มูลค่าลงทุนขยายรง.ไทยวูบ82% เอกชนไทยลงทุนนอก สู้ค่าแรง300บ.ไม่ไหว
กรมโรงงาน ระบุลงทุนขยายกิจการรอบ 11 เดือน สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 51.51% แต่เงินลงทุนลดลง หลังจากอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นได้ทยอยย้ายไปลงทุนประเทศเพื่อนบ้าน
นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เปิดเผยถึงการ “ตั้งโรงงานใหม่”ในรอบ 11 เดือน (ม.ค.-พ.ย.2556) ว่า จำนวนโรงงานที่ได้เริ่มประกอบกิจการใหม่ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤศจิกายน 2556 มีจำนวนทั้งสิ้น 4,260 โรง เพิ่มขึ้น?24.56% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดตั้งโรงงาน 3,420 โรง ซึ่งทำให้มีการจ้างแรงงานใหม่เพิ่มขึ้น 106,724 คน เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อน 42.56% มีเงินลงทุน 355,593.88 เพิ่มสูงกว่าปี 2555 ถึง 199.81%
โดยสาเหตุที่มีจำนวนโรงงานใหม่ และมูลค่าการลงทุนที่เพิ่มขึ้นมาก เพราะการตั้งโรงงานได้มีการวางแผนและใช้เวลาก่อสร้างมาแล้ว 2-3 ปี ซึ่งเป็นช่วงก่อนเศรษฐกิจโลกซบเซา และมีความเชื่อมั่นในประเทศไทยสูงจึงทำให้มียอดตั้งโรงงานในปีนี้เพิ่มขึ้นมาก ส่วนที่ไปเพิ่มขึ้นที่ตะวันออกมากกว่าภาคอื่น เนื่องจากโรงงานในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในปี 2554 ได้ย้ายมาตั้งโรงงานในภาคตะวันออกเพิ่มขึ้น ส่วนภาคใต้ขยายตัวมากเพราะมีการขยายตัวในอุตสาหกรรมยางพารา และน้ำมันปาล์ม
“ผลกระทบจากการเมืองจะยังไม่ส่งผล ต่อตัวเลขตั้งโรงงานในปีนี้ ซึ่งหากเหตุการณ์ยืดเยื้อไปอีก 2-3 เดือน ก็จะทำให้ยอดการตั้งโรงงานใหม่ และขยายโรงงาน ในครึ่งหลังของปี 2557 ลดลง โดยจะต้องจับตาตัวเลขการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการ ส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม หากลดลงมาก ก็จะฉุดยอดการตั้งโรงงาน และขยายโรงงานในครึ่งหลังของปี 2557 อย่างแน่นอน ส่วนในช่วงครึ่งปีแรงของปี 2557 ยอดการตั้งโรงงานใหม่ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากปีนี้”?นายณัฐพล กล่าว
นายณัฐพล กล่าวว่า ส่วนจำนวนโรงงานที่ “ลงทุนขยายกิจการ”ในรอบ 11 เดือน มีจำนวนทั้งสิ้น?603 โรง สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 51.51% ที่มีจำนวน 398 โรง มีการจ้างแรงงานเพิ่ม 53,979 คน เพิ่มขึ้น 69.34%?ขณะที่เงินลงทุนมีจำนวน 122,273.12 ล้านบาท ลดลงถึง 82% เนื่องจากอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นได้ทยอยย้ายไปขยายการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน เพราะมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำเพิ่มเป็น 300 บาท โดยอุตสาหกรรมที่ย้ายออกไปมาก ได้แก่ อุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม ส่วนใหญ่จะย้ายไปประเทศกัมพูชา และสปป.ลาว และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ย้ายไปมาเลเซีย และกัมพูชา เป็นต้น
สาเหตุที่มูลค่าการลงทุนขยายกิจการลดลงถึง 82% เนื่องจากอุตสาหกรรมต่างๆ ได้มีการขยายการลงทุนไปต่างประเทศ มากขึ้น เพราะได้รับผลกระทบค่าแรง เช่นอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่ม ย้ายไปกัมพูชา และสปป.ลาว อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ย้ายไปมาเลเซีย และกัมพูชา เป็นต้น ส่วนภาคตะวันออกที่มีการขยายโรงงานเพิ่มมาก เพราะปลอดภัยจากปัญหาน้ำท่วม
ส่วนจำนวนโรงงานที่ “เลิกกิจการ”ในรอบ 11 เดือนมีจำนวนทั้งสิ้น 1,185 โรง ลดลง 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีแรงงานตกงาน 37,092 คน ลดลง 12% มีมูลค่าเงินลงทุน 24,958.46 ล้านบาท ลดลง 30.73%