ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ชมรมบริหารงานบุคคล
dot
bulletสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย
bulletชมรมบริหารงานบุคคล
bulletชมรมบริหารงานบุคคล อยุธยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลรังสิต
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคล อมตะนคร
bulletสมาคมการบริหารงานบุคคล (PAAs)
bulletชมรมบริหารงานบุคคลบางพลี
bulletชมรมนักบริหารงานบุคคลพัทยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลยุคใหม่
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคลจังหวัดราชบุรี
bulletงานบริหารงานบุคคล
bulletชมรมงานบริหารงานบุคคลกรุงเทพฯ
bulletชมรมบริหารงานบุคลสุขสวัสดิ์
dot
ติดต่อราชการศาล
dot
bulletศาลแรงงานกลาง
bulletศาลแรงงานภาค ๒
bulletศาลยุติธรรม
bulletศาลปกครอง
bulletศาลรัฐธรมนูญ
bulletสำนักงานอัยการสูงสุด
bulletกระทรวงยุติธรรม
bulletคณะกรรมการกฤษฎีกา
bulletกรมบังคับคดี
bulletสภาทนายความ
dot
หน่วยงานราชการสำคัญ
dot
bulletกระทรวงแรงงาน
bulletกรมการจัดหางาน
bulletกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
bulletกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
bulletสำนักงานประกันสังคม
bulletกรมสรรพากร
bulletกรมบัญชีกลาง
bulletกรมพัฒนาธุรกิจกาค้า
bulletกระทรวงอุตสาหกรรม
bulletกรมโรงงานอุตสาหกรรม
bulletกรมส่งเสริมอุตสาหรม
bulletการนิคมอุตสาหกรรม
dot
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน
dot
bulletสมบัติลีกัล
bulletเอกเซลสำหรับงาน HR โดย อ.สำเริง
bulletบทความดี ๆ จากโกป้อม
dot
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
dot
dot
Newsletter

dot


พยากรณ์อากาศวันนี้
..................................


ราคาน้ำมันวันนี้
..................................



ได้รับบาดเจ็บรายการเดียว เข้ารักษา 2 ครั้ง ถือว่าเป็นการรักษารายการเดียว นายจ้างสำรองจ่ายเพิ่มเติมไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ใช่ 200,000 บาท article

คำพิพากษาฎีกาที่    1996/57

  ได้รับบาดเจ็บรายการเดียว  เข้ารักษา  2  ครั้ง  ถือว่าเป็นการรักษารายการเดียว  นายจ้างสำรองจ่ายเพิ่มเติมไม่เกิน  50,000  บาท  ไม่ใช่  200,000  บาท

 

