หม้อต้มบึ้ม รง.พินาศถังเหล็กยักษ์ร้อนจนแตกแรงงานไทย-พม่าเจ็บ22ธุรกิจฟอกย้อมสีพัง10ล.
เกิดเหตุระทึกขวัญ! หม้อต้มไอน้ำขนาดยักษ์โรงงานฟอกย้อมสีย่านปากน้ำ ระเบิดตูมเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ถังเหล็กขนาดยักษ์แตกกระจายฉีกขาด
ส่งผลให้โรงงานพังพินาศ คนงานนับสิบกระเด็นไปคนละทิศได้รับบาดเจ็บระนาว แรงระเบิดทำให้ห้องพักคนงานพม่าถูกแรงอัดพังไปอีก 7 ห้อง มีคนงานไทย-พม่าได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 22 คน ตำรวจระดมเจ้าหน้าที่กู้ภัย และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าช่วยเหลือทันที เบื้องต้นพบสาเหตุจากความชุ่ย ปล่อยให้น้ำในหม้อต้มแห้ง จนเกิดความร้อนและระเบิดรุนแรงจนหวิดตายหมู่ ส่วนค่าเสียหายไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท ล่าสุดตำรวจยังไม่แจ้งข้อหาเจ้าของโรงงาน รอสอบพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุก่อน
เหตุการณ์รายนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 17 ส.ค.57 ร.ต.ท.ชัยณเรศ สุพร พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งเหตุถังต้มน้ำขนาดใหญ่ระเบิดมีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดภายในบริษัท วงศ์พสิษฐ์ การพิมพ์ จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 50 หมู่ 14 ถ.ท้ายบ้าน ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.พัลลภ แอร่มหล้า ผกก.สภเมืองสมุทรปราการ หน่วยกู้ชีพ และรถดับเพลิงจากหลายหน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือและระงับเหตุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เกิดเหตุเป็นโรงงานประกอบธุรกิจประเภทฟอกย้อมผ้า มีรั้วรอบขอบชิด ตั้งอยู่บนเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ภายในโรงงาน แบ่งเป็นพื้นที่ส่วนทำสี เก็บผ้า และเครื่องทำความร้อน โดยบริเวณโกดังติดกับโรงงานย้อมผ้า พบถังบอยเลอร์หรือหม้อต้มน้ำขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 เมตร ยาว 5 เมตร ใช้สำหรับต้มน้ำเพื่อนำไอน้ำไปเข้ากระบวนการย้อมผ้า เกิดใช้สำหรับต้มน้ำเพื่อนำไอน้ำไปเข้ากระบวนการย้อมผ้า เกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงจนได้รับความเสียหาย
นอกจากนี้จากแรงระเบิดยังส่งผลให้โรงงานพังพินาศยับเยิน หลังคากระเบื้องแตกเสียหายเป็นวงกว้าง กำแพงปูนแตกจนโครงสร้างหลังคาหักพังล้มลงมา และยังมีรถบรรทุกซึ่งจอดอยู่ได้รับความเสียหายอีก 1 คัน ขณะเดียวกันเหตุการณ์ในครั้งนี้ยังส่งผลให้บ้านพักของบรรดาแรงงานต่างด้าว ในชุมชนคลองกะลาวน ที่ปลูกอยู่ข้างกับโรงงานที่เกิดเหตุ ถูกแรงระเบิดพังพินาศไปอีก 7 ห้อง
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้นทราบว่ามีจำนวน 21 ราย ส่วนใหญ่เป็นแรงงานชาวพม่า ในจำนวนนี้มีอาการสาหัส 5 ราย ประกอบด้วย 1.นายนำโชค แก้วชาด อายุ 19 ปี ชาวไทย 2.นายแดง อายุ 28 ปี ชาวพม่า 3.นายจอ อายุ 30 ปี ชาวพม่า และยังไม่ทราบชื่อ อีก 2 ราย เป็นหญิงอายุ 30 ปี 1 ราย กับชาย อายุ 30 ปี 1 ราย ถูกนำส่ง รพ. สมุทรปราการไปก่อนหน้านี้
นายเจษฎากร ศิริเวช อายุ 17 ปี พนักงานของบริษัทดังกล่าวให้การว่า ขณะที่ตนพร้อมเพื่อนร่วมงานทั้งชาวไทยและชาวพม่า กำลังทำงานอยู่ที่ห้องย้อมสี ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร พลันก็ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่นมาจากโกดังในส่วนทำไอน้ำ และมีเศษชิ้นส่วนกระเด็นเข้ามาบริเวณที่ตนทำงานอยู่ จึงพากันวิ่งหนีตายเอาตัวรอด พนักงานบางส่วนได้เข้าไปช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บที่นอนเกลื่อนพื้นหลายคน พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ทราบและนำส่งโรงพยาบาล
