ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ชมรมบริหารงานบุคคล
dot
bulletสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย
bulletชมรมบริหารงานบุคคล
bulletชมรมบริหารงานบุคคล อยุธยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลรังสิต
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคล อมตะนคร
bulletสมาคมการบริหารงานบุคคล (PAAs)
bulletชมรมบริหารงานบุคคลบางพลี
bulletชมรมนักบริหารงานบุคคลพัทยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลยุคใหม่
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคลจังหวัดราชบุรี
bulletงานบริหารงานบุคคล
bulletชมรมงานบริหารงานบุคคลกรุงเทพฯ
bulletชมรมบริหารงานบุคลสุขสวัสดิ์
dot
ติดต่อราชการศาล
dot
bulletศาลแรงงานกลาง
bulletศาลแรงงานภาค ๒
bulletศาลยุติธรรม
bulletศาลปกครอง
bulletศาลรัฐธรมนูญ
bulletสำนักงานอัยการสูงสุด
bulletกระทรวงยุติธรรม
bulletคณะกรรมการกฤษฎีกา
bulletกรมบังคับคดี
bulletสภาทนายความ
dot
หน่วยงานราชการสำคัญ
dot
bulletกระทรวงแรงงาน
bulletกรมการจัดหางาน
bulletกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
bulletกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
bulletสำนักงานประกันสังคม
bulletกรมสรรพากร
bulletกรมบัญชีกลาง
bulletกรมพัฒนาธุรกิจกาค้า
bulletกระทรวงอุตสาหกรรม
bulletกรมโรงงานอุตสาหกรรม
bulletกรมส่งเสริมอุตสาหรม
bulletการนิคมอุตสาหกรรม
dot
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน
dot
bulletสมบัติลีกัล
bulletเอกเซลสำหรับงาน HR โดย อ.สำเริง
bulletบทความดี ๆ จากโกป้อม
dot
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
dot
dot
Newsletter

dot


พยากรณ์อากาศวันนี้
..................................


ราคาน้ำมันวันนี้
..................................



วันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วน article

         คำพิพากษาฎีกาที่    6412 - 6413         

วันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วน

 

คดีทั้งสองสำนวนนี้  ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งให้รวมการพิจารณาเข้าด้วยกันโดยให้เรียกโจทก์ตามลำดับสำนวนว่าโจทก์ที่  1  และโจทก์ที่  2  เรียกจำเลยทั้งสองสำนวนว่าจำเลย

  

โจทก์ทั้งสองฟ้องว่า  โจทก์ทั้งสองเป็นลูกจ้างจำเลย  โดยโจทก์ที่  1  เข้าทำงานตั้งแต่วันที่  1  เมษายน  2548  ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายขาย  ค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ  84,094  บาท  โจทก์ที่  2  เข้าทำงานตั้งแต่วันที่  2  กุมภาพันธ์  2548  ตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายบริการ  ค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ  79,794  บาท  กำหนดจ่ายค่าจ้างทุกวันสิ้นเดือน  ในเดือนมีนาคม  (ที่ถูก  ควรเป็นมีนาคม  2552)  จำเลยจ่ายค่าจ้างให้โจทก์ที่  1  เพียง  72,884.93  บาท  คงค้างจ่าย  11,213.07  บาท  และให้โจทก์ที่  2  เพียง  21,278.40  บาท  คงค้างจ่าย  18,618.60  บาท  ขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าจ้างค้างจ่าย  11,213.07  บาท  แก่โจทก์ที่  1  และ  18,613.60  บาท  แก่โจทก์ที่  2  พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ  15  ต่อปี  นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ทั้งสอง

 
 

