ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ชมรมบริหารงานบุคคล
dot
bulletสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย
bulletชมรมบริหารงานบุคคล
bulletชมรมบริหารงานบุคคล อยุธยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลรังสิต
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคล อมตะนคร
bulletสมาคมการบริหารงานบุคคล (PAAs)
bulletชมรมบริหารงานบุคคลบางพลี
bulletชมรมนักบริหารงานบุคคลพัทยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลยุคใหม่
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคลจังหวัดราชบุรี
bulletงานบริหารงานบุคคล
bulletชมรมงานบริหารงานบุคคลกรุงเทพฯ
bulletชมรมบริหารงานบุคลสุขสวัสดิ์
dot
ติดต่อราชการศาล
dot
bulletศาลแรงงานกลาง
bulletศาลแรงงานภาค ๒
bulletศาลยุติธรรม
bulletศาลปกครอง
bulletศาลรัฐธรมนูญ
bulletสำนักงานอัยการสูงสุด
bulletกระทรวงยุติธรรม
bulletคณะกรรมการกฤษฎีกา
bulletกรมบังคับคดี
bulletสภาทนายความ
dot
หน่วยงานราชการสำคัญ
dot
bulletกระทรวงแรงงาน
bulletกรมการจัดหางาน
bulletกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
bulletกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
bulletสำนักงานประกันสังคม
bulletกรมสรรพากร
bulletกรมบัญชีกลาง
bulletกรมพัฒนาธุรกิจกาค้า
bulletกระทรวงอุตสาหกรรม
bulletกรมโรงงานอุตสาหกรรม
bulletกรมส่งเสริมอุตสาหรม
bulletการนิคมอุตสาหกรรม
dot
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน
dot
bulletสมบัติลีกัล
bulletเอกเซลสำหรับงาน HR โดย อ.สำเริง
bulletบทความดี ๆ จากโกป้อม
dot
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
dot
dot
Newsletter

dot


พยากรณ์อากาศวันนี้
..................................


ราคาน้ำมันวันนี้
..................................



ค่าเที่ยวที่ได้จากการทำงานในเวลาทำงานปกติถือเป็นค่าจ้าง กรณีมีข้อโต้แย้งกันอยู่ว่า ค่าเที่ยวไม่ถือเป็นค่าจ้างหรือไม่ จึงถือไม่ได้ว่าจงใจหรือเจตนาไม่จ่ายค่าจ้าง article

   คำพิพากษาฎีกา ที่ ๑๗๕๔ - ๑๗๖๖ / ๒๕๕๓

 

  ค่าเที่ยวที่ได้จากการทำงานในเวลาทำงานปกติถือเป็นค่าจ้าง  กรณีมีข้อโต้แย้งกันอยู่ว่า  ค่าเที่ยวไม่ถือเป็นค่าจ้างหรือไม่  จึงถือไม่ได้ว่าจงใจหรือเจตนาไม่จ่ายค่าจ้าง

 

                                คดีทั้งสิบสามสำนวนนี้ ศาลแรงงานกลางสั่งให้รวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกัน โดยให้เรียกโจทก์ตามลำดับสำนวนว่า โจทก์ที่ ๑ ถึงที่ ๑๓ และเรียกจำเลยทั้งสิบสามสำนวนว่า จำเลย

 

                                โจทก์ทั้งสิบสามสำนวนฟ้องและแก้ไขคำฟ้องมีใจความอย่างเดียวกันว่า โจทก์ทั้งสิบสามยื่นคำร้องต่อจำเลยที่ ๑ ซึ่งเป็นพนักงานตรวจแรงงาน กลุ่มงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานพื้นที่ ๘ ว่าโจทก์ทั้งสิบสามเป็นลูกจ้างจำเลยที่ ๒ ตำแหน่งพนักงานขับรถขนส่งสินค้า ได้รับค่าจ้างเป็นรายเดือน และค่าเที่ยวซึ่งโจทก์ทั้งสิบสามไม่ต้องการให้นำค่าเที่ยวมาคำนวณรวมเป็นค้าจ้าง ขอให้จำเลยที่ ๒ จ่ายค่าจ้างที่ขาดพร้อมเงินเพิ่ม จำเลยที่ ๑ สอบสวนและมีคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานกลุ่มงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานพื้นที่ ๘ ที่ ๘/๒๕๕๑ ลงวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๕๑ วินิจฉัยว่า ค่าเที่ยวที่จำเลยที่ ๒ จ่ายให้แก่โจทก์ทั้งสิบสามถือเป็นค่าจ้าง โจทก์ทั้งสิบสามไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างและเงินเพิ่มจากจำเลยที่ ๒ ตามที่ขอ โจทก์ทั้งสิบสามไม่เห็นด้วยกับคำสั่งดังกล่าวเพราะค่าเที่ยวมิได้มีเจตนาที่จะจ่ายเพื่อตอบแทนการทำงานในเวลาทำงานปกติ จึงไม่ใช่ค่าจ้างขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งของจำเลยที่ ๑ ที่ ๘/๒๕๕๑ และขอให้บังคับจำเลยที่ ๒ จ่ายค่าจ้างค้างจ่ายและเงินเพิ่ม

 

                                จำเลยที่ ๑ และที่ ๒ ให้การและแก้ไขคำให้การทำนองเดียวกันว่า ค่าเที่ยวที่จำเลยที่ ๒ จ่ายให้แก่โจทก์ทั้งสิบสามเป็นเงินที่จ่ายเพื่อตอบแทนการทำงานในเวลาทำงานปกติและเป็นค่าจ้างและจำเลยที่ ๒ จ่ายค่าตอบแทนเพิ่มพิเศษอีกวันละ ๑๐๐ บาท ในวันที่ไม่มีการส่งสินค้าและจ่ายค่าโทรศัพท์อีกเดือนละ ๔๐๐ บาท เมื่อรวมแล้วจึงไม่ต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขึ้นต่ำตามกฎหมาย จำเลยที่ ๒ จึงมิได้ค้างจ่ายค่าจ้างหรือเงินเพิ่ม คำสั่งของจำเลยที่ ๑ ชอบแล้ว ขอให้ยกฟ้อง

 

                            ระหว่างพิจารณาคดีของศาลแรงงานกลาง โจทก์ที่ ๔ ขอถอนฟ้องศาลแรงงานกลางอนุญาตและสั่งจำหน่ายคดีเฉพาะโจทก์ที่ ๔

 

                                ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว พิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยที่ ๑ ที่ ๘/๒๕๕๑ ลงวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๕๑ เฉพาะบางส่วนเป็นว่า ให้จำเลยที่ ๒ จ่ายค่าจ้างที่ยังขาดอยู่ให้แก่โจทก์ที่ ๑ เป็นเงิน ๔๐๐ บาท โจทก์ที่ ๒ เป็นเงิน ๒๗๐บาท โจทก์ที่ ๓ เป็นเงิน ๑,๔๐๕ บาท โจทก์ที่ ๕ เป็นเงิน ๖๓๐ บาท โจทก์ที่ ๗ เป็นเงิน ๗๑๐ บาท โจทก์ที่ ๘ เป็นเงิน ๑,๑๔๐ บาท โจทก์ที่ ๙ เป็นเงิน ๑,๒๒๘ บาท โจทก์ที่ ๑๐ เป็นเงิน ๗๐ บาท โจทก์ที่ ๑๒ เป็นเงิน ๗๘๐ บาท โจทก์ที่ ๑๓ เป็นเงิน ๔,๔๘๕ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี ในต้นเงินค่าจ้างค้างจ่ายให้แก่โจทก์แต่ละคนนับแต่วันฟ้อง (ฟ้องวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ นอกจากนี้ให้เป็นไปตามคำสั่งของจำเลยที่ ๑ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยกเสีย และให้ยกฟ้องโจทก์ที่ ๖ และโจทก์ที่ ๑๑

