมายความว่าการฝ่าฝืนระเบียบของผู้คัดค้านที่  ๑  ไม่เป็นความผิด   เมื่อผู้คัดค้านที่  ๑  ฝ่าฝืนต้องถือว่ากระทำความผิด  ทั้งผู้ร้องของอนุญาตลงโทษผู้คัดค้านที่  ๑  โดยการเตือนด้วยวาจา  ซึ่งเป็นการลงโทษทางวินัยในขั้นแรกเหมาะสมแล้วจึงอนุญาต   ส่วนการที่ผู้คัดค้านทั้งสามร่วมกันไปพบฝ่ายบุคคลกับนายจรูญ พนักงานของผู้ร้องที่จะถูกลงโทษตามคำขอของนายจรูญเอง แม้ทางฝ่ายบุคคลของผู้ร้องไม่ได้สั่งให้ร่วมไปด้วยก็ตาม แต่เมื่อพิจารณาถึงหน้าที่ของกรรมการลูกจ้างตามกฎหมายแล้ว การกระทำของผู้คัดค้านทั้งสามก็ยังถือได้ว่าเป็นความพยายามระงับข้อขัดแย้งและหาทางประนีประนอมปรองดองกันในข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้นในสถานประกอบกิจการตามหน้าที่ของกรรมการลูกจ้าง ทั้งผู้คัดค้านทั้งสามขออนุญาตและได้รับอนุญาตจากหัวหน้างานให้ไปแล้ว จึงไม่ถือว่าเป็นการละทิ้งหน้าที่โดยไม่มีเหตุผลอันสมควรตามที่ผู้ร้องอ้าง  สำหรับข้อที่นายภราดร  คงมณี  ผู้จัดการฝ่ายบุคคล  อ้างว่าสั่งให้ผู้คัดค้านทั้งสามกลับไปทำงาน   แต่ผู้คัดค้านทั้งสามฝ่าฝืนไม่ยอมกลับนั้นสาเหตุเพราะไม่ได้เรียกพบเท่านั้น  และตามบันทึกของนายภราดรท้ายเอกสารหมาย ร.๖ ไม่มีข้อความระบุถึงเรื่องที่นายภราดรสั่งให้ผู้คัดค้านทั้งสามกลับไปทำงานแต่ผู้คัดค้านทั้งสามฝ่าฝืนไม่กลับอันจะถือเป็นการขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาแต่อย่างใดจึงไม่น่าเชื่อว่านายภราดรมีคำสั่งและผู้คัดค้านทั้งสามฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามดังกล่าว   ส่วนที่ผู้ร้องอ้างว่าผู้คัดค้านทั้งสามพูดทำนองยุยงไม่ให้นายจรูญยอมรับผิดตามที่ถูกเตือนและไม่ให้ลงชื่อรับทราบหนังสือเตือนนั้น  การที่นายจรูญไม่ยอมลงชื่อรับทราบหนังสือเตือนนั้น   ไม่ถือเป็นความผิด   ทั้งผู้ร้องซึ่งเป็นนายจ้างยังมีวิธีการแจ้งหนังสือเตือนถึงลูกจ้างที่กระทำผิดโดยวิธีอื่นได้อีก ดังนั้นหากผู้คัดค้านทั้งสามจะพูดไม่ให้นายจรูญยอมรับผิดและลงชื่อรับทราบหนังสือเตือนจริงก็ไม่อาจถือว่าเป็นการรู้เห็นเป็นใจหรือให้การสนับสนุนการกระทำของนายจรูญตามคำร้องแต่อย่างใด    จึงไม่อนุญาตให้ลงโทษผู้คัดค้านทั้งสามโดยการตักเตือนเป็นหนังสือ

 

               คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ผู้ร้องว่า  ผู้ร้องมีเหตุในการขออนุญาตลงโทษตักเตือนผู้คัดค้านทั้งสามเป็นหนังสือหรือไม่ โดยผู้ร้องอุทธรณ์ในทำนองว่า การที่ผู้คัดค้านทั้งสามซึ่งเป็นกรรมการลูกจ้างมาพบฝ่ายบุคคลในเวลาทำงานเพราะเหตุที่นายจรูญ เถื่อนมิ่งมาศ  ถูกลงโทษนั้น  ไม่ใช่หน้าที่ของกรรมการลูกจ้าง  ดังนั้น  การกระทำของผู้คัดค้านทั้งสามจึงเป็นการฝ่าฝืนระเบียบและข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของผู้ร้องนั้น เห็นว่า ผู้คัดค้านทั้งสามเป็นกรรมการลูกจ้าง การที่ผู้คัดค้านทั้งสามติดตามนายจรูญ  เถื่อนมิ่งมาศ  ซึ่งเป็นเพื่อนพนักงานไปยังฝ่ายบุคคล  โดยได้รับอนุญาตจากหัวหน้างานซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาและเมื่อไปถึงก็ไม่ปรากฏว่านายภราดร  คงมณี  ผู้จัดการฝ่ายบุคคล   มีคำสั่งให้ผู้คัดค้านทั้งสามกลับมาทำงานแต่อย่างใด  การกระทำของผู้คัดค้านทั้งสามจึงยังไม่อาจถือได้ว่าเป็นการละทิ้งหน้าที่อันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบและข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของผู้ร้องที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น

 

             คดีมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของผู้คัดค้านที่  ๑  ว่า   กรณีมีเหตุสมควรอนุญาตให้ลงโทษตักเตือนผู้คัดค้านที่  ๑   ด้วยวาจา  ฐานแต่งกายผิดระเบียบของผู้ร้องหรือไม่   โดยผู้คัดค้านที่  ๑  อุทธรณ์ว่า  พนักงานชายรวมทั้งผู้คัดค้านที่  ๑  ใส่ตุ้มหูหรือต่างหูโดยไม่มีใครถูกลงโทษ  การใส่ตุ้มหูหรือต่างหูเป็นเครื่องประดับทั่วไป  การที่ผู้ร้องห้ามมิให้ผู้คัดค้านที่  ๑  ใส่ตุ้มหูหรือต่างหูจึงเป็นการเลือกปฏิบัติต่อผู้คัดค้านที่  ๑  และขัดต่อสิทธิเสรีภาพของผู้คัดค้านที่ ๑  นั้น  เห็นว่า   ผู้ร้องออกประกาศเรื่อง  ระเบียบการแต่งกายของพนักงาน  เอกสารหมาย ร.๔ เพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อยมากยิ่งขึ้น  รวมถึงเป็นการสร้างภาพพจน์ที่ดีแก่บริษัท  โดยผู้ร้องได้กำหนดระเบียบดังนี้  ข้อ  ๔  ห้ามพนักงานชายทุกคนสวมใส่ตุ้มหูและไว้ผมยาว  (ซึ่งเป็นการสร้างบุคลิกภาพไม่เหมาะสมในการเป็นพนักงานที่ดีของบริษัท)  ซึ่งผู้ร้องสามารถกระทำได้  ประกาศดังกล่าวจึงใช้บังคับได้   แต่เมื่อได้ความว่ามีลูกจ้างผู้ร้องคนอื่นซึ่งเป็นพนักงานชายใส่ตุ้มหูหรือต่างหูมาทำงานอันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบตามประกาศดังกล่าวโดยผู้ร้องมิได้ลงโทษ คงลงโทษเฉพาะผู้คัดค้านที่  ๑  เพราะเหตุที่ผู้คัดค้านที่  ๑  เป็นกรรมการลูกจ้างจึงเป็นการเลือกปฏิบัติ   กรณีจึงไม่มีเหตุสมควรอนุญาตให้ผู้ร้องลงโทษตักเตือนผู้คัดค้านที่ ๑  ด้วยวาจา ฐานแต่งกายผิดระเบียบของผู้ร้องได้   ที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งมานั้น   ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย  อุทธรณ์ของผู้คัดค้านที่   ๑  ฟังขึ้น

 

               พิพากษาแก้เป็นว่า   ให้ยกคำร้องของอนุญาตลงโทษผู้คัดค้านที่  ๑  ฐานแต่งกายผิดระเบียบของผู้ร้อง    นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำสั่งศาลแรงงานกลาง.

 
 
 
 
