ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ชมรมบริหารงานบุคคล
dot
bulletสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย
bulletชมรมบริหารงานบุคคล
bulletชมรมบริหารงานบุคคล อยุธยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลรังสิต
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคล อมตะนคร
bulletสมาคมการบริหารงานบุคคล (PAAs)
bulletชมรมบริหารงานบุคคลบางพลี
bulletชมรมนักบริหารงานบุคคลพัทยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลยุคใหม่
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคลจังหวัดราชบุรี
bulletงานบริหารงานบุคคล
bulletชมรมงานบริหารงานบุคคลกรุงเทพฯ
bulletชมรมบริหารงานบุคลสุขสวัสดิ์
dot
ติดต่อราชการศาล
dot
bulletศาลแรงงานกลาง
bulletศาลแรงงานภาค ๒
bulletศาลยุติธรรม
bulletศาลปกครอง
bulletศาลรัฐธรมนูญ
bulletสำนักงานอัยการสูงสุด
bulletกระทรวงยุติธรรม
bulletคณะกรรมการกฤษฎีกา
bulletกรมบังคับคดี
bulletสภาทนายความ
dot
หน่วยงานราชการสำคัญ
dot
bulletกระทรวงแรงงาน
bulletกรมการจัดหางาน
bulletกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
bulletกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
bulletสำนักงานประกันสังคม
bulletกรมสรรพากร
bulletกรมบัญชีกลาง
bulletกรมพัฒนาธุรกิจกาค้า
bulletกระทรวงอุตสาหกรรม
bulletกรมโรงงานอุตสาหกรรม
bulletกรมส่งเสริมอุตสาหรม
bulletการนิคมอุตสาหกรรม
dot
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน
dot
bulletสมบัติลีกัล
bulletเอกเซลสำหรับงาน HR โดย อ.สำเริง
bulletบทความดี ๆ จากโกป้อม
dot
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
dot
dot
Newsletter

dot


พยากรณ์อากาศวันนี้
..................................


ราคาน้ำมันวันนี้
..................................



เลิกจ้างหรือลาออกเอง article

คำพิพากษาฎีกาที่  6540 – 6543/56

เลิกจ้างหรือลาออกเอง

                                    คดีทั้งสี่สำนวนนี้ศาลแรงงานกลางสั่งให้รวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกัน   โดยให้เรียกโจทก์ทั้งสี่สำนวนว่า โจทก์ที่  1  ถึง โจทก์ที่  4   ตามลำดับ และเรียกจำเลยทั้งสี่สำนวนว่าจำเลย

  

                                    โจทก์ทั้งสี่ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า  จำเลยรับจ้างผลิตเคมีภัณฑ์ใช้การแพทย์ จำเลยและบริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์  (ไทยแลนด์)  จำกัด  มีกรรมการชุดเดียวกันและเป็นบริษัทร่วมค้าขายกัน  โจทก์ทั้งสี่เคยเป็นลูกจ้างของจำเลย  เข้าทำงานตั้งแต่วันที่  1  กันยายน 2542  วันที่  20  มีนาคม  2545  วันที่  16  พฤษภาคม  2544  และวันที่  16  กรกฎาคม  2547 ได้รับค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ  11,550  บาท  10,000  บาท  6,750  บาท  และ  7,300  บาท  ตามลำดับ  นายซีริล  เฟรเดอริค เบอร์แมน  กรรมการผู้จัดการของจำเลยออกประกาศลงวันที่  17  พฤศจิกายน  2548  ถึงลูกจ้างของบริษัทฯ  และลูกจ้างของจำเลยว่า  คณะผู้บริหารบริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ  จำกัด  และบริษัทซีวีพี  เมดิคอลเทคโนโลยี  จำกัด  ได้บรรลุข้อตกลงในการดำเนินการแยกกิจการแผนกหน่วยไตเป็นเอกเทศ  นับตั้งแต่วันที่  1  มกราคม  2549  บริษัทซีวีพี ฯ  ถือประหนึ่งในสิทธิ หน้าที่  และความรับผิดทุกประการจากบริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ  และในวาระเดียวกันบริษัทซีวีพี ฯ  จะรับโอนธุรกิจ การบริหารตลอดจนสิ่งต่างๆ  ทั้งหมด  ได้เสนอว่าจ้างลูกจ้างบริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ  และลูกจ้างของจำเลยด้วย หากลูกจ้างของจำเลยประสงค์จะทำงานกับบริษัทซีวีพี ฯ  ซึ่งมีผลบังคับในวันที่  1  มกราคม  2549  ให้ยื่นหนังสือลาออกต่อจำเลย  โจทก์ทั้งสี่หลงเชื่อประกาศจึงทำหนังสือลาออกจากการเป็นลูกจ้างของจำเลย ต่อมาวันที่  26  ธันวาคม  2548  โจทก์ทั้งสี่ทราบว่าบริษัทซีวีพี ฯ  ปิดประกาศว่าบริษัทหรือผู้บริหารไม่เคยตกลงเจรจาโอนกิจการและเสนอว่าจ้างลูกจ้างของบริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ  และลูกจ้างของจำเลย ในวันดังกล่าวโจทก์ทั้งสี่หรือตัวแทนลูกจ้างขอพบกรรมการผู้มีอำนาจของจำเลยสอบถามถึงข้อปฏิเสธตามประกาศของบริษัทซีวีพี ฯ  และจะขอกลับเข้าทำงานในตำแหน่งและอัตราเงินเดือนเดิม แต่จำเลยไม่รับโจทก์ทั้งสี่กลับเข้าทำงาน การกระทำของจำเลยเป็นการหลอกลวงฉ้อฉลโจทก์ทั้งสี่ให้ยื่นหนังสือลาออก  จึงเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม  ขอให้บังคับจำเลยชำระ  ค่าชดเชยแก่โจทก์ที่  1  จำนวน  103,950  บาท  โจทก์ที่  2  จำนวน  70,000  บาท  โจทก์ที่  3 จำนวน  47,250  บาท  โจทก์ที่  4  จำนวน  29,200  บาท  ชำระค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมแก่โจทก์  พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ  15  ต่อปี  นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ทั้งสี่