  โจทก์ฟ้องว่า  นายปรีชา  ชัยบุญเขตร  เป็นลูกจ้างของโจทก์   เริ่มทำงานกับโจทก์ตั้งแต่วันที่  17  กรกฎาคม  2545  -  วันที่  1  มีนาคม  2551   มีหน้าที่รับส่งสินค้าหรือเอกสารและเก็บเงินทางการค้าให้แก่โจทก์  และเป็นผู้ประกันตนมีสิทธิตามกฎหมายและระเบียบของจำเลย  เมื่อวันที่ 9  มกราคม   2551  รถจักรยานยนต์ที่นายปรีชาขับไปทำงานตามคำสั่งของโจทก์เกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำที่บริเวณถนนรัชดาภิเษกหน้าสถานีตำรวจนครบาลพหลโยธิน นายปรีชาได้รับอันตรายสาหัสและได้รับการรักษาที่โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียลโชคชัย  4  ตั้งแต่วันที่   9  มกราคม  2551 –  วันที่  2  กุมภาพันธ์  2551  แพทย์ทำการรักษาด้วยวิธีผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะเพื่อรักสมองจำนวน   2   ครั้ง  โจทก์ได้สำรองค่าใช้จ่ายในการรักษาให้แก่นายปรีชาเป็นเงิน 260,604   บาท เมื่อโจทก์ได้ทดรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แก่โรงพยาบาล   โจทก์จึงยื่นเรื่องขอใช้สิทธิรับเงินที่ทดรองจ่ายไปคืนจากจำเลยแต่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ 1 มีคำสั่งตามมติของคณะอนุกรรมการการแพทย์ครั้งที่   9/2551   ลงวันที่   3  เมษายน  2551   อนุมัติให้โจทก์เบิกค่ารักษาพยาบาลได้เพียง   85,000   บาท  โจทก์จึงยื่นอุทธรณ์คำวินิจฉัยดังกล่าวต่อคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนของจำเลย   ต่อมาคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนมีคำวินิจฉัยที่  335/2551   ลงวันที่ 11  กรกฎาคม  2551  ว่าการประสบอันตรายของนายปรีชามีสิทธิได้รับค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นไม่เกิน   85,000   บาท   จึงให้ยกอุทธรณ์ของโจทก์  โจทก์ไม่เห็นพ้องด้วยกับคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนของจำเลย  คำวินิจฉัยดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่ารักษาพยาบาลที่ให้นายจ้างจ่ายตามพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ.  2537   พ.ศ.   2548   ข้อ  4  โดยให้นายจ้างจ่ายค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นเพิ่มจากจำนวน   85,000   บาท   อีกไม่เกิน   200,000   บาท   เนื่องจากในการรักษานายปรีชาแพทย์ต้องทำการผ่าตัดกะโหลกศีรษะเพื่อรักษาส่วนสำคัญของสมองโดยการผ่าตัดใหญ่ทั้ง  2  ครั้ง ทำให้มีค่าใช้จ่ายตามความจำเป็นจำนวนมาก   ซึ่งโจทก์ได้ทำการสำรองจ่ายไปแล้วถึง   260,610 บาท   ขอใช้สิทธิเบิกคืนจากจำเลยแต่จำเลยไม่ยอมจ่าย   นอกจากนั้นในระหว่างวันที่   9   มกราคม 2551  -   วันที่   2  กุมภาพันธ์  2551  โจทก์ได้ทดรองจ่ายค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าห้องพักและค่าอาหารในการรักษาพยาบาลของนายปรีชาอีกจำนวน  25  วัน   เป็นเงินวันละ  700  บาท   รวมเป็นเงิน  17,500   บาท   ขอให้เพิกถอนคำสั่งของสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่  1  ที่วินิจฉัยตามมติคณะอนุกรรมการแพทย์ครั้งที่  9/2551  และคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนที่ 335/2551   ให้จำเลยจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลและค่าห้องพักกับค่าอาหารที่โจทก์ได้จ่ายไปจำนวน 200,000   บาท   และ   17,500   บาท   รวม   217,500   บาท   พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ  7.5 ต่อปี   นับแต่วันถัดจากวันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

 

 

จำเลยให้การว่า   คำสั่งของสำนักงานประสังคมเขตพื้นที่  1  และคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนที่   335/2551   ที่ให้นายปรีชา   ชัยบุญเขตร  มีสิทธิได้รับค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นไม่เกิน  85,000   บาท    ชอบด้วยกฎหมายแล้ว  เนื่องจากคณะกรรมการพิจารณาข้อเท็จจริงจากสำเนาเวชาระเบียนและลักษณะการทำงานของนายปรีชาแล้วเห็นว่า    การที่นายปรีชาประสบอันตรายจากการขับรถจักรยานยนต์เสียหลักชนต้นไม้ข้างทางได้รับบาดเจ็บกะโหลกศีรษะแตกมีเลือดคั่งในสมอง  และได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะเพื่อระบายเลือดออก  กรณีถือเป็นการบาดเจ็บอย่างรุนแรงของศีรษะ  ตามกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่ารักษาพยาบาลที่ให้นายจ้างจ่ายตามพระราชบัญญัติเงินทดแทน  พ.ศ.  2537   พ.ศ.  2548   ลงวันที่   31   มกราคม   2548   ข้อที่   3  (3)   การที่นายปรีชาพักรักษาอยู่ในห้องผู้ป่วยหนักเพียง  17  วัน   และออกมาอยู่หอผู้ป่วยในปกติอีก   7  วัน  รวมอยู่ในโรงพยาบาล   24   วัน  กรณีดังกล่าวจึงไม่ใช่การประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยตามข้อ  3  (1)   ถึง  (6)   ที่จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจหรือพักรักษาตัวอยู่ในหอผู้ป่วยหนักตั้งแต่   20  วันขึ้นไป  หรือเป็นการบาดเจ็บอย่างรุนแรงของระบบสมองหรือไขสันหลังที่จำเป็นต้องรักษาตั้งแต่   30   วันติดต่อกัน    ตามกฎกระทรวงฉบับดังกล่าวข้อ   4   (2)  (3)   การประสบอันตรายของนายปรีชาลูกจ้างของโจทก์จึงมีสิทธิได้รับค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นแต่ไม่เกิน   85,000   บาท   เท่านั้น   การที่จำเลยได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลของนายปรีชาจำนวน   85,000  บาท  ให้แก่โจทก์ซึ่งเป็นนายจ้างผู้มีหน้าที่จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนเงินทดแทนและได้สำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลไปก่อนจึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว   จำเลยจึงไม่ต้องใช้ค่ารักษาพยาบาลในส่วนที่เกินจำนวน  85,000  บาท  พร้อมดอกเบี้ยคืนแก่โจทก์ตามฟ้อง   ขอให้ยกฟ้อง