ด้าน พ.ต.อ.พัลลภ แอร่มหล้า ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นถึงสาเหตุการระเบิดครั้งนี้ คาดว่าระหว่างที่เครื่องกำลังทำงานอยู่นั้น หม้อน้ำของถังบอยเลอร์อาจจะแห้ง บวกกับถังต้มมีสภาพเก่า อาจจะเป็นสาเหตุให้เกิดการระเบิดในครั้งนี้ จะได้ให้เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานเข้าไปตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งเพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงต่อไป ส่วนค่าเสียหายเบื้องต้นคาดว่าไม่ต่ำกว่า 20 ล้านบาท
ส่วน ร.ต.อ.ชัยณเรศ สุพร ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ เปิดเผยว่า โรงงานดังกล่าวประกอบกิจการย้อมผ้าและพิมพ์ผ้า ก่อนเกิดเหตุมีคนงานกำลังทำงานอยู่ประมาณ 10 คน โดยจุดเกิดเหตุเป็นหม้อหุงต้มน้ำร้อนขนาดใหญ่ ชื่อสตรีมวอยเล่อร์ สำหรับย้อมผ้าได้เกิดระเบิดขึ้น แรงระเบิดทำให้ตัวโรงงานพังได้รับความเสียหาย และคนงานที่กำลังทำงานและกำลังนอนพักผ่อนอยู่ที่ห้องพักได้รับบาดเจ็บ โดยทางคดียังไม่ได้แจ้งข้อหาใดๆ แก่นายจ้าง โดยจะเชิญตัวมาสอบสวนร่วมกับคนงานที่บาดเจ็บภายหลัง
ส่วนสาเหตุเบื้องต้นทราบว่า น้ำในหม้อหุงต้มแห้งจนเกิดความร้อนและเกิดแรงอัดจนระเบิดขึ้น จึงได้ประสานแจ้งเจ้าหน้าที่วิทยาการเข้าตรวจสอบสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง
ด้านนายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ ปลัดกระทรวงแรงงาน (รง.) กล่าวถึงความช่วยเหลือแรงงานไทย และต่างด้าวโรงงานย้อมสีผ้า จ.สมุทรปราการ ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุหม้อต้มน้ำระเบิด 22 คนว่า ได้สั่งการให้สำนักงานประกันสังคม (สปส.) ช่วยเหลือ โดยจะช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แรงงานที่บาดเจ็บ ตามที่จ่ายจริงไม่เกินคนละ ประกันสังคม (สปส.) ช่วยเหลือ โดยจะช่วยจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้แรงงานที่บาดเจ็บ ตามที่จ่ายจริงไม่เกินคนละ 3 แสนบาท และเงินทดแทนการขาดรายได้ เนื่องจากหยุดงานเพื่อพักรักษาตัว โดยเป็นไปตามระยะเวลาการรักษาตั้งแต่ 3 วันขึ้นไปถึง 1 ปี จะได้รับเงินทดแทน ร้อยละ 60 ของค่าจ้าง ในส่วนของแรงงานที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกองทุนเงินทดแทนแล้ว ก็จะนำเงินกองทุนมาจ่ายเพื่อช่วยเหลือได้ทันที
ทั้งนี้ หากแรงงานคนใดยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับกองทุนก็จะให้ สปส. ดำเนินการออกคำสั่งให้นายจ้างจ่ายเงินช่วยเหลือตามสิทธิที่ได้รับจากกองทุน และขณะนี้ สปส.กำลังตรวจสอบว่าแรงงานทั้ง 22 คน ได้รับการขึ้นทะเบียนไว้กับกองทุนเงินทดแทนทั้งหมดหรือไม่ โดยวันนี้จะไปดูที่เกิดเหตุหม้อน้ำระเบิด และเยี่ยมแรงงานที่บาดเจ็บ ที่โรงพยาบาลสมุทรปราการด้วย
ระเบิด...ตำรวจเข้าตรวจสอบ โรงงานย้อมผ้า บริษัท วงศ์พสิษฐ์ การพิมพ์ จำกัด ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 50 หมู่ 14 ถ.ท้ายบ้าน ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ที่เกิดเหตุหม้อไอน้ำขนาดใหญ่ระเบิดจนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นแรงงานชาวพม่า