  

                                    จำเลยทุกสำนวนให้การและแก้ไขคำให้การว่า  โจทก์ทั้งสี่ลาออกจากการเป็นลูกจ้างของจำเลยโดยสมัครใจ  จำเลยมิได้ใช้กลฉ้อฉล หลอกลวง  หรือสมรู้ร่วมคิดกับบริษัทซีวีพี ฯ  ให้โจทก์ทั้งสี่เข้าใจผิดหลงเชื่อว่าจำเลยบรรลุข้อตกลงการโอนย้ายลูกจ้างของจำเลยซึ่งรวมถึงโจทก์ทั้งสี่ไปเป็นลูกจ้างของบริษัทซีวีพี ฯ  ประกาศของจำเลยเป็นเพียงการแจ้งให้ลูกจ้างแผนกหน่วยไตของบริษัทแปซิฟิเฮลธ์แคร์ ฯ  และลูกจ้างของจำเลยทราบว่าบริษัทซีวีพี ฯ  จะรับซื้อโอนกิจการธุรกิจของจำเลย  แต่ลูกจ้างของจำเลยยังคงได้รับการว่าจ้างจากจำเลยเช่นเดิมส่วนบริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ  ยังคงดำเนินธุรกิจแผนกหน่วยไต  ไม่ได้ยุบทิ้งโดยบริหารการตลาดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับของบริษัทอื่นที่บริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ  เป็นตัวแทนจำหน่าย หากลูกจ้างของบริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ  ผู้ใดประสงค์จะไปทำงานกับบริษัทซีวีพี ฯ  ก็ให้ยื่นใบลาออกต่อบริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ ตามประกาศไม่มีข้อความใดระบุว่าบริษัทซีวีพี ฯ  เสนอว่าจ้างลูกจ้างของจำเลย และตกลงโอนย้ายลูกจ้างของจำเลยไปเป็นลูกจ้างของตน การปิดประกาศของบริษัทซีวีพี ฯ  มิได้เกิดจากการกระทำและความต้องการของจำเลย จำเลยมิได้ฉ้อฉลให้โจทก์ทั้งสี่เข้าใจผิดหลงเชื่อลาออกจากการเป็นลูกจ้างของจำเลย  โจทก์ทั้งสี่ไม่ได้ขอกลับเข้าทำงานกับจำเลยในวันที่  26 ธันวาคม  2548  จำนวนเงินค่าชดเชยตามคำฟ้องไม่ถูกต้อง   ขอให้ยกฟ้อง

  