 
ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว   พิพากษายกฟ้อง
 
 
 
โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
 
 
 

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว    ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า  โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด   นายปรีชา  ชัยบุญเขตร  เป็นลูกจ้างของโจทก์ เริ่มทำงานตั้งแต่วันที่  17  กรกฎาคม   2545   -  วันที่  1   มีนาคม   2551   มีหน้าที่รับส่งสินค้าและเก็บเงินทางการค้าให้โจทก์  และเป็นผู้ประกันตนที่มีสิทธิตามกฎหมายเมื่อวันที่  9  มกราคม  2551  เวลาประมาณ  13  น.  ระหว่างที่นายปรีชาขับรถจักรยานยนต์ออกไปส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าตามคำสั่งของโจทก์  รถจักรยานยนต์ที่นายปรีชาขับได้เสียหลักชนต้นไม้ข้างทาง รถจักรยานยนต์พลิกคว่ำ นายปรีชาได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะและถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียลโชคชัย  4  นายปรีชามีอาการเลือดคั่งนอกและในเยื่อหุ้มสมองและสมองซ้ำ  และสมองยื่นกดทับก้านสมอง   แพทย์รักษาโดยการผ่ากะโหลกและตัดกะโหลกด้านขวาออกเพื่อเอาก้อนเลือดที่คั่งในสมองออก  ทำการผ่าตัดเสร็จสิ้นในวันเดียวกัน    ต่อมามีการผ่าตัดซ้ำอีกครั้งในวันที่   10   มกราคม 2551  โดยการตัดสมองกลีบขมับด้านขวาที่บวมซ้ำอย่างมากออก    ภายหลังจากผ่าตัดแพทย์ได้นำนายปรีชาเข้ารักษาในห้องไอ.ซี.ยู.    และพักรักษาตัวอยู่ตลอดมาจนถึงวันที่   25   มกราคม   2551 แพทย์ได้นำตัวนายปรีชาออกจากห้องไอ.ซี.ยู.  เพื่อนำไปรักษาในห้องพักผู้ป่วยธรรมดา    เนื่องจากนายปรีชาพ้นขีดอันตรายแล้ว  ต่อมาวันที่  2  กุมภาพันธ์  2551 นายปรีชาได้ย้ายออกจากโรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียลโชคชัย  4  ไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลอื่น   ในระหว่างการรักษาโจทก์ในฐานะนายจ้างได้ทดรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลแทนนายปรีชาให้แก่โรงพยาบาลไปเป็นเงิน  260,604 บาท  โจทก์จึงยื่นเรื่องขอใช้สิทธิรับเงินที่ทดรองจ่ายไปตามจำนวนดังกล่าวคืนจากจำเลย แต่สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ 1 มีคำสั่งโดยวินิจฉัยตามมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการการแพทย์ครั้งที่  9/2551  ลงวันที่  3   เมษายน   2551   อนุมัติให้โจทก์เบิกค่ารักษาพยาบาลได้เพียง 85,000  บาท  โจทก์ไม่เห็นพ้องด้วยจึงอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนเมื่อวันที่   21 พฤษภาคม  2551   ต่อมาคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนมีมติยืนตามคำสั่งของสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่   1   ที่วินิจฉัยตามมติของคณะอนุกรรมการการแพทย์ครั้งที่  9/2551   ว่าการประสบอันตรายของนายปรีชานั้นโจทก์มีสิทธิได้รับค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นแต่ไม่เกิน   85,000   บาท 

 

มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์เพียงประการเดียวว่า มีเหตุเพิกถอนคำสั่งของสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่  1  ที่วินิจฉัยตามมติของคณะอนุกรรมการการแพทย์ครั้งที่ 9/2551   และคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนที่   335/2551   หรือไม่   โจทก์อุทธรณ์ว่าการรักษาอาการของนายปรีชา ชัยบุญเขตร ลูกจ้างบาดเจ็บเข้าเงื่อนไขตามกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่ารักษาพยาบาลที่ให้นายจ้างจ่ายตามพระราชบัญญัติเงินทดแทน   พ.ศ.  2537 พ.ศ.  2548   ข้อ   3  (1)   คือการรักษาอาการบาดเจ็บของสมองซึ่งเป็นอวัยวะภายในที่สำคัญและต้องได้รับการผ่าตัด   และข้อ 3  (3)   มีการบาดเจ็บรุนแรงของศีรษะและต้องได้รับการผ่าตัดกะโหลกศีรษะ ดังนั้นจึงเป็นการรักษาตามเงื่อนไขของกฎกระทรวงฯ ข้อ 3 ตั้งแต่สองรายการขึ้นไปแล้ว ทั้งกระบวนการผ่าตัดสมองดังกล่าวเป็นการผ่าตัดใหญ่ซึ่งทางการแพทย์ถือว่ามีวิธีการและปฏิบัติการถึง 2  ครั้ง   การประสบอันตรายของนายปรีชาจึงเข้าเงื่อนไขตามกฎกระทรวงฯ  ข้อ  4 (1)  โจทก์จึงมีสิทธิได้รับค่ารักษาพยาบาลไม่เกิน  200,000  บาท   เห็นว่า   พระราชบัญญัติเงินทดแทน  พ.ศ.  2537 มาตรา  13  วรรคหนึ่ง  บัญญัติว่า  เมื่อลูกจ้างประสบอันตรายหรือบาดเจ็บ  ให้นายจ้างจัดให้ลูกจ้างได้รับการรักษาพยาบาลทันทีตามความเหมาะสมแก่อันอันตรายหรือความเจ็บป่วยนั้นและให้นายจ้างจ่ายค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นแต่ไม่เกินอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งตามกฎกระทรวงกำหนดอัตราค่ารักษาพยาบาลที่ให้นายจ้างจ่ายตามพระราชบัญญัติเงินทดแทน  พ.ศ.  2537   พ.ศ.  2548  ข้อ  2  กำหนดว่า    เมื่อลูกจ้างประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย   ให้นายจ้างจ่ายค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็น   แต่ไม่เกิน  35,000  บาท  ข้อ  3   กำหนดว่าในกรณีที่ค่ารักษาพยาบาลที่จ่ายตามข้อ   2  ไม่เพียงพอ  ให้นายจ้างจ่ายค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นเพิ่มอีกไม่เกิน   50,000   บาท   สำหรับการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยของลูกจ้างที่มีลักษณะดังต่อไปนี้  (1)  บาดเจ็บอย่างรุนแรงของอวัยวะภายในหลายส่วนและต้องได้รับการผ่าตัดแก้ไข   ฯลฯ  (3)  บาดเจ็บอย่างรุนแรงของศีรษะและต้องได้รับการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะ   และข้อ   4   กำหนดว่า   ในกรณีที่ค่ารักษาพยาบาลที่จ่ายตามข้อ   3 ไม่เพียงพอ   ให้นายจ้างจ่ายค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นเพิ่มขึ้นอีก ทั้งนี้เมื่อรวมค่ารักษาพยาบาลตามข้อ  2  และข้อ  3  แล้ว   ต้องไม่เกิน  200,000  บาท   สำหรับการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยของลูกจ้างที่มีลักษณะดังต่อไปนี้  1  ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยตามข้อ   3 (1) – (6) ตั้งแต่สองรายการขึ้นไป   ฯลฯ   ดังนั้นแม้อาการสมองบวมของนายปรีชาจะถือว่าเป็นการบาดเจ็บอย่างรุนแรงของอวัยวะภายในและต้องได้รับการผ่าตัดแก้ไขตามกฎกระทรวงฯ   ข้อ 3 (1)   และเป็นการบาดเจ็บอย่างรุนแรงของศีรษะและต้องได้รับการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะตามกฎกระทรวงฯ ข้อ  3 (3)   ก็ตาม   ก็เป็นบาดเจ็บของอวัยวะภายในส่วนเดียวหรือรายการเดียวกัน   และแม้จะต้องทำการผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะถึงสองครั้งซึ่งเป็นการผ่าตัดใหญ่ทั้งสองครั้งเพื่อเป็นการรักษาสมองอันเป็นอวัยวะส่วนสำคัญของชีวิตก็ตามก็เป็นบาดแผลรายการเดียวกัน  ไม่ถือว่าการประสบอันตรายของนายปรีชาดังกล่าวเป็นการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยตามข้อ  3  (1)  –  (6 )  ตั้งแต่สองรายการขึ้นไปตามกฎกระทรวงฯ  ข้อ  4  (1)   แต่อย่างใด   คำสั่งของสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่  1  ที่วินิจฉัยตามมติของคณะอนุกรรมการการแพทย์ครั้งที่   9/2551   และคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนที่  335/2551 ที่อนุมัติให้โจทก์เบิกค่ารักษาพยาบาลได้เพียง  85,000  บาท   ตามกฎกระทรวงฯ  ข้อ  3  จึงชอบแล้ว   ไม่มีเหตุที่จะเพิกถอนคำสั่งและคำวินิจฉัยดังกล่าวที่ศาลแรงงานกลางพิพากษามานั้น   ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย   อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น

 
พิพากษายืน.
 