                                                           เรียบเรียงโดย บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด



อัพเดท ฎีกาน่าสนใจ

ขึ้นทะเบียนรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเกิน ๓๐ วัน ยังมีสิทธิได้รับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานได้ article
ลักษณะความผิดเดียวกัน แต่ระดับความร้ายแรงแตกต่างกัน นายจ้างพิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ผู้จัดการสาขา เสนอรายชื่อลูกค้าที่ขาดคุณสมบัติทำประกันชีวิต ถือว่าจงใจทำให้นายจ้างเสียหาย / ผิดร้ายแรง article
หยุดกิจการชั่วคราวตาม มาตรา ๗๕ article
สัญญาจ้างเป็นสัญญาต่างตอบแทน นายจ้างออกค่าใช้จ่ายในการเข้าทดสอบเพื่อรับเกียรติบัตร เมื่อทดสอบผ่านต้องทำงานกับนายจ้าง ๕ ปี บังคับใช้ได้ article
ศาลแรงงานกลางมีอำนาจสั่งรับพยานเอกสารได้ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม article
ประกอบธุรกิจแข่งขัน / ไปทำงานกับนายจ้างอื่น ในลักษณะผิดต่อสัญญาจ้าง เมื่อลูกจ้างได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้างตามสัญญาแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะบังคับ / ห้ามทำงานตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างอีกต่อไป article
คดีแรงงานเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้คดีอาญายกฟ้อง แต่พฤติกรรมการกระทำผิด เป็นเหตุให้นายจ้างไม่อาจไว้วางใจในการทำงานได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
เลิกจ้างเนื่องจากปรับโครงสร้างองค์กร แต่กำหนดรายชื่อไว้ล่วงหน้า ถือเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม article
การหักลบกลบหนี้ หนี้อันเกิดจากสัญญาจ้าง กรณีลูกจ้างกระทำผิดกับสิทธิประโยชน์ที่มีสิทธิได้รับตามสัญญาจ้าง ถือเป็นมูลหนี้อันเป็นวัตถุอย่างเดียวกันหักลบกลบหนี้กันได้ article
เล่นการพนันฉลากกินรวบ เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน กรณีร้ายแรง article
กรณีไม่ถือเป็นการประกอบธุรกิจแข่งขันหรือไม่ถือว่าทำงานกับนายจ้างใหม่ในลักษณะธุรกิจเดียวกับนายจ้าง article
สัญญาฝึกอบรม นายจ้างกำหนดเบี้ยปรับได้ เป็นสัญญาที่เป็นธรรม article
ค้ำประกันการทำงาน หลักประกันการทำงาน การหักลบกลบหนี้ค่าเสียหายจากการทำงาน article
ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์แต่ตนเอง เรียกรับเงินจากลูกค้า ถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ article
ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา มาทำงานสายประจำ ถือว่า กระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สหภาพแรงงานทำบันทักข้อตกลงเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างกับนายจ้าง อันส่งผลกระทบต่อสิทธิหน้าที่ของสมาชิก ขัดกับข้อตกลงเดิมและมิได้ขอมติที่ประชุมใหญ่ ข้อตกลงดังกล่าวไม่อาจใช้บังคับได้ article
ขอเกษียณอายุก่อนกำหนดตามประกาศ ถือเป็นการสมัครใจเลิกสัญญาจ้างแรงงานต่อกัน มิใช่การเลิกจ้างหรือการเกษียณอายุ จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยตามระเบียบกรณีเกษียณอายุ article
สถาบันวิจัยอันเป็นส่วนหนึ่งของกิจการมหาวิทยาลัยถือเป็นหน่วยงานของรัฐ ได้รับยกเว้น ไม่อยู่ภายใต้บังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา ๔ (๑) article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า จากการเลิกจ้างมีอายุความฟ้องร้องได้ภายใน ๑๐ ปี article
ทะเลาะวิวาทเรื่องส่วนตัวไม่ส่งผลกระทบต่อการบังคับบัญชา ไม่เป็นความผิด กรณีร้ายแรง ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ article
พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน มิใช่ทายาทผู้มีสิทธิรับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ และเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ตามพระราชบัญญัติ ประกันสังคม มาตรา ๗๓ และมาตรา ๗๗ article
ขับรถเร็วเกินกว่าข้อบังคับกำหนด เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนคำสั่งโยกย้าย เลิกจ้างได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ประกาศใช้ระเบียบใหม่ ไม่ปรากฏว่ามีพนักงานโต้แย้งคัดค้าน ถือว่าทุกคนยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ article
