งานสำคัญของสำนักสิทธิประโยชน์ คือ การจ่ายสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ
หนึ่งในงานสำคัญของสำนักสิทธิประโยชน์ คือ เรื่องการจ่ายสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพ ถือเป็นสิทธิประโยชน์กรณีสุดท้ายใน 7 กรณีตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งสำนักงานประกันสังคมก็มีการเตรียมความพร้อมรับมือกับงานที่กำลังจะเกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหากับผู้ประกันตนที่มีสิทธิรับชราภาพในครั้งนี้โดยมีการผนึกกำลังของทุกฝ่ายดำเนินขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มรับรู้จากการเข้าร่วมประชุมกับผู้บริหารและผู้มีความรู้จากหลายๆ คณะ ประกอบกับได้ศึกษาข้อมูลและเจ้าหน้าที่ของสำนักสิทธิประโยชน์ถือเป็นองค์ความรู้จัดหาข้อมูลเชิงลึกในรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มงานพัฒนาระบบ และกลุ่มงานกำกับและควบคุมการวินิจฉัยประโยชน์ทดแทน
ในการดำเนินการรองรับการจ่ายเงินบำนาญชราภาพนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรง เช่น คณะอนุกรรมการพิจารณาและกำหนดแนวทางการจ่ายสิทธิประโยชน์กรณีชราภาพโดยมีสำนักสิทธิประโยชน์เป็นอนุกรรมการและ เลขานุการ มีท่านจิราภรณ์ เกษรสุจริต เป็นประธานอนุกรรมการ นอกนี้สำนักงานประกันสังคมได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพัฒนาระบบการจ่ายเงินบำนาญชราภาพ มีสำนักบริหารเทคโนโลยีและสารสนเทศเป็นเลขานุกการสำหรับแนวทางการจ่ายเงินนั้น สำนักบริหารการเงิน การบัญชี และการลงทุนเป็นผู้กำหนดแนวทางการจ่ายเงินผ่านธนาคารและดำเนินการจัดทำบันทึกข้อตกลงกับธนาคาร 9 แห่ง คือ ธนาคาร 4 ก.ไก่ ประกอบด้วยธนาคารกรุงเทพ กรุงไทย กรุงศรีอยุธยา และ กสิกรไทย ธนาคาร 3 ท.หาร ประกอบด้วย ธนาคารทหารไทย ธนชาต และธนาคารไทยพาณิชย์ อีก 2 ธนาคาร ต้องจำเพิ่ม คือ ธนาคารซีไอเอ็มบี กับธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
หลักเกณฑ์การรับเงินบำนาญชราภาพของผู้ประกันตนที่มีสิทธิครบ 180 เดือน (15 ปี) โดยผู้มีสิทธิต้องลาออกจากงานก่อน จากการสำรวจข้อมูล พบว่าผู้ประกันตนที่อายุครบ 55 ปี และยังทำงานต่อเนื่องขณะนี้อยู่ในข่ายผู้มีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพ มีจำนวน 113,361 คน ในจำนวนนี้มีประมาณ 5 หมื่นคนเศษทำงานอยู่ในกรุงเทพมหานครและจังหวัดปริมณฑล
อธิบายเพิ่มเติมว่า ผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบตั้งแต่เดือนธันวาคม 2541 ถึงปัจจุบัน หากดูในระบบข้อมูลพบว่าครบ 180 เดือนและอายุ 55ปีบริบูรณ์ขึ้นไป คือ ผู้มีสิทธิรับเงินชราภาพ โดยจะได้รับเงินร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย เช่น ผู้ประกันตนที่ส่งครบ 180 เดือน มีค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย เท่ากับ 10,000 บาท จะได้รับเงินบำเหน็จชราภาพเดือนละ 2,000 บาท โดยจะรับไปตลอดชีวิต
นอกจากนี้ในกรณีที่ผู้ประกันตนส่งเงินครบ 180 เดือน แต่ยังทำงานต่อไป สำนักงานประกันสังคมได้เพิ่มเงินบำนาญให้อีกใน 12 เดือน เพิ่มอีกร้อยละ 1.5 เช่น ผู้ประกันตนที่ทำงานครบ 192 เดือน (16 ปี) จะได้รับบำนาญเท่ากับร้อยละ 21.5 ของค่าจ้าง เฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย ดังปรากฏรายละเอียดเข้าใจง่ายตามตารางการรับเงินบำนาญชราภาพของผู้มีสิทธิที่ส่งครบ 180 เดือน คิดเปอร์เซ็นต์ และค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้าย ที่กลุ่มงานกำกับและควบคุมการวินิจฉัยประโยชน์ทดแทน สำนักสิทธิประโยชน์ได้จัดทำตารางดังนี้
ท้ายสุดนี้ มั่นใจอย่างยิ่งว่าก้าวแรกและก้าวต่อไปของการจ่ายเงินบำนาญชราภาพของกองทุนประกันสังคม จะเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งในบางรายอาจเกิดปัญหาบ้าง หากข้อมูลส่งเงินสมทบจากนายจ้างที่ไม่ส่ง แต่สำนักงานประกันสังคมได้หาแนวทางแก้ไขเอาไว้เรียบร้อยแล้ว รับรองว่าผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบครบ 180 เดือน อายุ 55 ปีขึ้นไป แล้วลาออกต้องได้รับเงินบำนาญชราภาพอย่างแน่นอนครับ และเพื่อประโยชน์ของผู้รับเงินบำนาญชราภาพ ขอให้ผู้ประกันตนตรวจสอบเอกสารให้ครบถ้วน กรณีมีการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ และให้แจ้งหมายเลขโทรศัพท์ติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานประกันสังคม เพื่อจะได้แก้ไขข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมสามารถติดต่อผู้รับเงินบำนาญได้เป็นการให้บริการหลังจากที่รับเงินบำนาญชราภาพไปแล้ว ในกรณีที่มีข้อสงสัยหรือไม่แน่ใจว่าตนเองส่งเงินสมทบครบ 180 เดือน หรือไม่ ผู้ประกันตนสามารถสอบถามทางโทรศัพท์ได้ที่สายด่วนประกันสังคม หมายเลข 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง
กรณีชราภาพ
ถาม เงินสมทบบำเหน็จบำนาญชราภาพเริ่มเก็บครั้งแรกเมื่อใด
ตอบ สำนักงานประกันสังคมเริ่มจัดเก็บเงินสมทบกรณีชราภาพ เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2541
ถาม สิทธิประโยชน์ที่จะได้รับเงินชราภาพมีอะไรบ้าง
ตอบ สิทธิที่จะได้รับกรณีชราภาพมี 2 กรณี คือ เงินบำเหน็จและเงินบำนาญ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการนำส่งเงินสมทบของผู้ประกันตน
กรณีเงินบำเหน็จชราภาพ มีเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ ดังนี้
- กรณีที่ผู้ประกันตนนำส่งเงินสมทบไม่ครบ 12 เดือน จะได้รับเฉพาะส่วนที่ผู้ประกันตนจ่ายกรณีชราภาพเท่านั้น
- กรณีที่ผู้ประกันตนนำส่งเงินสมทบตั้งแต่ 12 เดือนขึ้นไป แต่ไม่ถึง 180 เดือน จะได้รับเป็นบำเหน็จในส่วนของนายจ้างและส่วนของผู้ประกันตน รวมถึงอัตราผลตอบแทนซึ่งประกาศในแต่ละปี
กรณีเงินบำนาญชราภาพ มีเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ ดังนี้
