ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ชมรมบริหารงานบุคคล
dot
bulletสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย
bulletชมรมบริหารงานบุคคล
bulletชมรมบริหารงานบุคคล อยุธยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลรังสิต
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคล อมตะนคร
bulletสมาคมการบริหารงานบุคคล (PAAs)
bulletชมรมบริหารงานบุคคลบางพลี
bulletชมรมนักบริหารงานบุคคลพัทยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลยุคใหม่
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคลจังหวัดราชบุรี
bulletงานบริหารงานบุคคล
bulletชมรมงานบริหารงานบุคคลกรุงเทพฯ
bulletชมรมบริหารงานบุคลสุขสวัสดิ์
dot
ติดต่อราชการศาล
dot
bulletศาลแรงงานกลาง
bulletศาลแรงงานภาค ๒
bulletศาลยุติธรรม
bulletศาลปกครอง
bulletศาลรัฐธรมนูญ
bulletสำนักงานอัยการสูงสุด
bulletกระทรวงยุติธรรม
bulletคณะกรรมการกฤษฎีกา
bulletกรมบังคับคดี
bulletสภาทนายความ
dot
หน่วยงานราชการสำคัญ
dot
bulletกระทรวงแรงงาน
bulletกรมการจัดหางาน
bulletกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
bulletกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
bulletสำนักงานประกันสังคม
bulletกรมสรรพากร
bulletกรมบัญชีกลาง
bulletกรมพัฒนาธุรกิจกาค้า
bulletกระทรวงอุตสาหกรรม
bulletกรมโรงงานอุตสาหกรรม
bulletกรมส่งเสริมอุตสาหรม
bulletการนิคมอุตสาหกรรม
dot
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน
dot
bulletสมบัติลีกัล
bulletเอกเซลสำหรับงาน HR โดย อ.สำเริง
bulletบทความดี ๆ จากโกป้อม
dot
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
dot
dot
Newsletter

dot


พยากรณ์อากาศวันนี้
..................................


ราคาน้ำมันวันนี้
..................................



ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องและเพิกเฉยไม่ดูแลผลประโยชน์ของนายจ้าง เป็นเหตุให้นายจ้างไม่ไว้วางใจในการทำงานได้เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article

คำพิพากษาฎีกาที่    6921/57

ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องและเพิกเฉยไม่ดูแลผลประโยชน์ของนายจ้าง  เป็นเหตุให้นายจ้างไม่ไว้วางใจในการทำงานได้เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม

 

                                      โจทก์ฟ้องว่า   เมื่อวันที่ 19  มกราคม  2545  จำเลยจ้างโจทก์เข้าทำงานเป็นลูกจ้างในตำแหน่งผู้จัดการโรงงาน   ครั้งสุดท้ายได้รับค่าจ้างเดือนละ  43,000  บาท  กำหนดจ่ายค่าจ้างทุกวันที่ 20  และวันที่  5  ของเดือนถัดไปต่อมาเมื่อวันที่  15  ธันวาคม  2550  จำเลยเลิกจ้างโจทก์อ้างว่าไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ซึ่งไม่เป็นความจริงและมิใช่ความผิดของโจทก์โดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้าตามกฎหมาย จำเลยจ่ายค่าชดเชยให้บางส่วนคงค้างจ่ายค่าชดเชยโจทก์อยู่อีก  59,000  บาท  จำเลยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าแก่โจทก์ครบถ้วน  ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน  2547  ถึงเดือนธันวาคม  2550  จำเลยค้างค่าจ้างโจทก์เป็นเงิน  375,000  บาท   ซึ่งโจทก์ขอคิดค่าจ้างค้างย้อนหลังเพียง  2  ปี  เป็นเงิน  240,000  บาท  ในการทำงานกับจำเลย  จำเลยมีข้อตกลงว่าด้วยการจ่ายค่าคอมมิสชันให้โจทก์ในการขายสินค้าให้แก่จำเลย  โดยกำหนดยอดขายต่อเดือนที่เกิน  400,000  บาท  จะให้ค่าคอมมิสชันแก่โจทก์ในอัตรา 2.5 % และจะจ่ายเงินให้โจทก์เมื่อเก็บจากลูกค้าได้ตั้งแต่เดือนมกราคม  2549  ถึงเดือนธันวาคม  2550  โจทก์สามารถขายสินค้าให้แก่จำเลยได้เป็นเงิน  9,284,451  บาท  โจทก์จึงมีสิทธิได้รับค่าคอมมิสชันภายหลังจากที่จำเลยเก็บเงินจากลูกค้าได้เป็นเงิน  21,837  บาท  ระหว่างทำงานกับจำเลย  จำเลยหักค่าพาหนะจากค่าจ้างโจทก์โดยโจทก์ไม่ยินยอม  จำเลยหักค่าจ้างตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน  2550  ถึงเดือนธันวาคม  2550  เป็นเงิน  6,000  บาท  นอกจากนี้การเลิกจ้างโจทก์ด้วยเหตุดังกล่าวเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม   ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย  ต้องตกงานขาดรายได้ประจำ  ประกอบกับโจทก์มีอายุมากแล้วหางานทำใหม่ลำบาก  โจทก์ไม่ประสงค์จะทำงานกับจำเลย   ขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าคอมมิสชัน  21,837  บาท   ค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม  430,000  บาท  พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ  7.5  ต่อปี   ค่าจ้างค้าง   246,000  บาท (240,000 + 6,000 บาท )  ค่าชดเชย  59,033  บาท  พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ  15  ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

