พัฒนาคน พัฒนาชาติ: รปภ.ทำงานต่อพร้อมปรับวุฒิ
อาทิตย์ที่ผ่านมา กระทรวงแรงงาน เป็นเจ้าภาพหลักการประชุม หารือแนวทางการจัดการศึกษาให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ได้รับผลกระทบจากพระราชบัญญัติธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ.2558 โดยมีผู้แทนจากสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.)กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานกฤษฎีกา กรมการจัดหางาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานและสมาคมผู้ประกอบการรักษาความปลอดภัย ร่วมประชุม
ตามที่ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้รับมอบหมายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ซึ่งไม่จบ ม.3 ภายใต้ พ.ร.บ.ธุรกิจรักษาความปลอดภัยฯ นี้ และมีผลบังคับใช้แล้วนั้น ซึ่งที่ประชุมได้หารือในประเด็นดังกล่าว และยืนยันว่า ตาม พ.ร.บ.ธุรกิจรักษาความปลอดภัย พ.ศ.2558 ที่ออกมา รปภ. ที่ทำงานอยู่แล้วในส่วนของผู้ที่ไม่สำเร็จการศึกษา ม.3 ประมาณ 2.7 แสนคนจะไม่มีผลกระทบต่อการทำงานและสามารถทำงานต่อไปได้ โดยเฉพาะประเด็นวุฒการศึกษาที่ต้องมีคุณสมบัติการสำเร็จการศึกษาภาคบังคับตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาภาคบังคับ (วุฒิ ม.3)
สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) มี แนวทางไว้ 2 ทางเลือก ได้แก่ (1) การเทียบระดับชั้น (เทียบโอน) ในหลักสูตรเร่งรัด 6 เดือน โดยต้องผ่านการประเมินประสบการณ์ การประเมินความรู้ความคิด การสอบข้อเขียน และการสัมมนาวิชาการ โดยมีค่าใช้จ่าย จำนวน 3,000 บาท (2) การเรียนเพิ่มวุฒิใช้ระยะเวลา 2 ปี และไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด ทั้งนี้ กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะได้ร่วมสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ในระบบได้เข้ารับการศึกษานอกโรงเรียนจาก กศน.โดยเร็ว ซึ่งนายจ้างยินดีให้การสนับสนุน โดยไม่มีค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
ในส่วนของกระทรวงแรงงานจะมีการวางโรดแม็พการดำเนินงานให้เสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้เพื่อให้เป็นไปตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน การหารือครั้งนี้กระทรวงแรงงานจะรวบรวมข้อมูลเพื่อสรุปให้เป็นกรอบ มีแผนในการดำเนินการที่ชัดเจน และเป็นความร่วมมืออย่างดียิ่งทั้งผู้ประกอบการ นายจ้าง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มาร่วมมือกันหาทางออกในการแก้ไขปัญหาร่วมกันตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ให้ความสำคัญกับวิชาชีพเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.)
สำหรับสถานที่การฝึกอบรม ในระยะเริ่มแรกหากสถานที่ฝึกอบรมไม่เพียงพอ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะอำนวยการฝึกอบรมนั้น ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แจ้งว่า ขณะนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้เตรียมสถานที่ฝึกอบรมหลักสูตรรักษาความปลอดภัย ทั้งหมด 20 แห่ง ได้แก่ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ กองบังคับการฝึกอบรมตำรวจกลางที่ศาลายา ศูนย์ฝึกอบรมภาค 1-8 ศูนย์ฝึกอบรม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และในส่วนของตำรวจตระเวนชายแดนกองกำกับ 1-9 ของกองกำกับการพิเศษจำนวน 9 แห่ง รวมเป็น 20 แห่ง
อย่างไรก็ตาม ตัวแทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ชี้แจงถึงค่าใช้จ่ายของการดำเนินการขึ้นทะเบียนเป็นบริษัทรักษาความปลอดภัยและเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ที่ไม่ชัดเจนเป็นการเพิ่มต้นทุนในการประกอบธุรกิจที่มากขึ้น เนื่องจากต้องต่ออายุใบอนุญาตทุก 4 ปี จำนวนครั้งละ 50,000 บาทนั้น ข้อเท็จจริงคือ บริษัทที่มีพนักงานไม่เกิน 100 คน ค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 5,000 บาทต่อ 4 ปี, บริษัทที่มีพนักงาน 100 คนแต่ไม่เกิน 500 คน ค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 10,000 บาทต่อ 4 ปี, บริษัทที่มีพนักงาน 500 คนแต่ไม่เกิน 1,000 คน ค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 20,000 บาทต่อ 4 ปี และบริษัทที่มีพนักงาน 1,000 คนขึ้นไป ค่าธรรมเนียมจะอยู่ที่ 30,000 บาทต่อ 4 ปี ส่วนตัวพนักงานรักษาความปลอดภัย (รปภ.) ค่าธรรมเนียมในการยื่นขออนุญาตอยู่ที่ 300 บาท/คน/3 ปี เฉลี่ยปีละ 100 บาท สบายใจได้ครับพี่น้อง รปภ.