เงินค่าตอบแทนพิเศษกับเงินโบนัส มีเงื่อนไขต่างกัน หลักเกณฑ์การจ่ายต่างกัน จึงต้องพิจารณาต่างกัน article
ทายาทผู้มีสิทธิได้รับเงินกองทุนเงินทดแทน article
ค่ารถแทนรถยนต์ประจำตำแหน่ง ไม่ถือเป็นค่าจ้าง และ ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสมให้ถือตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานที่กำหนดไว้ article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างไม่ตกลง ขอเวลาตัดสินใจและหยุดงานไป นายจ้างแจ้งให้กลับเข้าทำงานตามปกติ ถือว่านายจ้างยังไม่มีเจตนาเลิกจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ แอบนอนหลับในเวลาทำงาน ถือเป็นเหตุในการเลิกจ้างได้ เลิกจ้างเป็นธรรม article
ลาออกโดยไม่สุจริต ไม่มีผลใช้บังคับ article
ทำความผิดคล้ายคลึงกันแต่ไม่เหมือนกัน พิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ประกอบธุรกิจ บริการ ด่าลูกค้าด้วยถ้อยคำหยาบคาย " ควาย " ถือเป็นการกระทำความผิดกรณีร้ายแรง article
ข้อบังคับ ระบุให้ผู้บังคับบัญชาเหนือกว่ามีอำนาจแก้ไข เพิ่มโทษ หรือลดโทษได้ การยกเลิกคำสั่งลงโทษเดิมและให้ลงโทษใหม่หนักกว่าเดิมจึงสามารถทำได้ article
ลงโทษพักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างและเตือนในคราวเดียวกันได้ ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน article
จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย article
ข้อตกลงรับเงินและยินยอมปลดหนี้ให้แก่กัน ถือเป็นการตกลงระงับข้อพิพาทแม้จะทำขึ้นก่อนคำสั่งเลิกจ้างมีผลใช้บังคับ article
ศาลแรงงานมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานที่คู่ความอ้างส่งศาลได้ แม้มิได้ระบุบัญชีพยานไว้ก็ตาม article
สัญญาจ้างห้ามลูกจ้างไปทำงานกับนายจ้างใหม่ที่ประกอบธุรกิจเช่นเดียวกันมีกำหนดเวลา บังคับใช้ได้ article
เลิกจ้างและรับเงินค่าชดเชย ใบรับเงิน ระบุขอสละสิทธิ์เรียกร้องเงินอื่นใดใช้บังคับได้ ลูกจ้างไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องสินจ้างและค่าเสียหายได้อีก article
เกษียณอายุ 60 ปี ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยนับแต่วันครบกำหนดเกษียณอายุ แม้นายจ้างไม่ได้บอกเลิกจ้างก็ตาม article
ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องและเพิกเฉยไม่ดูแลผลประโยชน์ของนายจ้าง เป็นเหตุให้นายจ้างไม่ไว้วางใจในการทำงานได้เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ละเลยต่อหน้าที่ ไม่รายงานเคพีไอ นายจ้างตักเตือนแล้ว ถือว่าผิดซ้ำคำเตือน เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ทำสัญญาจ้างต่างด้าวทำงานในอาชีพต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว สัญญาจ้างถือเป็นโมฆะ article
ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง article
ศาลมีคำสั่งให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษาตามหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน ในขณะที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ยุติ ต้องสืบพยานใหม่และพิพากษาใหม่ไปตามรูปคดี article
แม้สัญญาจ้างไม่ได้ระบุระยะเวลาทดลองงานไว้ แต่นายจ้างก็สามารถประเมินผลการทำงานของลูกจ้างได้ article
การควบรวมกิจการ สิทธิและหน้าที่โอนไปเป็นของบริษัทใหม่ การจ่ายเงินสมทบบริษัทใหม่ที่ควบรวมจึงมีสิทธิจ่ายเงินสมทบในอัตราเดิมตามสิทธิ มิใช่ในอัตราบริษัทตั้งใหม่ article
เลิกจ้างรับเงินค่าชดเชยแล้วตกลงสละสิทธิ์จะไม่เรียกร้องผละประโยชน์ใดๆ ถือว่าสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเป็นอันระงับไป article
รับเหมาก่อสร้าง ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบ จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมแทนผู้รับเหมาช่วง หากผู้รับเหมาช่วงไม่นำส่งเงินสมทบตามกฎหมายโดยคำนวณจากอัตราค่าจ้างที่ระบุตามแบบ ( ภ.ง.ด. 50 ) และบัญชีงบดุล article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานระบุห้ามทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกาย ผู้บังคับบัญชา เพื่อนพนักงาน ทั้งในสถานที่ทำงาน หรือสถานที่อื่นๆ ฝ่าฝืนถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง ใช้บังคับได้ไม่ขัดต่อกฎหมาย article