 
                                โจทก์ทั้งสิบสามอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
 

                               ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ทั้งสิบสามเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ ๒ ตำแหน่งพนักงานขับรถขนส่งสินค้า จำเลยที่ ๒ จ่ายค่าจ้างเป็นรายเดือน และค่าเที่ยวซึ่งกำหนดเป็นอัตราแน่นอนตามระยะทาง โจทก์ทั้งสิบสามเห็นว่าการที่จำเลยที่ ๒ นำค่าเที่ยวมารวมคำนวณเป็นค่าจ้าง โดยถือว่าค่าเที่ยวเป็นค่าจ้างนั้นไม่ถูกต้อง และได้รับค่าจ้างต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ จึงยื่นคำร้องต่อจำเลยที่ ๑ เพื่อเรียกค่าจ้างค้างจ่ายและเงินเพิ่ม จำเลยที่ ๑ สอบสวนและมีคำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน กลุ่มสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานพื้นที่ ๘ ที่ ๘/๒๕๕๑ ลงวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๕๑ วินิจฉัยว่าจำเลยที่ ๒ จ่ายค่าเที่ยวให้แก่โจทก์ทั้งสิบสามโดยกำหนดอัตราไว้แน่นอนว่าเที่ยวหนึ่งจะจ่ายให้เท่าใด ซึ่งดำเนินการโดยคำนวณได้ตามจำนวนเที่ยวในเวลาทำงานปกติ จึงเป็นเงินที่จ่ายเพื่อตอบแทนในการทำงานและเป็นค่าจ้าง เมื่อรวมกับค่าจ้างรายเดือนแล้ว ไม่น้อยกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนด จำเลยที่ ๒ ไม่มีค่าจ้างค้างจ่ายหรือต้องจ่ายเงินเพิ่ม โจทก์ทั้งสิบสามได้รับค่าจ้างและค่าเที่ยวเป็นจำนวนเงินตามที่ปรากฏในช่องเงินเดือนและรายได้รวมในเอกสารสรุปรายรับและจำแนกค่าเที่ยว แล้ววินิจฉัยว่า ในการทำงานของโจทก์ในตำแหน่งพนักงานขับรถขนส่งสินค้า นอกจากได้รับค่าจ้างเป็นเงินเดือนจากจำเลยที่ ๒ แล้ว ยังได้รับค่าเที่ยวโดยกำหนดเป็นอัตราแน่นอนตามระยะทาง ค่าเที่ยวจึงเป็นเงินที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกันจ่ายเพื่อตอบแทนการปฏิบัติงานตามปกติของลูกจ้าง อย่างไรก็ดีเงินค่าเที่ยวนี้มีทั้งส่วนที่จ่ายเพื่อตอบแทนการทำงาน ทั้งในเวลาทำงานปกติและนอกเวลาทำงานปกติในอัตราส่วนร้อยละ ๓๐ ต่อ ๗๐ ค่าเที่ยวที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณค่าจ้างจึงมีเพียงร้อยละ ๓๐ ของค่าเที่ยวทั้งหมดที่โจทก์ทั้งสิบสามได้รับ เมื่อพิจารณาเงินเดือนและค่าเที่ยวร้อยละ ๓๐ ของค่าเที่ยวของโจทก์ทั้งสิบสามระหว่างเดือนกันยายน ๒๕๔๘ ถึงเดือนตุลาคม ๒๕๕๐ แล้ว จำเลยที่ ๒ ยังค้างจ่ายค่าจ้างส่วนที่ไม่ครบถ้วนตามตามอัตราค่าจ้างขั้นต่ำสำหรับโจทก์บางราย สำหรับอุทธรณ์ของโจทก์ที่ ๔ นั้น ข้อเท็จจริงปรากฏอยู่แล้วว่า ศาลแรงงานกลางสั่งจำหน่ายคดีเฉพาะโจทก์ที่ ๔ ไปแล้ว ตั้งแต่ก่อนพิพากษาคดีนี้ และโจทก์ที่ ๔ ไม่ได้อุทธรณ์คัดค้าน คดีสำหรับโจทก์ที่ ๔ จึงถึงที่สุดโดยไม่มีคดีอยู่ในศาลที่จะพิจารณาพิพากษา โจทก์ที่ ๔ จึงไม่มีสิทธิที่จะอุทธรณ์ต่อไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา ๑๔๗ และมาตรา ๒๒๓ ประกอบ พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๓๑ ดังนั้น เมื่อโจทก์ที่ ๔ ยื่นอุทธรณ์และศาลแรงงานกลางสั่งรับอุทธรณ์ของโจทก์ที่ ๔ มาด้วยนั้นจึงไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้ คดีคงมีปัญหาต้องวินิจฉัยอุทธรณ์ของโจทก์ที่ ๑ ถึงที่ ๓ และโจทก์ที่ ๕ ถึงที่ ๑๓ ข้อ ๒.๑ และ ๒.