คำพิพากษาฎีกาที่ 4697/57
เลือกตั้งคณะกรรมการสหภาพฯ ขัดต่อข้อบังคับสหภาพหรือขัดต่อกฎหมาย ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบ
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นนายทะเบียนตามพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543 จำเลยที่ 2 เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นผู้วินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ 1 โจทก์และนายชัชพงษ์ พราหมณ์พันธุ์ กับพวกรวม 19 คน เป็นลูกจ้างของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) และเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย โจทก์และนายชัชพงษ์กับพวกรวม 30 คน ได้รับเลือกตั้งให้เป็นกรรมการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2547 โดยชอบด้วยข้อบังคับทุกประการ เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2547 นายสมศักดิ์ ศรีนวล รักษาการประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยนำรายชื่อคณะกรรมการที่ได้รับเลือกตั้งไปยื่นขอจดทะเบียนกรรมการบริหารสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยต่อจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนายทะเบียน แต่จำเลยที่ 1 ไม่ยอมรับจดทะเบียนโดยอ้างว่าวิธีการออกเสียงลงคะแนนไม่ชอบด้วยข้อบังคับของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ การบินไทย ข้อ 26 (2) โจทก์และนายชัชพงษ์กับพวกยื่นอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ 1 ต่อจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 2 มีคำสั่งยืนตามคำสั่งของจำเลยที่ 1 คำสั่งของจำเลยทั้งสองไม่ชอบ ขอให้เพิกถอนคำสั่งที่ รง 0509/002390 ลงวันที่ 22 มีนาคม 2549 ของจำเลยที่ 1 และคำสั่งที่ 007/2549 ลงวันที่ 26 มิถุนายน 2549 ของจำเลยที่ 2 ให้จำเลยที่ 1 รับจดทะเบียนกรรมการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยตามคำขอจดทะเบียน ลงวันที่ 1 กันยายน 2547
ระหว่างพิจารณานายชัชพงษ์ พราหมณ์พันธุ์ กับพวกรวม 19 คน ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วม ศาลแรงงานกลางอนุญาต
จำเลยทั้งสองให้การว่า ตามข้อบังคับของสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย ข้อ 26 วรรคสอง กำหนดให้การเลือกตั้งกรรมการต้องลงคะแนนโดยวิธีลับเท่านั้นปรากฏว่าการเลือกตั้งกรรมการบริหารสหภาพแรงงานรัฐวิสา หกิจการบินไทยในวันที่ 27 สิงหาคม 2547 เมื่อสมาชิกสหภาพแรงงานฯ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมาใช้สิทธิลงชื่อรับบัตรเลือกตั้งคณะอนุกรรมการการเลือกตั้งจ่ายบัตรเลือกตั้งให้และได้จดหมายเลขบัตรเลือกตั้งท้ายลายมือชื่อผู้รับบัตรในบัญชีรายชื่อรับบัตรนั้น ทำให้สามารถตรวจสอบได้ว่าผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ลงคะแนนให้ผู้สมัครคนใดหรือกลุ่มใดได้ จึงไม่ใช่เป็นการลงคะแนนโดยวิธีลับ เมื่อมีผู้ร้องเรียนคัดค้านการเลือกตั้งว่าไม่ชอบด้วยข้อบังคับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย ข้อ 26 จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนายทะเบียนจึงมีคำสั่งไม่รับจดทะเบียนกรรมการ โจทก์กับพวกอุทธรณ์คำสั่ง จำเลยที่ 2 พิจารณาแล้วเห็นด้วยกับคำสั่งของจำเลยที่ 1 จึงยกอุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ 1 และคำวินิจฉัยของจำเลยที่ 2 ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีเหตุที่จะเพิกถอน คำวินิจฉัยของจำเลยที่ 2 ถึงที่สุดตามมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543 โจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสิบเก้าไม่มีอำนาจฟ้อง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง
โจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสิบเก้าอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ศาลแรงงานกลางรับฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสิบเก้าเป็นพนักงานของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) และเป็นสมาชิกสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย เดิมพนักงานของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) จดทะเบียนสมาคมพนักงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยตามพระราชบัญญัติพนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2534 ต่อมาเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2543 จดทะเบียนเปลี่ยนสถานะเป็นสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยตามพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543 ตามเอกสารหมาย จ.3 จดทะเบียนข้อบังคับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย พ.ศ. 2545 ตามเอกสารหมาย จ.4 ได้ใช้ข้อบังคับดังกล่าวมาจนถึงทุกวันนี้ คณะกรรมการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยที่ได้รับเลือกตั้งและจดทะเบียนเมื่อปี 2545 ปรากฏตามเอกสารหมาย จ.5 ถึง จ.7 ซึ่งครบวาระวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2547 สหภาพแรงงานฯ จัดการเลือกตั้งกรรมการเมื่อเดือนมีนาคม 2547 ผลการเลือกตั้งกรรมการนายทะเบียนจำเลยที่ 1 ไม่ยอมรับจดทะเบียนให้เนื่องจากมีผู้ร้องเรียนว่าการเลือกตั้งไม่ชอบเพราะไม่ครบองค์ประชุม จึงจัดการเลือกตั้งใหม่เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2547 ในการเลือกตั้งปี 2547 สหภาพแรงงานฯ ได้รวบรวมและจัดทำคู่มือการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย ประจำปี 2547 ขึ้น ตามเอกสารหมาย จ.11 เพื่อสะดวกแก่ผู้มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งคณะอนุกรรมการการเลือกตั้งจัดหน่วยเลือกตั้งออกเป็นหลายหน่วยกระจายไปตามหน่วยงานทั่วราชอาณาจักร โดยทำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่งไปยังหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วยเช่นบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิตามเอกสารหมาย จ.20 มีเลขประจำตัวพนักงานและเลขสมาชิกสหภาพแรงงานฯของผู้มีสิทธิเลือกตั้งปรากฏอยู่ส่วนบัตรเลือกตั้งมีเลขที่บัตรปรากฏอยู่เช่นเอกสารหมาย จ.19 คณะกรรมการการเลือกตั้งได้กำหนดเลือกตั้งวันที่ 27 สิงหาคม 2547 พร้อมกันทั่วประเทศ สมาชิกสหภาพแรงงานฯจะไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งใดก็ได้ เมื่อแสดงตัวต่อหน่วยเลือกตั้งเจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งจะระบุเลขที่บัตรเลือกตั้งลงในช่องว่างและให้ผู้ใช้สิทธิลงลายมือชื่อในช่องตรงกับชื่อสมาชิกในบัญชีรายชื่อแล้วจึงมอบบัตรเลือกตั้งนั้นให้แก่ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งเพื่อลงคะแนนต่อไป เมื่อลงคะแนนเสร็จหีบบัตรเลือกตั้งทุกหน่วยจะส่งไปรวมนับคะแนนที่ส่วนกลาง เนื่องจากผู้มีสิทธิลงคะแนนจะใช้สิทธิลงคะแนนได้เพียงหน่วยเดียว จึงจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบัญชีรายชื่อที่ส่งกลับมาจากหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วยเพื่อตรวจสอบว่ามีผู้ใดที่ใช้สิทธิลงคะแนนเกินกว่าหนึ่งหนึ่งหรือไม่ ถ้ามีก็จะตรวจและดึงเอาบัตรเลือกตั้งของผู้นั้นออกจากบัตรที่ยังไม่ได้นับคะแนน โดยอาศัยเลขที่บัตรเลือกตั้งซึ่งปรากฏอยู่ในบัญชีรายชื่อโดยปรับให้เป็นบัตรเสียเพราะลงคะแนนซ้ำซ้อนผลการตรวจไม่ปรากฏว่ามีผู้ใช้สิทธิลงคะแนนซ้ำซ้อน ผลการนับคะแนนปรากฏว่ากลุ่มของนายบุญช่วย จันทร์เพ็ญแสง