- กรณีที่ผู้ประกันตนนำส่งเงินสมทบครบ 180 เดือน ได้รับเงินบำนาญชราภาพในอัตราร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายก่อนความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง โดยจะได้รับเงินบำนาญชราภาพเป็นรายเดือนไปตลอดชีวิต
- กรณีที่ผู้ประกันตนนำส่งเงินสมทบเกิน 180 เดือน ส่วนที่เกินทุก ๆ 12 เดือน จะปรับอัตราเงินสมทบเพิ่มอีกร้อยละ 1.5
- กรณีที่ผู้รับเงินบำนาญชราภาพอยู่แล้ว และมีการเสียชีวิตภายใน 60 เดือนนับแต่เดือนที่ได้รับเงินบำนาญชราภาพให้จ่ายเงินคืนเป็นบำเหน็จชราภาพแก่ผู้มีสิทธิจำนวน 10 เท่าของเงินบำนาญชราภาพรายเดือน ที่ได้รับคราวสุดท้ายก่อนที่ผู้รับเงินบำนาญชราภาพถึงแก่ความตาย
ถาม วิธีขอรับเงินบำเหน็จบำนาญชราภาพต้องดำเนินการอย่างไร
ตอบ ยื่นคำขอรับประโยชน์ทดแทน (สปส. 2 - 01) ได้ที่สำนักงานประกันสังคมทุกแห่งที่สะดวกหรือส่งเรื่องทางไปรษณีย์ วิธีรับเงินบำเหน็จชราภาพ สามารถรับเงินสด/ธนาณัติ/หรือผ่านธนาคาร ส่วนเงินบำนาญชราภาพสำนักงานประกันสังคมจะโอนเงินผ่านธนาคาร
ถาม ระยะเวลาในการยื่นเรื่องขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ
ตอบ ยื่นเรื่องขอรับประโยชน์ทดแทนภายในระยะเวลา 1 ปีนับตั้งแต่วันที่มีสิทธิ
ถาม ฐานเงินเดือนต่ำสุดและสูงสุดในการคำนวณบำเหน็จและบำนาญชราภาพ
ตอบ ขั้นต่ำ 1,650 บาท สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท
ถาม เงินบำนาญชราภาพคำนวณอย่างไร
ตอบ เงินบำนาญชราภาพคำนวณในอัตราร้อยละ 20 ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายก่อนความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง โดยคิดจากฐานเงินเดือน สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท
ถาม กรณีนายจ้างค้างชำระเงินสมทบจะมีผลกับการจ่ายบำนาญชราภาพหรือไม่
ตอบ ไม่มีผลกระทบต่อการจ่ายบำนาญชราภาพ เนื่องจากตามหลักเกณฑ์ของประกันสังคมกรณีนายจ้างค้างชำระเงินสมทบผู้ประกันตนยังคงมีสิทธิได้รับเงินบำนาญชราภาพในส่วนที่นายจ้างค้างชำระเงินสมทบ
ถาม ผู้ประกันตนที่มีอายุ 58 ปี แต่ยังคงทำงานอยู่จะมีสิทธิได้รับเงินชราภาพเมื่อใด
ตอบ จะขอรับเงินกรณีชราภาพได้ก็ต่อเมื่อผู้ประกันตนลาออกจากงานแล้ว เพราะหลักเกณฑ์ในการรับเงินชราภาพ คือ ประกันตนต้องมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง
ถาม ผู้ประกันตนสามารถสอบถามเงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญที่จะได้รับจากสำนักงานประกันสังคมทางใดบ้าง
ตอบ - สอบถามด้วยตนเองที่สำนักงานประกันสังคมทุกแห่งทั่วประเทศ
- ตรวจสอบได้ทาง www.sso.go.th
- สอบถามได้ที่ สายด่วน โทร. 1506
ถาม สำนักงานประกันสังคมจะเริ่มจ่ายเงินบำนาญชราภาพให้กับผู้ประกันตนเป็นเดือนแรกในเดือนใด
ตอบ สำนักงานประกันสังคมจะจ่ายเงินบำนาญชราภาพในเดือนธันวาคม 2556 เป็นเดือนแรก ซึ่งการจ่ายประโยชน์ทดแทนชราภาพจะจ่ายเมื่อผู้ประกันตนมีอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ และความเป็นผู้ประกันตนสิ้นสุดลง (ลาออก) หรือเสียชีวิต หรือเป็นผู้ทุพพลภาพ