๒ ว่า ค่าเที่ยวที่จำเลยที่ ๒ จ่ายให้กับโจทก์ที่ ๑ ถึงที่ ๓ และโจทก์ที่ ๕ ถึงที่ ๑๓ นั้นเป็นค่าจ้างหรือไม่ และโจทก์ที่ ๑ ถึงที่ ๓ และโจทก์ที่ ๕ ถึงที่ ๑๓ มีสิทธิได้รับค่าจ้างค้างจ่ายเพียงใด โจทก์ที่ ๑ ถึงที่ ๓ และโจทก์ที่ ๕ ถึงที่ ๑๓ อุทธรณ์ว่าเงินค่าเที่ยวมีทั้งส่วนที่ตอบแทนการทำงานในเวลาทำงานปกติและนอกเวลาทำงานปกติ ที่ศาลแรงงานกลางนำอัตราค่าเที่ยวร้อยละ ๓๐ และ ๗๐ มาคำนวณเป็นเพียงการประมาณการนั้น ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงงาน พ.ศ.๒๕๔๑ มาตรา ๕ นิยามคำว่า “ค่าจ้าง” หมายความว่า “เงินที่นายจ้างและลูกจ้างตกลงกันจ่ายเป็นค่าตอบแทนในการทำงานตามสัญญาจ้างสำหรับระยะเวลาการทำงานปกติเป็นรายชั่วโมง รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน หรือระยะเวลาอื่น หรือจ่ายให้โดยคำนวณตามผลงานที่ลูกจ้างทำได้ในเวลาทำงานปกติของวันทำงาน และให้หมายความรวมถึงเงินที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างในวันหยุดและวันลาที่ลูกจ้างมิได้ทำงานแต่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับตามพระราชบัญญัตินี้” ดังนั้น ค่าจ้างจึงต้องเป็นค่าตอบแทนในการทำงานสำหรับระยะเวลาการทำงานปกติ เมื่อศาลแรงงานกลางรับฟังข้อเท็จจริงตามที่โจทก์ที่ ๑ ถึงที่ ๓ และโจทก์ที่ ๕ ถึงที่ ๑๓ และจำเลยทั้งสองแถลงรับข้อเท็จจริงร่วมกันตามรายงานกระบวนพิจารณา ลงวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๒ ว่าค่าเที่ยวนั้นได้จากการทำงานในเวลาทำงานปกติและนอกเวลาทำงานปกติในอัตราส่วน ๓๐ ต่อ ๗๐ ค่าเที่ยวดังกล่าวจึงเป็นเงินที่โจทก์ที่ ๑ ถึงที่ ๓ และโจทก์ที่ ๕ ถึงที่ ๑๓ และจำเลยที่ ๒ ตกลงกันจ่ายเป็นค่าตอบแทนในการทำงานตามสัญญาจ้างและส่วนที่ตอบแทนการทำงานสำหรับระยะเวลาทำงานปกติร้อยละ ๓๐ ตามที่โจทก์ที่ ๑ ถึงที่ ๓ และโจทก์ที่ ๕ ถึงที่ ๑๓ และจำเลยทั้งสองแถลงรับข้อเท็จจริงร่วมกัน จึงเป็นค่าจ้าง แต่ส่วนที่ตอบแทนการทำงานนอกเวลาทำงานปกติร้อยละ ๗๐ ไม่เป็นค่าจ้าง และเมื่อศาลแรงงานกลางรับฟังข้อเท็จจริงตามรายงานกระบวนพิจารณา ลงวันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ ซึ่งโจทก์ที่ ๑ ถึงที่ ๓ และโจทก์ที่ ๕ ถึงที่ ๑๓ แถลงไม่ติดใจเรียกร้องค่าจ้างที่ขาดระหว่างเดือนมกราคม ๒๕๔๘ ถึงเดือนสิงหาคม ๒๕๔๘ และโจทก์ที่ ๑ ถึงที่ ๓ และโจทก์ที่ ๕ ถึงที่ ๑๓ กับจำเลยทั้งสองได้แถลงรับกันตามเอกสารหมาย ล. ๑ ขอให้ศาลแรงงานกลางพิจารณาตามเอกสารดังกล่าวแล้ว ศาลแรงงานกลางพิจารณาเงินเดือนและค่าเที่ยวที่โจทก์ที่ ๑ ถึงที่ ๓ และโจทก์ที่ ๕ ถึงที่ ๑๓ ได้รับตามที่ปรากฏในช่วงเงินเดือนและรายได้รวมในสรุปรายรับและจำแนกค่าเที่ยวตามเอกสารหมาย ล.๑ โดยพิจารณาจากเงินเดือนรวมกับค่าเที่ยวในอัตราร้อยละ ๓๐ ระหว่างเดือนกันยายน ๒๕๔๘ ถึงเดือนตุลาคม ๒๕๕๐ แล้ว จึงพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยที่ ๑ บางส่วน โดยให้จำเลยที่ ๒ จ่ายค่าจ้างส่วนที่ต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำให้โจทก์แต่ละคนจึงถูกต้องตามเอกสารหมาย ล.๑ และตามที่โจทก์ที่ ๑ ถึงที่ ๓ และโจทก์ที่ ๕ ถึงที่ ๑๓ และจำเลยทั้งสองรับข้อเท็จจริงร่วมกันแล้วหาใช่เป็นการประมาณการโดยไม่อาจแยกแยะค่าเที่ยวได้ตามที่โจทก์ที่ ๑ ถึงที่ ๓ และโจทก์ที่ ๕ ถึงที่ ๑๓ อุทธรณ์ไม่และเมื่อค่าเที่ยวส่วนร้อยละ ๓๐ เป็นค่าจ้าง ซึ่งศาลแรงงานกลางได้รวมกับเงินเดือนแล้วให้จำเลยที่ ๒ จ่ายส่วนที่ต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำให้โจทก์แต่ละคนดังกล่าว จำเลยที่ ๒ จึงไม่ต้องจ่ายเงินตามจำนวนที่โจทก์ที่ ๑ ถึงที่ ๓ และโจทก์ที่ ๕ ถึงที่ ๑๓ อุทธรณ์ข้อ ๒.๒ อีก อุทธรณ์โจทก์ที่ ๑ ถึงที่ ๓ และโจทก์ที่ ๕ ถึงที่ ๑๓ ข้อที่ ๒.๑ และ ๒.๒ จึงฟังไม่ขึ้น

