วิธีป้องกันตัวเองจากโจรผู้ร้าย
1.ข้อศอกเป็นจุดที่แข็งแกร่งที่สุดของร่างกาย หากถูกทำร้าย หรือกำลังจะถูกทำร้าย และคุณอยู่ในระยะที่ใกล้พอ จงใช้ข้อศอกให้เป็นประโยชน์ ด้วยการตีศอกไปที่ ดวงตา จมูก คาง หรือกกหู ของคนร้าย
2.หากถูกโจรจี้ และขอกระเป๋าถือหรือ กระเป๋าสตางค์ อย่ายื่นกระเป๋าให้โจร แต่ให้ขว้างกระเป๋าไปไกลๆและขณะที่มันวิ่งไปหยิบกระเป๋า จงวิ่งอย่างไม่คิดชีวิต ไปในทิศทางตรงกันข้าม
3.ถ้าถูกจับขังในฝากระโปรงท้ายรถ พยายามทุบให้ไฟท้ายรถหลุดออก จากนั้นยื่นแขนออกมาจากรูโหว่แล้วให้โบกมือ ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดี หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่อยู่ในบริเวณนั้น
4.เมื่อทำธุระเสร็จแล้ว ทันทีที่ก้าวขึ้นรถให้ล๊อกประตู และรีบขับออกจากจุดจอดรถนั้น ทันที อย่านั่งเล่นอยู่ในรถ เพราะผู้ร้ายอาจจ้องคุณอยู่ และใช้จังหวะที่คุณเผลอ เปิดประตูรถเข้ามา ปล้นจี้ หรือทำร้ายคุณได้
5. คำแนะนำ เมื่อคุณต้องเดินไปยังรถ ที่จอดในลานจอดรถ โรงจอดรถ หรืออาคารที่จอดรถ
(ก) ประสาทตื่นตัว หมั่นสำรวจรอบตัว มองข้างในรถทั้งที่นั่งข้างคนขับ พื้นรถ เบาะหลัง
(ข) ถ้ารถคุณจอดอยู่ข้างรถตู้คันใหญ่ แนะนำให้ขึ้นรถด้านประตูผู้โดยสาร ผู้ร้ายส่วนใหญ่มักฉวยโอกาสจังหวะที่เหยื่อกำลังเปิดประตูรถลากตัวเหยื่อขึ้นรถตู้
(ค) ดูรถที่จอดอยู่ข้างรถคุณทั้งฝั่งซ้าย และขวาหากมีผู้ชายนั่งอยู่คนเดียวตรงเบาะด้านที่ใกล้รถคุณ ควรหลีกเลี่ยงด้วยการเดินกลับเข้าไปในห้างหรือที่ทำงาน แล้วให้ รปภ.หรือเพื่อนชายเดินกลับมาส่งที่รถ
6.เมื่อไปห้างสรรพสินค้า ควรใช้ลิฟต์แทนการขึ้นลงทางบันได เพราะบริเวณบันไดเป็นจุดอับ และเปลี่ยว จึง
อาจมีพวกมิจฉาชีพ ซุ่มรอเหยื่ออยู่ในจุดต่างๆได้
7.โดยปกติ คนเมื่อเกิดหวาดกลัว หน้าจะซีด และตัวสั่น เพราะ กระบวนการป้องกันตนของ ร่างกายที่ส่งผล
ต่อการไหลของโลหิตและทำให้สูญเสียทักษะชั่วคราว ถึงขนาดจะไม่สามารถขยับนิ้วหรือลิ้นได้เหมือนปกติบ่อยครั้งที่ตำรวจได้รับสายใบ้ ซึ่งเป็นเพราะผู้ที่โทรศัพท์กลัว และตกใจจนพูดไม่ออกได้ยินแต่เสียง หายใจหนักๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าเกิดขึ้นในวินาทีแห่ง ความเป็นความตาย
ที่มา: เจ้าพระยานิวส์