ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ชมรมบริหารงานบุคคล
dot
bulletสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย
bulletชมรมบริหารงานบุคคล
bulletชมรมบริหารงานบุคคล อยุธยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลรังสิต
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคล อมตะนคร
bulletสมาคมการบริหารงานบุคคล (PAAs)
bulletชมรมบริหารงานบุคคลบางพลี
bulletชมรมนักบริหารงานบุคคลพัทยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลยุคใหม่
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคลจังหวัดราชบุรี
bulletงานบริหารงานบุคคล
bulletชมรมงานบริหารงานบุคคลกรุงเทพฯ
bulletชมรมบริหารงานบุคลสุขสวัสดิ์
dot
ติดต่อราชการศาล
dot
bulletศาลแรงงานกลาง
bulletศาลแรงงานภาค ๒
bulletศาลยุติธรรม
bulletศาลปกครอง
bulletศาลรัฐธรมนูญ
bulletสำนักงานอัยการสูงสุด
bulletกระทรวงยุติธรรม
bulletคณะกรรมการกฤษฎีกา
bulletกรมบังคับคดี
bulletสภาทนายความ
dot
หน่วยงานราชการสำคัญ
dot
bulletกระทรวงแรงงาน
bulletกรมการจัดหางาน
bulletกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
bulletกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
bulletสำนักงานประกันสังคม
bulletกรมสรรพากร
bulletกรมบัญชีกลาง
bulletกรมพัฒนาธุรกิจกาค้า
bulletกระทรวงอุตสาหกรรม
bulletกรมโรงงานอุตสาหกรรม
bulletกรมส่งเสริมอุตสาหรม
bulletการนิคมอุตสาหกรรม
dot
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน
dot
bulletสมบัติลีกัล
bulletเอกเซลสำหรับงาน HR โดย อ.สำเริง
bulletบทความดี ๆ จากโกป้อม
dot
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
dot
dot
Newsletter

dot


พยากรณ์อากาศวันนี้
..................................


ราคาน้ำมันวันนี้
..................................



ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเลิกจ้างได้ ถือว่าเลิกจ้างเป็นธรรมและความผิดที่ลงโทษแล้วจะนำมาลงโทษอีกไม่ได้ article

คำพิพากษาฎีกาที่    600/57

ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเลิกจ้างได้    ถือว่าเลิกจ้างเป็นธรรมและความผิดที่ลงโทษแล้วจะนำมาลงโทษอีกไม่ได้

โจทก์ฟ้องว่า   จำเลยที่   1   มีฐานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย  จำเลยที่   2   เป็นอธิการบดี   มีอำนาจกระทำการแทนจำเลยที่   1   เมื่อวันที่   20  มิถุนายน   2533    จำเลยจ้างโจทก์เข้าทำงานเป็นลูกจ้างตำแหน่งอาจารย์ประจำคณะมนุษยศาสตร์ ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นคณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์     ได้รับค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ   19,480   บาท    (เป็นค่าจ้าง   17,980  บาท  ค่าที่ปรึกษาชมรม   1,500   บาท) กำหนดจ่ายค่าจ้างทุกสิ้นเดือน   ต่อมาวันที่   15   พฤศจิกายน  2546  จำเลยบอกเลิกจ้างโจทก์เป็นหนังสือ   อ้างว่าประพฤติตนไม่เป็นไปตามระเบียบวินัยตามข้อบังคับของจำเลยว่าด้วยการบริหารงานบุคคล  พ.ศ.   2541   โดยโจทก์ไม่ได้กระทำความผิดและมิได้บอกกล่าวล่วงหน้า  จำเลยจึงต้องจ่ายค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นเงิน   29,220   บาท    แต่จำเลยให้โจทก์เพียง 17,980  บาท   ยังขาดอยู่อีก  11,240  บาท  โจทก์ทำงานติดต่อกันครบ    10    ปี    จำเลยต้องจ่ายค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย   300   วัน   เป็นเงิน   194,800   บาท     แต่จำเลยจ่ายให้แก่โจทก์เพียง  179,800  บาท  ยังขาดอยู่อีก  15,000  บาท  โจทก์ยังมีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จตามข้อบังคับของจำเลยว่าด้วยการบริหารงานบุคคล    พ.ศ.  2541   โดยคำนวณจากเงินเดือนสุดท้ายคูณด้วยจำนวนปี     เศษของปีให้คำนวณตามส่วน   โจทก์ทำงานมา   13   ปี   4 ดือน 25   วัน    จึงมีสิทธิรับเงินบำเหน็จ   261,067.57   บาท     แต่จำเลยจะจ่ายให้เพียง   61,164.83  บาท     ยังขาดอยู่อีก   199,902.74   บาท   โจทก์จึงยังไม่รับ  และการเลิกจ้างโจทก์เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม    ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายเป็นเงิน   2,426,400   บาท   โจทก์ทวงถามแล้วจำเลยไม่ชำระ   ขอให้บังคับจำเลยชำระค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า   11,240   บาท เงินบำเหน็จ  199,902.74    บาท    พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ   7.5   ต่อปี    นับตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์     ค่าชดเชย  15,000   บาท   พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ   15   ต่อปี   นับตั้งแต่วันเลิกจ้าง  (วันที่ 15 พฤศจิกายน  2546)  จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์  ค่าเสียหายกรณีเลิกจ้างไม่เป็นธรรม  2,426,400  บาท  พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ   7.5   ต่อปี นับตั้งแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