จำเลยให้การว่า  โจทก์ที่  1  และที่  2  เคยเป็นลูกจ้างจำเลยแต่ลาออกแล้ว  โดยมีผลตั้งแต่วันที่  31  และวันที่  16  มีนาคม  2552 ตามลำดับ  จำเลยมีข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกำหนดให้ลูกจ้างที่ทำงานครบสัญญาจ้าง  1 ปี  และทำงานต่อในปีถัดไป  มีสิทธิลาหยุดพักผ่อนประจำปีได้  6  วันทำงานโดยได้รับค่าจ้าง  แต่ต้องยื่นใบลาล่วงหน้าและได้รับอนุมัติจากหัวหน้างานก่อน  และไม่สามารถนำวันหยุดสะสมในปีก่อนมารวมได้  ปี  2552  โจทก์ที่  1  และที่  2  ทำงานเพียง  2  เดือน  มีสิทธิลาหยุดพักผ่อนประจำปีเพียงคนละ  1  วัน  แต่โจทก์ที่  1  หยุดงานตั้งแต่วันที่  16  มีนาคม  2552  จนถึงวันที่การลาออกมีผลซึ่งหักด้วยสิทธิลาหยุดพักผ่อนประจำปี  1  วัน  ถือว่าขาดงาน  8  วัน  โจทก์ที่  2  หยุดงานตั้งแต่วันที่  1  มีนาคม  2552  จนถึงวันที่การลาออกมีผล  ซึ่งหักด้วยสิทธิลาหยุดพักผ่อนประจำปี  1  วัน  ถือว่าขาดงาน  9  วัน  จำเลยจึงหักค่าจ้างของเดือนมีนาคม  2552  ในส่วนของโจทก์ที่  1  จำนวน  5  วัน  และโจทก์ที่  2  จำนวน  7  วัน  แล้วจำเลยจ่ายค่าจ้างเดือนมีนาคม  2552  ให้โจทก์ที่  1  และที่  2  จำนวน  26  วัน  และ  8  วัน  ตามลำดับ  อันเป็นจำนวนมากกว่าที่โจทก์ทั้งสองจะพึงได้รับ  จำเลยจึงไม่ได้ค้างชำระค่าจ้างเดือนมีนาคม  2552  ขอให้ยกฟ้อง

 
 

ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าจ้างจำนวน  11,213.07  บาท  แก่โจทก์ที่  1  และจำนวน  18,618.60  บาท  แก่โจทก์ที่  2  พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ  15  ต่อปี  ของต้นเงินแต่ละจำนวน  นับแต่วันฟ้อง  (วันที่  21  เมษายน  2552)  เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ทั้งสอง

 
 
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
 
 

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว  ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า  โจทก์ที่  1  และที่  2  เข้าทำงานเป็นลูกจ้างของจำเลยตั้งแต่วันที่  1  เมษายน  2548  และวันที่  2  กุมภาพันธ์  2548  ได้รับค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ  84,098  บาท  และ  79,794  บาท  ตามลำดับ  กำหนดจ่ายค่าจ้างทุกวันสิ้นเดือน  ต่อมาโจทก์ที่  1  และที่  2  ลาออกจากการเป็นลูกจ้างของจำเลยโดยให้มีผลตั้งแต่วันที่  31  มีนาคม  2552  และวันที่  16  มีนาคม  2552  จำเลยมีข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน  ข้อ  4  ซี  กำหนดว่าเมื่อพนักงานได้ทำงานครบสัญญาจ้างหนึ่งปี  และทำงานต่อในปีถัดไป  พนักงานมีสิทธิหยุดพักร้อน  6  วัน  โดยได้รับค่าจ้าง  ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานเอกสารหมาย  ล.1  และสะสมวันหยุดที่ยังไม่ได้หยุดในปีถัดไปได้ตามรายงานการประชุมเอกสารหมาย  จ.2 ปี  2551  โจทก์ที่  1  ใช้สิทธิลาหยุดพักผ่อนประจำปี  4  วัน  เหลือวันลาสะสมที่จะใช้สิทธิปี  2552  จำนวน  2  วัน  ส่วนโจทก์ที่  2  นั้น  ปี  2551  ใช้สิทธิลาหยุดพักผ่อนประจำปี  2  วัน  เหลือวันลาสะสมที่จะใช้สิทธิปี  2552  จำนวน  4  วัน  ภายหลังยื่นใบลาออกแต่ก่อนการลาออกมีผลโจทก์ที่  1  ลาหยุดพักผ่อนประจำปีตั้งแต่วันที่  16  ถึงวันที่  26  มีนาคม  2552  รวม  9  วันทำงาน  วันที่  21  และวันที่  22  มีนาคม  2552  เป็นวันเสาร์และวันอาทิตย์  โจทก์ที่  2    ลาหยุดพักผ่อนประจำปีตั้งแต่วันที่  2  ถึงวันที่  13  มีนาคม  2552  รวม  10  วันทำงาน  วันที่  7 และวันที่  8  มีนาคม  2552  เป็นวันเสาร์และวันอาทิตย์  จำเลยจ่ายค่าจ้างเดือนมีนาคม  2552  ให้โจทก์ที่  1  จำนวน  26  วัน  เป็นเงิน  72,884.93  บาท  ให้โจทก์ที่  2  จำนวน  8  วัน  เป็นเงิน  21,278.40  บาท  แล้ววินิจฉัยว่า  ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานเอกสารหมาย  ล.1  มิได้ระบุไว้ชัดแจ้งว่าการคิดวันลาหยุดพักผ่อนประจำปีให้คิดตามอัตราส่วนของปีที่ทำงานได้  เมื่อปี  2552  โจทก์ทั้งสองได้ทำงานจึงมีสิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีของปีดังกล่าวได้คนละ  6  วัน  และมีสิทธิสะสมวันหยุดที่ยังไม่ได้ใช้ของปี  2551  อีกคนละ  2  วัน  และ  4  วัน  ตามลำดับ  โจทก์ที่  1  จึงมีสิทธิลาหยุดพักผ่อนประจำปีรวม  8  วัน  และโจทก์ที่  2  มีสิทธิลาหยุดพักผ่อนประจำปีรวม  10  วัน  แม้โจทก์ที่  1  จะลาหยุดเกินสิทธิไป  1 วัน  แต่เมื่อจำเลยอนุญาตให้หยุดตามที่โจทก์ที่  1  ยื่นใบลาไว้ก็ไม่ถือว่าโจทก์ที่  1  ขาดงาน  ส่วนโจทก์ที่  2  ลาหยุดพักผ่อนประจำปีไม่เกินสิทธิ  จำเลยจึงต้องจ่ายค่าจ้างส่วนที่ค้างพร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์ทั้งสองตามฟ้อง