 

                               มีปัญหาต้องวินิจฉัยของโจทก์ที่ ๑ ถึงที่ ๓ และโจทก์ที่ ๕ ถึงที่ ๑๓ ข้อ ๒.๓ เป็นข้อสุดท้ายว่าโจทก์ที่ ๑ ถึงที่ ๓ และโจทก์ที่ ๕ ถึงที่ ๑๓ มีสิทธิได้รับเงินเพิ่มหรือไม่นั้น ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑ มาตรา ๙ วรรคสอง บัญญัติว่า “ในกรณีที่นายจ้างจงใจไม่คืนหรือไม่จ่ายเงินตามวรรคหนึ่งโดยปราศจากเหตุผลอันสมควร เมื่อพ้นกำหนดเวลาเจ็ดวันนับแต่วันที่ถึงกำหนดคืนหรือจ่ายให้นายจ้างเสียเงินเพิ่มให้แก่ลูกจ้างร้อยละสิบห้าของเงินที่ค้างจ่ายทุกระยะเวลาเจ็ดวัน” ดังนั้นโจทก์ที่ ๑ ถึงที่ ๓ และโจทก์ที่ ๕ ถึงที่ ๑๓ จะมีสิทธิเรียกร้องเงินเพิ่มจากจำเลยที่ ๒ ได้จะต้องปรากฏว่าจำเลยจงใจไม่จ่ายค่าจ้างในส่วนที่ต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำให้แก่โจทก์ที่ ๑ ถึงที่ ๓ และโจทก์ที่ ๕ ถึงที่ ๑๓ โดยปราศจากเหตุผลอันสมควร ซึ่งต้องพิจารณาจากข้อเท็จจริงและพฤติการณ์แห่งคดีว่าจำเลยที่ ๒ ทราบดีถึงหน้าที่ในการจ่ายค่าจ้างดังกล่าว จำนวนเงินแน่นอนที่จะต้องจ่ายเป็นค่าจ้าง กำหนดรายการมาในการจ่ายค่าจ้าง บุคคลที่จะได้รับค่าจ้าง ทั้งจำเลยที่ ๒ มีความพร้อมที่จะจ่ายค่าจ้างนั้นได้แต่ไม่ยอมจ่ายโดยปราศจากเหตุผลอันสมควร คดีนี้ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ ๒ จัดให้มีประกันรายได้ลูกจ้างไม่ให้ต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ส่วนพฤติการณ์แห่งคดีนี้ที่จำเลยที่ ๒ จ่ายเงินเดือนและค่าเที่ยวให้แก่โจทก์ที่ ๑ ถึงที่ ๓ และโจทก์ที่ ๕ ถึงที่ ๑๓ ซึ่งหากรวมค่าเที่ยวทั้งหมดกับเงินเดือนแล้วจะไม่ต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ แต่เมื่อแยกค่าเที่ยวเพียงส่วนร้อยละ ๓๐ รวมกับเงินเดือนแล้วจึงทำให้มีค่าจ้างบางส่วนต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ ซึ่งจำเลยที่ ๒ ยังคงโต้แย้งกับโจทก์ที่ ๑ ถึงที่ ๓ และโจทก์ที่ ๕ ถึงที่ ๑๓ อยู่ ว่าเงินค่าเที่ยวดังกล่าวทั้งหมดเป็นค่าจ้างหรือไม่ ดังนั้น ที่จำเลยที่ ๒ ยังไม่ได้จ่ายค่าจ้างส่วนที่ศาลแรงงานกลางนำค่าเที่ยวร้อยละ ๓๐ รวมกับเงินเดือนแล้วมีบางส่วนที่ต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำให้แก่โจทก์ที่ ๑ ถึงที่ ๓ และโจทก์ที่ ๕ ถึงที่ ๑๓ จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ ๒ จงใจไม่จ่ายค่าจ้างส่วนที่ต่ำกว่าค่าจ้างขั้นต่ำให้แก่โจทก์ที่ ๑ ถึงที่ ๓ และโจทก์ที่ ๕ ถึงที่ ๑๓ โดยปราศจากเหตุผลอันสมควร ที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าจำเลยที่ ๒ ไม่ต้องรับผิดเสียเงินเพิ่มร้อยละ ๑๕ ทุกระยะเวลาเจ็ดวันให้แก่โจทก์ทั้งสิบสามนั้นจึงชอบแล้ว อุทธรณ์โจทก์ที่ ๑ ถึงที่ ๓ และโจทก์ที่ ๕ ถึงที่ ๑๓ ข้อสุดท้ายนี้จึงฟังไม่ขึ้นเช่นกัน

 

                                พิพากษายืน และให้ยกอุทธรณ์ของโจทก์ที่ ๔.           