 
 

จำเลยทั้งสองให้การว่า   โจทก์ได้รับค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ   17,980   บาท   ส่วนค่าที่ปรึกษาชมรมรักบี้จำนวน   1,500   บาท   จำเลยที่   1 จ่ายให้เพื่อเป็นสวัสดิการและเป็นขวัญกำลังใจไม่ใช่ค่าจ้าง     สาเหตุที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์เมื่อวันที่ 15  พฤศจิกายน   2546   สืบเนื่องมาจากเมื่อประมาณกลางเดือนมิถุนายน  2546   จำเลยที่   1  ได้รับคำร้องเรียนจากผู้ปกครองนักศึกษาว่าโจทก์เปิดสอนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์และเรียกเก็บเงินจากนักศึกษา  อันเป็นการขัดนโยบายของจำเลยที่   1  ต่อมาวันที่   26   มิถุนายน   2546  จำเลยที่   1 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงผลการสอบสวนคณะกรรมการมีความเห็นว่าเป็นที่น่าเชื่อได้ว่าโจทก์จัดเปิดสอนพิเศษวิชาคณิตศาสตร์และเรียกเก็บเงินจากนักศึกษาจริง    การกระทำดังกล่าวเป็นการขัดจรรยาบรรณของการเป็นอาจารย์และเป็นการผิดวินัย     จำเลยที่  1   จึงมีคำสั่งลงโทษโดยลดเงินเดือนโจทก์   1   ขั้น    และสั่งห้ามโจทก์มิให้สอนนักศึกษากับมอบหมายให้โจทก์เขียนเอกสารทางวิชาการเกี่ยวกับความรู้พื้นฐานด้านคณิตศาสตร์  โดยให้โจทก์ไปนั่งประจำที่ห้องทำงานของหมวดวิชาวิทยาศาสตร์เชิงปริมาณ     แต่โจทก์มิได้ปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว   ถือเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอันชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม     ละทิ้งหน้าที่การงาน ในวันที่   8   ตุลาคม   2546  จำเลยที่   1    แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาประสิทธิภาพในการทำงานและสภาพการเป็นพนักงานของโจทก์  ต่อมาวันที่  13    พฤศจิกายน   2546    จำเลยที่    1    มีมติโดยที่ประชุมคณะกรรมการบุคคลจำเลยที่   1   ให้เลิกจ้างโจทก์   โดยจำเลยที่   1   จ่ายเงินให้โจทก์เป็นค่าชดเชย   10   เดือน   เป็นเงิน  179,800   บาท    ค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า 17,980   บาท   เงินบำเหน็จ  61,164.83  บาท   เงินเดือนระหว่างวันที่   1 – 15   พฤศจิกายน 2546   เป็นเงิน   8,990   บาท   รวมเป็นเงินทั้งสิ้น  267,934.83   บาท    ส่วนค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า  โจทก์ไม่มีสิทธิได้รับเพราะโจทก์กระทำการอันไม่สมควรแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์    มาตรา    583    แต่จำเลยที่   1   จ่ายให้เท่ากับเงินเดือนโจทก์  1  เดือน    จึงถือว่าโจทก์ได้รับประโยชน์    จำเลยที่  2 ไม่ต้องรับผิดเป็นการส่วนตัวเพราะได้กระทำไปในฐานะตัวแทนจำเลยที่   1   และการเลิกจ้างโจทก์เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม     โจทก์ไม่เสียหายตามฟ้อง    ขอให้ยกฟ้อง

 
 

ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว   พิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า   11,239.85   บาท    และค่าเสียหายเนื่องจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม   253,240   บาท    พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ   7.5   ต่อปี   นับตั้งแต่วันที่   29  พฤศจิกายน  2546  เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์แต่ทั้งนี้จำเลยที่  2   ไม่ต้องรับผิดเป็นการส่วนตัว     คำขออื่นให้ยก

 
 
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
 
 

ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว    ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์เป็นลูกจ้างจำเลยที่   1   ตั้งแต่วันที่   20 มิถุนายน   2533    ตำแหน่งอาจารย์สอนวิชาคณิตศาสตร์    และเป็นที่ปรึกษาชมรมรักบี้ให้แก่จำเลยที่  1  หลังเวลาเลิกเรียน   โจทก์ได้รับค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ   17,980   บาท   และได้รับเงินค่าที่ปรึกษาชมรมรักบี้เดือนละ   1,500   บาท  กำหนดจ่ายค่าจ้างทุกวันสิ้นเดือน   เมื่อวันที่ 15   พฤศจิกายน   2546  จำเลยทั้งสองบอกกล่าวเลิกจ้างโจทก์โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่   16 พฤศจิกายน  2546  จำเลยที่  1   จ่ายค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า  17,980  บาท   แล้ววินิจฉัยว่า   โจทก์ไม่ไปนั่งประจำหมวดวิชาวิทยาศาสตร์เชิงปริมาณที่จัดไว้ให้     แต่กลับทิ้งหน้าที่ไปทำงานให้กับชมรมรักบี้ในเวลาทำงานปกติที่โจทก์เป็นที่ปรึกษาซึ่งต้องทำหน้าที่หลังเลิกงานแล้วและไม่ทำเอกสารทางวิชาการให้สำเร็จลุล่วงไปตามคำสั่งในเวลาอันสมควร  ถือได้ว่าโจทก์ได้กระทำผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งผู้บังคับบัญชา  การที่จำเลยทั้งสองนำเหตุที่โจทก์กระทำผิดวินัยกรณีเปิดสอนพิเศษแล้วเรียกเงินจากนักศึกษา ซึ่งโจทก์เคยถูกลงโทษลดขั้นเงินเดือนไปแล้วมาเป็นเหตุเลิกจ้างโจทก์   ทั้งที่คณะกรรมการของจำเลยทั้งสองเห็นว่าความผิดที่เกิดขึ้นใหม่เป็นความผิดที่ไม่ร้ายแรง จำเลยทั้งสองอาจลงโทษโจทก์ฐานอื่นได้แต่จำเลยทั้งสองเลือกที่จะลงโทษเลิกจ้างโจทก์    จึงเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม

 
 

คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองว่าจำเลยทั้งสองเลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรมหรือไม่    ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า   โจทก์เคยถูกสอบสวนทางวินัยโดยคณะกรรมการสอบสวนมีความเห็นว่าโจทก์เปิดสอนพิเศษให้แก่นักศึกษาและรับเงินค่าสอนจากนักศึกษา  เป็นการขัดจรรยาบรรณของการเป็นอาจารย์ ตามเอกสารหมาย ล.8 ต่อมาโจทก์กระทำผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งผู้บังคับบัญชาที่ไม่ไปนั่งประจำหมวดวิชาวิทยาศาสตร์เชิงปริมาณ แต่กลับทิ้งหน้าที่ไปทำงานให้แก่ชมรมรักบี้ในเวลาทำงานปกติซึ่งโจทก์ต้องทำหน้าที่ดังกล่าวหลังเลิกงานแล้ว และโจทก์ไม่จัดทำเอกสารทางวิชาการให้สำเร็จลุล่วงตามคำสั่งภายในเวลาอันควร   ความผิดฐานฝ่าฝืนคำสั่งผู้บังคับบัญชาดังกล่าวเป็นความผิดที่โจทก์กระทำขึ้นใหม่    จำเลยทั้งสองเลิกจ้างโจทก์โดยอ้างเหตุว่าแม้การกระทำผิดวินัยฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาของโจทก์จะไม่ใช่ความผิดร้ายแรง   แต่ได้พิจารณาการกระทำที่โจทก์เรียกเงินพิเศษจากนักศึกษาซึ่งถูกลงโทษไปแล้วจึงสมควรเลิกจ้างโจทก์    เห็นว่า    ความผิดของโจทก์ฐานเปิดสอนพิเศษให้แก่นักศึกษาและรับเงินค่าสอนจากนักศึกษานั้น    จำเลยทั้งสองลงโทษโจทก์ในความผิดดังกล่าวด้วยการลดขั้นเงินเดือน   1  ขั้น  จำเลยทั้งสองย่อมไม่อาจนำความผิดนั้นมาเป็นเหตุเลิกจ้างได้อีก    ส่วนความผิดวินัยฐานไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาของโจทก์ แม้ไม่ใช่ความผิดร้ายแรง แต่โจทก์เป็นถึงอาจารย์ในมหาวิทยาลัย   แต่กลับมีพฤติกรรมไม่ทำตามคำสั่งของจำเลยทั้งสองหลายประการ   กรณีจึงมีเหตุสมควรเพียงพอที่จำเลยทั้งสองจะเลิกจ้างโจทก์ได้การที่จำเลยทั้งสองเลิกจ้างโจทก์จึงเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม ทั้งการกระทำของโจทก์ดังกล่าวยังเป็นการกระทำอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตจำเลยทั้งสองจึงมีสิทธิเลิกจ้างโจทก์ได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  มาตรา 483  ส่วนอุทธรณ์ข้ออื่นของจำเลยทั้งสองไม่จำต้องวินิจฉัยเพราะไม่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลง

 
 

พิพากษาแก้เป็นว่า  ให้ยกฟ้องโจทก์เสียทั้งหมด.

 

 