 
 

ที่จำเลยอุทธรณ์ว่าจำเลยแจ้งด้วยวาจาให้โจทก์ที่ 1 ทราบแล้วว่าไม่มีสิทธิลาพักร้อน  ส่วนโจทก์ที่  2  ไม่อยู่รอรับทราบคำสั่งของจำเลย  จะถือว่าจำเลยอนุมัติให้โจทก์ทั้งสองลาหยุดพักผ่อนประจำปีโดยปริยายไม่ได้นั้น  เห็นว่า  ในปัญหานี้ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่านายกฤษฎากร  สิริอาภรณ์  กรรมการผู้จัดการของจำเลย  ได้บอกแก่โจทก์ที่ 1 ขณะที่ยื่นใบลาหยุดพักผ่อนประจำปีว่าไม่ต้องมาทำงานแล้วและอนุญาตให้โจทก์ที่ 1 ลาหยุดพักผ่อนประจำปีตามที่ยื่นใบลาได้  โดยไม่ได้ยื่นยันว่าโจทก์ที่  1  ไม่มีสิทธิลาเพราะลาเกินกำหนด  ส่วนโจทก์ที่  2  เมื่อนายกฤษฎากรรับใบลาของโจทก์ที่  2  แล้ว  ไม่ได้สั่งอนุญาตหรือไม่อนุญาตในขณะนั้น  โดยไม่ปรากฏเหตุผลอื่นที่จะไม่อนุญาตให้โจทก์ที่  2  ลาหยุดพักผ่อนประจำปี  ถือว่าจำเลยอนุญาตให้โจทก์ที่  2  ลาหยุดได้โดยปริยาย  ดังนั้นอุทธรณ์ของจำเลยดังกล่าวจึงเป็นการโต้เถียงดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานกลางอันเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานกลางและวิธีพิจารณาคดีแรงงานพ.ศ. 2522 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง  ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย

 
 

มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยว่า จำเลยจะกำหนดวันหยุดพักผ่อนประจำปีของปี 2552 ให้แก่โจทก์ทั้งสองโดยคำนวณให้ตามสัดส่วนตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน  พ.ศ.  2541  มาตรา  30  ได้หรือไม่  โดยจำเลยอุทธรณ์ว่า  ปี  2552  โจทก์ทั้งสองทำงานเพียง  2  เดือน  จึงมีสิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีเพียงคนละ  1  วันตามอัตราส่วนโดยจำเลยคิดให้โจทก์ทั้งสองมีสิทธิลาพักร้อนได้คนละ  1  วัน  รวมกับวันพักร้อนที่โจทก์ทั้งสองเหลืออยู่ปี 2551 จำนวนเงินที่จำเลยจ่ายให้แก่โจทก์ทั้งสองจึงมากกว่าที่ควรจะได้รับแล้วนั้นเห็นว่า  ลูกจ้างมีสิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีเพียงใดย่อมเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.  2541  มาตรา  30  ซึ่งบัญญัติว่า  ลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันมาแล้วครบ  1  ปี  มีสิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีได้ปีหนึ่งไม่น้อยกว่า  6  วันทำงาน  โดยให้นายจ้างเป็นผู้กำหนดวันหยุดดังกล่าวให้แก่ลูกจ้างล่วงหน้าหรือกำหนดให้ตามที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกัน  ในปีต่อมานายจ้างอาจกำหนดวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้แก่ลูกจ้างมากกว่า  6  วันทำงานก็ได้  สำหรับลูกจ้างซึ่งทำงานยังไม่ครบ  1  ปี  นายจ้างอาจกำหนดวันหยุดพักผ่อนประจำปีให้แก่ลูกจ้างโดยคำนวณให้ตามส่วนก็ได้  ทั้งนี้ตามมาตรา  56  บัญญัติให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างเท่ากับค่าจ้างในวันทำงานสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี  ตามบทบัญญัติดังกล่าวมีความหมายว่าในปีแรกของการทำงานลูกจ้างยังไม่มีสิทธิหยุดพักผ่อนประจำปี  เมื่อทำงานติดต่อกันครบ  1  ปี  จึงจะเกิดสิทธิเช่นนั้น  ส่วนในปีต่อไปลูกจ้างก็มีสิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีได้ทันที  6  วันทำงานหรือมากกว่าตามแต่นายจ้างจะอนุญาตหรือข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของนายจ้างจะกำหนดโดยไม่ต้องทำงานให้ครบปีเหมือนเช่นปีแรก  เมื่อข้อเท็จจริงในคดีนี้ได้ความว่า  โจทก์ที่  1  เข้าทำงานเป็นลูกจ้างจำเลยตั้งแต่วันที่  1  เมษายน  2548  ต่อมาลาออกมีผลวันที่  31  มีนาคม  2552  และโจทก์ที่  2  เข้าทำงานเป็นลูกจ้างจำเลยตั้งแต่วันที่  2  กุมภาพันธ์  2548  ต่อมาลาออกมีผลวันที่  16  มีนาคม  2552  ปี  2552  ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของการทำงาน  โจทก์ทั้งสองทำงานไม่ครบปีโดยลาออกไปก่อน  แม้พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน  พ.ศ.  2541  มาตรา  67  วรรคหนึ่งบัญญัติว่ากรณีนายจ้างเลิกจ้างโดยมิใช่กรณีตามมาตรา  119  ให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีในปีที่เลิกจ้างตามส่วนของวันหยุดประจำปีที่ลูกจ้างพึงมีสิทธิได้รับตามมาตรา  30  และวรรคท้ายบัญญัติว่าในกรณีที่ลูกจ้างเป็นฝ่ายบอกเลิกสัญญาหรือนายจ้างเลิกจ้าง  ไม่ว่าการเลิกจ้างนั้นเป็นกรณีตามมาตรา  119  หรือไม่ก็ตาม  ให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสมที่ลูกจ้างพึงมีสิทธิได้รับตามมาตรา  30  ซึ่งบทบัญญัติดังกล่าวมีผลทำให้นายจ้างไม่ต้องชดใช้สิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีที่ลูกจ้างต้องเสียไปด้วยการลาออกโดยการจ่ายค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีในปีที่ลาออกตามส่วน  แต่เมื่อในปีที่โจทก์ทั้งสองลาออกนั้นจำเลยอนุญาตให้โจทก์ที่  1  และที่  2  ลาหยุดพักผ่อนประจำปีจึงเป็นการหยุดตามที่จำเลยกับโจทก์ทั้งสองตกลงกันจำเลยไม่อาจหักค่าจ้างโจทก์ทั้งสองโดยอ้างเหตุใช้สิทธิหยุดพักผ่อนประจำปีเกินส่วนได้ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษามานั้นศาลฎีกาเห็นพ้องด้วยในผล  อุทธรณ์ของจำเลยข้อนี้ฟังไม่ขึ้น

 
 
พิพากษายืน.
เรียบเรียงโดย บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด



อัพเดท ฎีกาน่าสนใจ

ขึ้นทะเบียนรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเกิน ๓๐ วัน ยังมีสิทธิได้รับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานได้ article
ลักษณะความผิดเดียวกัน แต่ระดับความร้ายแรงแตกต่างกัน นายจ้างพิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ผู้จัดการสาขา เสนอรายชื่อลูกค้าที่ขาดคุณสมบัติทำประกันชีวิต ถือว่าจงใจทำให้นายจ้างเสียหาย / ผิดร้ายแรง article
หยุดกิจการชั่วคราวตาม มาตรา ๗๕ article
สัญญาจ้างเป็นสัญญาต่างตอบแทน นายจ้างออกค่าใช้จ่ายในการเข้าทดสอบเพื่อรับเกียรติบัตร เมื่อทดสอบผ่านต้องทำงานกับนายจ้าง ๕ ปี บังคับใช้ได้ article
ศาลแรงงานกลางมีอำนาจสั่งรับพยานเอกสารได้ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม article
ประกอบธุรกิจแข่งขัน / ไปทำงานกับนายจ้างอื่น ในลักษณะผิดต่อสัญญาจ้าง เมื่อลูกจ้างได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้างตามสัญญาแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะบังคับ / ห้ามทำงานตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างอีกต่อไป article
คดีแรงงานเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้คดีอาญายกฟ้อง แต่พฤติกรรมการกระทำผิด เป็นเหตุให้นายจ้างไม่อาจไว้วางใจในการทำงานได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
เลิกจ้างเนื่องจากปรับโครงสร้างองค์กร แต่กำหนดรายชื่อไว้ล่วงหน้า ถือเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม article
การหักลบกลบหนี้ หนี้อันเกิดจากสัญญาจ้าง กรณีลูกจ้างกระทำผิดกับสิทธิประโยชน์ที่มีสิทธิได้รับตามสัญญาจ้าง ถือเป็นมูลหนี้อันเป็นวัตถุอย่างเดียวกันหักลบกลบหนี้กันได้ article
เล่นการพนันฉลากกินรวบ เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน กรณีร้ายแรง article
กรณีไม่ถือเป็นการประกอบธุรกิจแข่งขันหรือไม่ถือว่าทำงานกับนายจ้างใหม่ในลักษณะธุรกิจเดียวกับนายจ้าง article
สัญญาฝึกอบรม นายจ้างกำหนดเบี้ยปรับได้ เป็นสัญญาที่เป็นธรรม article
ค้ำประกันการทำงาน หลักประกันการทำงาน การหักลบกลบหนี้ค่าเสียหายจากการทำงาน article
ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์แต่ตนเอง เรียกรับเงินจากลูกค้า ถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ article
ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา มาทำงานสายประจำ ถือว่า กระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สหภาพแรงงานทำบันทักข้อตกลงเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างกับนายจ้าง อันส่งผลกระทบต่อสิทธิหน้าที่ของสมาชิก ขัดกับข้อตกลงเดิมและมิได้ขอมติที่ประชุมใหญ่ ข้อตกลงดังกล่าวไม่อาจใช้บังคับได้ article
ขอเกษียณอายุก่อนกำหนดตามประกาศ ถือเป็นการสมัครใจเลิกสัญญาจ้างแรงงานต่อกัน มิใช่การเลิกจ้างหรือการเกษียณอายุ จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยตามระเบียบกรณีเกษียณอายุ article
สถาบันวิจัยอันเป็นส่วนหนึ่งของกิจการมหาวิทยาลัยถือเป็นหน่วยงานของรัฐ ได้รับยกเว้น ไม่อยู่ภายใต้บังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา ๔ (๑) article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า จากการเลิกจ้างมีอายุความฟ้องร้องได้ภายใน ๑๐ ปี article
ทะเลาะวิวาทเรื่องส่วนตัวไม่ส่งผลกระทบต่อการบังคับบัญชา ไม่เป็นความผิด กรณีร้ายแรง ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ article
พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน มิใช่ทายาทผู้มีสิทธิรับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ และเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ตามพระราชบัญญัติ ประกันสังคม มาตรา ๗๓ และมาตรา ๗๗ article
ขับรถเร็วเกินกว่าข้อบังคับกำหนด เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนคำสั่งโยกย้าย เลิกจ้างได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ประกาศใช้ระเบียบใหม่ ไม่ปรากฏว่ามีพนักงานโต้แย้งคัดค้าน ถือว่าทุกคนยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ article
เงินค่าตอบแทนพิเศษกับเงินโบนัส มีเงื่อนไขต่างกัน หลักเกณฑ์การจ่ายต่างกัน จึงต้องพิจารณาต่างกัน article
ทายาทผู้มีสิทธิได้รับเงินกองทุนเงินทดแทน article
ค่ารถแทนรถยนต์ประจำตำแหน่ง ไม่ถือเป็นค่าจ้าง และ ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสมให้ถือตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานที่กำหนดไว้ article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างไม่ตกลง ขอเวลาตัดสินใจและหยุดงานไป นายจ้างแจ้งให้กลับเข้าทำงานตามปกติ ถือว่านายจ้างยังไม่มีเจตนาเลิกจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ แอบนอนหลับในเวลาทำงาน ถือเป็นเหตุในการเลิกจ้างได้ เลิกจ้างเป็นธรรม article
ลาออกโดยไม่สุจริต ไม่มีผลใช้บังคับ article
ทำความผิดคล้ายคลึงกันแต่ไม่เหมือนกัน พิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ประกอบธุรกิจ บริการ ด่าลูกค้าด้วยถ้อยคำหยาบคาย " ควาย " ถือเป็นการกระทำความผิดกรณีร้ายแรง article
ข้อบังคับ ระบุให้ผู้บังคับบัญชาเหนือกว่ามีอำนาจแก้ไข เพิ่มโทษ หรือลดโทษได้ การยกเลิกคำสั่งลงโทษเดิมและให้ลงโทษใหม่หนักกว่าเดิมจึงสามารถทำได้ article
เลือกปฏิบัติในการลงโทษระเบียบการห้ามใส่ตุ้มหูมาทำงาน บังคับใช้ได้ แต่เลือกปฏิบัติในการลงโทษไม่ได้ article
ลงโทษพักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างและเตือนในคราวเดียวกันได้ ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน article
จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย article
ข้อตกลงรับเงินและยินยอมปลดหนี้ให้แก่กัน ถือเป็นการตกลงระงับข้อพิพาทแม้จะทำขึ้นก่อนคำสั่งเลิกจ้างมีผลใช้บังคับ article
ศาลแรงงานมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานที่คู่ความอ้างส่งศาลได้ แม้มิได้ระบุบัญชีพยานไว้ก็ตาม article
สัญญาจ้างห้ามลูกจ้างไปทำงานกับนายจ้างใหม่ที่ประกอบธุรกิจเช่นเดียวกันมีกำหนดเวลา บังคับใช้ได้ article
เลิกจ้างและรับเงินค่าชดเชย ใบรับเงิน ระบุขอสละสิทธิ์เรียกร้องเงินอื่นใดใช้บังคับได้ ลูกจ้างไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องสินจ้างและค่าเสียหายได้อีก article
เกษียณอายุ 60 ปี ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยนับแต่วันครบกำหนดเกษียณอายุ แม้นายจ้างไม่ได้บอกเลิกจ้างก็ตาม article
ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องและเพิกเฉยไม่ดูแลผลประโยชน์ของนายจ้าง เป็นเหตุให้นายจ้างไม่ไว้วางใจในการทำงานได้เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ละเลยต่อหน้าที่ ไม่รายงานเคพีไอ นายจ้างตักเตือนแล้ว ถือว่าผิดซ้ำคำเตือน เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ทำสัญญาจ้างต่างด้าวทำงานในอาชีพต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว สัญญาจ้างถือเป็นโมฆะ article
ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง article
ศาลมีคำสั่งให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษาตามหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน ในขณะที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ยุติ ต้องสืบพยานใหม่และพิพากษาใหม่ไปตามรูปคดี article
แม้สัญญาจ้างไม่ได้ระบุระยะเวลาทดลองงานไว้ แต่นายจ้างก็สามารถประเมินผลการทำงานของลูกจ้างได้ article
การควบรวมกิจการ สิทธิและหน้าที่โอนไปเป็นของบริษัทใหม่ การจ่ายเงินสมทบบริษัทใหม่ที่ควบรวมจึงมีสิทธิจ่ายเงินสมทบในอัตราเดิมตามสิทธิ มิใช่ในอัตราบริษัทตั้งใหม่ article
เลิกจ้างรับเงินค่าชดเชยแล้วตกลงสละสิทธิ์จะไม่เรียกร้องผละประโยชน์ใดๆ ถือว่าสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเป็นอันระงับไป article
รับเหมาก่อสร้าง ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบ จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมแทนผู้รับเหมาช่วง หากผู้รับเหมาช่วงไม่นำส่งเงินสมทบตามกฎหมายโดยคำนวณจากอัตราค่าจ้างที่ระบุตามแบบ ( ภ.ง.ด. 50 ) และบัญชีงบดุล article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานระบุห้ามทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกาย ผู้บังคับบัญชา เพื่อนพนักงาน ทั้งในสถานที่ทำงาน หรือสถานที่อื่นๆ ฝ่าฝืนถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง ใช้บังคับได้ไม่ขัดต่อกฎหมาย article
