พัฒนาคน พัฒนาชาติ: การรับงานไปทำที่บ้าน
จากนโยบายของ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์) ที่ให้ความสำคัญ เรื่อง การส่งเสริมให้คนไทยทุกคนมีงานทำ โดยให้ประชาชนมีงานทำที่เหมาะสมกับความรู้ความสามารถและตามความถนัดนั้น เพื่อสอดคล้องกับนโยบายดังกล่าว กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางาน ได้ดำเนินโครงการ การส่งเสริมการรับงานไป ทำงานที่บ้าน เป็นงานอีกรูปแบบหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ที่อยู่ที่บ้านสามารถมีงานทำมีรายได้ ซึ่งผมเห็นว่าเป็นโครงการที่น่าสนใจ มาเล่าสู่พี่น้องชาวไทยกันครับ
"การส่งเสริมการรับงานไปทำที่บ้าน" เป็นการจ้างงานรูปแบบหนึ่งที่ผู้จ้างได้ส่งงานไปให้ผู้รับงานไปทำที่บ้าน ซึ่งอาจจะเป็นรูปแบบรายบุคคล หรือกลุ่ม เพื่อทำการผลิต ประกอบ บรรจุ ซ่อม หรือแปรรูปผลิตภัณฑ์ และเมื่อทำงานเสร็จจะส่งคืนสิ่งของหรือผลิตภัณฑ์ให้กับผู้จ้าง โดยผู้รับงานไปทำที่บ้านจะได้รับค่าตอบแทนจากผู้จ้างงาน ซึ่งลักษณะของงานที่รับไปทำที่บ้านจะเป็นงานที่ไม่ใช้เทคโนโลยีซับซ้อนในการผลิต เรียนรู้ได้ง่าย ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ใช้แรงงานคนทำการผลิตมากกว่าเครื่องจักร และเป็นการผลิตในครัวเรือนเป็นส่วนใหญ่ ประเภทของการรับงานไปทำที่บ้าน มีทั้งประเภทงานที่ผลิตหรือประกอบขึ้นเพื่อใช้ภายในประเทศ หรือเพื่อการส่งออก เช่น การทำกระเป๋า รองเท้า วิกผม ตัดเย็บเสื้อผ้าสำเร็จรูป ดอกไม้ประดิษฐ์ เจียระไนพลอย ประกอบเครื่องหรืออุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นต้น
ผู้รับงานไปทำที่บ้าน แบ่งได้เป็น 2 รูปแบบคือ 1."ผู้รับงานไปทำที่บ้าน" ซึ่งหมายถึง บุคคล ซึ่งรับงานจากเจ้าของงานหรือผู้ซึ่งรับมอบงานจากเจ้าของงานไปผลิต ประกอบ บรรจุ ซ่อม หรือแปรรูปสิ่งของตามที่ได้ตกลงในบ้านของตนเอง หรือสถานที่ที่ไม่ใช่สถานประกอบกิจการของเจ้าของงานหรือผู้ซึ่งรับมอบงานจากเจ้าของเพื่อรับค่าจ้าง 2."กลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้าน" ซึ่งหมายถึง ผู้รับงานไปทำที่บ้านซึ่งรวมตัวกัน ไม่ต่ำกว่า 5 คน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรับงานประเภทเดียวกันไปทำที่บ้าน ซึ่งการรับงานไปทำที่บ้านในรูปแบบกลุ่มนี้ หากกลุ่มผู้รับงานดำเนินการไปแล้วแต่ขาดเงินหมุนเวียนเพื่อซื้อวัตถุดิบหรือต้องการขยายกิจการ สามารถขอกู้เงินจาก กองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน เพื่อนำไปใช้ในการดำเนินการได้
"กองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน" เป็นกองทุนหมุนเวียนในการให้ผู้รับงานไปทำที่บ้านได้กู้ยืมไปซื้อวัตถุดิบและอุปกรณ์ในการผลิต หรือขยายการผลิตเพื่อสร้างอาชีพและสร้างรายได้ให้กับผู้รับงานไปทำที่บ้าน โดยคุณสมบัติเบื้องต้นของผู้กู้คือ ต้องเป็นกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้านที่ได้จดทะเบียนไว้กับกรมการจัดหางาน มีการบริหารจัดการที่ชัดเจนและมีการดำเนินการร่วมกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือน มีทรัพย์สินหรือเงินทุนรวมกันไม่น้อยกว่า 10,000 บาท รวมทั้งมีสถานประกอบการที่สามารถติดต่อได้ วงเงินการให้กู้ ตั้งแต่ 50,000 จนถึง 200,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อปี ระยะเวลาพักชำระหนี้เงินต้นไม่เกิน 4 เดือน
ปัจจุบันมีกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้านมาจดทะเบียนกับกรมการจัดหางานแล้ว จำนวน 537 กลุ่ม มีจำนวนสมาชิก 5,749 คน จำนวนนายจ้าง/สถานประกอบการที่ปล่อยงานให้กับผู้รับงานไปทำที่บ้าน จำนวน 344 แห่ง โดยตั้งแต่ปี 2548-2557 มีกลุ่มผู้รับงานไปทำที่บ้านกู้เงินกับกองทุนฯ จำนวนทั้งสิ้น 202 กลุ่ม มีกลุ่มที่อยู่ระหว่างการผ่อนชำระ จำนวน 100 กลุ่ม จะเห็นได้ว่า การรับงานไปทำที่บ้านเป็นการจ้างงานนอกระบบรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความสนใจจากประชาชนชาวไทย ที่ช่วยให้ผู้ที่อยู่ที่บ้านสามารถมีงานทำมีรายได้และมีความสุขที่ทำงานอยู่ในครอบครัวตัวเอง ซึ่งเป็นงานอย่างหนึ่งที่สำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทยเราครับ