ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ชมรมบริหารงานบุคคล
dot
bulletสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย
bulletชมรมบริหารงานบุคคล
bulletชมรมบริหารงานบุคคล อยุธยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลรังสิต
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคล อมตะนคร
bulletสมาคมการบริหารงานบุคคล (PAAs)
bulletชมรมบริหารงานบุคคลบางพลี
bulletชมรมนักบริหารงานบุคคลพัทยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลยุคใหม่
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคลจังหวัดราชบุรี
bulletงานบริหารงานบุคคล
bulletชมรมงานบริหารงานบุคคลกรุงเทพฯ
bulletชมรมบริหารงานบุคลสุขสวัสดิ์
dot
ติดต่อราชการศาล
dot
bulletศาลแรงงานกลาง
bulletศาลแรงงานภาค ๒
bulletศาลยุติธรรม
bulletศาลปกครอง
bulletศาลรัฐธรมนูญ
bulletสำนักงานอัยการสูงสุด
bulletกระทรวงยุติธรรม
bulletคณะกรรมการกฤษฎีกา
bulletกรมบังคับคดี
bulletสภาทนายความ
dot
หน่วยงานราชการสำคัญ
dot
bulletกระทรวงแรงงาน
bulletกรมการจัดหางาน
bulletกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
bulletกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
bulletสำนักงานประกันสังคม
bulletกรมสรรพากร
bulletกรมบัญชีกลาง
bulletกรมพัฒนาธุรกิจกาค้า
bulletกระทรวงอุตสาหกรรม
bulletกรมโรงงานอุตสาหกรรม
bulletกรมส่งเสริมอุตสาหรม
bulletการนิคมอุตสาหกรรม
dot
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน
dot
bulletสมบัติลีกัล
bulletเอกเซลสำหรับงาน HR โดย อ.สำเริง
bulletบทความดี ๆ จากโกป้อม
dot
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
dot
dot
Newsletter

dot


พยากรณ์อากาศวันนี้
..................................


ราคาน้ำมันวันนี้
..................................



เงินจ่ายเพื่อตอบแทนความชอบในการทำงาน เนื่องจากออกจากงานเพราะเกษียณอายุไม่ถือเป็นค่าจ้าง เรียกดอกเบี้ยได้ร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันครบกำหนดทวงถาม และศาลพิพากษาเกินคำขอไม่ได้หากมิใช่เหตุเพื่อความเป็นธรรมแก่คู่ความตาม วิ แรงงานฯ มาตรา 52 article

             พิพากษาคำฎีกาที่ 975/56

เงินจ่ายเพื่อตอบแทนความชอบในการทำงาน  เนื่องจากออกจากงานเพราะเกษียณอายุไม่ถือเป็นค่าจ้าง  เรียกดอกเบี้ยได้ร้อยละ  7.5  ต่อปี  นับแต่วันครบกำหนดทวงถาม  และศาลพิพากษาเกินคำขอไม่ได้หากมิใช่เหตุเพื่อความเป็นธรรมแก่คู่ความตาม  วิ  แรงงานฯ  มาตรา  52