ไส้ติ่งอักเสบ แพทย์วินิจฉัยให้ผ่าตัด ถือเป็นกรณีฉุกเฉิน เบิกค่ารักษาได้ มีสิทธิรับเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ได้ article
ค่าเช่าที่พัก ค่าใช้จ่ายเดินทางเป็นสวัสดิการไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่ารถยนต์ซึ่งกำหนดเป็นสวัสดิการไว้ชัดเจนแยกจากฐานเงินเดือนปกติ ถือเป็นสวัสดิการไม่ใช่ค่าจ้าง article
ละเมิดข้อตกลงสภาพการจ้าง ละเมิดสัญญาจ้าง มีอายุความ 10 ปี มิใช่ 1 ปี article
พฤติกรรมการจ้างที่ถือว่าเป็นการจ้างแรงงาน ถือเป็นลูกจ้าง / นายจ้างตามกฎหมาย article
พนักงานขายรถยนต์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ประจำบูธ ตามที่ได้รับมอบหมาย ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
เลือกตั้งคณะกรรมการสหภาพฯ ขัดต่อข้อบังคับสหภาพหรือขัดต่อกฎหมาย ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบ article
ฝ่าฝืนสัญญาจ้าง กรณีห้ามทำการแข่งขันกับนายจ้างหรือทำธุรกิจคล้ายคลึงกับนายจ้างเป็นเวลา 2 ปี นับจากสิ้นสุดสัญญาต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้าง article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระบุให้นายจ้างเลิกจ้างเพราะเหตุคนล้นงาน ปรับลด ขนาดองค์กรได้ ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะเลิกจ้างลูกจ้างได้ article
ข้อบังคับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรณีตัดสิทธิ์รับเงินสมทบพร้อมผลประโยชน์หากกระทำผิดถูกปลดออกจากงานบังคับใช้ได้ article
ทะเลาะวิวาทกัน นอกเวลางาน นอกบริเวณบริษัทฯ ไม่ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนไม่ไปตรวจสารเสพติดซ้ำตามคำสั่งและนโยบาย ถือว่าฝ่าฝืน ข้อบังคับ หรือ ระเบียบ กรณีร้ายแรง article
วันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วน article
เป็นลูกจ้างที่มีอำนาจกระทำการแทนนายจ้างในการจ้างงาน ไม่มีสิทธิได้รับค่าทำงานในวันหยุด และลักทรัพย์เอาต้นไม้ของนายจ้างไป ถือว่ากระทำผิดอาญาแก่นายจ้าง เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ผลการทำงานดีมาโดยตลอดและไม่เคยกระทำผิดมาก่อน แต่ปีสุดท้ายผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ถือเป็นเหตุที่จะอ้างในการเลิกจ้าง article
ได้รับบาดเจ็บรายการเดียว เข้ารักษา 2 ครั้ง ถือว่าเป็นการรักษารายการเดียว นายจ้างสำรองจ่ายเพิ่มเติมไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ใช่ 200,000 บาท article
ผู้บริหารบริษัท ฯ ถือเป็นลูกจ้างหรือไม่ ดูจาก_________ ? article
ขับรถออกนอกเส้นทาง แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรงและก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้าง นายจ้างหักเงินประกันการทำงานได้ article
ค่าจ้างระหว่างพักงาน เมื่อข้อเท็จจริง ลูกจ้างกระทำความผิดจริง จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างระหว่างพักงาน article
“ นายจ้าง ” ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 article
สัญญารักษาความลับ ข้อมูลทางการค้า (ห้ามประกอบหรือรับปฏิบัติงานแข่งขันนายจ้าง) มีกำหนด 2 ปี บังคับใช้ได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย และการกำหนดค่าเสียหาย ถือเป็นเบี้ยปรับตามกฎหมาย ศาลปรับลดได้ตามสมควร article
เงินรางวัลการขายประจำเดือน จ่ายตามเป้าหมายการขาย ที่กำหนดไว้ ไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่าโทรศัพท์ เหมาจ่าย ถือเป็นค่าจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ 3 วันทำการ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เลิกจ้างเป็นธรรมไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ลาออกมีผลใช้บังคับแล้ว ออกหนังสือเลิกจ้างภายหลังใช้บังคับไม่ได้ article
ตกลงรับเงิน ไม่ติดใจฟ้องร้องอีกถือเป็นการตกลงประนีประนอมกันบังคับได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย
เลิกจ้างระหว่างทดลองงาน ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ข้อตกลงว่า “หากเกิดข้อพิพาทตามสัญญาจ้างแรงงาน ให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย” ไม่เกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมายแรงงาน เมื่อเกิดสิทธิตามกฎหมาย ฟ้องศาลแรงงานได้ โดยไม่ต้องให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย article