เรียบเรียงโดย บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด



อัพเดท ฎีกาน่าสนใจ

ขึ้นทะเบียนรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเกิน ๓๐ วัน ยังมีสิทธิได้รับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานได้ article
ลักษณะความผิดเดียวกัน แต่ระดับความร้ายแรงแตกต่างกัน นายจ้างพิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ผู้จัดการสาขา เสนอรายชื่อลูกค้าที่ขาดคุณสมบัติทำประกันชีวิต ถือว่าจงใจทำให้นายจ้างเสียหาย / ผิดร้ายแรง article
หยุดกิจการชั่วคราวตาม มาตรา ๗๕ article
สัญญาจ้างเป็นสัญญาต่างตอบแทน นายจ้างออกค่าใช้จ่ายในการเข้าทดสอบเพื่อรับเกียรติบัตร เมื่อทดสอบผ่านต้องทำงานกับนายจ้าง ๕ ปี บังคับใช้ได้ article
ศาลแรงงานกลางมีอำนาจสั่งรับพยานเอกสารได้ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม article
ประกอบธุรกิจแข่งขัน / ไปทำงานกับนายจ้างอื่น ในลักษณะผิดต่อสัญญาจ้าง เมื่อลูกจ้างได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้างตามสัญญาแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะบังคับ / ห้ามทำงานตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างอีกต่อไป article
คดีแรงงานเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้คดีอาญายกฟ้อง แต่พฤติกรรมการกระทำผิด เป็นเหตุให้นายจ้างไม่อาจไว้วางใจในการทำงานได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
เลิกจ้างเนื่องจากปรับโครงสร้างองค์กร แต่กำหนดรายชื่อไว้ล่วงหน้า ถือเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม article
การหักลบกลบหนี้ หนี้อันเกิดจากสัญญาจ้าง กรณีลูกจ้างกระทำผิดกับสิทธิประโยชน์ที่มีสิทธิได้รับตามสัญญาจ้าง ถือเป็นมูลหนี้อันเป็นวัตถุอย่างเดียวกันหักลบกลบหนี้กันได้ article
เล่นการพนันฉลากกินรวบ เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน กรณีร้ายแรง article
กรณีไม่ถือเป็นการประกอบธุรกิจแข่งขันหรือไม่ถือว่าทำงานกับนายจ้างใหม่ในลักษณะธุรกิจเดียวกับนายจ้าง article
สัญญาฝึกอบรม นายจ้างกำหนดเบี้ยปรับได้ เป็นสัญญาที่เป็นธรรม article
ค้ำประกันการทำงาน หลักประกันการทำงาน การหักลบกลบหนี้ค่าเสียหายจากการทำงาน article
ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์แต่ตนเอง เรียกรับเงินจากลูกค้า ถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ article
ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา มาทำงานสายประจำ ถือว่า กระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สหภาพแรงงานทำบันทักข้อตกลงเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างกับนายจ้าง อันส่งผลกระทบต่อสิทธิหน้าที่ของสมาชิก ขัดกับข้อตกลงเดิมและมิได้ขอมติที่ประชุมใหญ่ ข้อตกลงดังกล่าวไม่อาจใช้บังคับได้ article
ขอเกษียณอายุก่อนกำหนดตามประกาศ ถือเป็นการสมัครใจเลิกสัญญาจ้างแรงงานต่อกัน มิใช่การเลิกจ้างหรือการเกษียณอายุ จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยตามระเบียบกรณีเกษียณอายุ article
สถาบันวิจัยอันเป็นส่วนหนึ่งของกิจการมหาวิทยาลัยถือเป็นหน่วยงานของรัฐ ได้รับยกเว้น ไม่อยู่ภายใต้บังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา ๔ (๑) article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า จากการเลิกจ้างมีอายุความฟ้องร้องได้ภายใน ๑๐ ปี article
ทะเลาะวิวาทเรื่องส่วนตัวไม่ส่งผลกระทบต่อการบังคับบัญชา ไม่เป็นความผิด กรณีร้ายแรง ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ article
พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน มิใช่ทายาทผู้มีสิทธิรับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ และเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ตามพระราชบัญญัติ ประกันสังคม มาตรา ๗๓ และมาตรา ๗๗ article
ขับรถเร็วเกินกว่าข้อบังคับกำหนด เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนคำสั่งโยกย้าย เลิกจ้างได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ประกาศใช้ระเบียบใหม่ ไม่ปรากฏว่ามีพนักงานโต้แย้งคัดค้าน ถือว่าทุกคนยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ article
