ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ชมรมบริหารงานบุคคล
dot
bulletสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย
bulletชมรมบริหารงานบุคคล
bulletชมรมบริหารงานบุคคล อยุธยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลรังสิต
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคล อมตะนคร
bulletสมาคมการบริหารงานบุคคล (PAAs)
bulletชมรมบริหารงานบุคคลบางพลี
bulletชมรมนักบริหารงานบุคคลพัทยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลยุคใหม่
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคลจังหวัดราชบุรี
bulletงานบริหารงานบุคคล
bulletชมรมงานบริหารงานบุคคลกรุงเทพฯ
bulletชมรมบริหารงานบุคลสุขสวัสดิ์
dot
ติดต่อราชการศาล
dot
bulletศาลแรงงานกลาง
bulletศาลแรงงานภาค ๒
bulletศาลยุติธรรม
bulletศาลปกครอง
bulletศาลรัฐธรมนูญ
bulletสำนักงานอัยการสูงสุด
bulletกระทรวงยุติธรรม
bulletคณะกรรมการกฤษฎีกา
bulletกรมบังคับคดี
bulletสภาทนายความ
dot
หน่วยงานราชการสำคัญ
dot
bulletกระทรวงแรงงาน
bulletกรมการจัดหางาน
bulletกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
bulletกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
bulletสำนักงานประกันสังคม
bulletกรมสรรพากร
bulletกรมบัญชีกลาง
bulletกรมพัฒนาธุรกิจกาค้า
bulletกระทรวงอุตสาหกรรม
bulletกรมโรงงานอุตสาหกรรม
bulletกรมส่งเสริมอุตสาหรม
bulletการนิคมอุตสาหกรรม
dot
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน
dot
bulletสมบัติลีกัล
bulletเอกเซลสำหรับงาน HR โดย อ.สำเริง
bulletบทความดี ๆ จากโกป้อม
dot
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
dot
dot
Newsletter

dot


พยากรณ์อากาศวันนี้
..................................


ราคาน้ำมันวันนี้
..................................



เจ็บป่วยมีลักษณะรุนแรงอันอาจถึงแก่ชีวิต หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันถ่วงที สามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลใกล้เคียงได้ โดยมีสิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลตามความเป็นจริง จากกองทุนเงินทดแทน article

 คำพิพากษาฎีกา ที่  15078/ 2555

เจ็บป่วยมีลักษณะรุนแรงอันอาจถึงแก่ชีวิต  หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันถ่วงที   สามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลใกล้เคียงได้   โดยมีสิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลตามความเป็นจริง   จากกองทุนเงินทดแทน

                                โจทก์ฟ้องว่า  โจทก์เป็นลูกจ้างของบริษัทมีสมบูรณ์  จำกัด  และเป็นผู้ประกันตน  โดยมีโรงพยาบาลอุตรดิตถ์เป็นโรงพยาบาลตามสิทธิ  ระหว่างวันที่  15  สิงหาคม  2546  -  วันที่  15  กันยายน  2546  บริษัทนายจ้างให้โจทก์ไปทำงานในเขตจังหวัดกรุงเทพฯ  ในระหว่างเวลาดังกล่าวโจทก์เจ็บป่วยฉุกเฉินจึงเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพญาไท  2  เสียค่ารักษาพยาบาลเป็นเงิน  140,905  บาท  ต่อมาโจทก์ยื่นขอรับเงินจำนวนดังกล่าวจากจำเลยที่  1  ซึ่งมีจำเลยที่  2  เป็นผู้ทำหน้าที่ดูแลจัดการแทน  แต่จำเลยทั้งสองปฏิเสธการจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้โจทก์โดยอ้างว่าสามารถไปรับการรักษาบริการทางการแพทย์ยังสถานพยาบาลที่กำ หนด  จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินบริการทางการแพทย์ที่ร้องขอ  โจทก์อุทธรณ์โต้แย้งคำสั่งดังกล่าว  ต่อมาคณะกรรมการอุทธรณ์ได้มีคำวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าบริการทางการแพทย์ที่จ่ายไป  โจทก์ไม่เห็นด้วยกับคำวินิจฉัยดังกล่าว ขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของจำเลยทั้งสองและให้จำเลยทั้งสองจ่ายเงินจำนวน  140,905  บาท  พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ  7.5  ต่อปี  แก่โจทก์