                                โจทก์ฟ้องว่า  จำเลยเป็นนิติบุคคลและเป็นรัฐวิสาหกิจตามพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้  พ.ศ.  2499  สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  โจทก์เคยเป็นพนักงานของจำเลย  ตำแหน่งสุดท้ายเป็นผู้จัดการกลุ่มงานพืชสมุนไพรและพืชธัญญาหารเชียงใหม่  อัตราเงินเดือนสุดท้าย  51,410  บาท  จำเลยมีคำสั่งให้โจทก์พ้นจากงานเนื่องจากเกษียณอายุโดยให้มีผลตั้งแต่วันที่  1  ตุลาคม  2548  โดยให้ได้รับเงินเพื่อตอบแทนความชอบในการทำงานเท่ากับ  8  เท่า  ของเงินเดือนสุดท้าย  เป็นเงิน  411,280  บาท  จำเลยไม่จ่ายเงินดังกล่าวให้โจทก์ทันที  โจทก์ทวงถามแล้ว  จำเลยจึงจ่ายให้เมื่อวันที่  11  สิงหาคม  2549  เป็นการผิดนัดชำระหนี้  ซึ่งต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ  15  ต่อปี  นับแต่วันที่  1  ตุลาคม  2548  ถึงวันที่  1  สิงหาคม  2549  เป็นเวลา  10  เดือน  เป็นเงิน  51,410  บาท  ในปี  2547  โจทก์ได้รับค่าจ้างอัตราเดือนละ  44,020  บาท  ในวันที่  1   เมษายน  2547  โจทก์ได้รับการปรับค่าจ้างเพิ่มขึ้นร้อยละ  3  และเลื่อนอัตราค่าจ้างอีก  2  ขั้น  ทำให้โจทก์จะต้องได้รับเงินเดือนๆละ  51,410  บาท  จำเลยไม่จ่ายค่าจ้างอัตราใหม่ทันที  แต่จ่ายค่าจ้างอัตราใหม่ให้ในเดือนธันวาคม  2547  ส่วนที่ค้างจ่างนั้นจำเลยเบิกจ่ายให้เป็นครั้งคราวไม่ครบจำนวนเงินตกเบิกทั้งหมด  การเบิกจ่ายเงินเช่นนี้ทำให้โจทก์เสียหาย  จำเลยต้องจ่ายเงินค่าจ้างตกเบิกที่ยังคงค้างของเดือนมิถุนายนถึงเดือนพฤศจิกายน  2547  รวม  6  เดือน  เป็นเงิน  44,340  บาท  นอกจากนี้โจทก์ยังต้องเสียผลประโยชน์จากจากที่จำเลยไม่จ่ายเงินสมทบร้อยละ  10  ของเงินเดือนตกเบิกที่คงค้างโจทก์เป็นเงิน  4,434  บาท  เข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ  โดยคิดเป็นดอกเบี้ยร้อยละ  15  ต่อปี  ขอให้บังคับจำเลยชำระดอกเบี้ยของเงินตอบแทนความชอบในการทำงานจำนวน  51,410  บาท  ค่าจ้างตกเบิกจำนวน  44,340  บาท  พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ  15  ต่อปี  นับแต่วันที่  1  มิถุนายน  2547  และดอกเบี้ยร้อยละ  15  ต่อปี  ของต้นเงิน  4,434  บาท  นับแต่วันที่  1  มิถุนายน  2547

 
 

                             จำเลยให้การว่า  การจ่ายเงินตอบแทนความชอบในการทำงานล่าช้าเพราะจำเลยปรับปรุงการปฏิบัติงานทางด้านบัญชีและการเงินและไม่มีกฎหมายให้เรียกดอกเบี้ยได้  โจทก์ได้รับเงินเดือนตกเบิกค้างจ่ายไปแล้ว  2  ครั้ง  แล้วปฏิเสธไม่ยอมรับอีก  การฟ้องเรียกเอาดอกเบี้ยอีกจึงเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริต  โจทก์ไม่ยอมรับเงินเดือนตกเบิกค้างจ่ายเองจึงทำให้เรียกดอกเบี้ยในเงินสมทบไม่ได้  ขอให้ยกฟ้องจ่ายครั้งเดียวเป็นเงินจำนวน  44,240  บาท  พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ  15  ต่อปี  นับแต่วันที่  28  ธันวาคม  2547  เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ  ให้จำเลยจ่ายดอกเบี้ยให้โจทก์ในอัตราร้อยละ  15  ต่อปี  ของต้นเงินค่าตอบแทนความชอบจำนวน  411,280  บาท  นับแต่วันที่  4  ตุลาคม  2548  จนถึงวันที่  11  สิงหาคม  2549  กับให้จำเลยจ่ายเงินสมทบให้โจทก์อีกจำนวน  4,424  บาท  พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 7.5  ต่อปี  นับแต่วันฟ้อง  ( ฟ้องวันที่  11  กันยายน  2549 )  เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

 
 
                                  จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
 
 

                                ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว  คดีนี้คู่ความแถลงรับข้อเท็จจริงว่า  คณะกรรมการจำเลยมีมติเมื่อวันที่  13  ธันวาคม  2547  เห็นชอบตามมติของคณะรัฐมนตรีที่ให้ปรับอัตราค่าจ้างพนักงานรัฐวิสาหกิจที่ให้มีผลตั้งแต่วันที่  1  เมษายน  2547  เป็นต้นไป  ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมพัฒนาพืชสมุนไพรและพืชธัญญาหาร  สั่งการเมื่อวันที่  28  ธันวาคม  2549  ให้ปรับเงินในอัตราใหม่  เมื่อวันที่  13  พฤษภาคม  2548  ผู้อำนวยการของจำเลยมีคำสั่งให้จ่ายเงินเดือนตกเบิกของเดือนเมษายนและเดือนพฤษภาคม  2547  เมื่อเดือนสิงหาคม  2547  โจทก์ปฏิเสธไม่รับเงินเดือนตกเบิกของเดือนมิถุนายน  2547  โจทก์ยังไม่ได้รับเงินเดือนตกเบิกของเดือนมิถุนายนถึงเดือนพฤศจิกายน  2547  เป็นเงิน  44,340  บาท  โจทก์ได้รับเงินเพื่อตอบแทนความชอบในการทำงานเมื่อวันที่  11  สิงหาคม  2549  เป็นเงิน  411,280  บาท  โดยไม่ได้รับดอกเบี้ย  แล้วคู่ความแถลงไม่ติดใจสืบพยาน  ขอให้ศาลแรงงานภาค  5  วินิจฉัยประเด็นเฉพาะตามที่แถลง  รายละเอียดปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาลงวันที่  30  พฤศจิกายน  2549    ของศาลแรงงานภาค  5 