เงินค่าตอบแทนพิเศษกับเงินโบนัส มีเงื่อนไขต่างกัน หลักเกณฑ์การจ่ายต่างกัน จึงต้องพิจารณาต่างกัน article
ทายาทผู้มีสิทธิได้รับเงินกองทุนเงินทดแทน article
ค่ารถแทนรถยนต์ประจำตำแหน่ง ไม่ถือเป็นค่าจ้าง และ ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสมให้ถือตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานที่กำหนดไว้ article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างไม่ตกลง ขอเวลาตัดสินใจและหยุดงานไป นายจ้างแจ้งให้กลับเข้าทำงานตามปกติ ถือว่านายจ้างยังไม่มีเจตนาเลิกจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ แอบนอนหลับในเวลาทำงาน ถือเป็นเหตุในการเลิกจ้างได้ เลิกจ้างเป็นธรรม article
ลาออกโดยไม่สุจริต ไม่มีผลใช้บังคับ article
ทำความผิดคล้ายคลึงกันแต่ไม่เหมือนกัน พิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ประกอบธุรกิจ บริการ ด่าลูกค้าด้วยถ้อยคำหยาบคาย " ควาย " ถือเป็นการกระทำความผิดกรณีร้ายแรง article
ข้อบังคับ ระบุให้ผู้บังคับบัญชาเหนือกว่ามีอำนาจแก้ไข เพิ่มโทษ หรือลดโทษได้ การยกเลิกคำสั่งลงโทษเดิมและให้ลงโทษใหม่หนักกว่าเดิมจึงสามารถทำได้ article
เลือกปฏิบัติในการลงโทษระเบียบการห้ามใส่ตุ้มหูมาทำงาน บังคับใช้ได้ แต่เลือกปฏิบัติในการลงโทษไม่ได้ article
ลงโทษพักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างและเตือนในคราวเดียวกันได้ ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน article
จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย article
ข้อตกลงรับเงินและยินยอมปลดหนี้ให้แก่กัน ถือเป็นการตกลงระงับข้อพิพาทแม้จะทำขึ้นก่อนคำสั่งเลิกจ้างมีผลใช้บังคับ article
ศาลแรงงานมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานที่คู่ความอ้างส่งศาลได้ แม้มิได้ระบุบัญชีพยานไว้ก็ตาม article
สัญญาจ้างห้ามลูกจ้างไปทำงานกับนายจ้างใหม่ที่ประกอบธุรกิจเช่นเดียวกันมีกำหนดเวลา บังคับใช้ได้ article
เลิกจ้างและรับเงินค่าชดเชย ใบรับเงิน ระบุขอสละสิทธิ์เรียกร้องเงินอื่นใดใช้บังคับได้ ลูกจ้างไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องสินจ้างและค่าเสียหายได้อีก article
เกษียณอายุ 60 ปี ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยนับแต่วันครบกำหนดเกษียณอายุ แม้นายจ้างไม่ได้บอกเลิกจ้างก็ตาม article
ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องและเพิกเฉยไม่ดูแลผลประโยชน์ของนายจ้าง เป็นเหตุให้นายจ้างไม่ไว้วางใจในการทำงานได้เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ละเลยต่อหน้าที่ ไม่รายงานเคพีไอ นายจ้างตักเตือนแล้ว ถือว่าผิดซ้ำคำเตือน เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ทำสัญญาจ้างต่างด้าวทำงานในอาชีพต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว สัญญาจ้างถือเป็นโมฆะ article
ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง article
ศาลมีคำสั่งให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษาตามหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน ในขณะที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ยุติ ต้องสืบพยานใหม่และพิพากษาใหม่ไปตามรูปคดี article
แม้สัญญาจ้างไม่ได้ระบุระยะเวลาทดลองงานไว้ แต่นายจ้างก็สามารถประเมินผลการทำงานของลูกจ้างได้ article
การควบรวมกิจการ สิทธิและหน้าที่โอนไปเป็นของบริษัทใหม่ การจ่ายเงินสมทบบริษัทใหม่ที่ควบรวมจึงมีสิทธิจ่ายเงินสมทบในอัตราเดิมตามสิทธิ มิใช่ในอัตราบริษัทตั้งใหม่ article
เลิกจ้างรับเงินค่าชดเชยแล้วตกลงสละสิทธิ์จะไม่เรียกร้องผละประโยชน์ใดๆ ถือว่าสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเป็นอันระงับไป article
รับเหมาก่อสร้าง ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบ จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมแทนผู้รับเหมาช่วง หากผู้รับเหมาช่วงไม่นำส่งเงินสมทบตามกฎหมายโดยคำนวณจากอัตราค่าจ้างที่ระบุตามแบบ ( ภ.ง.ด. 50 ) และบัญชีงบดุล article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานระบุห้ามทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกาย ผู้บังคับบัญชา เพื่อนพนักงาน ทั้งในสถานที่ทำงาน หรือสถานที่อื่นๆ ฝ่าฝืนถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง ใช้บังคับได้ไม่ขัดต่อกฎหมาย article
ไส้ติ่งอักเสบ แพทย์วินิจฉัยให้ผ่าตัด ถือเป็นกรณีฉุกเฉิน เบิกค่ารักษาได้ มีสิทธิรับเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ได้ article
ค่าเช่าที่พัก ค่าใช้จ่ายเดินทางเป็นสวัสดิการไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่ารถยนต์ซึ่งกำหนดเป็นสวัสดิการไว้ชัดเจนแยกจากฐานเงินเดือนปกติ ถือเป็นสวัสดิการไม่ใช่ค่าจ้าง article
ละเมิดข้อตกลงสภาพการจ้าง ละเมิดสัญญาจ้าง มีอายุความ 10 ปี มิใช่ 1 ปี article
พฤติกรรมการจ้างที่ถือว่าเป็นการจ้างแรงงาน ถือเป็นลูกจ้าง / นายจ้างตามกฎหมาย article
พนักงานขายรถยนต์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ประจำบูธ ตามที่ได้รับมอบหมาย ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
เลือกตั้งคณะกรรมการสหภาพฯ ขัดต่อข้อบังคับสหภาพหรือขัดต่อกฎหมาย ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบ article
ฝ่าฝืนสัญญาจ้าง กรณีห้ามทำการแข่งขันกับนายจ้างหรือทำธุรกิจคล้ายคลึงกับนายจ้างเป็นเวลา 2 ปี นับจากสิ้นสุดสัญญาต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้าง article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระบุให้นายจ้างเลิกจ้างเพราะเหตุคนล้นงาน ปรับลด ขนาดองค์กรได้ ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะเลิกจ้างลูกจ้างได้ article
ข้อบังคับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรณีตัดสิทธิ์รับเงินสมทบพร้อมผลประโยชน์หากกระทำผิดถูกปลดออกจากงานบังคับใช้ได้ article
ทะเลาะวิวาทกัน นอกเวลางาน นอกบริเวณบริษัทฯ ไม่ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนไม่ไปตรวจสารเสพติดซ้ำตามคำสั่งและนโยบาย ถือว่าฝ่าฝืน ข้อบังคับ หรือ ระเบียบ กรณีร้ายแรง article
วันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วน article
เป็นลูกจ้างที่มีอำนาจกระทำการแทนนายจ้างในการจ้างงาน ไม่มีสิทธิได้รับค่าทำงานในวันหยุด และลักทรัพย์เอาต้นไม้ของนายจ้างไป ถือว่ากระทำผิดอาญาแก่นายจ้าง เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ผลการทำงานดีมาโดยตลอดและไม่เคยกระทำผิดมาก่อน แต่ปีสุดท้ายผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ถือเป็นเหตุที่จะอ้างในการเลิกจ้าง article
ผู้บริหารบริษัท ฯ ถือเป็นลูกจ้างหรือไม่ ดูจาก_________ ? article
ขับรถออกนอกเส้นทาง แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรงและก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้าง นายจ้างหักเงินประกันการทำงานได้ article
ค่าจ้างระหว่างพักงาน เมื่อข้อเท็จจริง ลูกจ้างกระทำความผิดจริง จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างระหว่างพักงาน article
“ นายจ้าง ” ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 article
สัญญารักษาความลับ ข้อมูลทางการค้า (ห้ามประกอบหรือรับปฏิบัติงานแข่งขันนายจ้าง) มีกำหนด 2 ปี บังคับใช้ได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย และการกำหนดค่าเสียหาย ถือเป็นเบี้ยปรับตามกฎหมาย ศาลปรับลดได้ตามสมควร article
เงินรางวัลการขายประจำเดือน จ่ายตามเป้าหมายการขาย ที่กำหนดไว้ ไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่าโทรศัพท์ เหมาจ่าย ถือเป็นค่าจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ 3 วันทำการ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เลิกจ้างเป็นธรรมไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ลาออกมีผลใช้บังคับแล้ว ออกหนังสือเลิกจ้างภายหลังใช้บังคับไม่ได้ article
ตกลงรับเงิน ไม่ติดใจฟ้องร้องอีกถือเป็นการตกลงประนีประนอมกันบังคับได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย
เลิกจ้างระหว่างทดลองงาน ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ข้อตกลงว่า “หากเกิดข้อพิพาทตามสัญญาจ้างแรงงาน ให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย” ไม่เกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมายแรงงาน เมื่อเกิดสิทธิตามกฎหมาย ฟ้องศาลแรงงานได้ โดยไม่ต้องให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย article