 

                          จำเลยทั้งสองให้การว่า  คำวินิจฉัยของคณะกรรมการอุทธรณ์  ตามพระราชบัญญัติประกันสังคม  พ.ศ.2533  ที่  203/2547  ลงวันที่  9  เมษายน  2547  ชอบด้วยเหตุผลตามข้อกฎหมายแล้ว  ไม่มีเหตุต้องยกเลิกเพิกถอนหรือเปลี่ยนแปลง  เพราะตามพระราชบัญญัติประกันสังคม  พ.ศ.2533  แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันสังคมมาตรา  63  ได้บัญญัติในเรื่องผู้ประกันตนมีสิทธิรับประโยชน์ทดแทน  กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย  อันมิใช่เนื่องจากการทำงานได้ตามหลักเกณฑ์และอัตราที่คณะกรรมการการแพทย์กำหนดภายใต้ความเห็นชอบของคณะกรรมการประกันสังคม  และต่อมาสำนักงานประกันสังคมออกประกาศสำนักงานประกันสังคมเรื่องหลักเกณฑ์และอัตราสำหรับประโยชน์ทดแทนในกรณีที่ประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจากการทำงาน  ลงวันที่  14  ตุลาคม  2539  ข้อ  3  กำหนดให้ผู้ประกันตนประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจากการทำงานไปรับบริการทางการแพทย์จากสถานพยาบาลที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดให้ผู้ประกันตนผู้นั้นมีสิทธิไปรับบริการทางการแพทย์  และข้อ  4  ได้กำหนดให้ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับบริการทางการแพทย์ต่างๆ  จากสถานบริการนั้น  โจทก์ได้เลือกโรงพยาบาลอุตรดิตถ์เป็นสถานพยาบาลที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดให้ไปเข้ารับการบริการทางการแพทย์  เมื่อวันที่  2  กันยายน  2546  โจทก์เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพญาไท  2  เป็นเวลา  2  วัน  เสียค่าบริการทางการแพทย์  140,905  บาท  จำเลยที่  2  มีคำสั่งประโยชน์ทดแทนว่า  โจทก์ไม่มีสิทธิได้รับค่าบริการทางการแพทย์เนื่องจากสามารถไปรับริการทางการแพทย์ยังสถานพยาบาลที่กำหนดไว้ในบัตรรับรองสิทธิ  โจทก์อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการอุทธรณ์คณะกรรมการอุทธรณ์ได้ประชุมเมื่อวันที่  9  เมษายน  2547  มีความเห็นว่ากรณีของโจทก์ได้เข้าพักรักษาที่โรงพยาบาลพญาไท  2  ไม่เป็นกรณีฉุกเฉินตามประกาศสำนักงานประกันสังคม  เรื่องกำหนดจำนวนเงินค่าทดแทนค่าบริการทางการแพทย์  (ฉบับที่  2)  ลงวันที่  20  กรกฎาคม  2541  จึงลงมติยกอุทธรณ์ของโจทก์ด้วยเหตุผลว่ากรณีโจทก์เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพญาไท  2  ซึ่งมีประวัติการรักษามาก่อน  และแพทย์ได้นัดมาทำ  CAG    ถือว่ามิใช่เป็นกรณีฉุกเฉินตามประกาศสำนักงานประกันสังคม  โจทก์สามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลตามสิทธิได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอย่างใด  ประกอบกับโรงพยาบาลตามสิทธิก็มีขีดความสามารถที่จะรักษาได้  การที่โจทก์เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพญาไท  2  เป็นความประสงค์ของโจทก์เอง  โจทก์จึงไม่มีสิทธิที่จะได้รับเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์  กรณีของโจทก์ไม่เข้าเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติประกันสังคม  พ.ศ.2533  มาตรา  63 ,64  โจทก์จึงไม่มีสิทธิรับเงินค่าบริการทางการแพทย์ตามฟ้อง  ขอให้ยกฟ้อง

 
                                ระหว่างพิจารณาโจทก์ถอนฟ้องจำเลยที่  2  ศาลแรงงานกลางจำหน่ายคดีเฉพาะจำเลยที่  2
 

                                ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว  พิพากษาให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของคณะกรรมการอุทธรณ์ที่  203/2547  ลงวันที่  9  เมษายน  2547  และให้โจทก์มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนค่าบริการทางการแพทย์  ตามที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติประกันสังคม  พ.ศ.2533  จำนวน  140,905  บาท  พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ  7.5  ต่อปีนับจากวันฟ้อง  (วันที่  7  กรกฎาคม  2547)  จนกว่าจำเลยที่  1  จะชำระเสร็จแก่โจทก์

 
 
                                จำเลยที่  1  อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา           
 
 

                               ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว  มีปัญหาต้องวินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลยที่  1  ว่าการที่โจทก์เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพญาไท  2  เนื่องจากมีอาการแน่นหน้าอกเป็นกรณีจำเป็นต้องได้รับบริการทางการแพทย์อย่างฉุกเฉินหรือไม่  โดยจำเลยที่  1  อุทธรณ์ว่า  กรณีของโจทก์แม้จะปรากฏตามใบรับรองแพทย์เลขที่  19116  ลงวันที่  4  กันยายน  2546  ว่าโจทก์พักรักษาเป็นกรณีฉุกเฉินแต่สัญญาณชีพของโจทก์และคลื่นไฟฟ้าอยู่ในเกณฑ์ปกติ  และแพทย์ได้นัดหมายล่วงหน้าจึงไม่ได้มีอาการรุนแรงที่จะเป็นกรณีฉุกเฉินแต่อย่างใดนั้น  เห็นว่า  ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า  โจทก์เป็นลูกจ้างของบริษัทมีสมบูรณ์  จำกัด  และเป็นผู้ประกันตนโดยสถานพยาบาลที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดหรือโรงพยาบาลตามสิทธิที่โจทก์มีสิทธิไปรับบริการทางการแพทย์  คือโรงพยาบาลอุตรดิตถ์  โจทก์ได้รับคำสั่งจากนายจ้างให้ไปทำงานที่กรุงเทพฯ  เมื่อวันที่  2  กันยายน  2546  โจทก์มีอาการแน่นหน้าอกอย่างรุนแรงได้นัดหมายกับแพทย์โรงพยาบาลพญาไท  2  ทางโทรศัพท์  แพทย์นัดให้โจทก์เข้าไปตรวจรักษา  โดยฉีดสีเข้าเส้นเลือด  ปรากฏว่าเส้นเลือดที่จ่ายไปเลี้ยงหัวใจตันจำเป็นต้องรักษาโดยวิธีขยายหลอดเลือดและได้รับโจทก์เข้ารักษาในวันดังกล่าว  โจทก์รักษาตัวที่โรงพยาบาลพญาไท  2  ถึงวันที่  4  กันยายน  2546  เสียค่ารักษาพยาบาลทั้งสิ้น  140,905  บาท  ต่อมาโจทก์ไปยื่นขอรับเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์จากจำเลยที่  1  ปรากฏว่าจำเลยที่  1  มีคำสั่งว่าโจทก์สามารถไปรับบริการทางการแพทย์ยังสถานพยาบาลที่กำหนดให้ได้  จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าบริการทางการแพทย์  และคณะกรรมการอุทธรณ์พิจารณาว่า  กรณีของโจทก์ไม่ใช่เหตุฉุกเฉินและปรากฏข้อเท็จจริงตามคำวินิจฉัยคณะกรรมการอุทธรณ์ที่  203/2547  ลงวันที่  9  เมษายน  2547  ซึ่งยุติในชั้นพิจารณาของศาลแรงงานกลางว่า  วันที่  30  สิงหาคม  2546  เวลา  9.30  น.  โจทก์มาเข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาลพญาไท  2  สำเนาเวชระเบียนระบุอาการแรกรับ  BW  79.4  HT  167 BP  140/60 ขอผล  LAB  จากอุตรดิตถ์คลีนิค  (15  สิงหาคม  2546)  เวชระเบียนของโรงพยาบาลพญาไท  2  ระบุว่าตอนเจ็บหายใจไม่สุดขณะนั่ง  ก่อนอาหารไม่แน่นหน้าอก  หาวบ่อย  ไม่เรอ  ไม่นัด  ต่อมาเมื่อวันที่  2  กันยายน  2546  ขณะโจทก์ไปดูงานก่อสร้างอยู่ที่บริเวณสะพานควายเกิดอาการแน่นหน้าอกหายใจไม่ออก  หน้ามืดกะทันหัน  จนเพื่อนร่วมงานต้องช่วยกันนำส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลพญาไท  2  ในเวลา  9.50 น.  สำเนาเวชระเบียนระบุว่ามาด้วยอาการ  BS = 167  BUN = 25 CR = 1.2 CHOL = 198 TG = 256 SGDT = 15 SGPT = 20 ALKPHOS = 37 เจาะ LAB จากอุตรดิตถ์  คลีนิคแล็ป  ( 1  กันยายน  2546 ) มาด้วยอาการมีแสบตาบ่อยต้องอมยาบ่อย ADMIT  แพทย์ตรวจแล้ววินิจฉัยว่ากล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดรุนแรงเฉียบพลัน  จึงเห็นควรให้พักรักษาในโรงพยาบาลเป็นกรณีฉุกเฉิน  และได้ทำการตรวจสวนหัวใจขยายหลอดเลือดด้วยการทำบอลลูนใส่ขดลวด  พักรักษา - วันที่ 4  กันยายน  2546  เป็นเวลา  2  วัน  เสียค่าบริการทางการแพทย์เป็นเงิน  140,905  บาท  ดังนั้นกรณีของโจทก์ซึ่งเกิดอาการแน่นหน้าอก  หายใจไม่ออกขณะปฏิบัติงานอยู่ที่กรุงเทพฯ  จึงไม่สามารถเข้ารับการรักษาที่สถานพยาบาลตามสิทธิได้  และอาการป่วยดังกล่าวถือได้ว่ามีลักษณะรุนแรงอันอาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีจึงเป็นกรณีที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ประกันตนเจ็บป่วยอันมิใช่เนื่องจากการทำงานและไม่สามารถไปรับบริการทางการแพทย์จากสถานพยาบาลที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดให้สำหรับโจทก์และเป็นกรณีที่จำเป็นต้องได้รับบริการทางการแพทย์อย่างฉุกเฉิน  โจทก์จึงมีสิทธิได้รับค่าบริการทางการแพทย์เฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงตามความจำเป็น  ภายในระยะเวลาไม่เกินเจ็ดสิบสองชั่วโมง  ตามอัตราที่ระบุไว้ในประกาศสำนักงานประกันสังคม  เรื่อง กำหนดจำนวนเงินค่าบริการทางการแพทย์  ซึ่งจำเลยที่  1  มิได้อุทธรณ์โต้แย้งเรื่องของจำนวนค่าบริการทางการแพทย์  ดังนั้นที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่ากรณีของโจทก์ต้องเสียค่าบริการทางการแพทย์จำนวน  140,905  บาท  เป็นค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเนื่องจากกรณีฉุกเฉินจึงมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนดังกล่าวจึงชอบแล้ว  อุทธรณ์จำเลยที่  1  ฟังไม่ขึ้น