อัพเดท ฎีกาน่าสนใจ

ขึ้นทะเบียนรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเกิน ๓๐ วัน ยังมีสิทธิได้รับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานได้ article
ลักษณะความผิดเดียวกัน แต่ระดับความร้ายแรงแตกต่างกัน นายจ้างพิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ผู้จัดการสาขา เสนอรายชื่อลูกค้าที่ขาดคุณสมบัติทำประกันชีวิต ถือว่าจงใจทำให้นายจ้างเสียหาย / ผิดร้ายแรง article
หยุดกิจการชั่วคราวตาม มาตรา ๗๕ article
สัญญาจ้างเป็นสัญญาต่างตอบแทน นายจ้างออกค่าใช้จ่ายในการเข้าทดสอบเพื่อรับเกียรติบัตร เมื่อทดสอบผ่านต้องทำงานกับนายจ้าง ๕ ปี บังคับใช้ได้ article
ศาลแรงงานกลางมีอำนาจสั่งรับพยานเอกสารได้ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม article
ประกอบธุรกิจแข่งขัน / ไปทำงานกับนายจ้างอื่น ในลักษณะผิดต่อสัญญาจ้าง เมื่อลูกจ้างได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้างตามสัญญาแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะบังคับ / ห้ามทำงานตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างอีกต่อไป article
คดีแรงงานเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้คดีอาญายกฟ้อง แต่พฤติกรรมการกระทำผิด เป็นเหตุให้นายจ้างไม่อาจไว้วางใจในการทำงานได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
เลิกจ้างเนื่องจากปรับโครงสร้างองค์กร แต่กำหนดรายชื่อไว้ล่วงหน้า ถือเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม article
การหักลบกลบหนี้ หนี้อันเกิดจากสัญญาจ้าง กรณีลูกจ้างกระทำผิดกับสิทธิประโยชน์ที่มีสิทธิได้รับตามสัญญาจ้าง ถือเป็นมูลหนี้อันเป็นวัตถุอย่างเดียวกันหักลบกลบหนี้กันได้ article
เล่นการพนันฉลากกินรวบ เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน กรณีร้ายแรง article
กรณีไม่ถือเป็นการประกอบธุรกิจแข่งขันหรือไม่ถือว่าทำงานกับนายจ้างใหม่ในลักษณะธุรกิจเดียวกับนายจ้าง article
สัญญาฝึกอบรม นายจ้างกำหนดเบี้ยปรับได้ เป็นสัญญาที่เป็นธรรม article
ค้ำประกันการทำงาน หลักประกันการทำงาน การหักลบกลบหนี้ค่าเสียหายจากการทำงาน article
ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์แต่ตนเอง เรียกรับเงินจากลูกค้า ถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ article
ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา มาทำงานสายประจำ ถือว่า กระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สหภาพแรงงานทำบันทักข้อตกลงเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างกับนายจ้าง อันส่งผลกระทบต่อสิทธิหน้าที่ของสมาชิก ขัดกับข้อตกลงเดิมและมิได้ขอมติที่ประชุมใหญ่ ข้อตกลงดังกล่าวไม่อาจใช้บังคับได้ article
ขอเกษียณอายุก่อนกำหนดตามประกาศ ถือเป็นการสมัครใจเลิกสัญญาจ้างแรงงานต่อกัน มิใช่การเลิกจ้างหรือการเกษียณอายุ จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยตามระเบียบกรณีเกษียณอายุ article
สถาบันวิจัยอันเป็นส่วนหนึ่งของกิจการมหาวิทยาลัยถือเป็นหน่วยงานของรัฐ ได้รับยกเว้น ไม่อยู่ภายใต้บังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา ๔ (๑) article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า จากการเลิกจ้างมีอายุความฟ้องร้องได้ภายใน ๑๐ ปี article
ทะเลาะวิวาทเรื่องส่วนตัวไม่ส่งผลกระทบต่อการบังคับบัญชา ไม่เป็นความผิด กรณีร้ายแรง ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ article
พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน มิใช่ทายาทผู้มีสิทธิรับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ และเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ตามพระราชบัญญัติ ประกันสังคม มาตรา ๗๓ และมาตรา ๗๗ article
ขับรถเร็วเกินกว่าข้อบังคับกำหนด เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนคำสั่งโยกย้าย เลิกจ้างได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ประกาศใช้ระเบียบใหม่ ไม่ปรากฏว่ามีพนักงานโต้แย้งคัดค้าน ถือว่าทุกคนยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ article
เงินค่าตอบแทนพิเศษกับเงินโบนัส มีเงื่อนไขต่างกัน หลักเกณฑ์การจ่ายต่างกัน จึงต้องพิจารณาต่างกัน article
ทายาทผู้มีสิทธิได้รับเงินกองทุนเงินทดแทน article
