รวบหนุ่มใหญ่ ร่วมตั้งบริษัทเถื่อน ตุ๋นแรงงาน
จับได้แล้วมิจฉาชีพสุโขทัย อ้างหางานขับรถบรรทุกได้ที่ลาว หลังเชิดค่าหัวคิวหนีกว่า 1.2 ล้าน รวมผู้เสียหายเกือบ 80 คน สารภาพเปิดอีกที่ใน จ.หนองคาย ตำรวจเร่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
จากกรณี นายแก้ว สายแดง อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 164/3 ม.3 ต.ไทยชนะศึก อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย พร้อมผู้เสียหายจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นชาวบ้านใน อ.ทุ่งเสลี่ยม เข้าร้องเรียนต่อจัดหางานจังหวัดสุโขทัย ว่า ถูกนายพลอย ปุ๊ดหน่อย อายุ 53 ปี บ้านเลขที่ 184/1 ม.9 ต.ไทยชนะศึก อ.ทุ่งเสลี่ยม อ้างเป็นนายหน้าของบริษัท เบสท์โฮมดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด สามารถจัดส่งไปทำงานขับรถบรรทุกที่ สปป.ลาวได้ และเรียกเก็บเงินค่าหัวคิวสูงถึงรายละ 15,000 บาท โดยมีชาวบ้านหลงเชื่อจ่ายเงินให้ไปแล้วหลายราย แต่ก็ยังไม่ได้ไปทำงานและพยายามบ่ายเบี่ยงมาตลอดนั้น
วันที่ 7 ก.พ. ที่ศาลากลาง จ.สุโขทัย นายวิษณุ สว่างทรัพย์ ปลัดจังหวัดสุโขทัย พร้อมนายศักดิ์สิทธิ์ สละชีพ จัดหางานจังหวัดสุโขทัย นายวาทิต ปัญญาคม นายอำเภอทุ่งเสลี่ยม และ พ.ต.อ.สมชาย ชำนิ ผกก.สภ.ทุ่งเสลี่ยม ร่วมแถลงข่าวการจับกุม นายวีระพันธ์ ป้อมอาษา อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 368 ซอยรังสิต-นครนายก 44 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เจ้าของบริษัทจัดหางานเถื่อน ชื่อ เบสท์โฮมดีเวลล็อปเม้นท์ จำกัด ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดสวรรคโลก
ในข้อหาร่วมกันจัดหางานให้คนหางาน เพื่อไปทำงานในต่างประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนกลาง และร่วมกันทำการรับสมัครเพื่อหาลูกจ้างในประเทศไทยด้วยตนเอง เพื่อไปทำงานในต่างประเทศ โดยไม่ได้รับอนุญาต
"เมื่อนำกำลังเข้าตรวจค้นเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา สามารถจับกุมพรรคพวกของนายวีระพันธ์ได้ 3 คน คือ นายสนั่น ยะด้วง นายผัด สามเมือง และนางชโลทร ต๊ะบรรจง อีกทั้งตรวจสอบพบว่าไม่มีใบอนุญาตจัดหางาน จึงควบคุมตัวผู้ต้องหามาสอบสวน เบื้องต้นให้การรับสารภาพ ซึ่งนอกจากที่สุโขทัยแล้ว ยังเปิดบริษัทจัดหางานเถื่อนอยู่ที่ จ.หนองคาย อีกแห่งหนึ่ง" เจ้าหน้าที่จัดหางาน จ.สุโขทัย ระบุ
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า จึงอนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดสวรรคโลก ก่อนเข้าจับกุมตัว นายวีระพันธ์ ได้บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว จ.หนองคาย ขณะเดินทางกลับเข้ามาในราชอาณาจักรไทย ช่วงเย็นวันที่ 5 ก.พ. แล้วนำตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.ทุ่งเสลี่ยม ตรวจสอบประวัติพบว่า นายวีระพันธ์ยังมีหมายจับอีก 5 คดี ทั้งคดีเช็ค, ทำร้ายร่างกายสาหัส และ พ.ร.บ.จัดหางาน ซึ่งจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สำหรับผู้เสียหายขณะนี้ มีเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์แล้ว จำนวน 79 ราย คิดเป็นเงิน 1,182,000 บาท.