 
                                พิพากษายืน.



อัพเดท ฎีกาน่าสนใจ

ขึ้นทะเบียนรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเกิน ๓๐ วัน ยังมีสิทธิได้รับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานได้ article
ลักษณะความผิดเดียวกัน แต่ระดับความร้ายแรงแตกต่างกัน นายจ้างพิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ผู้จัดการสาขา เสนอรายชื่อลูกค้าที่ขาดคุณสมบัติทำประกันชีวิต ถือว่าจงใจทำให้นายจ้างเสียหาย / ผิดร้ายแรง article
หยุดกิจการชั่วคราวตาม มาตรา ๗๕ article
สัญญาจ้างเป็นสัญญาต่างตอบแทน นายจ้างออกค่าใช้จ่ายในการเข้าทดสอบเพื่อรับเกียรติบัตร เมื่อทดสอบผ่านต้องทำงานกับนายจ้าง ๕ ปี บังคับใช้ได้ article
ศาลแรงงานกลางมีอำนาจสั่งรับพยานเอกสารได้ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม article
ประกอบธุรกิจแข่งขัน / ไปทำงานกับนายจ้างอื่น ในลักษณะผิดต่อสัญญาจ้าง เมื่อลูกจ้างได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้างตามสัญญาแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะบังคับ / ห้ามทำงานตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างอีกต่อไป article
คดีแรงงานเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้คดีอาญายกฟ้อง แต่พฤติกรรมการกระทำผิด เป็นเหตุให้นายจ้างไม่อาจไว้วางใจในการทำงานได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
เลิกจ้างเนื่องจากปรับโครงสร้างองค์กร แต่กำหนดรายชื่อไว้ล่วงหน้า ถือเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม article
การหักลบกลบหนี้ หนี้อันเกิดจากสัญญาจ้าง กรณีลูกจ้างกระทำผิดกับสิทธิประโยชน์ที่มีสิทธิได้รับตามสัญญาจ้าง ถือเป็นมูลหนี้อันเป็นวัตถุอย่างเดียวกันหักลบกลบหนี้กันได้ article
เล่นการพนันฉลากกินรวบ เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน กรณีร้ายแรง article
กรณีไม่ถือเป็นการประกอบธุรกิจแข่งขันหรือไม่ถือว่าทำงานกับนายจ้างใหม่ในลักษณะธุรกิจเดียวกับนายจ้าง article
สัญญาฝึกอบรม นายจ้างกำหนดเบี้ยปรับได้ เป็นสัญญาที่เป็นธรรม article
ค้ำประกันการทำงาน หลักประกันการทำงาน การหักลบกลบหนี้ค่าเสียหายจากการทำงาน article
ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์แต่ตนเอง เรียกรับเงินจากลูกค้า ถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ article
ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา มาทำงานสายประจำ ถือว่า กระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สหภาพแรงงานทำบันทักข้อตกลงเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างกับนายจ้าง อันส่งผลกระทบต่อสิทธิหน้าที่ของสมาชิก ขัดกับข้อตกลงเดิมและมิได้ขอมติที่ประชุมใหญ่ ข้อตกลงดังกล่าวไม่อาจใช้บังคับได้ article
ขอเกษียณอายุก่อนกำหนดตามประกาศ ถือเป็นการสมัครใจเลิกสัญญาจ้างแรงงานต่อกัน มิใช่การเลิกจ้างหรือการเกษียณอายุ จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยตามระเบียบกรณีเกษียณอายุ article
สถาบันวิจัยอันเป็นส่วนหนึ่งของกิจการมหาวิทยาลัยถือเป็นหน่วยงานของรัฐ ได้รับยกเว้น ไม่อยู่ภายใต้บังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา ๔ (๑) article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า จากการเลิกจ้างมีอายุความฟ้องร้องได้ภายใน ๑๐ ปี article
ทะเลาะวิวาทเรื่องส่วนตัวไม่ส่งผลกระทบต่อการบังคับบัญชา ไม่เป็นความผิด กรณีร้ายแรง ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ article
พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน มิใช่ทายาทผู้มีสิทธิรับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ และเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ตามพระราชบัญญัติ ประกันสังคม มาตรา ๗๓ และมาตรา ๗๗ article
ขับรถเร็วเกินกว่าข้อบังคับกำหนด เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนคำสั่งโยกย้าย เลิกจ้างได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ประกาศใช้ระเบียบใหม่ ไม่ปรากฏว่ามีพนักงานโต้แย้งคัดค้าน ถือว่าทุกคนยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ article