 

                        จำเลยให้การว่า  โจทก์เป็นผู้จัดการโรงงาน  ครั้งสุดท้ายได้รับค่าจ้างเดือนละ  31,500 บาท โจทก์ไม่สามารถทำงานร่วมกับพนักงานอื่นและผู้ใต้บังคับบัญชาทำให้เกิดความขัดแย้งในองค์กรของจำเลยจนไม่สามารถควบคุมได้   ที่โจทก์อ้างว่าจำเลยค้างค่าจ้างตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน  2547  ถึงเดือนธันวาคม  2550  ไม่เป็นความจริงเนื่องจากโจทก์คำนวณค่าจ้างต่อเดือนที่ได้รับจากจำเลยเดือนละ  43,000  บาท  ซึ่งจะมีส่วนต่างอยู่  11,500  บาท  เงินเดือนโจทก์จะมีอัตราเดือนละ  31,500  บาท  โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าจ้างค้างตามฟ้อง ยอดขายสินค้าของโจทก์ไม่ถึงกำหนดยอดขายที่จำเลยตกลงกับโจทก์  โจทก์จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าตอบแทนประเภทค่าคอมมิสชันจากจำเลย  โจทก์สิ้นสภาพการเป็นพนักงานของจำเลยเมื่อวันที่  15  ธันวาคม  2550   หากจำเลยจ่ายค่าพาหนะจริงก็เป็นเงินเพียง  4,500  บาท   มิใช่  6,000  บาท จำเลยจ่ายค่าชดเชยให้โจทก์ตามกฎหมายเป็นเงิน  189,000  บาท   ครบถ้วนแล้ว   เหตุผลอีกประการหนึ่งที่โจทก์ไม่สามารถร่วมงานกับจำเลยได้เนื่องจากโจทก์ทำให้จำเลยไดรับความเสียหาย โดยขณะโจทก์ยังเป็นพนักงานของจำเลยอยู่เมื่อได้รับแจ้งจากลูกค้าว่าขอยกเลิกการสั่งสินค้า โจทก์ชอบที่จะแจ้งฝ่ายผลิตของจำเลยให้ทราบเพื่อยุติการผลิตเนื่องจากหากผลิตไปแล้วสินค้าจะไม่สามารถจำหน่ายให้แก่ผู้ใดได้ แต่โจทก์หาได้แจ้งไม่กลับปล่อยให้จำเลยผลิตสินค้าตามคำสั่งซื้อของลูกค้ารายนั้นตลอดมา  การกระทำของโจทก์จึงเป็นการกลั่นแกล้งจำเลยให้เกิดความเสียหาย เมื่อรวมกับเหตุผลที่โจทก์ไม่สามารถทำงานร่วมกับลูกจ้างอื่นของจำเลยได้   การเลิกจ้างของจำเลยเป็นธรรมแล้ว   ขอให้ยกฟ้อง

 