เลิกจ้างด้วยเหตุอื่น อันมิใช่ความผิดเดิมที่เคยตักเตือน ไม่ใช่เหตุที่จะไม่จ่ายค่าชดเชย เลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย article
นำรถยนต์ไปใช้ในกิจธุระส่วนตัว มีพฤติกรรมคดโกง ไม่ซื่อตรง พฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต ไม่น่าไว้วางใจ ลงโทษปลดออกจากการทำงานได้ article
การกระทำที่กระทบต่อเกียรติ ชื่อเสียงของนายจ้าง และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้กระทำนอกสถานที่ทำงานและนอกเวลางาน ก็ถือว่า ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกรณีร้ายแรง article
สัญญาค้ำประกันการทำงานไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ต้องรับผิดชอบตลอดไป article
ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเลิกจ้างได้ ถือว่าเลิกจ้างเป็นธรรมและความผิดที่ลงโทษแล้วจะนำมาลงโทษอีกไม่ได้ article
ผิดสัญญาจ้างไปทำงานกับคู่แข่ง นายจ้างฟ้องเรียกค่าเสียหายตามสัญญาได้ แต่ค่าเสียหาย เป็นดุลพินิจของศาลจะกำหนด article
จงใจกระทำผิดโดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้นายจ้างเสียหาย ถือว่า กระทำละเมิดต่อนายจ้าง ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น article
ตกลงสละสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย ภายหลังเลิกจ้าง ใช้บังคับได้ ไม่เป็นโมฆะ article
ก้าวร้าวไม่ให้ความเคารพผู้บังคับบัญชา ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้ามิใช่ค่าจ้าง คิดดอกเบี้ยในอัตรา 7. 5 ต่อปี article
ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของนายจ้างในเรื่องส่วนตัวเป็นประจำ ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่กาปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต เลิกจ้างเป็นธรรม article
สั่งให้พนักงานขับรถ ขับรถออกนอกเส้นทางแต่ไม่ได้มีส่วนในการขับรถ ถือว่าผิดต่อสัญญาจ้าง แต่ไม่ต้องรับผิดอันมีผลโดยตรงจากมูลละเมิด ( ขับรถโดยประมาท ) article
จ่ายของสมนาคุณให้ลูกค้า โดยไม่ตรวจสอบบิลให้ถูกต้อง มิใช่ความผิดกรณีร้ายแรงไม่ใช่การทุจริตต่อหน้าที่ แต่ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เสร็จลุล่วงไปโดยถูกต้อง และสุจริต เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ฟ้องประเด็นละเมิด กระทำผิดสัญญาจ้าง ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง มีอายุความ 10 ปี article
ตกลงยินยอมให้หักค่าจ้างชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันเงินกู้ นายจ้างสามารถหักค่าจ้างได้ตามหนังสือยินยอมโดยไม่ต้องฟ้อง article
กระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้างและประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง article
“ งานโครงการตามมาตรา 118 วรรค 4 ” บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ว่าจ้างลูกจ้างทำงานตามโครงการที่รับเหมา ถือว่าจ้างงานในปกติธุรกิจของนายจ้าง มิใช่งานโครงการ article
เงินโบนัสต้องมีสภาพการเป็นพนักงานจนถึงวันกำหนดจ่าย ออกก่อนไม่มีสิทธิได้รับ article
ระเบียบกำหนดจ่ายเงินพิเศษ ( gratuity ) เนื่องจากเกษียณอายุ โดยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายแตกต่างจากการจ่ายค่าเชย ถือว่านายจ้างยังไม่ได้จ่ายค่าชดเยตามกฎหมาย article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างขอค่าชดเชย นายจ้างไม่คุยด้วย แต่ยังไม่ได้บอกเลิกจ้างและยังไม่ปรากฎว่านายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างและไม่ให้เข้าทำงานต่อ ยังไม่ถือว่าเป็นการเลิกจ้าง ( อย่าเข้าใจไปเอง ) ไม่มีสิทธิได้ค่าชดเชย article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด

เลขที่ 511/4 ถนนประชาอุทิศ 117/1 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร (10140)

โทร/Tel : 02 - 8159522, แฟกซ์/Fax : 02 - 8159523, มือถือ/Mobile : 081 - 7936156

อีเมล/E-mail : sawai.prm@gmail.com, เว็บไซต์/Web : www.parameelaw.com