ไส้ติ่งอักเสบ แพทย์วินิจฉัยให้ผ่าตัด ถือเป็นกรณีฉุกเฉิน เบิกค่ารักษาได้ มีสิทธิรับเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ได้ article
ค่าเช่าที่พัก ค่าใช้จ่ายเดินทางเป็นสวัสดิการไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่ารถยนต์ซึ่งกำหนดเป็นสวัสดิการไว้ชัดเจนแยกจากฐานเงินเดือนปกติ ถือเป็นสวัสดิการไม่ใช่ค่าจ้าง article
ละเมิดข้อตกลงสภาพการจ้าง ละเมิดสัญญาจ้าง มีอายุความ 10 ปี มิใช่ 1 ปี article
พฤติกรรมการจ้างที่ถือว่าเป็นการจ้างแรงงาน ถือเป็นลูกจ้าง / นายจ้างตามกฎหมาย article
พนักงานขายรถยนต์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ประจำบูธ ตามที่ได้รับมอบหมาย ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
เลือกตั้งคณะกรรมการสหภาพฯ ขัดต่อข้อบังคับสหภาพหรือขัดต่อกฎหมาย ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบ article
ฝ่าฝืนสัญญาจ้าง กรณีห้ามทำการแข่งขันกับนายจ้างหรือทำธุรกิจคล้ายคลึงกับนายจ้างเป็นเวลา 2 ปี นับจากสิ้นสุดสัญญาต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้าง article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระบุให้นายจ้างเลิกจ้างเพราะเหตุคนล้นงาน ปรับลด ขนาดองค์กรได้ ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะเลิกจ้างลูกจ้างได้ article
ข้อบังคับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรณีตัดสิทธิ์รับเงินสมทบพร้อมผลประโยชน์หากกระทำผิดถูกปลดออกจากงานบังคับใช้ได้ article
ทะเลาะวิวาทกัน นอกเวลางาน นอกบริเวณบริษัทฯ ไม่ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนไม่ไปตรวจสารเสพติดซ้ำตามคำสั่งและนโยบาย ถือว่าฝ่าฝืน ข้อบังคับ หรือ ระเบียบ กรณีร้ายแรง article
เป็นลูกจ้างที่มีอำนาจกระทำการแทนนายจ้างในการจ้างงาน ไม่มีสิทธิได้รับค่าทำงานในวันหยุด และลักทรัพย์เอาต้นไม้ของนายจ้างไป ถือว่ากระทำผิดอาญาแก่นายจ้าง เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ผลการทำงานดีมาโดยตลอดและไม่เคยกระทำผิดมาก่อน แต่ปีสุดท้ายผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ถือเป็นเหตุที่จะอ้างในการเลิกจ้าง article
ได้รับบาดเจ็บรายการเดียว เข้ารักษา 2 ครั้ง ถือว่าเป็นการรักษารายการเดียว นายจ้างสำรองจ่ายเพิ่มเติมไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ใช่ 200,000 บาท article
ผู้บริหารบริษัท ฯ ถือเป็นลูกจ้างหรือไม่ ดูจาก_________ ? article
ขับรถออกนอกเส้นทาง แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรงและก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้าง นายจ้างหักเงินประกันการทำงานได้ article
ค่าจ้างระหว่างพักงาน เมื่อข้อเท็จจริง ลูกจ้างกระทำความผิดจริง จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างระหว่างพักงาน article
“ นายจ้าง ” ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 article
สัญญารักษาความลับ ข้อมูลทางการค้า (ห้ามประกอบหรือรับปฏิบัติงานแข่งขันนายจ้าง) มีกำหนด 2 ปี บังคับใช้ได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย และการกำหนดค่าเสียหาย ถือเป็นเบี้ยปรับตามกฎหมาย ศาลปรับลดได้ตามสมควร article
เงินรางวัลการขายประจำเดือน จ่ายตามเป้าหมายการขาย ที่กำหนดไว้ ไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่าโทรศัพท์ เหมาจ่าย ถือเป็นค่าจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ 3 วันทำการ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เลิกจ้างเป็นธรรมไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ลาออกมีผลใช้บังคับแล้ว ออกหนังสือเลิกจ้างภายหลังใช้บังคับไม่ได้ article
ตกลงรับเงิน ไม่ติดใจฟ้องร้องอีกถือเป็นการตกลงประนีประนอมกันบังคับได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย
เลิกจ้างระหว่างทดลองงาน ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ข้อตกลงว่า “หากเกิดข้อพิพาทตามสัญญาจ้างแรงงาน ให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย” ไม่เกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมายแรงงาน เมื่อเกิดสิทธิตามกฎหมาย ฟ้องศาลแรงงานได้ โดยไม่ต้องให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย article