                         ศาลแรงงานกลางพิจารณาข้อเท็จจริงว่า   จำเลยรับโจทก์ทั้งสี่เป็นลูกจ้างวันที่  17  พฤศจิกายน  2548  นายซีริล  เฟรเดอริค  เบอร์แมน   กรรมการบริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ  และจำเลยออกประกาศถึงลูกจ้างแผนกหน่วยไตของบริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ  และลูกจ้างของจำเลยว่านับแต่วันที่  1  มกราคม  2549  บริษัทซีวีพี ฯ  ถือประหนึ่งในสิทธิ   หน้าที่ ความรับผิดชอบทุกประการจากบริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ  เพื่อดำเนินธุรกิจด้านการตลาด   การจำหน่ายน้ำยาเอแอนด์บีและผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ของแผนกหน่วยไต   ลูกจ้างผู้ใดประสงค์ไปทำงานกับบริษัทซีวีพี ฯ   ให้ยื่นความจำนงลาออกต่อบริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ  ภายในวันที่  30  พฤศจิกายน  2548  ตามเอกสารหมาย  ล.4  โจทก์ทั้งสี่ทำหนังสือลาออกจากการเป็นลูกจ้างของจำเลยภายในวันที่  30  พฤศจิกายน  2548  วันที่  1  ธันวาคม  2548  นายซีริล   เฟรเดอริค   เบอร์แมน  มีหนังสือแจ้งลูกจ้างแผนกหน่วยไตว่าบริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ  กับบริษัทซีวีพี ฯ  บรรลุข้อตกลงที่จะดำเนินการแยกกิจการแผนกหน่วยไต  ลูกจ้างผู้ใดลาออกเพื่อไปสมัครเป็นลูกจ้างของบริษัทซีวีพี ฯ  บริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ  จะจ่ายเงินตอบแทนการทำงานให้ตามเอกสารหมาย  ล.6   ต่อมาโจทก์ทั้งสี่ทำหนังสือขอยกเลิกการลกออกตามเอกสารหมาย  ล.5   แต่จำเลยไม่รับโจทก์ทั้งสี่กลับเข้าทำงาน แล้ววินิจฉัยว่า   โจทก์ทั้งสี่ทำหนังสือลาออกยื่นต่อจำเลยภายในวันที่  30  พฤศจิกายน  2548  เป็นไปตามประกาศของจำเลยตามเอกสารหมาย  ล.4  และล.6   โจทก์ทั้งสี่ยังอยู่ภายใต้การปกครองบังคับบัญชาของจำเลย ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของจำเลยผู้เป็นนายจ้าง ต่อมาโจทก์ทั้งสี่ทำหนังสือขอยกเลิกการลาออกเพราะข้อมูลที่ได้รับจากการชี้แจงของนายซีริล   เฟรเดอริค   เบอร์แมน  ไม่เป็นไปตามที่โจทก์ทั้งสี่คาดหวัง   แต่จำเลยไม่ประสงค์รับโจทก์ทั้งสี่กลับเข้าทำงานต่อไป   การแสดงเจตนาลาออกของโจทก์ทั้งสี่เป็นการสำคัญผิดในสาระสำคัญแห่งนิติกรรมจึงเป็นโมฆะ   ทั้งสองฝ่ายต้องกลับคืนสู่ฐานะดังที่เป็นอยู่เดิมคือ ความสัมพันธ์ในฐานะนายจ้างลูกจ้าง   เมื่อจำเลยไม่ยินยอมให้โจทก์ทั้งสี่กลับเข้าทำงาน   เป็นการแสดงเจตนาไม่ประสงค์ให้โจทก์ทั้งสี่ทำงานอีกต่อไป จึงเป็นการเลิกจ้างโจทก์ทั้งสี่โดยไม่มีเหตุผลสมควร เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม ค่าชดเชยที่โจทก์ทั้งสี่เรียกร้องมาได้รวมสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า  1  เดือน  ไว้ด้วย อนุมานว่าโจทก์ทั้งสี่ประสงค์เรียกร้องสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าจากจำเลย จำเลยเลิกจ้างโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้าจึงต้องชำระสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าแก่โจทก์ทั้งสี่ พิพากษาให้จำเลยชำระค่าชดเชยแก่โจทก์ที่  1  จำนวน  92,400 บาท  โจทก์ที่  2  จำนวน  60,000  บาท  โจทก์ที่  3  จำนวน  40,500  บาท  โจทก์ที่  4  จำนวน  21,900  บาท   พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ  15  ต่อปี  นับแต่วันฟ้อง  (วันที่  31  มกราคม  2549)  ไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ทั้งสี่  ชำระสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าแก่โจทก์ที่  1  จำนวน  11,550  บาท โจทก์ที่  2  จำนวน  10,000  บาท โจทก์ที่  3  จำนวน  6,750  บาท และโจทก์ที่  4  จำนวน  7,300  บาท กับชำระค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมแก่โจทก์ที่  1  จำนวน  80,000  บาท โจทก์ที่  2  จำนวน  40,000  บาท โจทก์ที่  3  จำนวน  28,000  บาท และโจทก์ที่  4  จำนวน  18,000  บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ  7.5  ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ทั้งสี่คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยก

  

                                         จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

  

                                        ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว   ข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่โต้แย้งกันได้ความว่าโจทก์ทั้งสี่เป็นลูกจ้างของจำเลย  นายซีริล  เฟรเดอริค  เบอร์แมน  ออกประกาศถึงลูกจ้างแผนกหน่วยไตของบริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ  และลูกจ้างของจำเลยซึ่งตรงกับฉบับภาษาอังกฤษพร้อมคำแปล  วันที่  28  และวันที่  29  พฤศจิกายน  2548 โจทก์ทั้งสี่ยื่นหนังสือลาออก  วันที่  1  ธันวาคม  2548  นายซีริล  เฟรเดอริค  เบอร์แมน  มีหนังสือถึงลูกจ้างแผนกหน่วยไตของบริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ  ลูกจ้างของบริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ  ที่ลาออก ไปมีหนังสือขอยกเลิกหนังสือลาออก   คู่ความไม่โต้แย้งความมีอยู่และความถูกต้องของเอกสารหมาย  จ.1 – จ.10  และ ล.1 – ล.25

  

