ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ชมรมบริหารงานบุคคล
dot
bulletสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย
bulletชมรมบริหารงานบุคคล
bulletชมรมบริหารงานบุคคล อยุธยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลรังสิต
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคล อมตะนคร
bulletสมาคมการบริหารงานบุคคล (PAAs)
bulletชมรมบริหารงานบุคคลบางพลี
bulletชมรมนักบริหารงานบุคคลพัทยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลยุคใหม่
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคลจังหวัดราชบุรี
bulletงานบริหารงานบุคคล
bulletชมรมงานบริหารงานบุคคลกรุงเทพฯ
bulletชมรมบริหารงานบุคลสุขสวัสดิ์
dot
ติดต่อราชการศาล
dot
bulletศาลแรงงานกลาง
bulletศาลแรงงานภาค ๒
bulletศาลยุติธรรม
bulletศาลปกครอง
bulletศาลรัฐธรมนูญ
bulletสำนักงานอัยการสูงสุด
bulletกระทรวงยุติธรรม
bulletคณะกรรมการกฤษฎีกา
bulletกรมบังคับคดี
bulletสภาทนายความ
dot
หน่วยงานราชการสำคัญ
dot
bulletกระทรวงแรงงาน
bulletกรมการจัดหางาน
bulletกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
bulletกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
bulletสำนักงานประกันสังคม
bulletกรมสรรพากร
bulletกรมบัญชีกลาง
bulletกรมพัฒนาธุรกิจกาค้า
bulletกระทรวงอุตสาหกรรม
bulletกรมโรงงานอุตสาหกรรม
bulletกรมส่งเสริมอุตสาหรม
bulletการนิคมอุตสาหกรรม
dot
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน
dot
bulletสมบัติลีกัล
bulletเอกเซลสำหรับงาน HR โดย อ.สำเริง
bulletบทความดี ๆ จากโกป้อม
dot
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
dot
dot
Newsletter

dot


พยากรณ์อากาศวันนี้
..................................


ราคาน้ำมันวันนี้
..................................



คดีแรงงานเป็นคดีที่มีลักษณะพิเศษ ต่างจากคดีแพ่งทั่วไป คำให้การจำเลยจะยื่นเป็นหนังสือจะไม่ให้การก็ได้ article

 คำพิพากษาฎีกา ที่ 9755 / 2554

คดีแรงงานเป็นคดีที่มีลักษณะพิเศษ  ต่างจากคดีแพ่งทั่วไป  คำให้การจำเลยจะยื่นเป็นหนังสือจะไม่ให้การก็ได้
                      โจทก์ฟ้องว่า  เมื่อเดือนพฤษภาคม  2549  จำเลยมีข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างกับโจทก์ทั้งสอง  กล่าวคือ  เมื่อเดือนธันวาคม  2548  โจทก์ที่  2  ซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยและเป็นสมาชิกของโจทก์ที่  1  ได้ถูกผู้อื่นทำร้ายร่างกายด้วยของมีคนจนได้รับบาดเจ็บสาหัส  และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลกรุงเทพพระประแดง  เมื่อโจทก์ที่  2  หายป่วยแล้ว  และจำเลยได้เรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลกับโจทก์ที่  2  เป็นเงิน  45,000  บาท  ซึ่งจำเลยได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้กับโรงพยาบาลกรุงเทพพระประแดงไปก่อนแล้ว  จำเลยเป็นคู่สัญญากับโรงพยาบาลกรุงเทพพระประแดง  โดยตกลงให้ลูกจ้างทุกคนเข้ารักษาพยาบาลได้ไม่จำกัดอัตราค่ารักษาพยาบาล  และจำเลยจะเป็นผู้จ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ลูกจ้างทั้งหมด  ไม่มีการเรียกเก็บเงินค่ารักษาพยาบาลจากลูกจ้างในภายหลัง  การกระทำของจำเลยจึงเป็นการขัดต่อข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่มีไว้กับโจทก์ทั้งสองซึ่งเคยปฏิบัติเรื่อยมา  โดยจำเลยไม่สามารถเปลี่ยนแปลงข้อตกลงนั้นได้  ต่อมาวันที่  26  ธันวาคม  2549  โจทก์ที่  2  ได้ลาออกจากการเป็นลูกจ้างจำเลยได้หักเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของโจทก์ที่  2  เพื่อใช้หนี้ค่ารักษาพยาบาลที่จำเลยจ่ายให้โรงพยาบาลกรุงเทพพระประแดง  เป็นเงิน  39,592  บาท  การกระทำของจำเลยขัดต่อกฎหมาย  โจทก์ที่  2  ได้บอกกล่าวให้จำเลยคืนเงินดังกล่าวหลายครั้งแล้ว  แต่จำเลยเพิกเฉย  ขอให้จำเลยคืนเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่จำเลยหักไปจากโจทก์ที่  2  เป็นเงิน  39,592  บาท  และเงินค่าจ้างที่จำเลยหักไปจากโจทก์ที่  2  เป็นเงิน  1,000  บาท  พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ  7.5  ต่อปี  จากต้นเงิน  40,592  บาท นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ที่  2
 
 
 
                      จำเลยให้การว่า  จำเลยไม่ได้ผิดข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างกับโจทก์ทั้งสองทั้งไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง  กล่าวคือ  เมื่อวันที่  25  ธันวาคม  2548  เวลาประมาณ  22  นาฬิกา  โจทก์ที่  2  ได้ถูกบุคคลภายนอกทำร้ายด้วยของมีคมจนได้รับบาดเจ็บเหตุเกิดนอกที่ตั้งของโรงงานจำเลยประมาณ  2.5 กิโลเมตร  และได้มีการประสานนำส่งโรงพยาบาลกรุงเทพพระประแดง  ต่อมาหลังจากตรวจสอบแล้วปรากฏว่าโรงพยาบาลตามสิทธิประกันตนของโจทก์ที่  2  คือ  โรงพยาบาลเมืองสมุทรปากน้ำ  ซึ่งได้มีการประสานเพื่อนำโจทก์ที่  2  ส่งโรงพยาบาลตามสิทธิ  แต่ปรากฏว่าโรงพยาบาลกรุงเทพพระประแดงไม่ส่งตัวให้โรงพยาบาลตามสิทธิ  เนื่องจากจะต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลก่อนจำนวน  68,603  บาท  โดยแบ่งเรียกเก็บจากสำนักงานประกันสังคม  จำนวน  20,500  บาท  สำหรับส่วนที่เกินโจทก์ที่  2  และภรรยาไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลดังกล่าว  จำเลยจึงต้องทดรองจ่ายเงินแทนโจทก์ที่  2  ไปก่อน  จำนวน  48,103  บาท  เกี่ยวกับเงินทดรองจ่ายดังกล่าว  จำเลยไม่เคยมีข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างหรือมีแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ลูกจ้างที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุส่วนตัวภายนอกที่ทำงานและไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน  นอกจากนี้หลังจากโจทก์ที่  2  หายเป็นปกติแล้วได้ตกลงกับจำเลยให้หักเงินที่จำเลยทดรองจ่าย  จำนวน  44,792  บาท  คืนไปจากค่าจ้าง  ต่อมาโจทก์ที่  1  ได้ทำหนังสือคัดค้าน  จำเลยจึงได้จ่ายเงินที่เรียกเก็บค่าเงินทดรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลคืนแก่โจทก์ที่  2  แล้ว  ต่อมาโจทก์ที่  2  ได้ลาออกจากการเป็นลูกจ้างของจำเลย  โจทก์ที่  2  ได้ตกลงจ่ายเงินที่ได้จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ  จำนวน  39,592  บาท  แก่จำเลย  เงินดังกล่าวเป็นการใช้หนี้ค่ารักษาพยาบาลที่จำเลยได้ทดรองจ่ายแทนโจทก์ที่  2  ไป  มิใช่การหักเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ  ขอให้ยกฟ้อง
 
 
 
                       ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว  พิพากษายกฟ้อง
 
 
 
                       โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
 
 
 
