สวัสดิภาพแรงงานไทยรัฐต้องทันสถานการณ์
มีความน่าเป็นห่วงเกี่ยวกับสถานการณ์ความปลอดภัยของผู้ใช้แรงงานไทยในต่างประเทศ ทั้งในประเทศอิสราเอล, ฉนวนกาซา และล่า สุดในประเทศลิเบีย ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อความปลอด ภัยในชีวิตเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ ภายใต้สถานการณ์อันตรายดังกล่าว หน่วยงานรัฐจักต้องวางแผนเร่งด่วนระยะสั้น ในการช่วยเหลือเบื้องต้นอย่างเป็นรูปธรรมและมีระบบ เพื่อปกป้องชีวิตและคุ้มครองคนไทยทุกคนอย่างมีประ สิทธิผลมากที่สุด
มีสถิติข้อมูลเชิงประจักษ์เกี่ยวกับสถานการณ์แรง งานไทยในการเดินทางไปทำงานต่างประเทศ จากสำนัก งานบริหารแรงงานไทยในต่างประเทศ กรมการจัดหางาน ฝ่ายทะเบียนคนหางาน และสารสนเทศ โดยมีการประมวลผลทุกเดือน
โดยข้อมูลล่าสุดประจำเดือนมิถุนายน พ.ศ.2557 สรุปผลจำนวนคนหางานที่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปทำงานต่างประเทศ รวมทุกประเทศ มีตัวเลขคนไทยเดินทางสูงถึง 7,050 ราย ขณะเดียวกันยังมีตัวเลขสูงลิบลิ่วที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ นั่นคือการลงทะเบียนและการขออนุญาต
ทั้งนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าแรงงานไทยเหล่านี้สร้างรายได้เข้าประเทศในแต่ละปีเป็นจำนวนไม่น้อย และคุ้มค่ากับการเดินทางไปทำงานต่างชาติ ต่างภาษา ขณะเดียวกัน แรงงานไทยจำนวนไม่น้อยก็ประสบปัญหาหลากหลายในการไปอยู่ต่างเมืองเหมือนกัน
เช่นในสถานการณ์สงครามและความไม่สงบในพื้นที่ ทั้งในส่วนของประเทศอิสราเอลหรือลิเบีย ที่รุนแรงจนถึงขั้นต้องอพยพแรงงานไทย เนื่องจากเกรงว่าจะไม่มีความปลอดภัยในสวัสดิภาพ
โดยเฉพาะสถานการณ์น่าเป็นห่วงในพื้นที่อิสราเอล อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการสู้รบในพื้นที่ จนทำให้คนไทย เสียชีวิตหนึ่งรายจากเหตุการณ์ดังกล่าว ตลอดจนกระทรวงการต่างประเทศเตรียมพร้อมสั่งย้ายคนไทย 4 พันคนออกจากพื้นที่ไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย โดยสถานทูตไทยได้ประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ และนายจ้างในนิคมการเกษตรซึ่งอยู่ใกล้ฉนวนกาซา ให้คนงานออกมาและยุติการทำงานชั่วคราว
ขณะเดียวกัน ล่าสุดสถานการณ์ตึงเครียดของแรง งานไทยก็ตามมาติดๆ นั่นคือการสู้รบภายในประเทศลิเบียของกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงติดอาวุธประมาณ 250,000 คน ซึ่งที่ผ่านมามีการกราดยิงสถานที่ราชการ ที่พักผู้นำประ เทศ ซึ่งขณะนี้กระทรวงการต่างประเทศตัดสินใจสั่งอพยพคนไทยในลิเบียภายใน 48 ชม.ทันที
แน่นอนว่า สถานการณ์ทั้งในอิสราเอลและลิเบียส่งผลกระทบต่อแรงงานไทยเป็นหมื่นๆ ชีวิต ทั้งความหวาดกลัวในสถานการณ์ความปลอดภัย รวมถึงสภาพความกด ดัน ชะตากรรมและความเป็นอยู่ของตนเองในอนาคต
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีสัญญาณชัดเจนจาก พล.อ.ประ ยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่มีคำสั่งให้เร่งช่วยเหลือคนไทยในลิเบีย แต่ประ เด็นสำคัญที่สุดขณะนี้คือ การดำเนินการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การทำงานอย่างเป็นระบบของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งในส่วนของกระทรวงการต่างประเทศ ที่ต้องประสานงานผ่านสถานทูตดำเนินการต่างๆ เพื่อช่วยเหลือคนไทย และสถานการณ์ที่ต้องอัพเดตมากที่สุด ในการติดต่อไปยังกลุ่มคนไทยในแต่ละพื้นที่
ขณะเดียวกัน ก็ต้องมีการประสานงานอย่างต่อเนื่อง และทำงานอย่างบูรณาการของทั้งกระทรวงแรงงาน ซึ่งถือเป็นเสาหลักในการดูแลชีวิตแรงงานไทยอย่างทันสถาน การณ์ โดยเฉพาะในส่วนของหน่วยงาน อย่างกรมการจัดหาแรงงาน กระทรวงแรงงาน ที่ขณะนี้ต้องมีการเกาะติดสถานการณ์ในพื้นที่ ทั้งในส่วนของอิสราเอลและลิเบีย
และมีมาตรการชี้แจงต่อสาธารณะในขณะนี้อย่างชัดเจน รวมทั้งรายงานสถานการณ์ความเป็นจริงของแรง งานไทยในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับครอบครัวญาติพี่น้องของแรงงานไทยในประเทศได้คลายความกังวลใจ
นอกจากนี้ ต้องชี้แจงมาตรการสำคัญที่เป็นหลักประกันเพื่อสร้างความเบาใจในการเดินทางกลับ หากแรง งานคนไหนมีความประสงค์ไปทำงานในประเทศนั้นดังเดิม ระหว่างการทำงานระหว่างรัฐกับบริษัทเอกชนจัดหาแรงงานไทย ซึ่งถือหลักประกันการทำงาน คุ้มครองสถานะ ทางกฎหมายชั่วคราวในการทำงานในประเทศนั้นๆ ระหว่างที่เดินทางกลับประเทศไทย
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันกลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ ล่อลวงกลุ่มแรงงานที่เดินทางกลับมาในขณะนี้ในรูปแบบวิธีการต่างๆ
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ เพื่อกำหนดวิธีการช่วยเหลือ ต้องบริหารงบประมาณจากกองทุนให้เกิดประโยชน์มากที่สุด และเป็นไปเพื่อเป้าหมายช่วยเหลือแรงงานไทย ในต่างแดนเหล่านั้น
เพราะพวกเขาล้วนเป็นแรงงานส่งออกของประ เทศ ที่นำเม็ดเงินเข้าประเทศจำนวนมหาศาล ในการสร้างเศรษฐกิจประเทศมาหลายยุคสมัย การเร่งรัด เยียว ยา ช่วยเหลือแรงงานไทยในต่างประเทศเหล่านั้นให้ได้รับสวัสดิภาพ มีความปลอดภัยในชีวิต หาใช่เรื่องที่ควรนิ่งเฉยหรือทำแบบขอไปที!