                                     มีปัญหาวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยว่าจำเลยเลิกจ้างโจทก์ทั้งสี่หรือไม่พิเคราะห์แล้วเห็นว่า เอกสารหมาย ล.เป็นการประกาศแจ้งให้ลูกจ้างแผนกหน่วยไตของของบริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ ทุกคนและลูกจ้างของจำเลยทราบว่าบริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ  และ บริษัทซีวีพี ฯ  ได้บรรลุข้อตกลงในการดำเนินการแยกกิจการแผนกหน่วยไต  (RENAL  BUSINESS)  เป็นเอกเทศนับตั้งแต่ปี พ.ศ.  2549  เป็นต้นไป

 

                                       นับจากวันที่  1  มกราคม  2549  บริษัทซีวีพี  ถือประหนึ่งในสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบทุกประการจากบริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ เพื่อดำเนินธุรกิจด้านการตลาด การจำหน่ายน้ำยาเอแอนด์บี  (A&B)  และผลิตภัณฑ์ด้านเครื่องมือแพทย์ของหน่วยไตทุกชนิด  (ซึ่ง  ปัจจุบันนี้บริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ เป็นผู้ดำเนินการต้านการตลาดและขายแต่เพียงผู้เดียว) 

  

                        ในวาระเดียวกัน บริษัทซีวีพี ฯ จะรับโอนธุรกิจ การบริการ ตลอดจนสิ่งต่างๆ อันเกี่ยวเนื่องทั้งหมดของบริษัทรีนาเทค จำกัด  (จำเลย) ดำเนินการต่อไปเช่นกัน”  ข้อความดังกล่าวเป็นการแจ้งให้ลูกจ้างแผนกหน่วยไตของบริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ และลูกจ้างจำเลยทราบว่าบริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ และบริษัทซีวีพี ฯ จะแยกการดำเนินการกิจการแผนกหน่วยไตออกจากบริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ  โดยบริษัทซีวีพี ฯ  จะไปดำเนินการด้านการตลาด   การจำหน่ายน้ำยาเอแอนด์บี  (A&B)  และผลิตภัณฑ์เครื่องมือแพทย์ของแผนกหน่วยไตเอง  และบริษัทซีวีพี ฯ จะรับโอนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องจากจำเลยด้วย   ในส่วนลูกจ้างนั้นเอกสารหมาย ล.มีข้อความปรากฏในแผ่นที่  2  ย่อหน้าสุดท้ายว่า   “คณะผู้บริหารบริษัทซีวีพี ฯ  ได้เสนอว่าจ้างพนักงาน  (ลูกจ้าง)   ของบริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ  ทั้งหมดของแผนกหน่วยไตตลอดจนพนักงาน  (RENAL  DEPT)  ตลอดจนพนักงาน  (ลูกจ้าง)  ของบริษัทรีนาเทค  จำกัด  (จำเลย)  ยังคงได้รับการว่าจ้างโดยบริษัทรีนาเทค ฯ ซึ่งถือประหนึ่งเป็นสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบทุกปราการของบริษัทซีวีพี     โดยมีผลบังคับในวันที่  1  มกราคม  2549  เป็นต้นไป  ทั้งนี้พนักงาน(ลูกจ้าง) บริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ  แผนกหน่วยไต  (RENAL  DEPT)  ท่านใดมีความประสงค์ที่จะทำงานกับบริษัทซีวีพี ฯ  ซึ่งมีผลบังคับ  วันที่  1  มกราคม  2549  เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับทางกฎหมายของกรมแรงงานโปรดยื่นความจำนงการขอลาออกต่อบริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ  ภายในวันที่  30  พฤศจิกายน 2548  เท่านั้น  ข้อความประกาศส่วนนี้ให้สิทธิเฉพาะลูกจ้างแผนกหน่วยไตของบริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ   เท่านั้นที่ลาออกได้   มิได้กล่าวถึงให้ลูกจ้างของจำเลยลาออก   และยังย้ำด้วยว่าจำเลยยังคงว่าจ้างลูกจ้างของตนต่อไป  โดยบริษัทซีวีพี ฯ จะเข้าถือสิทธิเป็นเจ้าของในวันที่  1  มกราคม  2549  ตรงตามที่ปรากฏในประกาศฉบับภาษาอังกฤษและคำแปลเอกสารหมาย  ล.9  ประกาศเอกสารหมาย ล.4  จึงไม่ใช่การประกาศให้ลูกจ้างของจำเลยลาออก  ไม่ใช่หลอกลวงให้โจทก์ทั้งสี่ลาออกจากการเป็นลูกจ้างของจำเลย   ทั้งในท้ายประกาศเอกสารหมาย  ล.4  หน้า  3  กล่าวว่า   “หากผู้ใดมีข้อสงสัย คำถาม หรือคำแนะนำ   สามารถติดต่อ คุณจิสิมา   สัมพันธ์อภัย   คุณเอเดรียน  โรเดนเบิรก์  และคุณแมทธิว   สไควร์”   อันเป็นการระบุชัดเจนหากมีผู้ใดอ่านประกาศแล้วมีข้อสงสัยให้สอบถามต่อบุคคลทั้งสามได้ การที่โจทก์ทั้งสี่เข้าใจว่าประกาศเอกสารหมาย  ล.4  เป็นกรณีที่บริษัทซีวีพี ฯ เสนอว่าจ้างลูกจ้างของจำเลย เป็นการเข้าใจผิดของโจทก์ทั้งสี่เพียงฝ่ายเดียว   อีกทั้งโจทก์ทั้งสี่มิได้สอบถามบุคคลตามที่ระบุในประกาศให้ได้ความชัดเจน จึงเป็นความบกพร่องของโจทก์ทั้งสี่เอง  ประกอบกับหนังสือของนายซีริล  เฟรเดอริค  เบอร์แมน ตามเอกสารหมาย  ล.6  ที่สรุปรายงานการประชุมแจ้งแก่ลูกจ้างแผนกหน่วยไตของบริษัทแปซิฟิคเฮลธ์แคร์ ฯ  ก็ระบุถึงการลาออกของลูกจ้างแผนกหน่วยไตว่าจะได้รับเงินส่วนใดบ้างเท่านั้น  ไม่มีข้อความกล่าวถึงจำเลย  ไม่มีข้อความให้โจทก์ทั้งสี่เข้าใจ ได้ว่าต้องยื่นหนังสือลาออกตามเอกสารหมาย  ล.5  เมื่อโจทก์ทั้งสี่ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นลูกจ้างของจำเลย   จึงเป็นการลาออกโดยสมัครใจของโจทก์ทั้งสี่    จำเลยมิได้เลิกจ้างโจทก์ทั้งสี่ อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น