เรียบเรียงโดย บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด




อัพเดท ฎีกาน่าสนใจ

ขึ้นทะเบียนรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเกิน ๓๐ วัน ยังมีสิทธิได้รับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานได้ article
ลักษณะความผิดเดียวกัน แต่ระดับความร้ายแรงแตกต่างกัน นายจ้างพิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ผู้จัดการสาขา เสนอรายชื่อลูกค้าที่ขาดคุณสมบัติทำประกันชีวิต ถือว่าจงใจทำให้นายจ้างเสียหาย / ผิดร้ายแรง article
หยุดกิจการชั่วคราวตาม มาตรา ๗๕ article
สัญญาจ้างเป็นสัญญาต่างตอบแทน นายจ้างออกค่าใช้จ่ายในการเข้าทดสอบเพื่อรับเกียรติบัตร เมื่อทดสอบผ่านต้องทำงานกับนายจ้าง ๕ ปี บังคับใช้ได้ article
ศาลแรงงานกลางมีอำนาจสั่งรับพยานเอกสารได้ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม article
ประกอบธุรกิจแข่งขัน / ไปทำงานกับนายจ้างอื่น ในลักษณะผิดต่อสัญญาจ้าง เมื่อลูกจ้างได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้างตามสัญญาแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะบังคับ / ห้ามทำงานตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างอีกต่อไป article
คดีแรงงานเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้คดีอาญายกฟ้อง แต่พฤติกรรมการกระทำผิด เป็นเหตุให้นายจ้างไม่อาจไว้วางใจในการทำงานได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
เลิกจ้างเนื่องจากปรับโครงสร้างองค์กร แต่กำหนดรายชื่อไว้ล่วงหน้า ถือเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม article
การหักลบกลบหนี้ หนี้อันเกิดจากสัญญาจ้าง กรณีลูกจ้างกระทำผิดกับสิทธิประโยชน์ที่มีสิทธิได้รับตามสัญญาจ้าง ถือเป็นมูลหนี้อันเป็นวัตถุอย่างเดียวกันหักลบกลบหนี้กันได้ article
เล่นการพนันฉลากกินรวบ เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน กรณีร้ายแรง article
กรณีไม่ถือเป็นการประกอบธุรกิจแข่งขันหรือไม่ถือว่าทำงานกับนายจ้างใหม่ในลักษณะธุรกิจเดียวกับนายจ้าง article
สัญญาฝึกอบรม นายจ้างกำหนดเบี้ยปรับได้ เป็นสัญญาที่เป็นธรรม article
ค้ำประกันการทำงาน หลักประกันการทำงาน การหักลบกลบหนี้ค่าเสียหายจากการทำงาน article
ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์แต่ตนเอง เรียกรับเงินจากลูกค้า ถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ article
ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา มาทำงานสายประจำ ถือว่า กระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สหภาพแรงงานทำบันทักข้อตกลงเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างกับนายจ้าง อันส่งผลกระทบต่อสิทธิหน้าที่ของสมาชิก ขัดกับข้อตกลงเดิมและมิได้ขอมติที่ประชุมใหญ่ ข้อตกลงดังกล่าวไม่อาจใช้บังคับได้ article
ขอเกษียณอายุก่อนกำหนดตามประกาศ ถือเป็นการสมัครใจเลิกสัญญาจ้างแรงงานต่อกัน มิใช่การเลิกจ้างหรือการเกษียณอายุ จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยตามระเบียบกรณีเกษียณอายุ article
สถาบันวิจัยอันเป็นส่วนหนึ่งของกิจการมหาวิทยาลัยถือเป็นหน่วยงานของรัฐ ได้รับยกเว้น ไม่อยู่ภายใต้บังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา ๔ (๑) article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า จากการเลิกจ้างมีอายุความฟ้องร้องได้ภายใน ๑๐ ปี article
ทะเลาะวิวาทเรื่องส่วนตัวไม่ส่งผลกระทบต่อการบังคับบัญชา ไม่เป็นความผิด กรณีร้ายแรง ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ article
พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน มิใช่ทายาทผู้มีสิทธิรับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ และเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ตามพระราชบัญญัติ ประกันสังคม มาตรา ๗๓ และมาตรา ๗๗ article
ขับรถเร็วเกินกว่าข้อบังคับกำหนด เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนคำสั่งโยกย้าย เลิกจ้างได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ประกาศใช้ระเบียบใหม่ ไม่ปรากฏว่ามีพนักงานโต้แย้งคัดค้าน ถือว่าทุกคนยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ article