                  ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว   พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าจ้างค้างจำนวน  6,000  บาท  ค่าชดเชยจำนวน  24,000  บาท   ค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมจำนวน  150,000  บาท   และค่าคอมมิสชันจำนวน  21,837  บาท   พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ  15  ต่อปี   ในต้นเงินค่าจ้างค้างและค่าชดเชยดังกล่าว   และดอกเบี้ยอัตราร้อยละ  7.5  ต่อปี   ในต้นเงินค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมและค่าคอมมิสชันดังกล่าว   นับแต่วันฟ้อง  (วันที่  25  มกราคม  2550)   เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์   คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

 
 
                        โจทก์และจำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
 
 

                  ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว  ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า  เมื่อวันที่  10  มกราคม  2545  จำเลยจ้างโจทก์เข้าทำงานเป็นลูกจ้างครั้งสุดท้ายทำหน้าที่ผู้จัดการทั่วไป   กำหนดจ่ายค่าจ้างทุกวันที่  20  และวันที่  5  ของเดือน  ต่อมาวันที่  15  ธันวาคม  2550  จำเลยมีหนังสือเลิกจ้างโจทก์อ้างว่าโจทก์ไม่สามารถทำงานให้จำเลยได้จึงจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าแก่โจทก์   ขณะทำงานจำเลยจ่ายเงินเดือนๆละ  31,500  บาท   และค่าพาหนะเดือนละ  4,000  บาท   แก่โจทก์  โจทก์เป็นผู้รับคำสั่งซื้อสินค้าจากลูกค้าประเทศสิงคโปร์   ต่อมาลูกค้าดังกล่าวแจ้งต่อโจทก์ว่ายกเลิกคำสั่งซื้อสินค้าขณะที่มีการผลิตสินค้าใกล้จะเสร็จ แต่โจทก์ไม่ได้แจ้งเรื่องนี้ให้จำเลยทราบ จำเลยเพิ่งทราบภายหลังเมื่อสินค้าผลิตเสร็จพร้อมส่งมอบและอยู่ระหว่างนำส่งสินค้าไปให้ลูกค้าที่ประเทศสิงคโปร์ จำเลยไม่สามารถจำหน่ายสินค้าดังกล่าวได้  แล้ววินิจฉัยว่า   โจทก์ได้รับค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ  35,500  บาท   ซึ่งเป็นเงินเดือน  31,500  บาท   และค่าพาหนะ  4,000  บาท   ความเสียหายจากการที่ไม่สามารถจำหน่ายสินค้าได้นั้นไม่ใช่ความเสียหายโดยตรงที่เกิดจากโจทก์ไม่ได้แจ้งการยกเลิกคำสั่งซื้อสินค้าให้จำเลยทราบ   แต่เกิดจากลูกค้าประเทศสิงคโปร์ยกเลิกคำสั่งซื้อสินค้าอย่างกะทันหัน   การกระทำของโจทก์เป็นเพียงบกพร่องต่อหน้าที่เล็กน้อย   จำเลยเลิกจ้างโจทก์จึงเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม

 

                     ที่โจทก์อุทธรณ์ว่า  โจทก์ได้รับเงินเดือนๆละ  43,000  บาท  โดยขณะเป็นผู้จัดการโรงงานได้รับเดือนละ  33,000  บาท  ต่อมาประธานของจำเลยแต่งตั้งให้โจทก์เป็นผู้จัดการทั่วไปและผู้จัดการฝ่ายการตลาดแล้วเพิ่มเงินให้อีกเดือนละ  10,000  บาท  นั้น  เห็นว่า   เป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานกลางที่ฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์ได้รับค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ 35,500  บาท  ซึ่งเป็นเงินเดือน  31,500  บาท  และค่าพาหนะ  4,000  บาท  จึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง   ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน  พ.ศ.  2522  มาตรา  54  วรรคหนึ่ง   ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

 

                  ที่จำเลยอุทธรณ์ว่า   ค่าพาหนะที่จ่ายแก่โจทก์เดือนละ  4,000  บาท  ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการทำงาน การทำงานของโจทก์เกิดเมื่อมาถึงที่ทำงานในช่วงเวลาทำงานปกติในสถานที่ทำงานของจำเลยหรือออกไปติดต่อลูกค้าในช่วงเวลาทำงานปกติเท่านั้น  เห็นว่า   เป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชัดแจ้งและไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา  225  วรรคหนึ่ง   ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน  พ.ศ.   2522 มาตรา 31  ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