 
 

                             คดีมีปัญหาตามอุทธรณ์ของจำเลยว่า  จำเลยจะต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ  15  ต่อปี  ในส่วนของเงินค่าจ้างค้างจ่ายและเงินตอบแทนความชอบในการทำงานตามคำพิพากษาของศาลแรงงานภาค  5  หรือไม่  ในปัญหานี้ศาลแรงงานภาค  5  วินิจฉัยว่าจำเลยต้องเบิกจ่ายเงินเดือนตกเบิกซึ่งเป็นค่าจ้างให้ถูกต้องและต้องเบิกจ่ายให้โจทก์ทั้งหมดในคราวเดียว  ซึ่งผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมพัฒนาพืชสมุนไพรและพืชธัญญาหารมีคำสั่งให้ปรับเงินเดือนในวันที่  28  ธันวาคม  2547  ซึ่งเป็นวันที่จำเลยจะเบิกจ่ายได้  จำเลยจะต้องเสียดอกเบี้ยตั้งแต่วันดังกล่าว  ส่วนเงินเพื่อตอบแทนความชอบในการทำงานเป็นค่าจ้าง  จำเลยมีหน้าที่ต้องจ่ายให้โจทก์ภายใน  3  วัน  นับแต่วันที่เลิกจ้าง  เมื่อจำเลยเลิกจ้างโจทก์วันที่  1  ตุลาคม  2548  จำเลยต้องเสียดอกเบี้ยนับแต่วันที่  4  ตุลาคม  2548  โดยประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์  เรื่อง  มาตรฐานขั้นต่ำของสภาพการจ้างในรัฐวิสาหกิจ  ข้อ  7  กำหนดให้นายจ้างต้องเสียดอกเบี้ยให้แก่ลูกจ้างในระหว่างผิดนัดไม่จ่ายค่าจ้าง  จำเลยจึงต้องเสียดอกเบี้ย  และที่โจทก์ฟ้องเรียกดอกเบี้ยมาในอัตราร้อยละ  15  ต่อปี  เห็นว่าเหมาะสมแล้ว  โดยจำเลยอุทธรณ์ว่าจำเลยจะต้องรับผิดชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ  7.5  ต่อปี  ในกรณีผิดนัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  มาตรา  224  เนื่องจากตามพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์  พ.ศ.  2543  และประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์  เรื่อง  มาตรฐานขั้นต่ำของสภาพการจ้างในรัฐวิสาหกิจ  ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับแก่รัฐวิสาหกิจโดยเฉพาะไม่ได้กำหนดการคิดคำนวณอัตราดอกเบี้ยเมื่อมีการผิดนัดไว้  เห็นว่า  เมื่อจำเลยเป็นรัฐวิสาหกิจตามกฎหมายว่าด้วยแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์  จึงไม่อยู่ในบังคับของพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน  พ.ศ.  2541  แต่ต้องอยู่ภายใต้บังคับของพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์  พ.ศ.  2543  และประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์  เรื่อง  มาตรฐานขั้นต่ำของสภาพการจ้างในรัฐวิสาหกิจ  ซึ่งมิได้มีบทบัญญัติเรื่องอัตราดอกเบี้ยในกรณีผิดนัดไม่จ่ายเงินค่าจ้างค้างจ่ายและเงินเพื่อตอบแทนความชอบในการทำงานเอาไว้  ดังนั้นโจทก์จึงมีสิทธิเรียกดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดจากจำเลยได้เพียงอัตราร้อยละ  7.5  ต่อปี  ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  มาตรา  224  วรรคหนึ่ง  เท่านั้น  ที่ศาลแรงงานภาค  5 วินิจฉัยให้จำเลยรับผิดชำระดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดอัตราร้อยละ  15  ต่อปี  ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา  อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น  สำหรับเงินเพื่อตอบแทนความชอบในการทำงานที่พนักงานรัฐวิสาหกิจได้รับเนื่องจากออกจากตำแหน่งเพราะเหตุเกษียณอายุ  โดยกำหนดจากระยะเวลาปฏิบัติงานในช่วงก่อนเกษียณอายุตามประกาศคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์  เรื่อง  มาตรฐานขั้นต่ำของสภาพการจ้างในรัฐวิสาหกิจ  ข้อ  61  ไม่ใช่เงินที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างเป็นค่าตอบแทนการทำงานในวันและเวลาทำงานปกติ  จึงไม่ใช่  "ค่าจ้าง"  ตามข้อ  4  ที่  นายจ้างต้องจ่ายให้แก่ลูกจ้างภายใน  3  วัน  นับแต่วันที่เลิกจ้างตามข้อ  44  วรรคสอง  ลูกจ้างต้องทวงถามก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  มาตรา  204  วรรคหนึ่ง  โจทก์ทวงถามให้จำเลยชำระเงินดังกล่าวภายในวันที่  30  พฤศจิกายน  2548  แต่จำเลยชำระให้โจทก์วันที่  11  สิงหาคม  2549  จำเลยจึงต้องชำระดอกเบี้ยให้โจทก์นับแต่วันที่  1  ธันวาคม  2548  ถึงวันที่  10  สิงหาคม  2549  แต่โจทก์ขอคิดดอกเบี้ยถึงวันที่  1  สิงหาคม  2549  ที่ศาลแรงงานภาค  5  วินิจฉัยว่าเงินเพื่อตอบแทนความชอบในการทำงานเป็นค่าจ้างและให้จำเลยชำระดอกเบี้ยนับแต่วันที่  4  ตุลาคม  2548  ถึงวันที่  11  สิงหาคม  2549  นั้น  ไม่ชอบ  ศาลฎีกาเห็นควรแก้ไขให้ถูกต้อง