เงินค่าตอบแทนพิเศษกับเงินโบนัส มีเงื่อนไขต่างกัน หลักเกณฑ์การจ่ายต่างกัน จึงต้องพิจารณาต่างกัน article
ทายาทผู้มีสิทธิได้รับเงินกองทุนเงินทดแทน article
ค่ารถแทนรถยนต์ประจำตำแหน่ง ไม่ถือเป็นค่าจ้าง และ ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสมให้ถือตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานที่กำหนดไว้ article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างไม่ตกลง ขอเวลาตัดสินใจและหยุดงานไป นายจ้างแจ้งให้กลับเข้าทำงานตามปกติ ถือว่านายจ้างยังไม่มีเจตนาเลิกจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ แอบนอนหลับในเวลาทำงาน ถือเป็นเหตุในการเลิกจ้างได้ เลิกจ้างเป็นธรรม article
ลาออกโดยไม่สุจริต ไม่มีผลใช้บังคับ article
ทำความผิดคล้ายคลึงกันแต่ไม่เหมือนกัน พิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ประกอบธุรกิจ บริการ ด่าลูกค้าด้วยถ้อยคำหยาบคาย " ควาย " ถือเป็นการกระทำความผิดกรณีร้ายแรง article
ข้อบังคับ ระบุให้ผู้บังคับบัญชาเหนือกว่ามีอำนาจแก้ไข เพิ่มโทษ หรือลดโทษได้ การยกเลิกคำสั่งลงโทษเดิมและให้ลงโทษใหม่หนักกว่าเดิมจึงสามารถทำได้ article
เลือกปฏิบัติในการลงโทษระเบียบการห้ามใส่ตุ้มหูมาทำงาน บังคับใช้ได้ แต่เลือกปฏิบัติในการลงโทษไม่ได้ article
ลงโทษพักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างและเตือนในคราวเดียวกันได้ ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน article
จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย article
ข้อตกลงรับเงินและยินยอมปลดหนี้ให้แก่กัน ถือเป็นการตกลงระงับข้อพิพาทแม้จะทำขึ้นก่อนคำสั่งเลิกจ้างมีผลใช้บังคับ article
ศาลแรงงานมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานที่คู่ความอ้างส่งศาลได้ แม้มิได้ระบุบัญชีพยานไว้ก็ตาม article
สัญญาจ้างห้ามลูกจ้างไปทำงานกับนายจ้างใหม่ที่ประกอบธุรกิจเช่นเดียวกันมีกำหนดเวลา บังคับใช้ได้ article
เลิกจ้างและรับเงินค่าชดเชย ใบรับเงิน ระบุขอสละสิทธิ์เรียกร้องเงินอื่นใดใช้บังคับได้ ลูกจ้างไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องสินจ้างและค่าเสียหายได้อีก article
เกษียณอายุ 60 ปี ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยนับแต่วันครบกำหนดเกษียณอายุ แม้นายจ้างไม่ได้บอกเลิกจ้างก็ตาม article
ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องและเพิกเฉยไม่ดูแลผลประโยชน์ของนายจ้าง เป็นเหตุให้นายจ้างไม่ไว้วางใจในการทำงานได้เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ละเลยต่อหน้าที่ ไม่รายงานเคพีไอ นายจ้างตักเตือนแล้ว ถือว่าผิดซ้ำคำเตือน เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ทำสัญญาจ้างต่างด้าวทำงานในอาชีพต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว สัญญาจ้างถือเป็นโมฆะ article
ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง article
ศาลมีคำสั่งให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษาตามหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน ในขณะที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ยุติ ต้องสืบพยานใหม่และพิพากษาใหม่ไปตามรูปคดี article
แม้สัญญาจ้างไม่ได้ระบุระยะเวลาทดลองงานไว้ แต่นายจ้างก็สามารถประเมินผลการทำงานของลูกจ้างได้ article
การควบรวมกิจการ สิทธิและหน้าที่โอนไปเป็นของบริษัทใหม่ การจ่ายเงินสมทบบริษัทใหม่ที่ควบรวมจึงมีสิทธิจ่ายเงินสมทบในอัตราเดิมตามสิทธิ มิใช่ในอัตราบริษัทตั้งใหม่ article
เลิกจ้างรับเงินค่าชดเชยแล้วตกลงสละสิทธิ์จะไม่เรียกร้องผละประโยชน์ใดๆ ถือว่าสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเป็นอันระงับไป article
รับเหมาก่อสร้าง ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบ จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมแทนผู้รับเหมาช่วง หากผู้รับเหมาช่วงไม่นำส่งเงินสมทบตามกฎหมายโดยคำนวณจากอัตราค่าจ้างที่ระบุตามแบบ ( ภ.ง.ด. 50 ) และบัญชีงบดุล article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานระบุห้ามทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกาย ผู้บังคับบัญชา เพื่อนพนักงาน ทั้งในสถานที่ทำงาน หรือสถานที่อื่นๆ ฝ่าฝืนถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง ใช้บังคับได้ไม่ขัดต่อกฎหมาย article