 

                     ปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยว่า   เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่  โดยจำเลยอุทธรณ์ว่า การที่โจทก์ตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปได้รับแจ้งยกเลิกคำสั่งซื้อสินค้าแต่ไม่ยอมแจ้งให้จำเลยทราบเพื่อยุติการผลิตสินค้าเป็นเหตุให้มีการผลิตสินค้าเสร็จถือเป็นข้อบ่งชี้ว่าจำเลยไม่อาจไว้วางใจให้โจทก์ทำงานต่อไป ไม่ใช่การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมนั้น เห็นว่า การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน  พ.ศ.  2522  มาตรา 49  จะต้องพิจารณาถึงสาเหตุแห่งการเลิกจ้างว่ามีเหตุอันสมควรหรือเพียงพอหรือไม่เป็นสำคัญ คดีนี้ข้อเท็จได้ความว่าโจทก์ซึ่งทำงานตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปและเป็นผู้รับคำสั่งซื้อสินค้าจากลูกค้าประเทศสิงคโปร์เพื่อทำการผลิตสินค้า ต่อมาระหว่างการผลิตสินค้าเมื่อลูกค้าดังกล่าวแจ้งการยกเลิกคำสั่งซื้อสินค้ามายังโจทก์ โจทก์กลับละเลยไม่แจ้งให้จำเลยทราบทั้งที่โจทก์มีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับคำสั่งซื้อสินค้าของลูกค้ารายนี้มาตั้งแต่แรกและมีตำแหน่งหน้าที่เป็นผู้จัดการทั่วไป จนกระทั่งเมื่อจำเลยผลิตสินค้าเสร็จและอยู่ระหว่างนำส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าจำเลยจึงทราบการยกเลิกคำสั่งซื้อสินค้า และสินค้าที่ผลิตขึ้นมาก็ไม่สามารถจำหน่ายได้  ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่บกพร่องและเพิกเฉยไม่ดูแลผลประโยชน์ของจำเลยผู้เป็นนายจ้างย่อมเป็นเหตุให้จำเลยไม่ไว้วางใจในการทำงานของโจทก์ เป็นการเลิกจ้างที่มีเหตุผลอันสมควรไม่เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม  ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมแก่โจทก์นั้น  ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา  อุทธรณ์ของจำเลยข้อนี้ฟังขึ้น

 

                        พิพากษาแก้เป็นว่า  จำเลยไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมจำนวน  150,000  บาท  แก่โจทก์  นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง

 
 