ค่ารถแทนรถยนต์ประจำตำแหน่ง ไม่ถือเป็นค่าจ้าง และ ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสมให้ถือตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานที่กำหนดไว้ article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างไม่ตกลง ขอเวลาตัดสินใจและหยุดงานไป นายจ้างแจ้งให้กลับเข้าทำงานตามปกติ ถือว่านายจ้างยังไม่มีเจตนาเลิกจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ แอบนอนหลับในเวลาทำงาน ถือเป็นเหตุในการเลิกจ้างได้ เลิกจ้างเป็นธรรม article
ลาออกโดยไม่สุจริต ไม่มีผลใช้บังคับ article
ทำความผิดคล้ายคลึงกันแต่ไม่เหมือนกัน พิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ประกอบธุรกิจ บริการ ด่าลูกค้าด้วยถ้อยคำหยาบคาย " ควาย " ถือเป็นการกระทำความผิดกรณีร้ายแรง article
ข้อบังคับ ระบุให้ผู้บังคับบัญชาเหนือกว่ามีอำนาจแก้ไข เพิ่มโทษ หรือลดโทษได้ การยกเลิกคำสั่งลงโทษเดิมและให้ลงโทษใหม่หนักกว่าเดิมจึงสามารถทำได้ article
เลือกปฏิบัติในการลงโทษระเบียบการห้ามใส่ตุ้มหูมาทำงาน บังคับใช้ได้ แต่เลือกปฏิบัติในการลงโทษไม่ได้ article
ลงโทษพักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างและเตือนในคราวเดียวกันได้ ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน article
จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย article
ข้อตกลงรับเงินและยินยอมปลดหนี้ให้แก่กัน ถือเป็นการตกลงระงับข้อพิพาทแม้จะทำขึ้นก่อนคำสั่งเลิกจ้างมีผลใช้บังคับ article
ศาลแรงงานมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานที่คู่ความอ้างส่งศาลได้ แม้มิได้ระบุบัญชีพยานไว้ก็ตาม article
สัญญาจ้างห้ามลูกจ้างไปทำงานกับนายจ้างใหม่ที่ประกอบธุรกิจเช่นเดียวกันมีกำหนดเวลา บังคับใช้ได้ article
เลิกจ้างและรับเงินค่าชดเชย ใบรับเงิน ระบุขอสละสิทธิ์เรียกร้องเงินอื่นใดใช้บังคับได้ ลูกจ้างไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องสินจ้างและค่าเสียหายได้อีก article
เกษียณอายุ 60 ปี ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยนับแต่วันครบกำหนดเกษียณอายุ แม้นายจ้างไม่ได้บอกเลิกจ้างก็ตาม article
ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องและเพิกเฉยไม่ดูแลผลประโยชน์ของนายจ้าง เป็นเหตุให้นายจ้างไม่ไว้วางใจในการทำงานได้เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ละเลยต่อหน้าที่ ไม่รายงานเคพีไอ นายจ้างตักเตือนแล้ว ถือว่าผิดซ้ำคำเตือน เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ทำสัญญาจ้างต่างด้าวทำงานในอาชีพต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว สัญญาจ้างถือเป็นโมฆะ article
ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง article
ศาลมีคำสั่งให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษาตามหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน ในขณะที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ยุติ ต้องสืบพยานใหม่และพิพากษาใหม่ไปตามรูปคดี article
แม้สัญญาจ้างไม่ได้ระบุระยะเวลาทดลองงานไว้ แต่นายจ้างก็สามารถประเมินผลการทำงานของลูกจ้างได้ article
การควบรวมกิจการ สิทธิและหน้าที่โอนไปเป็นของบริษัทใหม่ การจ่ายเงินสมทบบริษัทใหม่ที่ควบรวมจึงมีสิทธิจ่ายเงินสมทบในอัตราเดิมตามสิทธิ มิใช่ในอัตราบริษัทตั้งใหม่ article
เลิกจ้างรับเงินค่าชดเชยแล้วตกลงสละสิทธิ์จะไม่เรียกร้องผละประโยชน์ใดๆ ถือว่าสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเป็นอันระงับไป article
รับเหมาก่อสร้าง ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบ จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมแทนผู้รับเหมาช่วง หากผู้รับเหมาช่วงไม่นำส่งเงินสมทบตามกฎหมายโดยคำนวณจากอัตราค่าจ้างที่ระบุตามแบบ ( ภ.ง.ด. 50 ) และบัญชีงบดุล article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานระบุห้ามทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกาย ผู้บังคับบัญชา เพื่อนพนักงาน ทั้งในสถานที่ทำงาน หรือสถานที่อื่นๆ ฝ่าฝืนถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง ใช้บังคับได้ไม่ขัดต่อกฎหมาย article
ไส้ติ่งอักเสบ แพทย์วินิจฉัยให้ผ่าตัด ถือเป็นกรณีฉุกเฉิน เบิกค่ารักษาได้ มีสิทธิรับเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ได้ article
