วิธีป้องกันน้ำเสียด้วยตัวเอง
ชีวิตเราเกี่ยวข้องกับการใช้ น้ำ ถ้าเรารู้จักวิธีใช้ที่ถูกต้อง จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในครอบครัว เช่น ลดค่าน้ำประปา ลดค่ากระแสไฟฟ้า ลดค่าเครื่องสุขภัณฑ์ ท่านสามารถลองปฏิบัติตามข้อแนะนำต่อไปนี้
การอาบน้ำ
- ควรอาบน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้า เย็นหรือก่อนนอน หรือภายหลังจากการออกกำลังกาย 30 นาที และควรอาบน้ำตามหลักความประหยัดดังนี้
- ใช้น้ำ 1-2 ขันชโลมร่างกายเปียกให้ทั่ว ใช้ฟองน้ำหรือผ้าบางๆ เช็ดถูร่างกาย และจึงใช้น้ำ 1-2 ขันชำระร่างกายอีกรั้ง
- นำสบู่ชนิดที่เป็นด่างอ่อน ไม่เจือสีฉูดฉาด และมีกลิ่นไม่แรงเกินไป
- เริ่มฟอกสบู่ที่มือก่อน ล้างมือให้สะอาดแล้วจึงฟอกสบู่ที่ใบหน้า และลำคอแล้วล้างสบู่ออก จากนั้นจึงฟอกสบู่ที่ลำตัว แขน ขา ไปตามลำดับ พร้อมทั้งบีบนวดเบาๆ ที่กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ
- อาบน้ำด้วยฝักบัว ระหว่างเช็ดถูร่างกาย หรือฟอกสบู่ให้ปิดน้ำก่อนทุกครั้ง
- อาบน้ำในอ่างน้ำ ควรชำระร่างกายตามที่กล่าวในข้อแรกก่อน ถ้าอ่างน้ำมีระบบน้ำร้อนน้ำเย็น ควรเปิดน้ำเย็นก่อน แล้วจึงเปิดน้ำร้อน ปรับอุณหภูมิ ผสมสบู่เหลวแล้วจึงเทลงไปแช่ตัวในอ่าง แล้วออกจากอ่างน้ำมาอาบน้ำด้วยขันหรือฝักบัว เพื่อชำระร่างกาย น้ำสบู่อาจใช้ร่วมกันได้สำหรับสมาชิกในครอบครัว
- การอาบน้ำบ่อยเกินไป มากเกิน หรือนานเกินไป หรือฟอกสบู่มากเกินไป จะทำให้ผิวหนังซีดเซียว ผิวหนังอักเสบทำให้ แบคทีเรียบางชนิดที่ช่วยป้องกันและทำลายเชื้อโรคอื่นๆ ที่มีอยู่ตามผิวหนังหลุดหรือหมดไป ทำให้ร่างการขาดเกราะป้องกันเชื้อโรคได้
การแปรงฟัน
- เพื่อรักษาสุขภาพในช่องปากไม่ให้เกิดกลิ่นปาก และป้องกันคราบหินปูนติดฟัน ช่วยให้สุขภาพของ เหงือกและฟันดี จึงควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หลังจากตื่นนอนและก่อนนอน จึงมีวิธีการแปรง ฟันที่ถูกวิธีดังนี้
- เลือกขนาดของแปรงให้พอเหมาะ ขนแปรงต้องอ่อนนุ่ม มีด้ามที่กระชับเหมาะมือมีปลายด้ามโค้งมน ยาสีฟันเลือกเนื้อละเอียด
- ก่อนแปรงควรกลั้วน้ำในปากก่อนแล้วบ้วนทิ้ง ควรใช้น้ำที่ตักใส่แก้วดีกว่าเปิดจากก๊อกน้ำโดยตรง เริ่มแปรงจากฟันหน้าด้านบนและล่างโดยการปัดขนแปรงขึ้นและลง การปัดขนแปรงขึ้นลงต้องสบัดข้อมือไปมาเพื่อช่วยให้ขนแปรงนวดเหงือกเบาๆ หลังจากนั้นจึงแปรงด้านใน การแปรงฟันแบบชักแปรงไปมาจะทำให้เคลือบฟันและตัวฟันสึกได้