 
 

                             อนึ่ง  ที่ศาลแรงงานภาค  5  พิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าจ้างค้างจ่ายเป็นเงิน  44,240  บาท  นั้น  ไม่ถูกต้อง  เนื่องจากคดีนี้คู่ความแถลงรับข้อเท็จจริงแล้วว่าค่าจ้างค้างจ่ายเป็นเงิน  44,340  บาท  กับที่พิพากษาให้จำเลยจ่ายเงินสมทบให้โจทก์อีกเป็นเงิน  4,424  บาท  ก็ไม่ถูกต้อง  เนื่องจากโจทก์ฟ้องและมีคำขอบังคับให้จำเลยจ่ายผลประโยชน์จากการที่จำเลยไม่จ่ายเงินสมทบส่วนของโจทก์เข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ  โดยขอคิดเป็นดอกเบี้ย  ดังนั้น  คำพิพากษาที่ให้จำเลยจ่ายเงินสมทบให้โจทก์จึงเป็นการพิพากษาเกินไปกว่าที่ปรากฏในคำฟ้องและมิใช่เพื่อความเป็นธรรมแก่คู่ความ  จึงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน  พ.ศ.  2522  มาตรา  52  ซึ่งปัญหาดังกล่าวข้างต้นเป็นข้อกฎหมายอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน  ศาลฎีกาเห็นสมควรยกขึ้นวินิจฉัยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง  มาตรา  142  (5)  และมาตรา  246  ประกอบพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน  พ.ศ.  2522  มาตรา  31 

 
 

                           พิพากษาแก้เป็นว่า  ให้จำเลยชำระค่าจ้างค้างจ่ายเป็นเงิน  44,340  บาท  พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ  7.5  ต่อปี  นับแต่วันที่  28  ธันวาคม  2547  เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ  ชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ  7.5  ต่อปี  จากต้นเงินสมทบจำนวน  4,434  บาท  นับแต่วันฟ้อง      ( ฟ้องวันที่  11  กันยายน  2549 )  เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์  ให้ยกคำพิพากษาศาลแรงงานภาค  5  ที่ให้จำเลยจ่ายเงินสมทบให้โจทก์เป็นเงิน  4,424  บาท                                         

 