                    ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว  ศาลแรงงานกลางรับฟังข้อเท็จจริงว่า  เมื่อวันที่  26  ธันวาคม  2548  โจทก์ที่  2  ลูกจ้างของจำเลยถูกทำร้ายร่างกายที่ไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน  และเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลกรุงเทพพระประแดงเสียค่าใช้จ่ายเป็นเงิน  44,792  บาท  ซึ่งจำเลยได้ทดรองจ่ายให้ไปก่อน  ต่อมาโจทก์ที่  2  ย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลเมืองสมุทรปากน้ำ  ซึ่งเป็นโรงพยาบาลตามสิทธิประกันตน  ต่อมาโจทก์ที่  2  ทำหนังสือรับรองผ่อนชำระเงินคืนแก่จำเลย  จากนั้นจำเลยได้ทำหนังสือหักเงินค่าจ้างโจทก์ที่  2  เป็นรายเดือน  โจทก์ที่  1  ได้คัดค้านการที่จำเลยหักค่าจ้างของโจทก์ที่  2  จำเลยจึงได้คืนเงินค่าจ้างที่หักไปพร้อมดอกเบี้ยคืนโจทก์ที่  2  แล้ว  ต่อมาโจทก์ที่  2  ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นพนักงานของจำเลย  โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่  26  ธันวาคม  2549  โจทก์ที่  2  มีสิทธิได้รับเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นเงิน  131,478.99  บาท  ซึ่งมีการออกเช็คสั่งจ่ายให้โจทก์  ที่  2  จำนวน  2  ฉบับ  จำนวนเงิน  91,886,99  บาท  และ  39,592  บาท  ตามลำดับโดยโจทก์ที่  2  ได้รับเงินตามเช็คเพียงฉบับเดียวเป็นเงิน  91,886.99  บาท  ส่วนเช็คอีกฉบับเป็นเงิน  39,592  บาท  จำเลยนำไปชำระค่ารักษาพยาบาลที่ได้ทดรองจ่ายให้แก่โจทก์ที่  2  แล้ว  วินิจฉัยประเด็นข้อพิพาทว่า  โจทก์ที่  2  ได้จ่ายเช็คจำนวนเงิน  39,592  บาท  แก่จำเลยเป็นการหักเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของโจทก์ที่  2  หรือไม่  โดยเห็นควรพิจารณาก่อนว่าจำเลยมีข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างเรื่องค่ารักษาพยาบาลว่าให้ลูกจ้างจำเลยเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลกรุงเทพพระประแดง  โดยจำเลยจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลเองทั้งหมด  หรือไม่เห็นว่า  ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยไม่เคยมีข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างให้ลูกจ้างเข้ารักษาพยาบาล  โดยจำเลยจะจ่ายให้ทั้งหมดโดยไม่จำกัดอัตราค่ารักษาพยาบาล  ดังนั้นการที่จำเลยจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้โจทก์ที่  2  จึงเป็นการทดรองจ่ายแทน  ซึ่งโจทก์ที่  2  มีหน้าที่จะต้องจ่ายเงินดังกล่าวแก่จำเลย  ส่วนปัญหาที่ว่า  โจทก์ที่  2  ให้เช็คจำนวนเงิน  39,592  บาท  แก่จำเลยเป็นการหักเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของโจทก์ที่  2  หรือไม่  เห็นว่า  ข้อเท็จจริงไม่ปรากฏว่าจำเลยได้บังคับ  ขู่เข็ญ  หรือกระทำการใดเพื่อขืนใจให้ได้เช็คมา  จึงฟังได้ว่าโจทก์ที่  2  ได้โอนเช็คให้จำเลยเอง  เพื่อชำระหนี้ที่จำเลยทดรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลแทนโจทก์ที่  2  จึงมิใช่การหักเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามที่โจทก์ทั้งสองกล่าวอ้าง
 
 
 
                       พิเคราะห์แล้ว  ที่โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์ว่า  จำเลยมิได้อ้างส่งหนังสือมอบอำนาจของผู้เรียงและพิมพ์คำให้การในขณะที่ยื่นคำให้การและในขณะพิจารณาคดี  คำให้การของจำเลยจึงมิชอบด้วยกฎหมายในเรื่องตัวการตัวแทน  จึงถือว่าเป็นโมฆะและจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การเห็นว่า  คดีแรงงานเป็นคดีที่มีลักษณะพิเศษและต่างไปจากคดีแพ่งโดยทั่วไป  ทั้งการดำเนินคดีควรเป็นไปโดยสะดวก  ประหยัด  รวดเร็ว  เสมอภาค  และเป็นธรรม  สำหรับคำให้การนั้นจำเลยจะยื่นเป็นหนังสือหรือจะไม่ให้การก็ได้  ซึ่งคำให้การในคดีนี้ก็มีการลงลายมือชื่อของกรรมการร่วมกันและประทับตราสำคัญของจำเลย  ที่ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งรับคำให้การของจำเลยไว้พิจารณาดำเนินการจึงชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสองในข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
 
 
 
                      ส่วนที่โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์ว่า  ศาลแรงงานกลางจะต้องกำหนดประเด็นข้อพิพาทเพิ่มเติมว่า  จำเลยได้เปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างของโจทก์ทั้งสองหรือไม่  จึงจะเป็นไปตามคำฟ้องเห็นว่า  คดีนี้ก่อนที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยประเด็นข้อพิพาทที่กำหนดไว้ในเรื่องการหักเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของโจทก์ที่  2  ก็ได้พิจารณาวินิจฉัยก่อนแล้วว่า  จำเลยมีข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างเรื่องค่ารักษาพยาบาลหรือไม่  ดังนั้น  แม้ว่าศาลแรงงานจะมิได้กำหนดประเด็นข้อพิพาทในเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง  แต่ก็ได้พิจารณาวินิจฉัยในเรื่องดังกล่าวไว้แล้วในคำพิพากษาจึงหาจำต้องกำหนดเป็นประเด็นดังที่โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์ไม่  อุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสองในข้อนี้ฟังไม่ขึ้นเช่นกัน
 
 
 
                      สำหรับอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งสองที่ว่า  คำเบิกความของนางปราณี  พึ่งบุญ  ณ  อยุธยา  ผู้รับมอบอำนาจของจำเลยที่ระบุว่า  จำเลยไม่มีข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างเรื่องการจ่ายค่ารักษาพยาบาลนั้น  รับฟังเป็นพยานหลักฐานไม่ได้  ทั้งโจทก์ที่  1  กับจำเลยมีข้อตกลงที่ได้ปฏิบัติกันมาตั้งแต่แรกใช้บังคับได้เรื่อยมาอันเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างเรื่องค่ารักษาพยาบาล  แม้ว่าจะไม่มีบันทึกไว้โดยแจ้งขัดก็ตาม  กับที่ว่าการที่จำเลยให้โจทก์ที่  2  ลงชื่อมอบอำนาจให้ตัวแทนจำเลยไปรับเช็คจำนวนเงิน  39,592  บาท  นั้น  เป็นการฉ้อฉลเพื่อที่จะหักเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของโจทก์ที่  2  เห็นว่า  ข้ออุทธรณ์ดังกล่าวของโจทก์ทั้งสองเป็นการโต้แย้งคัดค้านดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานกลางที่วินิจฉัยว่าจำเลยไม่เคยมีข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างให้ลูกจ้างเข้ารักษาพยาบาล  โดยจำเลยจะจ่ายให้ทั้งหมดโดยไม่จำกัดอัตราค่ารักษาพยาบาล  กับโจทก์ที่  2  ได้โอนเช็คให้จำเลยเอง  โดยไม่ปรากฏว่ามีการบังคับ  ขู่เข็ญ  หรือการกระทำการใดเพื่อขืนใจให้ได้เช็คมาเพื่อชำระหนี้  จึงมิใช่การหักเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของโจทก์ที่  2  จึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง  ต้องห้ามอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน  พ.ศ.2522  มาตรา  54  วรรคหนึ่ง  ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
 
 
 
                      พิพากษายืน

 




อัพเดท ฎีกาน่าสนใจ

ขึ้นทะเบียนรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเกิน ๓๐ วัน ยังมีสิทธิได้รับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานได้ article
ลักษณะความผิดเดียวกัน แต่ระดับความร้ายแรงแตกต่างกัน นายจ้างพิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ผู้จัดการสาขา เสนอรายชื่อลูกค้าที่ขาดคุณสมบัติทำประกันชีวิต ถือว่าจงใจทำให้นายจ้างเสียหาย / ผิดร้ายแรง article
หยุดกิจการชั่วคราวตาม มาตรา ๗๕ article
สัญญาจ้างเป็นสัญญาต่างตอบแทน นายจ้างออกค่าใช้จ่ายในการเข้าทดสอบเพื่อรับเกียรติบัตร เมื่อทดสอบผ่านต้องทำงานกับนายจ้าง ๕ ปี บังคับใช้ได้ article
ศาลแรงงานกลางมีอำนาจสั่งรับพยานเอกสารได้ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม article
ประกอบธุรกิจแข่งขัน / ไปทำงานกับนายจ้างอื่น ในลักษณะผิดต่อสัญญาจ้าง เมื่อลูกจ้างได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้างตามสัญญาแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะบังคับ / ห้ามทำงานตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างอีกต่อไป article
คดีแรงงานเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้คดีอาญายกฟ้อง แต่พฤติกรรมการกระทำผิด เป็นเหตุให้นายจ้างไม่อาจไว้วางใจในการทำงานได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
เลิกจ้างเนื่องจากปรับโครงสร้างองค์กร แต่กำหนดรายชื่อไว้ล่วงหน้า ถือเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม article
การหักลบกลบหนี้ หนี้อันเกิดจากสัญญาจ้าง กรณีลูกจ้างกระทำผิดกับสิทธิประโยชน์ที่มีสิทธิได้รับตามสัญญาจ้าง ถือเป็นมูลหนี้อันเป็นวัตถุอย่างเดียวกันหักลบกลบหนี้กันได้ article
เล่นการพนันฉลากกินรวบ เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน กรณีร้ายแรง article
กรณีไม่ถือเป็นการประกอบธุรกิจแข่งขันหรือไม่ถือว่าทำงานกับนายจ้างใหม่ในลักษณะธุรกิจเดียวกับนายจ้าง article
สัญญาฝึกอบรม นายจ้างกำหนดเบี้ยปรับได้ เป็นสัญญาที่เป็นธรรม article
ค้ำประกันการทำงาน หลักประกันการทำงาน การหักลบกลบหนี้ค่าเสียหายจากการทำงาน article
ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์แต่ตนเอง เรียกรับเงินจากลูกค้า ถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ article
ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา มาทำงานสายประจำ ถือว่า กระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สหภาพแรงงานทำบันทักข้อตกลงเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างกับนายจ้าง อันส่งผลกระทบต่อสิทธิหน้าที่ของสมาชิก ขัดกับข้อตกลงเดิมและมิได้ขอมติที่ประชุมใหญ่ ข้อตกลงดังกล่าวไม่อาจใช้บังคับได้ article
ขอเกษียณอายุก่อนกำหนดตามประกาศ ถือเป็นการสมัครใจเลิกสัญญาจ้างแรงงานต่อกัน มิใช่การเลิกจ้างหรือการเกษียณอายุ จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยตามระเบียบกรณีเกษียณอายุ article
สถาบันวิจัยอันเป็นส่วนหนึ่งของกิจการมหาวิทยาลัยถือเป็นหน่วยงานของรัฐ ได้รับยกเว้น ไม่อยู่ภายใต้บังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา ๔ (๑) article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า จากการเลิกจ้างมีอายุความฟ้องร้องได้ภายใน ๑๐ ปี article
ทะเลาะวิวาทเรื่องส่วนตัวไม่ส่งผลกระทบต่อการบังคับบัญชา ไม่เป็นความผิด กรณีร้ายแรง ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ article
พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน มิใช่ทายาทผู้มีสิทธิรับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ และเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ตามพระราชบัญญัติ ประกันสังคม มาตรา ๗๓ และมาตรา ๗๗ article
ขับรถเร็วเกินกว่าข้อบังคับกำหนด เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนคำสั่งโยกย้าย เลิกจ้างได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ประกาศใช้ระเบียบใหม่ ไม่ปรากฏว่ามีพนักงานโต้แย้งคัดค้าน ถือว่าทุกคนยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ article