- บ้วนปากด้วยน้ำหลายๆ ครั้ง ล้างแปรงให้สะอาดผึ่งให้แห้ง เศษอาหารที่ติดตามซอกฟันที่แปรงออกยาก ก่อนแปรงฟันควรใช้เส้นใยขัดฟันก่อน ไม่ควรใช้ไม้จิ้มฟันเพราะจะทำให้ฟันห่าง หลังจากรับประทานอาหารควรบ้วนปากสัก 2-3 ครั้ง ระหว่างแปรงฟันไม่ควรเปิดน้ำทิ้งไว้
การล้างจาน
- การล้างถ้วยชามและภาชนะในครัวเรือน มีวิธีการล้างที่ถูกต้องดังนี้
- ภาชนะหรือถ้วยจาน หากมีเศษอาหารติดอยู่ให้เขี่ยลงในถังขยะก่อน ส่วนคราบมันควรใช้กระดาษหนังสือพิมพ์หรือกระดาษที่ ใช้แล้วเช็ดออก หรือเศษผ้าเช็ดออก
- เปิดน้ำใส่ภาชนะล้าง เพียงเล็กน้อย เพื่อล้างคราบสกปรกที่เหลือ หลังจากนั้นจึงใช้น้ำยาล้างจาน ไม่ควรใช้ผงซักฟอก เพราะมีความเป็นด่างมาก และต้องล้างหลายๆ ครั้งทำให้สิ้นเปลืองน้ำมาก เมื่อฟอกถ้วยชามเสร็จแล้วล้างในภาชนะบรรจุ น้ำสะอาดที่ 1 และล้างอีกครั้งในภาชนะบรรจุน้ำที่ 2 แล้วจึงผึ่งในที่เก็บจานให้แห้ง
- น้ำที่ใช้ล้างจานโดยวิธีนี้ยังมีคุณภาพดี สามารถใช้ล้างถ้วยชามได้อีกอย่างน้อย 1 ครั้ง และยังนำไปรดน้ำต้นไม้ได้ เพราะจะมีแร่ธาตุที่พืชต้องการเจือปนอยู่ด้วย
การซักผ้า
- การซักผ้าที่ถูกวิธีทำให้งานซักผ้าอาจเป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่ทำให้เราสนุกสนาน ช่วยให้ ปลอดภัย
และประหยัดได้อย่างแปลกใจ การซักผ้าปกตินอกเหนือจากเทคนิคพิเศษ เช่นการซักแห้งควรปฏิบัติ ตามขั้นตอนต่อไปนี้
- ควรมีจำนวนผ้าที่ซักประมาณ 15-20 ชิ้น ถ้าจำนวนมากเกินหรือน้อยเกินไป ทำให้เกิดความสิ้นเปลืองหลายประการ ถ้าจำนวนพอเหมาะพอดี โดยเฉพาะซักมือเป็นการออกกำลังกายที่ดี
- คัดเลือกแยกประเภทของผ้าที่ซัก เช่น ผ้าหนาหรือผ้าบาง ผ้าสกปรกมากหรือสกปรกน้อย สีตกหรือไม่ตก
- ต้องใช้ผงซักฟอกตามปริมาณพอดีกับผ้าที่จะซัก เติมน้ำใส่ผงซักฟอกไว้ประมาณ 3 นาที ไม่ควรใช้มือตีผงซักฟอกทันที เสื้อผ้าที่สกปรกน้อยสีไม่ตก แช่ในน้ำผงซักฟอก 10-15 นาที และขยี้ผ้าเบาๆ แล้วจึงนำออกไปซักในน้ำผงซักฟอกอีกใบหนึ่ง อาจแปรงผ้าเบาๆ บริเวณที่ความสกปรกยังเกาะติดอยู่
- ใช้มือลูบให้ผงซักฟอกออก แล้วล้างในน้ำสะอาด 1-2 ครั้ง ยกผ้าให้น้ำไหลคืนสู่ภาชนะ แล้วนำไปแขวนตากหรือผึ่งลม ไม่ควรตากผ้าในที่แสงแดดแผดกล้านานเกินไป
- ผ้าที่สกปรกน้อย นำไปซักในภาชนะน้ำผงซักฟอกที่ 2 และนำผ้าสกปรกมาก แช่ไว้ในภาชนะน้ำผงซักฟอกที่ 1 เมื่อซักผ้าสกปรกน้อยแล้วจึงซักผ้าที่สกปรกมากตาม