อัพเดท ฎีกาน่าสนใจ

ขึ้นทะเบียนรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเกิน ๓๐ วัน ยังมีสิทธิได้รับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานได้ article
ลักษณะความผิดเดียวกัน แต่ระดับความร้ายแรงแตกต่างกัน นายจ้างพิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ผู้จัดการสาขา เสนอรายชื่อลูกค้าที่ขาดคุณสมบัติทำประกันชีวิต ถือว่าจงใจทำให้นายจ้างเสียหาย / ผิดร้ายแรง article
หยุดกิจการชั่วคราวตาม มาตรา ๗๕ article
สัญญาจ้างเป็นสัญญาต่างตอบแทน นายจ้างออกค่าใช้จ่ายในการเข้าทดสอบเพื่อรับเกียรติบัตร เมื่อทดสอบผ่านต้องทำงานกับนายจ้าง ๕ ปี บังคับใช้ได้ article
ศาลแรงงานกลางมีอำนาจสั่งรับพยานเอกสารได้ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม article
ประกอบธุรกิจแข่งขัน / ไปทำงานกับนายจ้างอื่น ในลักษณะผิดต่อสัญญาจ้าง เมื่อลูกจ้างได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้างตามสัญญาแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะบังคับ / ห้ามทำงานตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างอีกต่อไป article
คดีแรงงานเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้คดีอาญายกฟ้อง แต่พฤติกรรมการกระทำผิด เป็นเหตุให้นายจ้างไม่อาจไว้วางใจในการทำงานได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
เลิกจ้างเนื่องจากปรับโครงสร้างองค์กร แต่กำหนดรายชื่อไว้ล่วงหน้า ถือเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม article
การหักลบกลบหนี้ หนี้อันเกิดจากสัญญาจ้าง กรณีลูกจ้างกระทำผิดกับสิทธิประโยชน์ที่มีสิทธิได้รับตามสัญญาจ้าง ถือเป็นมูลหนี้อันเป็นวัตถุอย่างเดียวกันหักลบกลบหนี้กันได้ article
เล่นการพนันฉลากกินรวบ เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน กรณีร้ายแรง article
กรณีไม่ถือเป็นการประกอบธุรกิจแข่งขันหรือไม่ถือว่าทำงานกับนายจ้างใหม่ในลักษณะธุรกิจเดียวกับนายจ้าง article
สัญญาฝึกอบรม นายจ้างกำหนดเบี้ยปรับได้ เป็นสัญญาที่เป็นธรรม article
ค้ำประกันการทำงาน หลักประกันการทำงาน การหักลบกลบหนี้ค่าเสียหายจากการทำงาน article
ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์แต่ตนเอง เรียกรับเงินจากลูกค้า ถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ article
ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา มาทำงานสายประจำ ถือว่า กระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สหภาพแรงงานทำบันทักข้อตกลงเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างกับนายจ้าง อันส่งผลกระทบต่อสิทธิหน้าที่ของสมาชิก ขัดกับข้อตกลงเดิมและมิได้ขอมติที่ประชุมใหญ่ ข้อตกลงดังกล่าวไม่อาจใช้บังคับได้ article
ขอเกษียณอายุก่อนกำหนดตามประกาศ ถือเป็นการสมัครใจเลิกสัญญาจ้างแรงงานต่อกัน มิใช่การเลิกจ้างหรือการเกษียณอายุ จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยตามระเบียบกรณีเกษียณอายุ article
สถาบันวิจัยอันเป็นส่วนหนึ่งของกิจการมหาวิทยาลัยถือเป็นหน่วยงานของรัฐ ได้รับยกเว้น ไม่อยู่ภายใต้บังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา ๔ (๑) article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า จากการเลิกจ้างมีอายุความฟ้องร้องได้ภายใน ๑๐ ปี article
ทะเลาะวิวาทเรื่องส่วนตัวไม่ส่งผลกระทบต่อการบังคับบัญชา ไม่เป็นความผิด กรณีร้ายแรง ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ article
พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน มิใช่ทายาทผู้มีสิทธิรับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ และเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ตามพระราชบัญญัติ ประกันสังคม มาตรา ๗๓ และมาตรา ๗๗ article
ขับรถเร็วเกินกว่าข้อบังคับกำหนด เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนคำสั่งโยกย้าย เลิกจ้างได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ประกาศใช้ระเบียบใหม่ ไม่ปรากฏว่ามีพนักงานโต้แย้งคัดค้าน ถือว่าทุกคนยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ article
