ประกันสังคมเพิ่มตรวจสุขภาพเผยรพ.สนใจร่วมสมัคร75แห่ง
กระทรวงแรงงาน สำนักงานประกันสังคมเน้นให้บริการด้านตรวจสุขภาพกับผู้ประกันตน ตามโครงการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค เผยสถานพยาบาลสนใจยื่นใบสมัครเข้าร่วมโครงการแล้ว 75 แห่งทั่วประเทศ แจงขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคัดเลือก ย้ำผู้ประกันตนต้องได้รับความสะดวก ครอบคลุมและทั่วถึงในการเข้ารับการตรวจสุขภาพ
นายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ตามนโยบายรัฐบาล และกระทรวงแรงงานที่ให้ความสำคัญในการดูแลคุ้มครองให้สิทธิประโยชน์ กรณีเจ็บป่วยของผู้ประกันตน รวมถึงการส่งเสริมคุณภาพชีวิต ลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคม ในการดำเนินการตามนโยบายดังกล่าว สำนักงานประกันสังคม ได้ดำเนินการเพิ่มสิทธิให้ผู้ประกันตนกรณีส่งเสริมสุขภาพ ซึ่งผู้ประกันตนสามารถเข้ารับบริการตรวจสุขภาพทั่วไป โดยได้ดำเนินการเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2560
ทั้งนี้ เพื่อค้นหาปัจจัยเสี่ยง ภาวะผิดปกติหรือโรคซึ่งนำไปสู่การป้องกันหรือรักษา อาทิ การตรวจเต้านม เพื่อคัดกรองมะเร็งเต้านม การตรวจความเข้มข้นของโลหิต เพื่อคัดกรองภาวะโลหิตจาง การตรวจน้ำตาลในเลือด การตรวจการทำงานของไต การตรวจไขมันในเส้นเลือด เพื่อหาความเสี่ยงโรคเรื้อรัง โดยการเข้ารับบริการตรวจสุขภาพตามข้างต้น จะไม่เสียค่าใช้จ่าย เพียงยื่นบัตรประจำตัวประชาชน และบัตรรับรองสิทธิการรักษาพยาบาล ณ สถานพยาบาลตามที่ผู้ประกันตนเลือกไว้ ปัจจุบันสำนักงานประกันสังคมได้จัดทำโครงการสถานพยาบาลต้นแบบการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคทั่วประเทศ จำนวน 40 แห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกันตนได้รับด้านส่งเสริมตรวจสุขภาพอย่างทั่วถึง และระหว่างวันที่ 28 เมษายนถึงวันที่ 16 พฤษภาคม 2560 สำนักงานประกันสังคม ได้เปิดรับสมัครสถานพยาบาลเพิ่มเติม
โดยมีสถานพยาบาลให้ความสนใจยื่นใบสมัครเพื่อเข้าร่วมโครงการแล้ว จำนวน 75 แห่ง แยกเป็น สถานพยาบาลรัฐบาล จำนวน 39 แห่ง สถานพยาบาลเอกชน 36 แห่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาคัดเลือก
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคมกล่าวต่อไปว่า สำนักงานประกันสังคมได้กำหนดทิศทางการพัฒนาการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้กับผู้ประกันตนในด้านต่างๆ อาทิ 1.โครงการจัดจ้างประเมินและออกแบบสิทธิประโยชน์การส่ง เสริมสุขภาพเพื่อดำเนินการปรับปรุงหลักเกณฑ์และอัตราค่าส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค และจัดทำข้อกำหนดประเภทและขอบเขตด้านการส่งเสริมสุขภาพให้กับผู้ประกันตน
2.การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพัฒนาด้าน ส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในระบบประกันสังคม โดยมีหน้าที่พัฒนารูปแบบการบริหารจัด การสิทธิประโยชน์ด้านส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค เพื่อให้ผู้ประกันตนเข้าถึงบริการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมเป็นผู้แทน ได้แก่ ผู้แทนสถาบันส่งเสริมความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน (องค์การมหาชน) ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ผู้แทนสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ ผู้แทนสมาคมเวชศาสตร์ป้องกัน เป็นต้น
3.การพัฒนาระบบ e-Claim โดยจัดทำโปรแกรมรองรับการเบิกค่าส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในการเบิกจ่ายค่าบริการทางการแพทย์อย่างสะดวก รวดเร็ว ขณะนี้อยู่ระหว่างทบทวนปรับปรุง หลักเกณฑ์ให้ผู้ประกันตนสามารถเข้ารับบริการได้ในสถานพยาบาลเครือข่ายและสถานพยาบาลในโครงการประกันสังคมทุกแห่งเพื่ออำนวยความสะดวก และเพิ่มการเข้าถึงบริการของผู้ประกันตน รวมทั้งจะมีการพัฒนาการจัดเก็บ รับ-ส่งข้อมูลเชื่อมโยง และตอบสนองการให้บริการแก่ผู้ประกันตนในรูปแบบการบันทึกประวัติข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคลและรายงานผลการตรวจสุขภาพ ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อให้สอดคล้องตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0
นายสุรเดชกล่าวในตอนท้ายว่า การเพิ่มสิทธิให้ผู้ประกันตนสามารถตรวจสุขภาพได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมของสำนักงานประกันสังคมและความร่วมมือกันอย่างดียิ่งของสถานพยาบาลในโครงการประกันสังคม ในการให้บริการด้านการตรวจสุขภาพให้กับผู้ประกันตน ซึ่งสำนักงานประกันสังคมยังคงมุ่งมั่นและไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาการให้บริการ เพื่อความพึงพอใจของผู้ประกันตนเป็นสำคัญ.