ไส้ติ่งอักเสบ แพทย์วินิจฉัยให้ผ่าตัด ถือเป็นกรณีฉุกเฉิน เบิกค่ารักษาได้ มีสิทธิรับเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ได้ article
ค่าเช่าที่พัก ค่าใช้จ่ายเดินทางเป็นสวัสดิการไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่ารถยนต์ซึ่งกำหนดเป็นสวัสดิการไว้ชัดเจนแยกจากฐานเงินเดือนปกติ ถือเป็นสวัสดิการไม่ใช่ค่าจ้าง article
ละเมิดข้อตกลงสภาพการจ้าง ละเมิดสัญญาจ้าง มีอายุความ 10 ปี มิใช่ 1 ปี article
พฤติกรรมการจ้างที่ถือว่าเป็นการจ้างแรงงาน ถือเป็นลูกจ้าง / นายจ้างตามกฎหมาย article
พนักงานขายรถยนต์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ประจำบูธ ตามที่ได้รับมอบหมาย ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
เลือกตั้งคณะกรรมการสหภาพฯ ขัดต่อข้อบังคับสหภาพหรือขัดต่อกฎหมาย ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบ article
ฝ่าฝืนสัญญาจ้าง กรณีห้ามทำการแข่งขันกับนายจ้างหรือทำธุรกิจคล้ายคลึงกับนายจ้างเป็นเวลา 2 ปี นับจากสิ้นสุดสัญญาต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้าง article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระบุให้นายจ้างเลิกจ้างเพราะเหตุคนล้นงาน ปรับลด ขนาดองค์กรได้ ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะเลิกจ้างลูกจ้างได้ article
ข้อบังคับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรณีตัดสิทธิ์รับเงินสมทบพร้อมผลประโยชน์หากกระทำผิดถูกปลดออกจากงานบังคับใช้ได้ article
ทะเลาะวิวาทกัน นอกเวลางาน นอกบริเวณบริษัทฯ ไม่ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนไม่ไปตรวจสารเสพติดซ้ำตามคำสั่งและนโยบาย ถือว่าฝ่าฝืน ข้อบังคับ หรือ ระเบียบ กรณีร้ายแรง article
วันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วน article
เป็นลูกจ้างที่มีอำนาจกระทำการแทนนายจ้างในการจ้างงาน ไม่มีสิทธิได้รับค่าทำงานในวันหยุด และลักทรัพย์เอาต้นไม้ของนายจ้างไป ถือว่ากระทำผิดอาญาแก่นายจ้าง เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ผลการทำงานดีมาโดยตลอดและไม่เคยกระทำผิดมาก่อน แต่ปีสุดท้ายผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ถือเป็นเหตุที่จะอ้างในการเลิกจ้าง article
ได้รับบาดเจ็บรายการเดียว เข้ารักษา 2 ครั้ง ถือว่าเป็นการรักษารายการเดียว นายจ้างสำรองจ่ายเพิ่มเติมไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ใช่ 200,000 บาท article
ผู้บริหารบริษัท ฯ ถือเป็นลูกจ้างหรือไม่ ดูจาก_________ ? article
ขับรถออกนอกเส้นทาง แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรงและก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้าง นายจ้างหักเงินประกันการทำงานได้ article
ค่าจ้างระหว่างพักงาน เมื่อข้อเท็จจริง ลูกจ้างกระทำความผิดจริง จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างระหว่างพักงาน article
“ นายจ้าง ” ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 article
สัญญารักษาความลับ ข้อมูลทางการค้า (ห้ามประกอบหรือรับปฏิบัติงานแข่งขันนายจ้าง) มีกำหนด 2 ปี บังคับใช้ได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย และการกำหนดค่าเสียหาย ถือเป็นเบี้ยปรับตามกฎหมาย ศาลปรับลดได้ตามสมควร article
เงินรางวัลการขายประจำเดือน จ่ายตามเป้าหมายการขาย ที่กำหนดไว้ ไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่าโทรศัพท์ เหมาจ่าย ถือเป็นค่าจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ 3 วันทำการ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เลิกจ้างเป็นธรรมไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ลาออกมีผลใช้บังคับแล้ว ออกหนังสือเลิกจ้างภายหลังใช้บังคับไม่ได้ article
ตกลงรับเงิน ไม่ติดใจฟ้องร้องอีกถือเป็นการตกลงประนีประนอมกันบังคับได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย
เลิกจ้างระหว่างทดลองงาน ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ข้อตกลงว่า “หากเกิดข้อพิพาทตามสัญญาจ้างแรงงาน ให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย” ไม่เกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมายแรงงาน เมื่อเกิดสิทธิตามกฎหมาย ฟ้องศาลแรงงานได้ โดยไม่ต้องให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย article
เลิกจ้างด้วยเหตุอื่น อันมิใช่ความผิดเดิมที่เคยตักเตือน ไม่ใช่เหตุที่จะไม่จ่ายค่าชดเชย เลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย article
นำรถยนต์ไปใช้ในกิจธุระส่วนตัว มีพฤติกรรมคดโกง ไม่ซื่อตรง พฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต ไม่น่าไว้วางใจ ลงโทษปลดออกจากการทำงานได้ article
การกระทำที่กระทบต่อเกียรติ ชื่อเสียงของนายจ้าง และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้กระทำนอกสถานที่ทำงานและนอกเวลางาน ก็ถือว่า ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกรณีร้ายแรง article
สัญญาค้ำประกันการทำงานไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ต้องรับผิดชอบตลอดไป article
ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเลิกจ้างได้ ถือว่าเลิกจ้างเป็นธรรมและความผิดที่ลงโทษแล้วจะนำมาลงโทษอีกไม่ได้ article
ผิดสัญญาจ้างไปทำงานกับคู่แข่ง นายจ้างฟ้องเรียกค่าเสียหายตามสัญญาได้ แต่ค่าเสียหาย เป็นดุลพินิจของศาลจะกำหนด article
จงใจกระทำผิดโดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้นายจ้างเสียหาย ถือว่า กระทำละเมิดต่อนายจ้าง ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น article
ตกลงสละสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย ภายหลังเลิกจ้าง ใช้บังคับได้ ไม่เป็นโมฆะ article
ก้าวร้าวไม่ให้ความเคารพผู้บังคับบัญชา ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้ามิใช่ค่าจ้าง คิดดอกเบี้ยในอัตรา 7. 5 ต่อปี article
ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของนายจ้างในเรื่องส่วนตัวเป็นประจำ ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่กาปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต เลิกจ้างเป็นธรรม article
สั่งให้พนักงานขับรถ ขับรถออกนอกเส้นทางแต่ไม่ได้มีส่วนในการขับรถ ถือว่าผิดต่อสัญญาจ้าง แต่ไม่ต้องรับผิดอันมีผลโดยตรงจากมูลละเมิด ( ขับรถโดยประมาท ) article
จ่ายของสมนาคุณให้ลูกค้า โดยไม่ตรวจสอบบิลให้ถูกต้อง มิใช่ความผิดกรณีร้ายแรงไม่ใช่การทุจริตต่อหน้าที่ แต่ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เสร็จลุล่วงไปโดยถูกต้อง และสุจริต เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ฟ้องประเด็นละเมิด กระทำผิดสัญญาจ้าง ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง มีอายุความ 10 ปี article
ตกลงยินยอมให้หักค่าจ้างชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันเงินกู้ นายจ้างสามารถหักค่าจ้างได้ตามหนังสือยินยอมโดยไม่ต้องฟ้อง article
กระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้างและประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง article
“ งานโครงการตามมาตรา 118 วรรค 4 ” บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ว่าจ้างลูกจ้างทำงานตามโครงการที่รับเหมา ถือว่าจ้างงานในปกติธุรกิจของนายจ้าง มิใช่งานโครงการ article
เงินโบนัสต้องมีสภาพการเป็นพนักงานจนถึงวันกำหนดจ่าย ออกก่อนไม่มีสิทธิได้รับ article
ระเบียบกำหนดจ่ายเงินพิเศษ ( gratuity ) เนื่องจากเกษียณอายุ โดยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายแตกต่างจากการจ่ายค่าเชย ถือว่านายจ้างยังไม่ได้จ่ายค่าชดเยตามกฎหมาย article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด

เลขที่ 511/4 ถนนประชาอุทิศ 117/1 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร (10140)

โทร/Tel : 02 - 8159522, แฟกซ์/Fax : 02 - 8159523, มือถือ/Mobile : 081 - 7936156

อีเมล/E-mail : sawai.prm@gmail.com, เว็บไซต์/Web : www.parameelaw.com