ชนะการเลือกตั้งโดยได้คะแนนสูงสุด โจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสิบเก้าอยู่ในกลุ่มของนายบุญช่วย นายสมศักดิ์ ศรีนวล รักษาการประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยยื่นคำร้องขอจดทะเบียนกรรมการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยตามพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543 ต่อจำเลยที่ 1 ตามเอกสารหมาย จ.1 เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2547 กลุ่มนางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ซึ่งแพ้การเลือกตั้งร้องเรียนต่อจำเลยที่ 1 ว่าการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2547 ไม่ชอบด้วยข้อบังคับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย พ.ศ. 2545 ตามเอกสารหมาย จ.4 ข้อ 26 ซึ่งกำหนดให้ลงคะแนนเลือกตั้งกรรมการสหภาพแรงงานฯ ต้องลงคะแนนเสียงโดยวิธีลับ แต่การเลือกตั้งในวันที่ 27 สิงหาคม 2547 เจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งได้จดเลขที่บัตรเลือกตั้งลงในบัญชีลายมือชื่อผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ทำให้สามารถตรวจสอบได้ว่าผู้ที่มาใช้สิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ผู้ใดบ้าง เป็นวิธีการที่ไม่เป็นความลับขัดต่อข้อบังคับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย พ.ศ. 2545 ข้อ 26 จำเลยที่ 1 จึงปฏิเสธไม่ยอมรับจดทะเบียนให้ตามเอกสารหมาย จ.8 นายสมศักดิ์อุทธรณ์คำสั่งของจำเลยที่ 1 ไปยังจำเลยที่ 2 ตามเอกสารหมาย จ.9 ต่อมาจำเลยที่ 2 มีคำวินิจฉัยเห็นด้วยกับคำสั่งของจำเลยที่ 1 โดยยกอุทธรณ์ ตามเอกสารหมาย จ.10 เดิมการเลือกตั้งกรรมการสหภาพแรงงานฯ กระทำโดยที่ประชุมใหญ่ซึ่งอยู่ส่วนกลาง ต่อมาสหภาพแรงงานฯมีสมาชิกเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนกว่าหมื่นคน การเลือกตั้งโดยที่ประชุมใหญ่ซึ่งอยู่ส่วนกลางที่กรุงเทพมหานครแห่งเดียวจึงไม่สะดวกแก่สมาชิกผู้ใช้สิทธิซึ่งกระจายอยู่ตามหน่วยงานที่ท่าอากาศยานทั่วราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2547 ที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2546 ได้กำหนดระเบียบสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย ว่าด้วยการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสหภาพแรงงาน พ.ศ. 2547 ขึ้น มีทั้งหมด 22 ข้อ ตามเอกสารหมาย จ.24 จากระเบียบดังกล่าวคณะกรรมการอำนวยการเลือกตั้งจึงกระจายหน่วยเลือกตั้งไปตามท่าอากาศยานทั่วราชอาณาจักร โดยได้จัดทำคู่มือการเลือกตั้งขึ้นตามเอกสารหมาย จ.11 กำหนดรายละเอียดและแนวทางปฏิบัติ ข้อ 2.3.3 ให้อนุกรรมการควบคุมการเลือกตั้งบันทึกหมายเลขบัตรเลือกตั้งต่อท้ายจากเลขประจำตัวของสมาชิกผู้ใช้สิทธิในบัญชีรายชื่อ อ้างเหตุว่าเพื่อให้ตรวจสอบการลงคะแนนซ้ำซ้อน แล้วินิจฉัยว่าการให้อนุกรรมการควบคุมการเลือกตั้งตามหน่วยเลือกตั้งจดเลขที่บัตรเลือกตั้งลงในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งทำให้สามารถตรวจสอบได้ว่าผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่บุคคลใดได้เท่ากับการลงคะแนนไม่เป็นความลับ สามารถตรวจสอบได้ซึ่งขัดกับข้อบังคับสหภาพ แรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย พ.ศ. 2545 ข้อ 26
ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสิบเก้าว่าการเลือกตั้งกรรมการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2547 ชอบด้วยข้อบังคับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย พ.ศ. 2545 ข้อ 26 ที่กำหนดให้ลงคะแนนเสียงโดยวิธีลับหรือไม่ โจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสิบเก้าอุทธรณ์ว่า ข้อบังคับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย พ.ศ. 2545 ตามเอกสารหมาย จ.4 ข้อ 26 ไม่ได้ระบุให้ชัดเจนว่าการลงคะแนนลับจะต้องปฏิบัติอย่างไร ลับขนาดไหน จึงต้องถือเอาจารีตประเพณีที่เคยปฏิบัติกันมาว่าการลงคะแนนโดยวิธีลับถือหลักอย่างไร ตามที่กำหนดไว้ในคู่มือการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยประจำปี 2547 เอกสารหมาย จ.11 กล่าวคือเมื่อสมาชิกสหภาพแรงงานฯ มาใช้สิทธิเลือกตั้ง อนุกรรมการควบคุมการเลือกตั้งจะบันทึกหมายเลขบัตรเลือกตั้งของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งต่อท้ายจากหมายเลขประจำตัวในบัญชีรายชื่อของผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้ง ทั้งนี้เพื่อไม่ให้ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งใช้สิทธิซ้ำซ้อน ซึ่งตรงตามแนวปฏิบัติอันเป็นจารีตประเพณีที่ต้องการให้สมาชิกสหภาพแรงงานฯ ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศได้ใช้สิทธิอย่างทั่วถึง และถือว่าคู่มือการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยดังกล่าวชอบด้วยข้อบังคับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย พ.ศ. 2545 ตามเอกสารหมาย จ.4 ข้อ 26 การเลือกตั้งกรรมการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยชอบแล้ว จำเลยที่ 1 ในฐานะนายทะเบียนต้องรับจดทะเบียน เห็นว่า การเลือกตั้งกรรมการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2547 อยู่ภายใต้บังคับของข้อบังคับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย พ.ศ. 2545 ตามเอกสารหมาย จ.4 ซึ่งกำหนดไว้ในข้อ 23 (6) และข้อ 27 (2) ว่าการเลือกตั้งกรรมการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยต้องกระทำโดยที่ประชุมใหญ่ประจำปี ข้อ 26 กำหนดวิธีการออกเสียงลงคะแนนไม่ว่าในเรื่องใดของที่ประชุมใหญ่ว่าอาจใช้วิธีการ (1) ลงคะแนนเสียงโดยวิธีเปิดเผย (2) ลงคะแนนเสียงโดยวิธีลับ ทั้งนี้ตามแต่มติที่ประชุมจะเห็นสมควร ยกเว้นเรื่องการเลือกตั้งกรรมการต้องลงคะแนนเสียงโดยวิธีลับเท่านั้น ดังนั้นการเลือกตั้งกรรมการสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยข้างต้นจึงต้องกระทำโดยที่ประชุมใหญ่ และต้องลงคะแนนเสียงโดยวิธีลับ ซึ่งมีความหมายว่าในการเลือกตั้งกรรมการสหภาพแรงงานฯ จะต้องใช้วิธีออกเสียงลงคะแนนที่ไม่มีผู้ใดทราบว่าสมาชิกสหภาพแรงงานฯ ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งได้ออกเสียงลงคะแนนเลือกผู้ใดเป็นกรรมการสหภาพแรงงานฯ เพื่อเป็นการให้โอกาสแก่ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งได้ใช้สิทธิอย่างอิสรเสรี ไม่ต้องตกอยู่ในความเกรงกลัว ความเกรงใจ หรืออิทธิพลของใคร ด้วยเหตุนี้หากมีการกระทำใดที่เป็นช่องทางให้ทราบได้ว่าสมาชิกสหภาพแรงงานฯ ผู้มาใช้สิทธิเลือกผู้ใดเป็นกรรมการสหภาพแรงงานฯ ย่อมถือได้ว่าไม่ใช่เป็นการลงคะแนนเสียงโดยวิธีลับ ตามข้อบังคับเอกสารหมาย จ.4 ข้อ 26 ดังกล่าว ข้อเท็จจริงได้ความว่าในการเลือกตั้งกรรมการสหภาพแรงงานฯ ครั้งนี้ สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยจัดทำคู่มือการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสหภาพแรงงานรัฐวิสา หกิจการบินไทย ประจำปี 2547 ตามเอกสารหมาย จ.11 ขึ้นเป็นแนวทางปฏิบัติ โดยให้คณะอนุกรรมการเลือกตั้งจัดหน่วยเลือกตั้งออกเป็นหลายหน่วยกระจายไปตามหน่วยงานของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ทั่วราชอาณาจักร ทำบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งมีเลขประจำตัวพนักงานและเลขสมาชิกสหภาพแรงงานฯของพนักงานผู้มีสิทธิเลือกตั้งนั้นปรากฏอยู่ กับทำบัตรเลือกตั้งซึ่งมีเลขที่บัตรปรากฏอยู่ แล้วส่งไปยังหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วย ในวันเลือกตั้ง วันที่ 27 สิงหาคม 2547 เมื่อสมาชิกสหภาพแรงงานฯ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไปแสดงตัวใช้สิทธิเลือกตั้งที่หน่วยเลือกตั้งใด เจ้าหน้าที่หน่วยเลือกตั้งจะระบุเลขที่บัตรเลือกตั้งลงในช่องว่างตรงกับชื่อสมาชิกสหภาพแรงงาน ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งนั้นในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง แล้วให้ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งลงลายมือชื่อในช่องตรงกับชื่อสมาชิกสหภาพแรงงานฯ ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง หลังจากนั้นจึงมอบบัตรเลือกตั้งให้แก่ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งเพื่อไปลงคะแนนต่อไปเมื่อลงคะแนนเสร็จหน่วยเลือกตั้งทุกหน่วยจะส่งหีบบัตรเลือกตั้งไปรวมนับคะแนนที่ส่วนกลางพร้อมกับจัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งว่ามีผู้มีสิทธิเลือกตั้งรายใดใช้สิทธิลงคะแนนเลือกตั้งเกินกว่าหนึ่งหน่วยหรือไม่ ถ้ามีก็จะตรวจและดึงเอาบัตรเลือกตั้งของผู้นั้นออกจากบัตรที่ยังไม่ได้นับคะแนนโดยอาศัยเลขที่บัตรเลือกตั้งที่ปรากฏอยู่ในบัญชีรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งและปรับให้เป็นบัตรเสียเพราะลงคะแนนซ้ำซ้อน จะเห็นได้ว่าการปฏิบัติตามแนวทางในคู่มือการเลือกตั้งตามเอกสารหมาย จ.11 ดังกล่าวเป็นช่องทางให้ตรวจสอบทราบได้ว่าสมาชิกสหภาพแรงงานฯ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้ออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งผู้ใดเป็นกรรมการสหภาพแรงงานฯ ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งย่อมเกิดความหวาดระแวงว่าจะมีผู้อื่นทราบความลับของตนว่าได้ใช้สิทธิเลือกผู้ใดเป็นกรรมการสหภาพแรงงานฯ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่มีโอกาสใช้ดุลพินิจอย่างอิสรเสรีในการออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งอีกต่อไป จึงไม่ใช่การลงคะแนนเสียงโดยวิธีลับ ย่อมไม่ชอบด้วยข้อบังคับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย พ.ศ. 2545 ตามเอกสารหมาย จ.4 ข้อ 26 ที่โจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสิบเก้าอ้างว่าการปฏิบัติตามคู่มือการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย ประจำปี 2547 ตามเอกสารหมาย จ.11 ข้างต้นเป็นการปฏิบัติตามจารีตประเพณีที่เคยปฏิบัติมาเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาที่สมาชิกสหภาพแรงงานฯ ใช้สิทธิเลือกตั้งซ้ำซ้อนมากกว่าหนึ่งหน่วยเลือกตั้งนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า การป้องกันไม่ให้สมาชิกสหภาพแรงงานฯ ใช้สิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเสียงซ้ำซ้อนมากกว่าหนึ่งหน่วยเลือกตั้งเป็นเรื่องที่สหภาพแรงงานฯ มีสิทธิกระทำได้แต่จะต้องเลือกใช้วิธีป้องกันที่ไม่ขัดต่อกฎหมาย หรือไม่ขัดต่อข้อบังคับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย พ.ศ. 2545 ตามเอกสารหมาย จ.4 เมื่อแนวทางปฏิบัติในการเลือกตั้งตามคู่มือการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทยประจำปี 2547 เอกสารหมาย จ.11 ขัดต่อข้อบังคับสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย พ.ศ. 2545 ตามเอกสารหมาย จ.4 ข้อ 26 ดังวินิจฉัยมาแล้ว โจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสิบเก้าจะอ้างว่าเคยปฏิบัติกันมาจนเป็นจารีตประเพณีหาได้ไม่ อุทธรณ์ของโจทก์และโจทก์ร่วมทั้งสิบเก้าฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน.
เรียบเรียงโดย บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด