ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน บิดเบี้ยว
ทานชาเขียวทุกวัน ดีต่อสุขภาพ
เชื่อว่าหลายคนเคลิ้มเมื่อเห็นโฆษณาชวนดื่มชาเขียวบรรจุขวดเพราะเกาะกระแสว่าทานแล้วป้องกันมะเร็ง ป้องกันสมองเสื่อม นั่นคือความเชื่อ
แต่ความจริงคือ :
สิ่งที่เป็นยาพิษซ่อนในชาเขียวบรรจุขวด เหล่านี้คือปริมาณน้ำตาลสูงมากๆ บางยี่ห้อขวดเดียวมีมากกว่า34กรัม (มากกว่าระดับน้ำตาลในกระแสเลือดยามปกติมีเพียง5-7กรัมเท่านั้นแปรผันตามปริมาณเลือดในร่างกาย ) (คนเราควรทานน้ำตาลไม่เกิน30 กรัมต่อวัน) เรียกได้ว่าดื่มขวดเดียวก็เกินโควตาต่อวันไปแล้ว
น้ำตาลที่สูงถึง34กรัม เข้าสู่ร่างกายพรวดเดียวจะเร่งกระตุ้นให้ตับอ่อนรีบหลั่งอินซูลินออกมาโดยเร็วเพื่อรับมือกับภาวะน้ำตาลท่วมเลือด ผลก็คือจะทำให้ผนังหลอดเลือดเกิดการอักเสบ ขรุขระ ตะปุ่มตะป่ำ เป็นตัวล่อให้ไขมันที่ถูกอนุมูลอิสระโจมตี Oxidized LDL มาจับตัวเป็นตะกรันไขมันที่ละน้อยๆจนหลอดเลือดอุดตัน
ลองมาดูว่าน้ำตาลเลวร้ายต่อสุขภาพอย่างไร อ่านกันดู
อ่านแล้วเเทบอยากขออวยพรให้ผู้ผลิตชาเขียวบรรจุขวดเหล่านี้ อุดมสมบรูณ์ ด้วย เบาหวาน โรคหัวใจ อัลไซเมอร์ มะเร็ง กันจังเลย
ไม่รู้ว่าเขาไม่รู้จริงๆ?? หรือแกล้งโง่ กันแน่??
==================
สรุปความร้ายแรงของน้ำตาล
A . ศาสตราจารย์นายแพทย์ Mehmet Oz “ สาเหตุหลักที่สำคัญที่สุดสองประการของโรคหัวใจก็คือ 1) การอักเสบ และ 2) อินซูลิน การอักเสบร้ายแรงประดุจฝนกรดที่กัดกร่อนผนังภายในของหลอดเลือด “
B. นายแพทย์ Eric Tepol“ไม่มีข้อสงสัยใดๆอีกต่อไปแล้วว่า ภาวะที่ร่างกายมีปฏิกิริยาดื้ออินซูลิน เป็นสาเหตุหลักที่นำไปสู่โรคหัวใจ ภาวะการดื้ออินซูลินควบคู่กับการอักเสบ ปริมาณอินซูลินสูงๆจะส่งผลกระทบโดยตรงกับอวัยวะที่มีเซลล์ไขมันเยอะ ( เช่น สมอง หัวใจ ปอด )ทำให้มีการผลิตสารเร่งการอักเสบที่มีฤทธิ์ทำลายรุนแรงขึ้นเช่น Cytokines ,TNF , IL-6 อันนำไปสู่ โรคเบาหวาน การอักเสบของผนังภายในหลอดเลืด ผนังหลอดเลือดตีบตัน โรคหัวใจ”
C. นายแพทย์ Pinchas Cohen “ปริมาณอินซูลินสูงจะเร่งตับให้สร้างสารคล้ายฮอร์โมน IGF-1 ( Insulin-like Growth factor )มากขึ้น IGF-1 จะกระตุ้นเซลล์ให้แบ่งตัว ขยายตัวเร็วขึ้น มากขึ้น เกิดผลกระทบให้เนื้องอก มะเร็งขยายตัวได้มากขึ้น พบหลักฐานมากขึ้นเรื่อยๆว่า IGF-1 เป็นตัวเร่งกระตุ้นมะเร็ง และมีส่วนสัมพันธ์โดยตรงกับการขยายตัวของ มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งลำไส้ ชัดเจนว่า อินซูลินสูง-- IGF-1 สูง - การอักเสบรุนแรงขึ้น --มีการสร้างสารเร่งการอักเสบที่มีฤทธิ์ทำลายรุนแรงขึ้นเช่น Cytokines ,TNF , IL-6 อันนำไปสู่ โรคร้ายแรงมากมายรวมทั้ง มะเร็ง”
4) รายงานการวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Annals of Oncology ตุลาคม2005 ซึ่งได้รวบรวมผลการวิจัยจากกลุ่มตัวอย่างรวม5,000 คน ได้สรุปใจความสำคัญว่า
“เราได้พบว่าพฤติกรรมการทานอาหาร เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูงๆ มีผลทางสถิติว่าสัมพันธ์โดยตรงกับ ภาวะเสี่ยงต่อโรคมะเร็งเต้านม เนื่องจาก ปริมาณน้ำตาลสูงๆ ทำให้มีการหลั่ง อินซูลินและ IGF-1 มากขึ้นนั่นเอง”
5) นายแพทย์ Lee Roy Morgan “ภาวะอินซูลินสูงเรื้อรัง และทำให้ระดับIGF-1 สูงต่อเนื่องตามมา ส่งผลให้ร่างกายอ่อนแอและเกิดภาวะมะเร็ง ได้มากกว่าคนที่มีระดับอินซูลินต่ำๆ”
6) ด็อกเตอร์ Sonia Lupien “ระดับอินซุลินสูงๆอย่างเรื้อรัง ผนวกกับวิถีชีวิตสังคมเมืองที่เครียด ดิ้นรน ส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของเซลล์สมองอย่างต่อเนื่องจนนำไปสู่ภาวะโรค อัลไซเมอร์ “
7) แพทย์หญิง Suzanne la Monte “ พบความสัมพันธ์โดยตรงระหว่าง) ปฏิกิริยาดื้อต่ออินซูลิน กับภาวะโรคอัลไซเมอร์ ระดับอินซูลินสูงๆเรื้อรัง ทำให้สมองผลิต เอ็นไซม์ IDE( Insulin-degrading enzyme ) ได้น้อยลง ทำให้มีการสะสมตัวของ Beta Amyloid Protein ในเนื้อสมองมากขึ้นจนเกิดตะกรันเหนียวและในที่สุดกลายเป็นแผล จนเซลล์สมองไม่สามารถสร้าง สารสื่อประสาทอะเซติลโคลีนได้อีก - สูญเสียความจำ เซลล์สมองตายในที่สุด “
นายแพทย์ Stephen Sinatra ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือดผู้ผ่านประสบการณ์การรักษามากว่า35 ปี “ในบรรดาสาเหตุหลักทั้ง 12ประการ ที่ทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดนั้น ผมขอย้ำว่าสาเหตุสำคัญอันดับหนึ่งก็คือ การบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาลสูง อันเป็นตัวกระตุ้นให้ร่างกายต้องหลั่งอินซุลินออกมาอย่างรวดเร็วและมากเกินไป ผลข้างเคียงของอินซูลินที่หลั่งออกมาอย่างรวดเร็วก่อให้เกิดการอักเสบของผนังภายในหลอดเลือดทั่วทั้งร่างกาย น้ำตาลนั่นแหละทำให้เกิดโรคหัวใจ”