  

                                        พิพากษากลับ  ให้ยกฟ้องของโจทก์ทั้งสี่

 

 

 

เรียบเรียงโดย บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด




อัพเดท ฎีกาน่าสนใจ

ขึ้นทะเบียนรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเกิน ๓๐ วัน ยังมีสิทธิได้รับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานได้ article
ลักษณะความผิดเดียวกัน แต่ระดับความร้ายแรงแตกต่างกัน นายจ้างพิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ผู้จัดการสาขา เสนอรายชื่อลูกค้าที่ขาดคุณสมบัติทำประกันชีวิต ถือว่าจงใจทำให้นายจ้างเสียหาย / ผิดร้ายแรง article
หยุดกิจการชั่วคราวตาม มาตรา ๗๕ article
สัญญาจ้างเป็นสัญญาต่างตอบแทน นายจ้างออกค่าใช้จ่ายในการเข้าทดสอบเพื่อรับเกียรติบัตร เมื่อทดสอบผ่านต้องทำงานกับนายจ้าง ๕ ปี บังคับใช้ได้ article
ศาลแรงงานกลางมีอำนาจสั่งรับพยานเอกสารได้ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม article
ประกอบธุรกิจแข่งขัน / ไปทำงานกับนายจ้างอื่น ในลักษณะผิดต่อสัญญาจ้าง เมื่อลูกจ้างได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้างตามสัญญาแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะบังคับ / ห้ามทำงานตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างอีกต่อไป article
คดีแรงงานเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้คดีอาญายกฟ้อง แต่พฤติกรรมการกระทำผิด เป็นเหตุให้นายจ้างไม่อาจไว้วางใจในการทำงานได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
เลิกจ้างเนื่องจากปรับโครงสร้างองค์กร แต่กำหนดรายชื่อไว้ล่วงหน้า ถือเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม article
การหักลบกลบหนี้ หนี้อันเกิดจากสัญญาจ้าง กรณีลูกจ้างกระทำผิดกับสิทธิประโยชน์ที่มีสิทธิได้รับตามสัญญาจ้าง ถือเป็นมูลหนี้อันเป็นวัตถุอย่างเดียวกันหักลบกลบหนี้กันได้ article
เล่นการพนันฉลากกินรวบ เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน กรณีร้ายแรง article
กรณีไม่ถือเป็นการประกอบธุรกิจแข่งขันหรือไม่ถือว่าทำงานกับนายจ้างใหม่ในลักษณะธุรกิจเดียวกับนายจ้าง article
สัญญาฝึกอบรม นายจ้างกำหนดเบี้ยปรับได้ เป็นสัญญาที่เป็นธรรม article
ค้ำประกันการทำงาน หลักประกันการทำงาน การหักลบกลบหนี้ค่าเสียหายจากการทำงาน article
ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์แต่ตนเอง เรียกรับเงินจากลูกค้า ถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ article
ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา มาทำงานสายประจำ ถือว่า กระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สหภาพแรงงานทำบันทักข้อตกลงเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างกับนายจ้าง อันส่งผลกระทบต่อสิทธิหน้าที่ของสมาชิก ขัดกับข้อตกลงเดิมและมิได้ขอมติที่ประชุมใหญ่ ข้อตกลงดังกล่าวไม่อาจใช้บังคับได้ article
ขอเกษียณอายุก่อนกำหนดตามประกาศ ถือเป็นการสมัครใจเลิกสัญญาจ้างแรงงานต่อกัน มิใช่การเลิกจ้างหรือการเกษียณอายุ จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยตามระเบียบกรณีเกษียณอายุ article
สถาบันวิจัยอันเป็นส่วนหนึ่งของกิจการมหาวิทยาลัยถือเป็นหน่วยงานของรัฐ ได้รับยกเว้น ไม่อยู่ภายใต้บังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา ๔ (๑) article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า จากการเลิกจ้างมีอายุความฟ้องร้องได้ภายใน ๑๐ ปี article
ทะเลาะวิวาทเรื่องส่วนตัวไม่ส่งผลกระทบต่อการบังคับบัญชา ไม่เป็นความผิด กรณีร้ายแรง ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ article
พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน มิใช่ทายาทผู้มีสิทธิรับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ และเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ตามพระราชบัญญัติ ประกันสังคม มาตรา ๗๓ และมาตรา ๗๗ article
ขับรถเร็วเกินกว่าข้อบังคับกำหนด เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนคำสั่งโยกย้าย เลิกจ้างได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ประกาศใช้ระเบียบใหม่ ไม่ปรากฏว่ามีพนักงานโต้แย้งคัดค้าน ถือว่าทุกคนยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ article
