เผยคนไทยเหยื่อโจรไนจีเรียดับแล้ว1
ก.แรงงาน * อธิบดีกรมแรงงานเผยอยู่ระหว่างตรวจสอบ 4 ตัวประกันที่ถูกโจรไนจีเรียจับ เป็นแรงงานไทยจริงหรือไม่ แต่มีข่าวเสียชีวิตแล้ว 1 คน เตรียมหาทางช่วยเหลือ
นายประวิทย์ เคียงผล อธิบดีกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 11 สิงหาคมนี้ กรณีแรงงานไทยในประเทศไนจีเรียถูกคนร้ายจับตัวไป 4 คน และมีกระแสข่าวออกมาจากกระทรวงการต่างประเทศ เสียชีวิตแล้ว 1 คน ว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุตัวบุคคลแรงงานทั้ง 4 คนที่ถูกจับตัวได้ เนื่องจากไทยไม่มีเอกอัครราชทูตฝ่ายแรงงานในประเทศไนจีเรีย จึงต้องอาศัยการดูแลและตรวจสอบจากกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้ แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานในไนจีเรียตั้งแต่ปี 2554 ถึงปัจจุบัน มีทั้งหมด 264 คน ส่วนใหญ่จะทำงานในอุตสาหกรรมน้ำมันและภาคการเกษตร จำนวน 3 คน ในบริษัท ไทยฟาร์ม ที่ไนจีเรีย ซึ่งมีทั้งแจ้งเดินทางด้วยตนเองและผ่านบริษัทจัดหางาน
"เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในเรื่องของข้อมูลต่างๆ จึงอยากให้ชัดเจนก่อนจึงจะแจ้งให้ทราบ เนื่องจากมีการแจ้งไปทำงานในภาคการเกษตรเพียง 3 คนเท่านั้น ส่วน 4 คนที่ถูกจับตัวนั้นยังไม่รู้ว่าเดินทางไปอย่างไร และเป็นคนไทยตามข่าวหรือไม่ หากใช่ ต้องตรวจสอบด้วยว่าเดินทางไปในลักษณะใด หากทราบว่าทั้ง 4 คนเป็นใคร และเป็นแรงงานไทยจริง จะเร่งประสานญาติและหาทางช่วยเหลือโดยเร็ว" นายประวิทย์กล่าว
เขากล่าวด้วยว่า แรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานยังไนจีเรียส่วนใหญ่จะต้องสมัครเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ เพื่อให้ได้รับสิทธิ์การดูแล โดยเฉพาะหากเกิดการเสียชีวิตในต่างประเทศ ญาติจะได้รับเงินช่วยเหลือค่าทำศพจำนวน 40,000 บาท รวมทั้งค่ารักษาพยาบาล หรือค่าเดินทางกลับประเทศหากเกิดเหตุฉุกเฉินด้วย
มีรายงานข่าวเมื่อวันเสาร์ อ้างการเปิดเผยทางโทรศัพท์ของเอ็มมานูเอล ชินดาห์ รัฐมนตรีที่รับผิดชอบด้านการเกษตรของรัฐริเวอร์ส ระบุว่า กลุ่มคนร้ายซึ่งมีอาวุธได้เข้าสกัดรถของกลุ่มคนไทยที่กำลังเดินทางไปยังฟาร์มโอมิดาในเขตบูกูมา ก่อนที่กลุ่มคนร้ายจะลักพาตัวคนไทย 4 คน และผู้ร่วมงานที่เป็นชาวไนจีเรียอีก 2 คน แต่ชาวไนจีเรียทั้ง 2 คนถูกปล่อยตัวออกมาอย่างรวดเร็ว โดยในระหว่างนั้น หนึ่งในชาวไนจีเรียที่ได้รับการปล่อยตัวเกิดอาการตื่นตระหนก กระโดดลงไปในน้ำและจมหาย
จนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมของตัวประกันที่เป็นคนไทยทั้ง 4 คน และยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่ากลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้เป็นฝ่ายใด และมีจุดประสงค์เพียงเพื่อต้องการลักพาตัวไปเรียกค่าไถ่จริงหรือไม่
ไนจีเรียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีปัญหาการลักพาตัวคนไปเรียค่าไถ่ในลำดับต้นๆ ของโลก โดยเฉพาะพื้นที่รัฐริเวอร์สซึ่งมีกลุ่มอาชญากรจำนวนมาก อันมีแรงดึงดูดจากกระแสเงินที่สะพัดจากอุตสาหกรรมน้ำมันในพื้นที่ และมีรายงานว่าในแต่ละปี พวกแก๊งอาชญากรเหล่านี้ต่างทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำนับล้านดอลลาร์จากการเรียกค่าไถ่.
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงความคืบหน้ากรณีแรงงานไทย ๔ คนถูกลักพาตัวในไนจีเรีย
เมื่อวันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๖ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงความคืบหน้ากรณีแรงงานไทย ๔ คนถูกลักพาตัวในประเทศไนจีเรีย สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้
เมื่อวันที่ ๑๒ สิงหาคมที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูจา ได้แจ้งกระทรวงการต่างประเทศไนจีเรียและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐ Rivers State เพื่อแสดงความห่วงกังวลในเรื่องดังกล่าว พร้อมขอให้ทางการไนจีเรียให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง โดยผู้จัดการบริษัท Onida ผู้เป็นนายจ้าง ได้ยืนยันที่จะรับผิดชอบหากกลุ่มผู้ร้ายมีการเรียกค่าไถ่ และจะดำเนินการด้วยความระมัดระวังเพื่อให้ตัวประกันได้รับการปล่อยตัวอย่างปลอดภัยทุกคน ทั้งนี้ หนึ่งในคนไทยที่ถูกลักพาตัวได้ติดต่อกลับมายังบริษัท Onida แล้ว โดยแจ้งว่าขณะนี้คนไทยทั้ง ๔ คนปลอดภัยดี อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการติดต่อเพื่อแจ้งเงื่อนไขการปล่อยตัวจากกลุ่มผู้ร้ายแต่อย่างใด
อนึ่ง ข่าวดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันศุกร์ที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๕๖ เวลาประมาณ ๗.๐๐ น. แรงงานไทย ๔ คน ซึ่งทำงานอยู่ที่ฟาร์มเลี้ยงปลา Buguma Mega Fish Farm ซึ่งบริหารโดยบริษัท Onida ของชาวอิสราเอล ภายใต้โครงการของรัฐ Rivers State ทางทิศใต้ของกรุงอาบูจาประมาณ ๘๕๗ กิโลเมตร ถูกกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวนลักพาตัวไประหว่างเดินทางไปทำงานร่วมกับชาวไนจีเรียอีก ๒ คน โดยกลุ่มคนร้ายได้ปล่อยตัวชาวไนจีเรียระหว่างหลบหนีทางทะเล
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูจาได้แจ้งเตือนเป็นระยะ ๆ ให้คนไทยใช้ความระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังรัฐต่าง ๆ ทางตอนใต้ของไนจีเรีย โดยเฉพาะรัฐ Rivers State และแนะนำให้คนไทยที่จะเดินทางไปไนจีเรียลงทะเบียนให้ข้อมูลพื้นฐานไว้กับสถานเอกอัครราชทูตฯ ทางเว็บไซต์ http://thaiembassynigeria.com/ เพื่อเป็นข้อมูลในการดูแลและคุ้มครองคนไทยในไนจีเรียและประเทศในเขตอาณา
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงอาบูจาและกระทรวงการต่างประเทศกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อให้แรงงานไทยทั้ง ๔ คนได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยโดยเร็วที่สุด และได้ติดต่อครอบครัวของคนไทยทั้ง ๔ คนแล้ว