      เรียบเรียงโดย บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด




อัพเดท ฎีกาน่าสนใจ

ขึ้นทะเบียนรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเกิน ๓๐ วัน ยังมีสิทธิได้รับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานได้ article
ลักษณะความผิดเดียวกัน แต่ระดับความร้ายแรงแตกต่างกัน นายจ้างพิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ผู้จัดการสาขา เสนอรายชื่อลูกค้าที่ขาดคุณสมบัติทำประกันชีวิต ถือว่าจงใจทำให้นายจ้างเสียหาย / ผิดร้ายแรง article
หยุดกิจการชั่วคราวตาม มาตรา ๗๕ article
สัญญาจ้างเป็นสัญญาต่างตอบแทน นายจ้างออกค่าใช้จ่ายในการเข้าทดสอบเพื่อรับเกียรติบัตร เมื่อทดสอบผ่านต้องทำงานกับนายจ้าง ๕ ปี บังคับใช้ได้ article
ศาลแรงงานกลางมีอำนาจสั่งรับพยานเอกสารได้ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม article
ประกอบธุรกิจแข่งขัน / ไปทำงานกับนายจ้างอื่น ในลักษณะผิดต่อสัญญาจ้าง เมื่อลูกจ้างได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้างตามสัญญาแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะบังคับ / ห้ามทำงานตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างอีกต่อไป article
คดีแรงงานเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้คดีอาญายกฟ้อง แต่พฤติกรรมการกระทำผิด เป็นเหตุให้นายจ้างไม่อาจไว้วางใจในการทำงานได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
เลิกจ้างเนื่องจากปรับโครงสร้างองค์กร แต่กำหนดรายชื่อไว้ล่วงหน้า ถือเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม article
การหักลบกลบหนี้ หนี้อันเกิดจากสัญญาจ้าง กรณีลูกจ้างกระทำผิดกับสิทธิประโยชน์ที่มีสิทธิได้รับตามสัญญาจ้าง ถือเป็นมูลหนี้อันเป็นวัตถุอย่างเดียวกันหักลบกลบหนี้กันได้ article
เล่นการพนันฉลากกินรวบ เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน กรณีร้ายแรง article
กรณีไม่ถือเป็นการประกอบธุรกิจแข่งขันหรือไม่ถือว่าทำงานกับนายจ้างใหม่ในลักษณะธุรกิจเดียวกับนายจ้าง article
สัญญาฝึกอบรม นายจ้างกำหนดเบี้ยปรับได้ เป็นสัญญาที่เป็นธรรม article
ค้ำประกันการทำงาน หลักประกันการทำงาน การหักลบกลบหนี้ค่าเสียหายจากการทำงาน article
ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์แต่ตนเอง เรียกรับเงินจากลูกค้า ถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ article
ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา มาทำงานสายประจำ ถือว่า กระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สหภาพแรงงานทำบันทักข้อตกลงเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างกับนายจ้าง อันส่งผลกระทบต่อสิทธิหน้าที่ของสมาชิก ขัดกับข้อตกลงเดิมและมิได้ขอมติที่ประชุมใหญ่ ข้อตกลงดังกล่าวไม่อาจใช้บังคับได้ article
ขอเกษียณอายุก่อนกำหนดตามประกาศ ถือเป็นการสมัครใจเลิกสัญญาจ้างแรงงานต่อกัน มิใช่การเลิกจ้างหรือการเกษียณอายุ จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยตามระเบียบกรณีเกษียณอายุ article
สถาบันวิจัยอันเป็นส่วนหนึ่งของกิจการมหาวิทยาลัยถือเป็นหน่วยงานของรัฐ ได้รับยกเว้น ไม่อยู่ภายใต้บังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา ๔ (๑) article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า จากการเลิกจ้างมีอายุความฟ้องร้องได้ภายใน ๑๐ ปี article
ทะเลาะวิวาทเรื่องส่วนตัวไม่ส่งผลกระทบต่อการบังคับบัญชา ไม่เป็นความผิด กรณีร้ายแรง ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ article
พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน มิใช่ทายาทผู้มีสิทธิรับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ และเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ตามพระราชบัญญัติ ประกันสังคม มาตรา ๗๓ และมาตรา ๗๗ article
ขับรถเร็วเกินกว่าข้อบังคับกำหนด เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนคำสั่งโยกย้าย เลิกจ้างได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ประกาศใช้ระเบียบใหม่ ไม่ปรากฏว่ามีพนักงานโต้แย้งคัดค้าน ถือว่าทุกคนยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ article