เงินค่าตอบแทนพิเศษกับเงินโบนัส มีเงื่อนไขต่างกัน หลักเกณฑ์การจ่ายต่างกัน จึงต้องพิจารณาต่างกัน article
ทายาทผู้มีสิทธิได้รับเงินกองทุนเงินทดแทน article
ค่ารถแทนรถยนต์ประจำตำแหน่ง ไม่ถือเป็นค่าจ้าง และ ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสมให้ถือตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานที่กำหนดไว้ article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างไม่ตกลง ขอเวลาตัดสินใจและหยุดงานไป นายจ้างแจ้งให้กลับเข้าทำงานตามปกติ ถือว่านายจ้างยังไม่มีเจตนาเลิกจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ แอบนอนหลับในเวลาทำงาน ถือเป็นเหตุในการเลิกจ้างได้ เลิกจ้างเป็นธรรม article
ลาออกโดยไม่สุจริต ไม่มีผลใช้บังคับ article
ทำความผิดคล้ายคลึงกันแต่ไม่เหมือนกัน พิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ประกอบธุรกิจ บริการ ด่าลูกค้าด้วยถ้อยคำหยาบคาย " ควาย " ถือเป็นการกระทำความผิดกรณีร้ายแรง article
ข้อบังคับ ระบุให้ผู้บังคับบัญชาเหนือกว่ามีอำนาจแก้ไข เพิ่มโทษ หรือลดโทษได้ การยกเลิกคำสั่งลงโทษเดิมและให้ลงโทษใหม่หนักกว่าเดิมจึงสามารถทำได้ article
เลือกปฏิบัติในการลงโทษระเบียบการห้ามใส่ตุ้มหูมาทำงาน บังคับใช้ได้ แต่เลือกปฏิบัติในการลงโทษไม่ได้ article
ลงโทษพักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างและเตือนในคราวเดียวกันได้ ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน article
จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย article
ข้อตกลงรับเงินและยินยอมปลดหนี้ให้แก่กัน ถือเป็นการตกลงระงับข้อพิพาทแม้จะทำขึ้นก่อนคำสั่งเลิกจ้างมีผลใช้บังคับ article
ศาลแรงงานมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานที่คู่ความอ้างส่งศาลได้ แม้มิได้ระบุบัญชีพยานไว้ก็ตาม article
สัญญาจ้างห้ามลูกจ้างไปทำงานกับนายจ้างใหม่ที่ประกอบธุรกิจเช่นเดียวกันมีกำหนดเวลา บังคับใช้ได้ article
เลิกจ้างและรับเงินค่าชดเชย ใบรับเงิน ระบุขอสละสิทธิ์เรียกร้องเงินอื่นใดใช้บังคับได้ ลูกจ้างไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องสินจ้างและค่าเสียหายได้อีก article
เกษียณอายุ 60 ปี ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยนับแต่วันครบกำหนดเกษียณอายุ แม้นายจ้างไม่ได้บอกเลิกจ้างก็ตาม article
ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องและเพิกเฉยไม่ดูแลผลประโยชน์ของนายจ้าง เป็นเหตุให้นายจ้างไม่ไว้วางใจในการทำงานได้เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ละเลยต่อหน้าที่ ไม่รายงานเคพีไอ นายจ้างตักเตือนแล้ว ถือว่าผิดซ้ำคำเตือน เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ทำสัญญาจ้างต่างด้าวทำงานในอาชีพต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว สัญญาจ้างถือเป็นโมฆะ article
ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง article
ศาลมีคำสั่งให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษาตามหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน ในขณะที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ยุติ ต้องสืบพยานใหม่และพิพากษาใหม่ไปตามรูปคดี article
แม้สัญญาจ้างไม่ได้ระบุระยะเวลาทดลองงานไว้ แต่นายจ้างก็สามารถประเมินผลการทำงานของลูกจ้างได้ article
การควบรวมกิจการ สิทธิและหน้าที่โอนไปเป็นของบริษัทใหม่ การจ่ายเงินสมทบบริษัทใหม่ที่ควบรวมจึงมีสิทธิจ่ายเงินสมทบในอัตราเดิมตามสิทธิ มิใช่ในอัตราบริษัทตั้งใหม่ article
เลิกจ้างรับเงินค่าชดเชยแล้วตกลงสละสิทธิ์จะไม่เรียกร้องผละประโยชน์ใดๆ ถือว่าสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเป็นอันระงับไป article
รับเหมาก่อสร้าง ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบ จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมแทนผู้รับเหมาช่วง หากผู้รับเหมาช่วงไม่นำส่งเงินสมทบตามกฎหมายโดยคำนวณจากอัตราค่าจ้างที่ระบุตามแบบ ( ภ.ง.ด. 50 ) และบัญชีงบดุล article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานระบุห้ามทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกาย ผู้บังคับบัญชา เพื่อนพนักงาน ทั้งในสถานที่ทำงาน หรือสถานที่อื่นๆ ฝ่าฝืนถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง ใช้บังคับได้ไม่ขัดต่อกฎหมาย article
ไส้ติ่งอักเสบ แพทย์วินิจฉัยให้ผ่าตัด ถือเป็นกรณีฉุกเฉิน เบิกค่ารักษาได้ มีสิทธิรับเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ได้ article
ค่าเช่าที่พัก ค่าใช้จ่ายเดินทางเป็นสวัสดิการไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่ารถยนต์ซึ่งกำหนดเป็นสวัสดิการไว้ชัดเจนแยกจากฐานเงินเดือนปกติ ถือเป็นสวัสดิการไม่ใช่ค่าจ้าง article
ละเมิดข้อตกลงสภาพการจ้าง ละเมิดสัญญาจ้าง มีอายุความ 10 ปี มิใช่ 1 ปี article
พฤติกรรมการจ้างที่ถือว่าเป็นการจ้างแรงงาน ถือเป็นลูกจ้าง / นายจ้างตามกฎหมาย article
พนักงานขายรถยนต์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ประจำบูธ ตามที่ได้รับมอบหมาย ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
เลือกตั้งคณะกรรมการสหภาพฯ ขัดต่อข้อบังคับสหภาพหรือขัดต่อกฎหมาย ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบ article
ฝ่าฝืนสัญญาจ้าง กรณีห้ามทำการแข่งขันกับนายจ้างหรือทำธุรกิจคล้ายคลึงกับนายจ้างเป็นเวลา 2 ปี นับจากสิ้นสุดสัญญาต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้าง article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระบุให้นายจ้างเลิกจ้างเพราะเหตุคนล้นงาน ปรับลด ขนาดองค์กรได้ ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะเลิกจ้างลูกจ้างได้ article
ข้อบังคับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรณีตัดสิทธิ์รับเงินสมทบพร้อมผลประโยชน์หากกระทำผิดถูกปลดออกจากงานบังคับใช้ได้ article
ทะเลาะวิวาทกัน นอกเวลางาน นอกบริเวณบริษัทฯ ไม่ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนไม่ไปตรวจสารเสพติดซ้ำตามคำสั่งและนโยบาย ถือว่าฝ่าฝืน ข้อบังคับ หรือ ระเบียบ กรณีร้ายแรง article
วันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วน article
เป็นลูกจ้างที่มีอำนาจกระทำการแทนนายจ้างในการจ้างงาน ไม่มีสิทธิได้รับค่าทำงานในวันหยุด และลักทรัพย์เอาต้นไม้ของนายจ้างไป ถือว่ากระทำผิดอาญาแก่นายจ้าง เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ผลการทำงานดีมาโดยตลอดและไม่เคยกระทำผิดมาก่อน แต่ปีสุดท้ายผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ถือเป็นเหตุที่จะอ้างในการเลิกจ้าง article
ได้รับบาดเจ็บรายการเดียว เข้ารักษา 2 ครั้ง ถือว่าเป็นการรักษารายการเดียว นายจ้างสำรองจ่ายเพิ่มเติมไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ใช่ 200,000 บาท article
ผู้บริหารบริษัท ฯ ถือเป็นลูกจ้างหรือไม่ ดูจาก_________ ? article
ขับรถออกนอกเส้นทาง แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรงและก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้าง นายจ้างหักเงินประกันการทำงานได้ article
ค่าจ้างระหว่างพักงาน เมื่อข้อเท็จจริง ลูกจ้างกระทำความผิดจริง จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างระหว่างพักงาน article
“ นายจ้าง ” ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 article
สัญญารักษาความลับ ข้อมูลทางการค้า (ห้ามประกอบหรือรับปฏิบัติงานแข่งขันนายจ้าง) มีกำหนด 2 ปี บังคับใช้ได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย และการกำหนดค่าเสียหาย ถือเป็นเบี้ยปรับตามกฎหมาย ศาลปรับลดได้ตามสมควร article
เงินรางวัลการขายประจำเดือน จ่ายตามเป้าหมายการขาย ที่กำหนดไว้ ไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่าโทรศัพท์ เหมาจ่าย ถือเป็นค่าจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ 3 วันทำการ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เลิกจ้างเป็นธรรมไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ลาออกมีผลใช้บังคับแล้ว ออกหนังสือเลิกจ้างภายหลังใช้บังคับไม่ได้ article
ตกลงรับเงิน ไม่ติดใจฟ้องร้องอีกถือเป็นการตกลงประนีประนอมกันบังคับได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย
เลิกจ้างระหว่างทดลองงาน ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ข้อตกลงว่า “หากเกิดข้อพิพาทตามสัญญาจ้างแรงงาน ให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย” ไม่เกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมายแรงงาน เมื่อเกิดสิทธิตามกฎหมาย ฟ้องศาลแรงงานได้ โดยไม่ต้องให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย article
เลิกจ้างด้วยเหตุอื่น อันมิใช่ความผิดเดิมที่เคยตักเตือน ไม่ใช่เหตุที่จะไม่จ่ายค่าชดเชย เลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย article
นำรถยนต์ไปใช้ในกิจธุระส่วนตัว มีพฤติกรรมคดโกง ไม่ซื่อตรง พฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต ไม่น่าไว้วางใจ ลงโทษปลดออกจากการทำงานได้ article
การกระทำที่กระทบต่อเกียรติ ชื่อเสียงของนายจ้าง และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้กระทำนอกสถานที่ทำงานและนอกเวลางาน ก็ถือว่า ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกรณีร้ายแรง article
สัญญาค้ำประกันการทำงานไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ต้องรับผิดชอบตลอดไป article
ผิดสัญญาจ้างไปทำงานกับคู่แข่ง นายจ้างฟ้องเรียกค่าเสียหายตามสัญญาได้ แต่ค่าเสียหาย เป็นดุลพินิจของศาลจะกำหนด article
จงใจกระทำผิดโดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้นายจ้างเสียหาย ถือว่า กระทำละเมิดต่อนายจ้าง ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น article
ตกลงสละสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย ภายหลังเลิกจ้าง ใช้บังคับได้ ไม่เป็นโมฆะ article
ก้าวร้าวไม่ให้ความเคารพผู้บังคับบัญชา ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้ามิใช่ค่าจ้าง คิดดอกเบี้ยในอัตรา 7. 5 ต่อปี article
ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของนายจ้างในเรื่องส่วนตัวเป็นประจำ ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่กาปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต เลิกจ้างเป็นธรรม article
สั่งให้พนักงานขับรถ ขับรถออกนอกเส้นทางแต่ไม่ได้มีส่วนในการขับรถ ถือว่าผิดต่อสัญญาจ้าง แต่ไม่ต้องรับผิดอันมีผลโดยตรงจากมูลละเมิด ( ขับรถโดยประมาท ) article
จ่ายของสมนาคุณให้ลูกค้า โดยไม่ตรวจสอบบิลให้ถูกต้อง มิใช่ความผิดกรณีร้ายแรงไม่ใช่การทุจริตต่อหน้าที่ แต่ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เสร็จลุล่วงไปโดยถูกต้อง และสุจริต เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ฟ้องประเด็นละเมิด กระทำผิดสัญญาจ้าง ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง มีอายุความ 10 ปี article
ตกลงยินยอมให้หักค่าจ้างชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันเงินกู้ นายจ้างสามารถหักค่าจ้างได้ตามหนังสือยินยอมโดยไม่ต้องฟ้อง article
กระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้างและประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง article
“ งานโครงการตามมาตรา 118 วรรค 4 ” บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ว่าจ้างลูกจ้างทำงานตามโครงการที่รับเหมา ถือว่าจ้างงานในปกติธุรกิจของนายจ้าง มิใช่งานโครงการ article
เงินโบนัสต้องมีสภาพการเป็นพนักงานจนถึงวันกำหนดจ่าย ออกก่อนไม่มีสิทธิได้รับ article
ระเบียบกำหนดจ่ายเงินพิเศษ ( gratuity ) เนื่องจากเกษียณอายุ โดยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายแตกต่างจากการจ่ายค่าเชย ถือว่านายจ้างยังไม่ได้จ่ายค่าชดเยตามกฎหมาย article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างขอค่าชดเชย นายจ้างไม่คุยด้วย แต่ยังไม่ได้บอกเลิกจ้างและยังไม่ปรากฎว่านายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างและไม่ให้เข้าทำงานต่อ ยังไม่ถือว่าเป็นการเลิกจ้าง ( อย่าเข้าใจไปเอง ) ไม่มีสิทธิได้ค่าชดเชย article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด

เลขที่ 511/4 ถนนประชาอุทิศ 117/1 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร (10140)

โทร/Tel : 02 - 8159522, แฟกซ์/Fax : 02 - 8159523, มือถือ/Mobile : 081 - 7936156

อีเมล/E-mail : sawai.prm@gmail.com, เว็บไซต์/Web : www.parameelaw.com