ลุยคัดเลือกเยาวชนทั่วประเทศ แข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ ครั้งที่ 42
ฝีมือแรงงานของไทยในสาขาต่างๆ ณ วันนี้ต้องบอกว่าไม่แพ้ชาติใดในโลก ซึ่งหากได้รับการส่งเสริม พัฒนา อย่างเต็มที่ จะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน และไม่ต้องมีปัญหาถกเถียงกันเรื่องค่าจ้างขั้นต่ำ เพราะถ้าทักษะ ฝีมือดี ก็จะได้รับค่าจ้างตามคุณภาพฝีมือ สิ่งหนึ่งที่จะมีส่วนช่วยให้แรงงานไทยได้ตระหนักถึงเรื่องนี้ และกระตุ้นให้เกิดการฝึกฝน พัฒนาตนเองคือ การแข่งขันฝีมือแรงงาน ซึ่งมีตั้งแต่ระดับจังหวัด ระดับภาค ระดับประเทศ ระดับอาเซียน ไปจนถึงระดับสูงสุดคือนานาชาติ ซึ่งการแข่งขันฝีมือแรงงานเยาวชนนานาชาตินั้น จะมีขึ้นทุก 2 ปี โดยเริ่มครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2493 ที่กรุงแมดริด ประเทศสเปน ซึ่งจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมทักษะฝีมือแรงงานของเยาวชนจากภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก สำหรับประเทศที่จะส่งเยาวชนเข้าร่วมการแข่งขันฝีมือแรงงานเยาวชนนานาชาตินั้น จะต้องเป็นสมาชิกขององค์การ World Skill ซึ่งในปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 50 ประเทศ
ในส่วนของประเทศไทยนั้น รัฐบาลได้มีมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2536 เห็นชอบให้ดำเนินการจัดส่งบุคคลเข้าร่วมการแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ โดยประเทศไทยได้สมัครเป็นสมาชิกองค์การ World Skill เมื่อปี 2536 และได้จัดส่งเยาวชนเข้าร่วมการแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติมาตามลำดับจนถึงปัจจุบัน ในการแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ ครั้งที่ 42 ณ เมืองไลพ์ซิก สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ระหว่างวันที่ 2 — 7 กรกฎาคม 2556 นี้
นายนคร??ศิลปอาชา อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า ในครั้งนี้ประเทศไทยได้ส่งเยาวชนที่ได้รับการคัดเลือกเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 22 คนใน 20 สาขา ประกอบด้วย
สาขาเทคโนโลยีงานเชื่อม สาขาประกอบอาหาร สาขาเสริมความงาม สาขาเทคโนโลยีระบบไฟฟ้าภายในอาคาร สาขาบริการอาหารและเครื่องดื่ม สาขาแต่งผม สาขากราฟิกดีไซน์ สาขาท่อและสุขภัณฑ์ สาขาแฟชั่นเทคโนโลยี สาขาเมคคาทรอนิกส์ (2 คน) สาขาเทคโนโลยียานยนต์ สาขาเทคโนโลยีสายเครือข่าย สาขาปูกระเบื้อง สาขาเครื่องประดับ สาขาสีรถยนต์ สาขากลึง CNC สาขาออกแบบโมเดล สาขาสร้างและประกอบแม่พิมพ์ สาขากัด CNC (CNC Milling) 20.สาขาการจัดสวน (2คน)
ซึ่งการจัดงานแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติก็เพื่อจูงใจให้เยาวชนเห็นความสำคัญ และมีทัศนคติที่ดีต่ออาชีพที่ต้องใช้ทักษะฝีมือ ทำให้เกิดการพัฒนาตนเอง ซึ่งจะเป็นการช่วยลดปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ตลอดจนกระตุ้นให้ช่างฝีมือในประเทศได้ยกระดับฝีมือของตนเองให้ได้มาตรฐานทัดเทียมกับมาตรฐานสากล
นอกจากนี้ยังเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ในด้านการพัฒนาฝีมือแรงงาน ซึ่งเป็นการส่งเสริมงานด้านการพัฒนาฝีมือแรงงานให้มีประสิทธิภาพและได้มาตรฐานทัดเทียมนานาประเทศอีกด้วย ซึ่งสิ่งที่จะตามมาคือ ความสามารถของช่างฝีมือไทย จะเป็นที่ประจักษ์แก่นานาประเทศ และนำชื่อเสียงมาให้ประเทศไทย ส่งผลให้นักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น
นายนครกล่าวต่อไปว่า เยาวชนที่เข้าแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ จะเข้าเก็บตัวฝึกซ้อมจากหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนชั้นนำในประเทศที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา การฝึกอบรม และการประกอบธุรกิจในสาขานั้นๆ โดยมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมารับผิดชอบเป็นการเฉพาะในการเก็บตัวฝึกซ้อมของแต่ละสาขา นอกจากนี้ยังมีการเข้าค่ายเก็บตัวเพื่อสร้างความพร้อมด้านระเบียบวินัย ร่างกายและจิตใจด้วย
สำหรับการแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ ครั้งที่ผ่านมาคือ ครั้งที่ 41 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษนั้น นายนครกล่าวว่า ประเทศไทยส่งเยาวชนเข้าร่วมการแข่งขันจำนวน 25 สาขา โดยเยาวชนไทยคว้ารางวัลมาได้ 2 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน และรางวัลชมเชย 12 รางวัล
ส่วนการแข่งขันในครั้งนี้ เยาวชนที่ชนะการแข่งขันจะได้รับรางวัลดังต่อไปนี้ 1) เหรียญทองจะได้รับรางวัล 400,000บาท 2)เหรียญเงินจะได้รับรางวัล 300,000บาท 3) เหรียญทองแดงจะได้รับรางวัล??200,000 บาท และ 4)รางวัลชมเชยจะได้รับรางวัล 100,000 บาท
"การแข่งขันฝีมือแรงงาน เป็นโอกาสที่จะได้เปรียบเทียบฝีมือเยาวชนไทย กับฝีมือของเยาวชนชาติอื่นๆ การเตรียมตัวฝึกซ้อมจะช่วยยกระดับฝีมือไม่เฉพาะเยาวชนที่เข้าแข่งขัน แต่รวมทั้งหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนการฝึกซ้อม ซึ่งจะช่วยให้มีโอกาสส่งเสริม พัฒนาฝีมือบุคลากรในหน่วยงานของตนด้วย ดังนั้นจึงอยากให้ภาครัฐและเอกชนให้การสนับสนุนการเก็บตัวฝึกซ้อมของเยาวชน เพราะมีค่าใช้จ่ายสูง และอยากให้สถานศึกษาและภาคเอกชนติดตามการแข่งขันในครั้งนี้ ซึ่งอาจจะเป็นการสร้างแรงบันดาลให้ให้กับเยาวชน หรือช่างฝีมือรุ่นต่อไป"