เงินค่าตอบแทนพิเศษกับเงินโบนัส มีเงื่อนไขต่างกัน หลักเกณฑ์การจ่ายต่างกัน จึงต้องพิจารณาต่างกัน article
ทายาทผู้มีสิทธิได้รับเงินกองทุนเงินทดแทน article
ค่ารถแทนรถยนต์ประจำตำแหน่ง ไม่ถือเป็นค่าจ้าง และ ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสมให้ถือตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานที่กำหนดไว้ article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างไม่ตกลง ขอเวลาตัดสินใจและหยุดงานไป นายจ้างแจ้งให้กลับเข้าทำงานตามปกติ ถือว่านายจ้างยังไม่มีเจตนาเลิกจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ แอบนอนหลับในเวลาทำงาน ถือเป็นเหตุในการเลิกจ้างได้ เลิกจ้างเป็นธรรม article
ลาออกโดยไม่สุจริต ไม่มีผลใช้บังคับ article
ทำความผิดคล้ายคลึงกันแต่ไม่เหมือนกัน พิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ประกอบธุรกิจ บริการ ด่าลูกค้าด้วยถ้อยคำหยาบคาย " ควาย " ถือเป็นการกระทำความผิดกรณีร้ายแรง article
ข้อบังคับ ระบุให้ผู้บังคับบัญชาเหนือกว่ามีอำนาจแก้ไข เพิ่มโทษ หรือลดโทษได้ การยกเลิกคำสั่งลงโทษเดิมและให้ลงโทษใหม่หนักกว่าเดิมจึงสามารถทำได้ article
เลือกปฏิบัติในการลงโทษระเบียบการห้ามใส่ตุ้มหูมาทำงาน บังคับใช้ได้ แต่เลือกปฏิบัติในการลงโทษไม่ได้ article
ลงโทษพักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างและเตือนในคราวเดียวกันได้ ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน article
จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย article
ข้อตกลงรับเงินและยินยอมปลดหนี้ให้แก่กัน ถือเป็นการตกลงระงับข้อพิพาทแม้จะทำขึ้นก่อนคำสั่งเลิกจ้างมีผลใช้บังคับ article
ศาลแรงงานมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานที่คู่ความอ้างส่งศาลได้ แม้มิได้ระบุบัญชีพยานไว้ก็ตาม article
สัญญาจ้างห้ามลูกจ้างไปทำงานกับนายจ้างใหม่ที่ประกอบธุรกิจเช่นเดียวกันมีกำหนดเวลา บังคับใช้ได้ article
เลิกจ้างและรับเงินค่าชดเชย ใบรับเงิน ระบุขอสละสิทธิ์เรียกร้องเงินอื่นใดใช้บังคับได้ ลูกจ้างไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องสินจ้างและค่าเสียหายได้อีก article
เกษียณอายุ 60 ปี ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยนับแต่วันครบกำหนดเกษียณอายุ แม้นายจ้างไม่ได้บอกเลิกจ้างก็ตาม article
ละเลยต่อหน้าที่ ไม่รายงานเคพีไอ นายจ้างตักเตือนแล้ว ถือว่าผิดซ้ำคำเตือน เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ทำสัญญาจ้างต่างด้าวทำงานในอาชีพต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว สัญญาจ้างถือเป็นโมฆะ article
ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง article
ศาลมีคำสั่งให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษาตามหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน ในขณะที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ยุติ ต้องสืบพยานใหม่และพิพากษาใหม่ไปตามรูปคดี article
แม้สัญญาจ้างไม่ได้ระบุระยะเวลาทดลองงานไว้ แต่นายจ้างก็สามารถประเมินผลการทำงานของลูกจ้างได้ article
การควบรวมกิจการ สิทธิและหน้าที่โอนไปเป็นของบริษัทใหม่ การจ่ายเงินสมทบบริษัทใหม่ที่ควบรวมจึงมีสิทธิจ่ายเงินสมทบในอัตราเดิมตามสิทธิ มิใช่ในอัตราบริษัทตั้งใหม่ article
เลิกจ้างรับเงินค่าชดเชยแล้วตกลงสละสิทธิ์จะไม่เรียกร้องผละประโยชน์ใดๆ ถือว่าสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเป็นอันระงับไป article
รับเหมาก่อสร้าง ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบ จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมแทนผู้รับเหมาช่วง หากผู้รับเหมาช่วงไม่นำส่งเงินสมทบตามกฎหมายโดยคำนวณจากอัตราค่าจ้างที่ระบุตามแบบ ( ภ.ง.ด. 50 ) และบัญชีงบดุล article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานระบุห้ามทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกาย ผู้บังคับบัญชา เพื่อนพนักงาน ทั้งในสถานที่ทำงาน หรือสถานที่อื่นๆ ฝ่าฝืนถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง ใช้บังคับได้ไม่ขัดต่อกฎหมาย article