เลิกจ้างด้วยเหตุอื่น อันมิใช่ความผิดเดิมที่เคยตักเตือน ไม่ใช่เหตุที่จะไม่จ่ายค่าชดเชย เลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย article
นำรถยนต์ไปใช้ในกิจธุระส่วนตัว มีพฤติกรรมคดโกง ไม่ซื่อตรง พฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต ไม่น่าไว้วางใจ ลงโทษปลดออกจากการทำงานได้ article
การกระทำที่กระทบต่อเกียรติ ชื่อเสียงของนายจ้าง และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้กระทำนอกสถานที่ทำงานและนอกเวลางาน ก็ถือว่า ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกรณีร้ายแรง article
สัญญาค้ำประกันการทำงานไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ต้องรับผิดชอบตลอดไป article
ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเลิกจ้างได้ ถือว่าเลิกจ้างเป็นธรรมและความผิดที่ลงโทษแล้วจะนำมาลงโทษอีกไม่ได้ article
ผิดสัญญาจ้างไปทำงานกับคู่แข่ง นายจ้างฟ้องเรียกค่าเสียหายตามสัญญาได้ แต่ค่าเสียหาย เป็นดุลพินิจของศาลจะกำหนด article
จงใจกระทำผิดโดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้นายจ้างเสียหาย ถือว่า กระทำละเมิดต่อนายจ้าง ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น article
ตกลงสละสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย ภายหลังเลิกจ้าง ใช้บังคับได้ ไม่เป็นโมฆะ article
ก้าวร้าวไม่ให้ความเคารพผู้บังคับบัญชา ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้ามิใช่ค่าจ้าง คิดดอกเบี้ยในอัตรา 7. 5 ต่อปี article
ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของนายจ้างในเรื่องส่วนตัวเป็นประจำ ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่กาปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต เลิกจ้างเป็นธรรม article
สั่งให้พนักงานขับรถ ขับรถออกนอกเส้นทางแต่ไม่ได้มีส่วนในการขับรถ ถือว่าผิดต่อสัญญาจ้าง แต่ไม่ต้องรับผิดอันมีผลโดยตรงจากมูลละเมิด ( ขับรถโดยประมาท ) article
จ่ายของสมนาคุณให้ลูกค้า โดยไม่ตรวจสอบบิลให้ถูกต้อง มิใช่ความผิดกรณีร้ายแรงไม่ใช่การทุจริตต่อหน้าที่ แต่ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เสร็จลุล่วงไปโดยถูกต้อง และสุจริต เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ฟ้องประเด็นละเมิด กระทำผิดสัญญาจ้าง ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง มีอายุความ 10 ปี article
ตกลงยินยอมให้หักค่าจ้างชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันเงินกู้ นายจ้างสามารถหักค่าจ้างได้ตามหนังสือยินยอมโดยไม่ต้องฟ้อง article
กระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้างและประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง article
“ งานโครงการตามมาตรา 118 วรรค 4 ” บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ว่าจ้างลูกจ้างทำงานตามโครงการที่รับเหมา ถือว่าจ้างงานในปกติธุรกิจของนายจ้าง มิใช่งานโครงการ article
เงินโบนัสต้องมีสภาพการเป็นพนักงานจนถึงวันกำหนดจ่าย ออกก่อนไม่มีสิทธิได้รับ article
ระเบียบกำหนดจ่ายเงินพิเศษ ( gratuity ) เนื่องจากเกษียณอายุ โดยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายแตกต่างจากการจ่ายค่าเชย ถือว่านายจ้างยังไม่ได้จ่ายค่าชดเยตามกฎหมาย article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างขอค่าชดเชย นายจ้างไม่คุยด้วย แต่ยังไม่ได้บอกเลิกจ้างและยังไม่ปรากฎว่านายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างและไม่ให้เข้าทำงานต่อ ยังไม่ถือว่าเป็นการเลิกจ้าง ( อย่าเข้าใจไปเอง ) ไม่มีสิทธิได้ค่าชดเชย article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด

เลขที่ 511/4 ถนนประชาอุทิศ 117/1 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร (10140)

โทร/Tel : 02 - 8159522, แฟกซ์/Fax : 02 - 8159523, มือถือ/Mobile : 081 - 7936156

อีเมล/E-mail : sawai.prm@gmail.com, เว็บไซต์/Web : www.parameelaw.com