เงินค่าตอบแทนพิเศษกับเงินโบนัส มีเงื่อนไขต่างกัน หลักเกณฑ์การจ่ายต่างกัน จึงต้องพิจารณาต่างกัน article
ทายาทผู้มีสิทธิได้รับเงินกองทุนเงินทดแทน article
ค่ารถแทนรถยนต์ประจำตำแหน่ง ไม่ถือเป็นค่าจ้าง และ ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสมให้ถือตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานที่กำหนดไว้ article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างไม่ตกลง ขอเวลาตัดสินใจและหยุดงานไป นายจ้างแจ้งให้กลับเข้าทำงานตามปกติ ถือว่านายจ้างยังไม่มีเจตนาเลิกจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ แอบนอนหลับในเวลาทำงาน ถือเป็นเหตุในการเลิกจ้างได้ เลิกจ้างเป็นธรรม article
ลาออกโดยไม่สุจริต ไม่มีผลใช้บังคับ article
ทำความผิดคล้ายคลึงกันแต่ไม่เหมือนกัน พิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ประกอบธุรกิจ บริการ ด่าลูกค้าด้วยถ้อยคำหยาบคาย " ควาย " ถือเป็นการกระทำความผิดกรณีร้ายแรง article
ข้อบังคับ ระบุให้ผู้บังคับบัญชาเหนือกว่ามีอำนาจแก้ไข เพิ่มโทษ หรือลดโทษได้ การยกเลิกคำสั่งลงโทษเดิมและให้ลงโทษใหม่หนักกว่าเดิมจึงสามารถทำได้ article
เลือกปฏิบัติในการลงโทษระเบียบการห้ามใส่ตุ้มหูมาทำงาน บังคับใช้ได้ แต่เลือกปฏิบัติในการลงโทษไม่ได้ article
ลงโทษพักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างและเตือนในคราวเดียวกันได้ ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน article
จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย article
ข้อตกลงรับเงินและยินยอมปลดหนี้ให้แก่กัน ถือเป็นการตกลงระงับข้อพิพาทแม้จะทำขึ้นก่อนคำสั่งเลิกจ้างมีผลใช้บังคับ article
ศาลแรงงานมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานที่คู่ความอ้างส่งศาลได้ แม้มิได้ระบุบัญชีพยานไว้ก็ตาม article
สัญญาจ้างห้ามลูกจ้างไปทำงานกับนายจ้างใหม่ที่ประกอบธุรกิจเช่นเดียวกันมีกำหนดเวลา บังคับใช้ได้ article
เลิกจ้างและรับเงินค่าชดเชย ใบรับเงิน ระบุขอสละสิทธิ์เรียกร้องเงินอื่นใดใช้บังคับได้ ลูกจ้างไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องสินจ้างและค่าเสียหายได้อีก article
เกษียณอายุ 60 ปี ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยนับแต่วันครบกำหนดเกษียณอายุ แม้นายจ้างไม่ได้บอกเลิกจ้างก็ตาม article
ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องและเพิกเฉยไม่ดูแลผลประโยชน์ของนายจ้าง เป็นเหตุให้นายจ้างไม่ไว้วางใจในการทำงานได้เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ละเลยต่อหน้าที่ ไม่รายงานเคพีไอ นายจ้างตักเตือนแล้ว ถือว่าผิดซ้ำคำเตือน เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ทำสัญญาจ้างต่างด้าวทำงานในอาชีพต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว สัญญาจ้างถือเป็นโมฆะ article
ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง article
ศาลมีคำสั่งให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษาตามหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน ในขณะที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ยุติ ต้องสืบพยานใหม่และพิพากษาใหม่ไปตามรูปคดี article
แม้สัญญาจ้างไม่ได้ระบุระยะเวลาทดลองงานไว้ แต่นายจ้างก็สามารถประเมินผลการทำงานของลูกจ้างได้ article
การควบรวมกิจการ สิทธิและหน้าที่โอนไปเป็นของบริษัทใหม่ การจ่ายเงินสมทบบริษัทใหม่ที่ควบรวมจึงมีสิทธิจ่ายเงินสมทบในอัตราเดิมตามสิทธิ มิใช่ในอัตราบริษัทตั้งใหม่ article
เลิกจ้างรับเงินค่าชดเชยแล้วตกลงสละสิทธิ์จะไม่เรียกร้องผละประโยชน์ใดๆ ถือว่าสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเป็นอันระงับไป article