เงินค่าตอบแทนพิเศษกับเงินโบนัส มีเงื่อนไขต่างกัน หลักเกณฑ์การจ่ายต่างกัน จึงต้องพิจารณาต่างกัน article
ทายาทผู้มีสิทธิได้รับเงินกองทุนเงินทดแทน article
ค่ารถแทนรถยนต์ประจำตำแหน่ง ไม่ถือเป็นค่าจ้าง และ ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสมให้ถือตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานที่กำหนดไว้ article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างไม่ตกลง ขอเวลาตัดสินใจและหยุดงานไป นายจ้างแจ้งให้กลับเข้าทำงานตามปกติ ถือว่านายจ้างยังไม่มีเจตนาเลิกจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ แอบนอนหลับในเวลาทำงาน ถือเป็นเหตุในการเลิกจ้างได้ เลิกจ้างเป็นธรรม article
ลาออกโดยไม่สุจริต ไม่มีผลใช้บังคับ article
ทำความผิดคล้ายคลึงกันแต่ไม่เหมือนกัน พิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ประกอบธุรกิจ บริการ ด่าลูกค้าด้วยถ้อยคำหยาบคาย " ควาย " ถือเป็นการกระทำความผิดกรณีร้ายแรง article
ข้อบังคับ ระบุให้ผู้บังคับบัญชาเหนือกว่ามีอำนาจแก้ไข เพิ่มโทษ หรือลดโทษได้ การยกเลิกคำสั่งลงโทษเดิมและให้ลงโทษใหม่หนักกว่าเดิมจึงสามารถทำได้ article
เลือกปฏิบัติในการลงโทษระเบียบการห้ามใส่ตุ้มหูมาทำงาน บังคับใช้ได้ แต่เลือกปฏิบัติในการลงโทษไม่ได้ article
ลงโทษพักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างและเตือนในคราวเดียวกันได้ ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน article
จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย article
ข้อตกลงรับเงินและยินยอมปลดหนี้ให้แก่กัน ถือเป็นการตกลงระงับข้อพิพาทแม้จะทำขึ้นก่อนคำสั่งเลิกจ้างมีผลใช้บังคับ article
ศาลแรงงานมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานที่คู่ความอ้างส่งศาลได้ แม้มิได้ระบุบัญชีพยานไว้ก็ตาม article
สัญญาจ้างห้ามลูกจ้างไปทำงานกับนายจ้างใหม่ที่ประกอบธุรกิจเช่นเดียวกันมีกำหนดเวลา บังคับใช้ได้ article
เลิกจ้างและรับเงินค่าชดเชย ใบรับเงิน ระบุขอสละสิทธิ์เรียกร้องเงินอื่นใดใช้บังคับได้ ลูกจ้างไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องสินจ้างและค่าเสียหายได้อีก article
เกษียณอายุ 60 ปี ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยนับแต่วันครบกำหนดเกษียณอายุ แม้นายจ้างไม่ได้บอกเลิกจ้างก็ตาม article
ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องและเพิกเฉยไม่ดูแลผลประโยชน์ของนายจ้าง เป็นเหตุให้นายจ้างไม่ไว้วางใจในการทำงานได้เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ละเลยต่อหน้าที่ ไม่รายงานเคพีไอ นายจ้างตักเตือนแล้ว ถือว่าผิดซ้ำคำเตือน เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ทำสัญญาจ้างต่างด้าวทำงานในอาชีพต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว สัญญาจ้างถือเป็นโมฆะ article
ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง article
ศาลมีคำสั่งให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษาตามหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน ในขณะที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ยุติ ต้องสืบพยานใหม่และพิพากษาใหม่ไปตามรูปคดี article
แม้สัญญาจ้างไม่ได้ระบุระยะเวลาทดลองงานไว้ แต่นายจ้างก็สามารถประเมินผลการทำงานของลูกจ้างได้ article
การควบรวมกิจการ สิทธิและหน้าที่โอนไปเป็นของบริษัทใหม่ การจ่ายเงินสมทบบริษัทใหม่ที่ควบรวมจึงมีสิทธิจ่ายเงินสมทบในอัตราเดิมตามสิทธิ มิใช่ในอัตราบริษัทตั้งใหม่ article
เลิกจ้างรับเงินค่าชดเชยแล้วตกลงสละสิทธิ์จะไม่เรียกร้องผละประโยชน์ใดๆ ถือว่าสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเป็นอันระงับไป article
รับเหมาก่อสร้าง ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบ จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมแทนผู้รับเหมาช่วง หากผู้รับเหมาช่วงไม่นำส่งเงินสมทบตามกฎหมายโดยคำนวณจากอัตราค่าจ้างที่ระบุตามแบบ ( ภ.ง.ด. 50 ) และบัญชีงบดุล article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานระบุห้ามทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกาย ผู้บังคับบัญชา เพื่อนพนักงาน ทั้งในสถานที่ทำงาน หรือสถานที่อื่นๆ ฝ่าฝืนถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง ใช้บังคับได้ไม่ขัดต่อกฎหมาย article