เงินค่าตอบแทนพิเศษกับเงินโบนัส มีเงื่อนไขต่างกัน หลักเกณฑ์การจ่ายต่างกัน จึงต้องพิจารณาต่างกัน article
ทายาทผู้มีสิทธิได้รับเงินกองทุนเงินทดแทน article
ค่ารถแทนรถยนต์ประจำตำแหน่ง ไม่ถือเป็นค่าจ้าง และ ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสมให้ถือตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานที่กำหนดไว้ article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างไม่ตกลง ขอเวลาตัดสินใจและหยุดงานไป นายจ้างแจ้งให้กลับเข้าทำงานตามปกติ ถือว่านายจ้างยังไม่มีเจตนาเลิกจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ แอบนอนหลับในเวลาทำงาน ถือเป็นเหตุในการเลิกจ้างได้ เลิกจ้างเป็นธรรม article
ลาออกโดยไม่สุจริต ไม่มีผลใช้บังคับ article
ทำความผิดคล้ายคลึงกันแต่ไม่เหมือนกัน พิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ประกอบธุรกิจ บริการ ด่าลูกค้าด้วยถ้อยคำหยาบคาย " ควาย " ถือเป็นการกระทำความผิดกรณีร้ายแรง article
ข้อบังคับ ระบุให้ผู้บังคับบัญชาเหนือกว่ามีอำนาจแก้ไข เพิ่มโทษ หรือลดโทษได้ การยกเลิกคำสั่งลงโทษเดิมและให้ลงโทษใหม่หนักกว่าเดิมจึงสามารถทำได้ article
เลือกปฏิบัติในการลงโทษระเบียบการห้ามใส่ตุ้มหูมาทำงาน บังคับใช้ได้ แต่เลือกปฏิบัติในการลงโทษไม่ได้ article
ลงโทษพักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างและเตือนในคราวเดียวกันได้ ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน article
จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย article
ข้อตกลงรับเงินและยินยอมปลดหนี้ให้แก่กัน ถือเป็นการตกลงระงับข้อพิพาทแม้จะทำขึ้นก่อนคำสั่งเลิกจ้างมีผลใช้บังคับ article
ศาลแรงงานมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานที่คู่ความอ้างส่งศาลได้ แม้มิได้ระบุบัญชีพยานไว้ก็ตาม article
สัญญาจ้างห้ามลูกจ้างไปทำงานกับนายจ้างใหม่ที่ประกอบธุรกิจเช่นเดียวกันมีกำหนดเวลา บังคับใช้ได้ article
เลิกจ้างและรับเงินค่าชดเชย ใบรับเงิน ระบุขอสละสิทธิ์เรียกร้องเงินอื่นใดใช้บังคับได้ ลูกจ้างไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องสินจ้างและค่าเสียหายได้อีก article
เกษียณอายุ 60 ปี ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยนับแต่วันครบกำหนดเกษียณอายุ แม้นายจ้างไม่ได้บอกเลิกจ้างก็ตาม article
ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องและเพิกเฉยไม่ดูแลผลประโยชน์ของนายจ้าง เป็นเหตุให้นายจ้างไม่ไว้วางใจในการทำงานได้เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ละเลยต่อหน้าที่ ไม่รายงานเคพีไอ นายจ้างตักเตือนแล้ว ถือว่าผิดซ้ำคำเตือน เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ทำสัญญาจ้างต่างด้าวทำงานในอาชีพต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว สัญญาจ้างถือเป็นโมฆะ article
ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง article
ศาลมีคำสั่งให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษาตามหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน ในขณะที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ยุติ ต้องสืบพยานใหม่และพิพากษาใหม่ไปตามรูปคดี article
แม้สัญญาจ้างไม่ได้ระบุระยะเวลาทดลองงานไว้ แต่นายจ้างก็สามารถประเมินผลการทำงานของลูกจ้างได้ article
การควบรวมกิจการ สิทธิและหน้าที่โอนไปเป็นของบริษัทใหม่ การจ่ายเงินสมทบบริษัทใหม่ที่ควบรวมจึงมีสิทธิจ่ายเงินสมทบในอัตราเดิมตามสิทธิ มิใช่ในอัตราบริษัทตั้งใหม่ article
เลิกจ้างรับเงินค่าชดเชยแล้วตกลงสละสิทธิ์จะไม่เรียกร้องผละประโยชน์ใดๆ ถือว่าสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเป็นอันระงับไป article
รับเหมาก่อสร้าง ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบ จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมแทนผู้รับเหมาช่วง หากผู้รับเหมาช่วงไม่นำส่งเงินสมทบตามกฎหมายโดยคำนวณจากอัตราค่าจ้างที่ระบุตามแบบ ( ภ.ง.ด. 50 ) และบัญชีงบดุล article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานระบุห้ามทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกาย ผู้บังคับบัญชา เพื่อนพนักงาน ทั้งในสถานที่ทำงาน หรือสถานที่อื่นๆ ฝ่าฝืนถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง ใช้บังคับได้ไม่ขัดต่อกฎหมาย article
ไส้ติ่งอักเสบ แพทย์วินิจฉัยให้ผ่าตัด ถือเป็นกรณีฉุกเฉิน เบิกค่ารักษาได้ มีสิทธิรับเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ได้ article
ค่าเช่าที่พัก ค่าใช้จ่ายเดินทางเป็นสวัสดิการไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่ารถยนต์ซึ่งกำหนดเป็นสวัสดิการไว้ชัดเจนแยกจากฐานเงินเดือนปกติ ถือเป็นสวัสดิการไม่ใช่ค่าจ้าง article
ละเมิดข้อตกลงสภาพการจ้าง ละเมิดสัญญาจ้าง มีอายุความ 10 ปี มิใช่ 1 ปี article
พฤติกรรมการจ้างที่ถือว่าเป็นการจ้างแรงงาน ถือเป็นลูกจ้าง / นายจ้างตามกฎหมาย article
พนักงานขายรถยนต์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ประจำบูธ ตามที่ได้รับมอบหมาย ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
เลือกตั้งคณะกรรมการสหภาพฯ ขัดต่อข้อบังคับสหภาพหรือขัดต่อกฎหมาย ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบ article
ฝ่าฝืนสัญญาจ้าง กรณีห้ามทำการแข่งขันกับนายจ้างหรือทำธุรกิจคล้ายคลึงกับนายจ้างเป็นเวลา 2 ปี นับจากสิ้นสุดสัญญาต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้าง article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระบุให้นายจ้างเลิกจ้างเพราะเหตุคนล้นงาน ปรับลด ขนาดองค์กรได้ ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะเลิกจ้างลูกจ้างได้ article
ข้อบังคับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรณีตัดสิทธิ์รับเงินสมทบพร้อมผลประโยชน์หากกระทำผิดถูกปลดออกจากงานบังคับใช้ได้ article
ทะเลาะวิวาทกัน นอกเวลางาน นอกบริเวณบริษัทฯ ไม่ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนไม่ไปตรวจสารเสพติดซ้ำตามคำสั่งและนโยบาย ถือว่าฝ่าฝืน ข้อบังคับ หรือ ระเบียบ กรณีร้ายแรง article
วันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วน article
เป็นลูกจ้างที่มีอำนาจกระทำการแทนนายจ้างในการจ้างงาน ไม่มีสิทธิได้รับค่าทำงานในวันหยุด และลักทรัพย์เอาต้นไม้ของนายจ้างไป ถือว่ากระทำผิดอาญาแก่นายจ้าง เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ผลการทำงานดีมาโดยตลอดและไม่เคยกระทำผิดมาก่อน แต่ปีสุดท้ายผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ถือเป็นเหตุที่จะอ้างในการเลิกจ้าง article
ได้รับบาดเจ็บรายการเดียว เข้ารักษา 2 ครั้ง ถือว่าเป็นการรักษารายการเดียว นายจ้างสำรองจ่ายเพิ่มเติมไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ใช่ 200,000 บาท article
ผู้บริหารบริษัท ฯ ถือเป็นลูกจ้างหรือไม่ ดูจาก_________ ? article
ขับรถออกนอกเส้นทาง แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรงและก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้าง นายจ้างหักเงินประกันการทำงานได้ article
ค่าจ้างระหว่างพักงาน เมื่อข้อเท็จจริง ลูกจ้างกระทำความผิดจริง จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างระหว่างพักงาน article
“ นายจ้าง ” ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 article
สัญญารักษาความลับ ข้อมูลทางการค้า (ห้ามประกอบหรือรับปฏิบัติงานแข่งขันนายจ้าง) มีกำหนด 2 ปี บังคับใช้ได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย และการกำหนดค่าเสียหาย ถือเป็นเบี้ยปรับตามกฎหมาย ศาลปรับลดได้ตามสมควร article
เงินรางวัลการขายประจำเดือน จ่ายตามเป้าหมายการขาย ที่กำหนดไว้ ไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่าโทรศัพท์ เหมาจ่าย ถือเป็นค่าจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ 3 วันทำการ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เลิกจ้างเป็นธรรมไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ลาออกมีผลใช้บังคับแล้ว ออกหนังสือเลิกจ้างภายหลังใช้บังคับไม่ได้ article
ตกลงรับเงิน ไม่ติดใจฟ้องร้องอีกถือเป็นการตกลงประนีประนอมกันบังคับได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย
เลิกจ้างระหว่างทดลองงาน ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ข้อตกลงว่า “หากเกิดข้อพิพาทตามสัญญาจ้างแรงงาน ให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย” ไม่เกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมายแรงงาน เมื่อเกิดสิทธิตามกฎหมาย ฟ้องศาลแรงงานได้ โดยไม่ต้องให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย article
เลิกจ้างด้วยเหตุอื่น อันมิใช่ความผิดเดิมที่เคยตักเตือน ไม่ใช่เหตุที่จะไม่จ่ายค่าชดเชย เลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย article
นำรถยนต์ไปใช้ในกิจธุระส่วนตัว มีพฤติกรรมคดโกง ไม่ซื่อตรง พฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต ไม่น่าไว้วางใจ ลงโทษปลดออกจากการทำงานได้ article
การกระทำที่กระทบต่อเกียรติ ชื่อเสียงของนายจ้าง และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้กระทำนอกสถานที่ทำงานและนอกเวลางาน ก็ถือว่า ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกรณีร้ายแรง article
สัญญาค้ำประกันการทำงานไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ต้องรับผิดชอบตลอดไป article
ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเลิกจ้างได้ ถือว่าเลิกจ้างเป็นธรรมและความผิดที่ลงโทษแล้วจะนำมาลงโทษอีกไม่ได้ article
ผิดสัญญาจ้างไปทำงานกับคู่แข่ง นายจ้างฟ้องเรียกค่าเสียหายตามสัญญาได้ แต่ค่าเสียหาย เป็นดุลพินิจของศาลจะกำหนด article
จงใจกระทำผิดโดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้นายจ้างเสียหาย ถือว่า กระทำละเมิดต่อนายจ้าง ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น article
ตกลงสละสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย ภายหลังเลิกจ้าง ใช้บังคับได้ ไม่เป็นโมฆะ article
ก้าวร้าวไม่ให้ความเคารพผู้บังคับบัญชา ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้ามิใช่ค่าจ้าง คิดดอกเบี้ยในอัตรา 7. 5 ต่อปี article
ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของนายจ้างในเรื่องส่วนตัวเป็นประจำ ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่กาปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต เลิกจ้างเป็นธรรม article
สั่งให้พนักงานขับรถ ขับรถออกนอกเส้นทางแต่ไม่ได้มีส่วนในการขับรถ ถือว่าผิดต่อสัญญาจ้าง แต่ไม่ต้องรับผิดอันมีผลโดยตรงจากมูลละเมิด ( ขับรถโดยประมาท ) article
จ่ายของสมนาคุณให้ลูกค้า โดยไม่ตรวจสอบบิลให้ถูกต้อง มิใช่ความผิดกรณีร้ายแรงไม่ใช่การทุจริตต่อหน้าที่ แต่ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เสร็จลุล่วงไปโดยถูกต้อง และสุจริต เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ฟ้องประเด็นละเมิด กระทำผิดสัญญาจ้าง ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง มีอายุความ 10 ปี article
ตกลงยินยอมให้หักค่าจ้างชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันเงินกู้ นายจ้างสามารถหักค่าจ้างได้ตามหนังสือยินยอมโดยไม่ต้องฟ้อง article
กระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้างและประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง article
“ งานโครงการตามมาตรา 118 วรรค 4 ” บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ว่าจ้างลูกจ้างทำงานตามโครงการที่รับเหมา ถือว่าจ้างงานในปกติธุรกิจของนายจ้าง มิใช่งานโครงการ article
เงินโบนัสต้องมีสภาพการเป็นพนักงานจนถึงวันกำหนดจ่าย ออกก่อนไม่มีสิทธิได้รับ article
ระเบียบกำหนดจ่ายเงินพิเศษ ( gratuity ) เนื่องจากเกษียณอายุ โดยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายแตกต่างจากการจ่ายค่าเชย ถือว่านายจ้างยังไม่ได้จ่ายค่าชดเยตามกฎหมาย article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด

เลขที่ 511/4 ถนนประชาอุทิศ 117/1 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร (10140)

โทร/Tel : 02 - 8159522, แฟกซ์/Fax : 02 - 8159523, มือถือ/Mobile : 081 - 7936156

อีเมล/E-mail : sawai.prm@gmail.com, เว็บไซต์/Web : www.parameelaw.com