- เมื่อใช้น้ำยาปรับสภาพผ้า ใช้ในการซักน้ำขั้นตอนสุดท้าย ส่วนผ้าสีตกควรเติมเกลือ หรือน้ำส้มสายชูเล็กน้อย จะช่วยให้สีผ้าดูสดใสขึ้น
- น้ำผงซักฟอกที่เหลือในภาชนะที่ 1 และ 2 ใช้กับผ้ากันเปื้อนอื่นๆ อาจเป็นผ้าเช็ดเท้าหรือผ้าถูบ้าน อาจใช้น้ำที่เหลือขัดพื้นก็ได้
- การซักผ้าด้วยเครื่องซักผ้า มีหลักการคัดเลือกผ้าและจัดแยกประเภทเช่นเดียวกับการซักผ้าด้วยมือ เลือกใช้ระบบหรือ รายการซักที่เหมาะสม กับคุณสมบัติของผ้า จำนวนผ้า และความสกปรก การใช้ผงซักฟอกหรือน้ำยาซักฟอกต้องมีปริมาณพอดี
- เครื่องซักผ้าที่ปรับอุณหภูมิได้ ต้องปรับให้พอดีเพื่อช่วยให้ถนอมเนื้อผ้า ลดค่าไฟฟ้าและช่วยให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
- ผ้าที่ตาก หรือผึ่งไว้เกือบแห้งแล้ว พอมีความชื้นอยู่บ้าง ก็ควรนำไปรีดถ้าใช้น้ำยาผ้าเรียบก็จะไม่เกิดคราบน้ำยาจับ
- การรีดผ้า รีดจากผ้าบางๆ ใช้ความร้อนต่ำๆ เรื่อยไปจนถึงผ้าหนา ใช้ความร้อนเพิ่ม เมื่อใกล้เสร็จแล้วดึงปลั๊กออก ใช้ ความร้อนที่สะสมไว้ในเตารีด ไม่ควรรีดผ้าในปริมาณมากเกินไปหรือน้อยเกินไป
การใช้ห้องสุขา
- ห้องสุขามีความสำคัญต่อทุกคน ใช้ในการขับถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ ควรดูแลรักษาความสะอาดเสมอ
- ควรแยกห้องสุขากับห้องอาบน้ำออกจากกันเพื่อความสะดวก
- การใช้โถสุขาแบบนั่งยอง ให้ใช้แบบโถเคลือบรักษาความสะอาดง่ายกว่าแบบหล่อปูน
- การติดตั้งต้องมีทักษะพอสมควร ต้องวางให้ส่วนคอห่านอยู่ในระดับที่เหมาะสมเพื่อให้น้ำขังคอห่านได้สนิท ป้องกันกลิ่นเหม็นแพร่ออกมาจากถังเกรอะ
- โถส้วมแบบชักโครก มีชนิดตักน้ำราดและมีถังเก็บน้ำชำระ ส่วนมากโถแบบนี้มีฝาปิด
- ถ้าเลือกใช้แบบที่มีถังเก็บน้ำ ควรเลือกระบบประหยัดน้ำหรือใส่ขวดบรรจุน้ำลงไปในถังขวดจะไปแทนที่น้ำ ทำให้ระดับน้ำสูงขึ้น และดันให้ลูกลอยปิดวาวล์น้ำเร็วขึ้น การใช้น้ำชำระทุกครั้งจะทำให้ประหยัดน้ำได้อย่างน้อย เท่ากับน้ำที่บรรจุอยู่ในขวด
- การรักษาความสะอาดห้องสุขาและห้องอาบน้ำ ควรใช้แปรงสำหรับขัดถูคราบสบู่หรือหินปูนทุกวันหรือสัปดาห์ละ 1 - 2 ครั้ง ไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาเคมีใดๆเพราะอาจทำลายจุลินทรีย์ที่อยู่ในถังเกรอะและถังกรองให้ตายได้ ทำให้กระบวนการย่อยสลายกากตะกอน และสิ่งปฏิกูลผิดปกติ ทำให้เกิดปัญหาถังสุขาเต็มหรือท่อสุขาอุดตันบ่อยๆ