ไส้ติ่งอักเสบ แพทย์วินิจฉัยให้ผ่าตัด ถือเป็นกรณีฉุกเฉิน เบิกค่ารักษาได้ มีสิทธิรับเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ได้ article
ค่าเช่าที่พัก ค่าใช้จ่ายเดินทางเป็นสวัสดิการไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่ารถยนต์ซึ่งกำหนดเป็นสวัสดิการไว้ชัดเจนแยกจากฐานเงินเดือนปกติ ถือเป็นสวัสดิการไม่ใช่ค่าจ้าง article
ละเมิดข้อตกลงสภาพการจ้าง ละเมิดสัญญาจ้าง มีอายุความ 10 ปี มิใช่ 1 ปี article
พฤติกรรมการจ้างที่ถือว่าเป็นการจ้างแรงงาน ถือเป็นลูกจ้าง / นายจ้างตามกฎหมาย article
พนักงานขายรถยนต์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ประจำบูธ ตามที่ได้รับมอบหมาย ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
เลือกตั้งคณะกรรมการสหภาพฯ ขัดต่อข้อบังคับสหภาพหรือขัดต่อกฎหมาย ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบ article
ฝ่าฝืนสัญญาจ้าง กรณีห้ามทำการแข่งขันกับนายจ้างหรือทำธุรกิจคล้ายคลึงกับนายจ้างเป็นเวลา 2 ปี นับจากสิ้นสุดสัญญาต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้าง article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระบุให้นายจ้างเลิกจ้างเพราะเหตุคนล้นงาน ปรับลด ขนาดองค์กรได้ ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะเลิกจ้างลูกจ้างได้ article
ข้อบังคับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรณีตัดสิทธิ์รับเงินสมทบพร้อมผลประโยชน์หากกระทำผิดถูกปลดออกจากงานบังคับใช้ได้ article
ทะเลาะวิวาทกัน นอกเวลางาน นอกบริเวณบริษัทฯ ไม่ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนไม่ไปตรวจสารเสพติดซ้ำตามคำสั่งและนโยบาย ถือว่าฝ่าฝืน ข้อบังคับ หรือ ระเบียบ กรณีร้ายแรง article
วันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วน article
เป็นลูกจ้างที่มีอำนาจกระทำการแทนนายจ้างในการจ้างงาน ไม่มีสิทธิได้รับค่าทำงานในวันหยุด และลักทรัพย์เอาต้นไม้ของนายจ้างไป ถือว่ากระทำผิดอาญาแก่นายจ้าง เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ผลการทำงานดีมาโดยตลอดและไม่เคยกระทำผิดมาก่อน แต่ปีสุดท้ายผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ถือเป็นเหตุที่จะอ้างในการเลิกจ้าง article
ได้รับบาดเจ็บรายการเดียว เข้ารักษา 2 ครั้ง ถือว่าเป็นการรักษารายการเดียว นายจ้างสำรองจ่ายเพิ่มเติมไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ใช่ 200,000 บาท article
ผู้บริหารบริษัท ฯ ถือเป็นลูกจ้างหรือไม่ ดูจาก_________ ? article
ขับรถออกนอกเส้นทาง แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรงและก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้าง นายจ้างหักเงินประกันการทำงานได้ article
ค่าจ้างระหว่างพักงาน เมื่อข้อเท็จจริง ลูกจ้างกระทำความผิดจริง จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างระหว่างพักงาน article
“ นายจ้าง ” ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 article
สัญญารักษาความลับ ข้อมูลทางการค้า (ห้ามประกอบหรือรับปฏิบัติงานแข่งขันนายจ้าง) มีกำหนด 2 ปี บังคับใช้ได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย และการกำหนดค่าเสียหาย ถือเป็นเบี้ยปรับตามกฎหมาย ศาลปรับลดได้ตามสมควร article
เงินรางวัลการขายประจำเดือน จ่ายตามเป้าหมายการขาย ที่กำหนดไว้ ไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่าโทรศัพท์ เหมาจ่าย ถือเป็นค่าจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ 3 วันทำการ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เลิกจ้างเป็นธรรมไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ลาออกมีผลใช้บังคับแล้ว ออกหนังสือเลิกจ้างภายหลังใช้บังคับไม่ได้ article
ตกลงรับเงิน ไม่ติดใจฟ้องร้องอีกถือเป็นการตกลงประนีประนอมกันบังคับได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย
เลิกจ้างระหว่างทดลองงาน ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ข้อตกลงว่า “หากเกิดข้อพิพาทตามสัญญาจ้างแรงงาน ให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย” ไม่เกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมายแรงงาน เมื่อเกิดสิทธิตามกฎหมาย ฟ้องศาลแรงงานได้ โดยไม่ต้องให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย article
เลิกจ้างด้วยเหตุอื่น อันมิใช่ความผิดเดิมที่เคยตักเตือน ไม่ใช่เหตุที่จะไม่จ่ายค่าชดเชย เลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย article
นำรถยนต์ไปใช้ในกิจธุระส่วนตัว มีพฤติกรรมคดโกง ไม่ซื่อตรง พฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต ไม่น่าไว้วางใจ ลงโทษปลดออกจากการทำงานได้ article
การกระทำที่กระทบต่อเกียรติ ชื่อเสียงของนายจ้าง และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้กระทำนอกสถานที่ทำงานและนอกเวลางาน ก็ถือว่า ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกรณีร้ายแรง article
สัญญาค้ำประกันการทำงานไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ต้องรับผิดชอบตลอดไป article
ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเลิกจ้างได้ ถือว่าเลิกจ้างเป็นธรรมและความผิดที่ลงโทษแล้วจะนำมาลงโทษอีกไม่ได้ article
ผิดสัญญาจ้างไปทำงานกับคู่แข่ง นายจ้างฟ้องเรียกค่าเสียหายตามสัญญาได้ แต่ค่าเสียหาย เป็นดุลพินิจของศาลจะกำหนด article
จงใจกระทำผิดโดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้นายจ้างเสียหาย ถือว่า กระทำละเมิดต่อนายจ้าง ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น article
ตกลงสละสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย ภายหลังเลิกจ้าง ใช้บังคับได้ ไม่เป็นโมฆะ article
ก้าวร้าวไม่ให้ความเคารพผู้บังคับบัญชา ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้ามิใช่ค่าจ้าง คิดดอกเบี้ยในอัตรา 7. 5 ต่อปี article
ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของนายจ้างในเรื่องส่วนตัวเป็นประจำ ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่กาปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต เลิกจ้างเป็นธรรม article
สั่งให้พนักงานขับรถ ขับรถออกนอกเส้นทางแต่ไม่ได้มีส่วนในการขับรถ ถือว่าผิดต่อสัญญาจ้าง แต่ไม่ต้องรับผิดอันมีผลโดยตรงจากมูลละเมิด ( ขับรถโดยประมาท ) article
จ่ายของสมนาคุณให้ลูกค้า โดยไม่ตรวจสอบบิลให้ถูกต้อง มิใช่ความผิดกรณีร้ายแรงไม่ใช่การทุจริตต่อหน้าที่ แต่ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เสร็จลุล่วงไปโดยถูกต้อง และสุจริต เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ฟ้องประเด็นละเมิด กระทำผิดสัญญาจ้าง ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง มีอายุความ 10 ปี article
ตกลงยินยอมให้หักค่าจ้างชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันเงินกู้ นายจ้างสามารถหักค่าจ้างได้ตามหนังสือยินยอมโดยไม่ต้องฟ้อง article
กระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้างและประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง article
“ งานโครงการตามมาตรา 118 วรรค 4 ” บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ว่าจ้างลูกจ้างทำงานตามโครงการที่รับเหมา ถือว่าจ้างงานในปกติธุรกิจของนายจ้าง มิใช่งานโครงการ article
เงินโบนัสต้องมีสภาพการเป็นพนักงานจนถึงวันกำหนดจ่าย ออกก่อนไม่มีสิทธิได้รับ article
ระเบียบกำหนดจ่ายเงินพิเศษ ( gratuity ) เนื่องจากเกษียณอายุ โดยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายแตกต่างจากการจ่ายค่าเชย ถือว่านายจ้างยังไม่ได้จ่ายค่าชดเยตามกฎหมาย article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างขอค่าชดเชย นายจ้างไม่คุยด้วย แต่ยังไม่ได้บอกเลิกจ้างและยังไม่ปรากฎว่านายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างและไม่ให้เข้าทำงานต่อ ยังไม่ถือว่าเป็นการเลิกจ้าง ( อย่าเข้าใจไปเอง ) ไม่มีสิทธิได้ค่าชดเชย article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด

เลขที่ 511/4 ถนนประชาอุทิศ 117/1 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร (10140)

โทร/Tel : 02 - 8159522, แฟกซ์/Fax : 02 - 8159523, มือถือ/Mobile : 081 - 7936156

อีเมล/E-mail : sawai.prm@gmail.com, เว็บไซต์/Web : www.parameelaw.com