เลิกจ้างด้วยเหตุอื่น อันมิใช่ความผิดเดิมที่เคยตักเตือน ไม่ใช่เหตุที่จะไม่จ่ายค่าชดเชย เลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย article
นำรถยนต์ไปใช้ในกิจธุระส่วนตัว มีพฤติกรรมคดโกง ไม่ซื่อตรง พฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต ไม่น่าไว้วางใจ ลงโทษปลดออกจากการทำงานได้ article
การกระทำที่กระทบต่อเกียรติ ชื่อเสียงของนายจ้าง และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้กระทำนอกสถานที่ทำงานและนอกเวลางาน ก็ถือว่า ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกรณีร้ายแรง article
สัญญาค้ำประกันการทำงานไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ต้องรับผิดชอบตลอดไป article
ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเลิกจ้างได้ ถือว่าเลิกจ้างเป็นธรรมและความผิดที่ลงโทษแล้วจะนำมาลงโทษอีกไม่ได้ article
ผิดสัญญาจ้างไปทำงานกับคู่แข่ง นายจ้างฟ้องเรียกค่าเสียหายตามสัญญาได้ แต่ค่าเสียหาย เป็นดุลพินิจของศาลจะกำหนด article
จงใจกระทำผิดโดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้นายจ้างเสียหาย ถือว่า กระทำละเมิดต่อนายจ้าง ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น article
ตกลงสละสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย ภายหลังเลิกจ้าง ใช้บังคับได้ ไม่เป็นโมฆะ article
ก้าวร้าวไม่ให้ความเคารพผู้บังคับบัญชา ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้ามิใช่ค่าจ้าง คิดดอกเบี้ยในอัตรา 7. 5 ต่อปี article
ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของนายจ้างในเรื่องส่วนตัวเป็นประจำ ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่กาปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต เลิกจ้างเป็นธรรม article
สั่งให้พนักงานขับรถ ขับรถออกนอกเส้นทางแต่ไม่ได้มีส่วนในการขับรถ ถือว่าผิดต่อสัญญาจ้าง แต่ไม่ต้องรับผิดอันมีผลโดยตรงจากมูลละเมิด ( ขับรถโดยประมาท ) article
จ่ายของสมนาคุณให้ลูกค้า โดยไม่ตรวจสอบบิลให้ถูกต้อง มิใช่ความผิดกรณีร้ายแรงไม่ใช่การทุจริตต่อหน้าที่ แต่ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เสร็จลุล่วงไปโดยถูกต้อง และสุจริต เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ฟ้องประเด็นละเมิด กระทำผิดสัญญาจ้าง ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง มีอายุความ 10 ปี article
ตกลงยินยอมให้หักค่าจ้างชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันเงินกู้ นายจ้างสามารถหักค่าจ้างได้ตามหนังสือยินยอมโดยไม่ต้องฟ้อง article
กระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้างและประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง article
“ งานโครงการตามมาตรา 118 วรรค 4 ” บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ว่าจ้างลูกจ้างทำงานตามโครงการที่รับเหมา ถือว่าจ้างงานในปกติธุรกิจของนายจ้าง มิใช่งานโครงการ article
เงินโบนัสต้องมีสภาพการเป็นพนักงานจนถึงวันกำหนดจ่าย ออกก่อนไม่มีสิทธิได้รับ article
ระเบียบกำหนดจ่ายเงินพิเศษ ( gratuity ) เนื่องจากเกษียณอายุ โดยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายแตกต่างจากการจ่ายค่าเชย ถือว่านายจ้างยังไม่ได้จ่ายค่าชดเยตามกฎหมาย article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างขอค่าชดเชย นายจ้างไม่คุยด้วย แต่ยังไม่ได้บอกเลิกจ้างและยังไม่ปรากฎว่านายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างและไม่ให้เข้าทำงานต่อ ยังไม่ถือว่าเป็นการเลิกจ้าง ( อย่าเข้าใจไปเอง ) ไม่มีสิทธิได้ค่าชดเชย article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด

เลขที่ 511/4 ถนนประชาอุทิศ 117/1 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร (10140)

โทร/Tel : 02 - 8159522, แฟกซ์/Fax : 02 - 8159523, มือถือ/Mobile : 081 - 7936156

อีเมล/E-mail : sawai.prm@gmail.com, เว็บไซต์/Web : www.parameelaw.com