ไส้ติ่งอักเสบ แพทย์วินิจฉัยให้ผ่าตัด ถือเป็นกรณีฉุกเฉิน เบิกค่ารักษาได้ มีสิทธิรับเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ได้ article
ค่าเช่าที่พัก ค่าใช้จ่ายเดินทางเป็นสวัสดิการไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่ารถยนต์ซึ่งกำหนดเป็นสวัสดิการไว้ชัดเจนแยกจากฐานเงินเดือนปกติ ถือเป็นสวัสดิการไม่ใช่ค่าจ้าง article
ละเมิดข้อตกลงสภาพการจ้าง ละเมิดสัญญาจ้าง มีอายุความ 10 ปี มิใช่ 1 ปี article
พฤติกรรมการจ้างที่ถือว่าเป็นการจ้างแรงงาน ถือเป็นลูกจ้าง / นายจ้างตามกฎหมาย article
พนักงานขายรถยนต์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ประจำบูธ ตามที่ได้รับมอบหมาย ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
เลือกตั้งคณะกรรมการสหภาพฯ ขัดต่อข้อบังคับสหภาพหรือขัดต่อกฎหมาย ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบ article
ฝ่าฝืนสัญญาจ้าง กรณีห้ามทำการแข่งขันกับนายจ้างหรือทำธุรกิจคล้ายคลึงกับนายจ้างเป็นเวลา 2 ปี นับจากสิ้นสุดสัญญาต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้าง article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระบุให้นายจ้างเลิกจ้างเพราะเหตุคนล้นงาน ปรับลด ขนาดองค์กรได้ ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะเลิกจ้างลูกจ้างได้ article
ข้อบังคับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรณีตัดสิทธิ์รับเงินสมทบพร้อมผลประโยชน์หากกระทำผิดถูกปลดออกจากงานบังคับใช้ได้ article
ทะเลาะวิวาทกัน นอกเวลางาน นอกบริเวณบริษัทฯ ไม่ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนไม่ไปตรวจสารเสพติดซ้ำตามคำสั่งและนโยบาย ถือว่าฝ่าฝืน ข้อบังคับ หรือ ระเบียบ กรณีร้ายแรง article
วันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วน article
เป็นลูกจ้างที่มีอำนาจกระทำการแทนนายจ้างในการจ้างงาน ไม่มีสิทธิได้รับค่าทำงานในวันหยุด และลักทรัพย์เอาต้นไม้ของนายจ้างไป ถือว่ากระทำผิดอาญาแก่นายจ้าง เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ผลการทำงานดีมาโดยตลอดและไม่เคยกระทำผิดมาก่อน แต่ปีสุดท้ายผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ถือเป็นเหตุที่จะอ้างในการเลิกจ้าง article
ได้รับบาดเจ็บรายการเดียว เข้ารักษา 2 ครั้ง ถือว่าเป็นการรักษารายการเดียว นายจ้างสำรองจ่ายเพิ่มเติมไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ใช่ 200,000 บาท article
ผู้บริหารบริษัท ฯ ถือเป็นลูกจ้างหรือไม่ ดูจาก_________ ? article
ขับรถออกนอกเส้นทาง แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรงและก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้าง นายจ้างหักเงินประกันการทำงานได้ article
ค่าจ้างระหว่างพักงาน เมื่อข้อเท็จจริง ลูกจ้างกระทำความผิดจริง จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างระหว่างพักงาน article
“ นายจ้าง ” ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 article
สัญญารักษาความลับ ข้อมูลทางการค้า (ห้ามประกอบหรือรับปฏิบัติงานแข่งขันนายจ้าง) มีกำหนด 2 ปี บังคับใช้ได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย และการกำหนดค่าเสียหาย ถือเป็นเบี้ยปรับตามกฎหมาย ศาลปรับลดได้ตามสมควร article
เงินรางวัลการขายประจำเดือน จ่ายตามเป้าหมายการขาย ที่กำหนดไว้ ไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่าโทรศัพท์ เหมาจ่าย ถือเป็นค่าจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ 3 วันทำการ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เลิกจ้างเป็นธรรมไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ลาออกมีผลใช้บังคับแล้ว ออกหนังสือเลิกจ้างภายหลังใช้บังคับไม่ได้ article
ตกลงรับเงิน ไม่ติดใจฟ้องร้องอีกถือเป็นการตกลงประนีประนอมกันบังคับได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย
เลิกจ้างระหว่างทดลองงาน ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ข้อตกลงว่า “หากเกิดข้อพิพาทตามสัญญาจ้างแรงงาน ให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย” ไม่เกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมายแรงงาน เมื่อเกิดสิทธิตามกฎหมาย ฟ้องศาลแรงงานได้ โดยไม่ต้องให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย article
เลิกจ้างด้วยเหตุอื่น อันมิใช่ความผิดเดิมที่เคยตักเตือน ไม่ใช่เหตุที่จะไม่จ่ายค่าชดเชย เลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย article
นำรถยนต์ไปใช้ในกิจธุระส่วนตัว มีพฤติกรรมคดโกง ไม่ซื่อตรง พฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต ไม่น่าไว้วางใจ ลงโทษปลดออกจากการทำงานได้ article
การกระทำที่กระทบต่อเกียรติ ชื่อเสียงของนายจ้าง และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้กระทำนอกสถานที่ทำงานและนอกเวลางาน ก็ถือว่า ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกรณีร้ายแรง article
สัญญาค้ำประกันการทำงานไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ต้องรับผิดชอบตลอดไป article
ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเลิกจ้างได้ ถือว่าเลิกจ้างเป็นธรรมและความผิดที่ลงโทษแล้วจะนำมาลงโทษอีกไม่ได้ article
ผิดสัญญาจ้างไปทำงานกับคู่แข่ง นายจ้างฟ้องเรียกค่าเสียหายตามสัญญาได้ แต่ค่าเสียหาย เป็นดุลพินิจของศาลจะกำหนด article
จงใจกระทำผิดโดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้นายจ้างเสียหาย ถือว่า กระทำละเมิดต่อนายจ้าง ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น article
ตกลงสละสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย ภายหลังเลิกจ้าง ใช้บังคับได้ ไม่เป็นโมฆะ article
ก้าวร้าวไม่ให้ความเคารพผู้บังคับบัญชา ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้ามิใช่ค่าจ้าง คิดดอกเบี้ยในอัตรา 7. 5 ต่อปี article
ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของนายจ้างในเรื่องส่วนตัวเป็นประจำ ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่กาปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต เลิกจ้างเป็นธรรม article
สั่งให้พนักงานขับรถ ขับรถออกนอกเส้นทางแต่ไม่ได้มีส่วนในการขับรถ ถือว่าผิดต่อสัญญาจ้าง แต่ไม่ต้องรับผิดอันมีผลโดยตรงจากมูลละเมิด ( ขับรถโดยประมาท ) article
จ่ายของสมนาคุณให้ลูกค้า โดยไม่ตรวจสอบบิลให้ถูกต้อง มิใช่ความผิดกรณีร้ายแรงไม่ใช่การทุจริตต่อหน้าที่ แต่ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เสร็จลุล่วงไปโดยถูกต้อง และสุจริต เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ฟ้องประเด็นละเมิด กระทำผิดสัญญาจ้าง ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง มีอายุความ 10 ปี article
ตกลงยินยอมให้หักค่าจ้างชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันเงินกู้ นายจ้างสามารถหักค่าจ้างได้ตามหนังสือยินยอมโดยไม่ต้องฟ้อง article
กระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้างและประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง article
“ งานโครงการตามมาตรา 118 วรรค 4 ” บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ว่าจ้างลูกจ้างทำงานตามโครงการที่รับเหมา ถือว่าจ้างงานในปกติธุรกิจของนายจ้าง มิใช่งานโครงการ article
เงินโบนัสต้องมีสภาพการเป็นพนักงานจนถึงวันกำหนดจ่าย ออกก่อนไม่มีสิทธิได้รับ article
ระเบียบกำหนดจ่ายเงินพิเศษ ( gratuity ) เนื่องจากเกษียณอายุ โดยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายแตกต่างจากการจ่ายค่าเชย ถือว่านายจ้างยังไม่ได้จ่ายค่าชดเยตามกฎหมาย article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด

เลขที่ 511/4 ถนนประชาอุทิศ 117/1 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร (10140)

โทร/Tel : 02 - 8159522, แฟกซ์/Fax : 02 - 8159523, มือถือ/Mobile : 081 - 7936156

อีเมล/E-mail : sawai.prm@gmail.com, เว็บไซต์/Web : www.parameelaw.com