รับเหมาก่อสร้าง ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบ จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมแทนผู้รับเหมาช่วง หากผู้รับเหมาช่วงไม่นำส่งเงินสมทบตามกฎหมายโดยคำนวณจากอัตราค่าจ้างที่ระบุตามแบบ ( ภ.ง.ด. 50 ) และบัญชีงบดุล article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานระบุห้ามทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกาย ผู้บังคับบัญชา เพื่อนพนักงาน ทั้งในสถานที่ทำงาน หรือสถานที่อื่นๆ ฝ่าฝืนถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง ใช้บังคับได้ไม่ขัดต่อกฎหมาย article
ไส้ติ่งอักเสบ แพทย์วินิจฉัยให้ผ่าตัด ถือเป็นกรณีฉุกเฉิน เบิกค่ารักษาได้ มีสิทธิรับเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ได้ article
ค่าเช่าที่พัก ค่าใช้จ่ายเดินทางเป็นสวัสดิการไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่ารถยนต์ซึ่งกำหนดเป็นสวัสดิการไว้ชัดเจนแยกจากฐานเงินเดือนปกติ ถือเป็นสวัสดิการไม่ใช่ค่าจ้าง article
ละเมิดข้อตกลงสภาพการจ้าง ละเมิดสัญญาจ้าง มีอายุความ 10 ปี มิใช่ 1 ปี article
พฤติกรรมการจ้างที่ถือว่าเป็นการจ้างแรงงาน ถือเป็นลูกจ้าง / นายจ้างตามกฎหมาย article
พนักงานขายรถยนต์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ประจำบูธ ตามที่ได้รับมอบหมาย ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
เลือกตั้งคณะกรรมการสหภาพฯ ขัดต่อข้อบังคับสหภาพหรือขัดต่อกฎหมาย ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบ article
ฝ่าฝืนสัญญาจ้าง กรณีห้ามทำการแข่งขันกับนายจ้างหรือทำธุรกิจคล้ายคลึงกับนายจ้างเป็นเวลา 2 ปี นับจากสิ้นสุดสัญญาต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้าง article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระบุให้นายจ้างเลิกจ้างเพราะเหตุคนล้นงาน ปรับลด ขนาดองค์กรได้ ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะเลิกจ้างลูกจ้างได้ article
ข้อบังคับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรณีตัดสิทธิ์รับเงินสมทบพร้อมผลประโยชน์หากกระทำผิดถูกปลดออกจากงานบังคับใช้ได้ article
ทะเลาะวิวาทกัน นอกเวลางาน นอกบริเวณบริษัทฯ ไม่ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนไม่ไปตรวจสารเสพติดซ้ำตามคำสั่งและนโยบาย ถือว่าฝ่าฝืน ข้อบังคับ หรือ ระเบียบ กรณีร้ายแรง article
วันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วน article
เป็นลูกจ้างที่มีอำนาจกระทำการแทนนายจ้างในการจ้างงาน ไม่มีสิทธิได้รับค่าทำงานในวันหยุด และลักทรัพย์เอาต้นไม้ของนายจ้างไป ถือว่ากระทำผิดอาญาแก่นายจ้าง เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ผลการทำงานดีมาโดยตลอดและไม่เคยกระทำผิดมาก่อน แต่ปีสุดท้ายผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ถือเป็นเหตุที่จะอ้างในการเลิกจ้าง article
ได้รับบาดเจ็บรายการเดียว เข้ารักษา 2 ครั้ง ถือว่าเป็นการรักษารายการเดียว นายจ้างสำรองจ่ายเพิ่มเติมไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ใช่ 200,000 บาท article
ผู้บริหารบริษัท ฯ ถือเป็นลูกจ้างหรือไม่ ดูจาก_________ ? article
ขับรถออกนอกเส้นทาง แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรงและก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้าง นายจ้างหักเงินประกันการทำงานได้ article
ค่าจ้างระหว่างพักงาน เมื่อข้อเท็จจริง ลูกจ้างกระทำความผิดจริง จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างระหว่างพักงาน article
“ นายจ้าง ” ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 article
สัญญารักษาความลับ ข้อมูลทางการค้า (ห้ามประกอบหรือรับปฏิบัติงานแข่งขันนายจ้าง) มีกำหนด 2 ปี บังคับใช้ได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย และการกำหนดค่าเสียหาย ถือเป็นเบี้ยปรับตามกฎหมาย ศาลปรับลดได้ตามสมควร article
เงินรางวัลการขายประจำเดือน จ่ายตามเป้าหมายการขาย ที่กำหนดไว้ ไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่าโทรศัพท์ เหมาจ่าย ถือเป็นค่าจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ 3 วันทำการ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เลิกจ้างเป็นธรรมไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ลาออกมีผลใช้บังคับแล้ว ออกหนังสือเลิกจ้างภายหลังใช้บังคับไม่ได้ article
ตกลงรับเงิน ไม่ติดใจฟ้องร้องอีกถือเป็นการตกลงประนีประนอมกันบังคับได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย
เลิกจ้างระหว่างทดลองงาน ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ข้อตกลงว่า “หากเกิดข้อพิพาทตามสัญญาจ้างแรงงาน ให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย” ไม่เกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมายแรงงาน เมื่อเกิดสิทธิตามกฎหมาย ฟ้องศาลแรงงานได้ โดยไม่ต้องให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย article
เลิกจ้างด้วยเหตุอื่น อันมิใช่ความผิดเดิมที่เคยตักเตือน ไม่ใช่เหตุที่จะไม่จ่ายค่าชดเชย เลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย article
นำรถยนต์ไปใช้ในกิจธุระส่วนตัว มีพฤติกรรมคดโกง ไม่ซื่อตรง พฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต ไม่น่าไว้วางใจ ลงโทษปลดออกจากการทำงานได้ article
การกระทำที่กระทบต่อเกียรติ ชื่อเสียงของนายจ้าง และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้กระทำนอกสถานที่ทำงานและนอกเวลางาน ก็ถือว่า ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกรณีร้ายแรง article
สัญญาค้ำประกันการทำงานไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ต้องรับผิดชอบตลอดไป article
ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเลิกจ้างได้ ถือว่าเลิกจ้างเป็นธรรมและความผิดที่ลงโทษแล้วจะนำมาลงโทษอีกไม่ได้ article
ผิดสัญญาจ้างไปทำงานกับคู่แข่ง นายจ้างฟ้องเรียกค่าเสียหายตามสัญญาได้ แต่ค่าเสียหาย เป็นดุลพินิจของศาลจะกำหนด article
จงใจกระทำผิดโดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้นายจ้างเสียหาย ถือว่า กระทำละเมิดต่อนายจ้าง ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น article
ตกลงสละสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย ภายหลังเลิกจ้าง ใช้บังคับได้ ไม่เป็นโมฆะ article
ก้าวร้าวไม่ให้ความเคารพผู้บังคับบัญชา ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้ามิใช่ค่าจ้าง คิดดอกเบี้ยในอัตรา 7. 5 ต่อปี article
ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของนายจ้างในเรื่องส่วนตัวเป็นประจำ ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่กาปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต เลิกจ้างเป็นธรรม article
สั่งให้พนักงานขับรถ ขับรถออกนอกเส้นทางแต่ไม่ได้มีส่วนในการขับรถ ถือว่าผิดต่อสัญญาจ้าง แต่ไม่ต้องรับผิดอันมีผลโดยตรงจากมูลละเมิด ( ขับรถโดยประมาท ) article
จ่ายของสมนาคุณให้ลูกค้า โดยไม่ตรวจสอบบิลให้ถูกต้อง มิใช่ความผิดกรณีร้ายแรงไม่ใช่การทุจริตต่อหน้าที่ แต่ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เสร็จลุล่วงไปโดยถูกต้อง และสุจริต เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ฟ้องประเด็นละเมิด กระทำผิดสัญญาจ้าง ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง มีอายุความ 10 ปี article
ตกลงยินยอมให้หักค่าจ้างชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันเงินกู้ นายจ้างสามารถหักค่าจ้างได้ตามหนังสือยินยอมโดยไม่ต้องฟ้อง article
กระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้างและประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง article
“ งานโครงการตามมาตรา 118 วรรค 4 ” บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ว่าจ้างลูกจ้างทำงานตามโครงการที่รับเหมา ถือว่าจ้างงานในปกติธุรกิจของนายจ้าง มิใช่งานโครงการ article
เงินโบนัสต้องมีสภาพการเป็นพนักงานจนถึงวันกำหนดจ่าย ออกก่อนไม่มีสิทธิได้รับ article
ระเบียบกำหนดจ่ายเงินพิเศษ ( gratuity ) เนื่องจากเกษียณอายุ โดยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายแตกต่างจากการจ่ายค่าเชย ถือว่านายจ้างยังไม่ได้จ่ายค่าชดเยตามกฎหมาย article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด

เลขที่ 511/4 ถนนประชาอุทิศ 117/1 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร (10140)

โทร/Tel : 02 - 8159522, แฟกซ์/Fax : 02 - 8159523, มือถือ/Mobile : 081 - 7936156

อีเมล/E-mail : sawai.prm@gmail.com, เว็บไซต์/Web : www.parameelaw.com