ค่าเช่าที่พัก ค่าใช้จ่ายเดินทางเป็นสวัสดิการไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่ารถยนต์ซึ่งกำหนดเป็นสวัสดิการไว้ชัดเจนแยกจากฐานเงินเดือนปกติ ถือเป็นสวัสดิการไม่ใช่ค่าจ้าง article
ละเมิดข้อตกลงสภาพการจ้าง ละเมิดสัญญาจ้าง มีอายุความ 10 ปี มิใช่ 1 ปี article
พฤติกรรมการจ้างที่ถือว่าเป็นการจ้างแรงงาน ถือเป็นลูกจ้าง / นายจ้างตามกฎหมาย article
พนักงานขายรถยนต์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ประจำบูธ ตามที่ได้รับมอบหมาย ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
เลือกตั้งคณะกรรมการสหภาพฯ ขัดต่อข้อบังคับสหภาพหรือขัดต่อกฎหมาย ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบ article
ฝ่าฝืนสัญญาจ้าง กรณีห้ามทำการแข่งขันกับนายจ้างหรือทำธุรกิจคล้ายคลึงกับนายจ้างเป็นเวลา 2 ปี นับจากสิ้นสุดสัญญาต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้าง article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระบุให้นายจ้างเลิกจ้างเพราะเหตุคนล้นงาน ปรับลด ขนาดองค์กรได้ ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะเลิกจ้างลูกจ้างได้ article
ข้อบังคับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรณีตัดสิทธิ์รับเงินสมทบพร้อมผลประโยชน์หากกระทำผิดถูกปลดออกจากงานบังคับใช้ได้ article
ทะเลาะวิวาทกัน นอกเวลางาน นอกบริเวณบริษัทฯ ไม่ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนไม่ไปตรวจสารเสพติดซ้ำตามคำสั่งและนโยบาย ถือว่าฝ่าฝืน ข้อบังคับ หรือ ระเบียบ กรณีร้ายแรง article
วันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วน article
เป็นลูกจ้างที่มีอำนาจกระทำการแทนนายจ้างในการจ้างงาน ไม่มีสิทธิได้รับค่าทำงานในวันหยุด และลักทรัพย์เอาต้นไม้ของนายจ้างไป ถือว่ากระทำผิดอาญาแก่นายจ้าง เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ผลการทำงานดีมาโดยตลอดและไม่เคยกระทำผิดมาก่อน แต่ปีสุดท้ายผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ถือเป็นเหตุที่จะอ้างในการเลิกจ้าง article
ได้รับบาดเจ็บรายการเดียว เข้ารักษา 2 ครั้ง ถือว่าเป็นการรักษารายการเดียว นายจ้างสำรองจ่ายเพิ่มเติมไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ใช่ 200,000 บาท article
ผู้บริหารบริษัท ฯ ถือเป็นลูกจ้างหรือไม่ ดูจาก_________ ? article
ขับรถออกนอกเส้นทาง แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรงและก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้าง นายจ้างหักเงินประกันการทำงานได้ article
ค่าจ้างระหว่างพักงาน เมื่อข้อเท็จจริง ลูกจ้างกระทำความผิดจริง จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างระหว่างพักงาน article
“ นายจ้าง ” ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 article
สัญญารักษาความลับ ข้อมูลทางการค้า (ห้ามประกอบหรือรับปฏิบัติงานแข่งขันนายจ้าง) มีกำหนด 2 ปี บังคับใช้ได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย และการกำหนดค่าเสียหาย ถือเป็นเบี้ยปรับตามกฎหมาย ศาลปรับลดได้ตามสมควร article
เงินรางวัลการขายประจำเดือน จ่ายตามเป้าหมายการขาย ที่กำหนดไว้ ไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่าโทรศัพท์ เหมาจ่าย ถือเป็นค่าจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ 3 วันทำการ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เลิกจ้างเป็นธรรมไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ลาออกมีผลใช้บังคับแล้ว ออกหนังสือเลิกจ้างภายหลังใช้บังคับไม่ได้ article
ตกลงรับเงิน ไม่ติดใจฟ้องร้องอีกถือเป็นการตกลงประนีประนอมกันบังคับได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย
เลิกจ้างระหว่างทดลองงาน ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ข้อตกลงว่า “หากเกิดข้อพิพาทตามสัญญาจ้างแรงงาน ให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย” ไม่เกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมายแรงงาน เมื่อเกิดสิทธิตามกฎหมาย ฟ้องศาลแรงงานได้ โดยไม่ต้องให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย article
เลิกจ้างด้วยเหตุอื่น อันมิใช่ความผิดเดิมที่เคยตักเตือน ไม่ใช่เหตุที่จะไม่จ่ายค่าชดเชย เลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย article
นำรถยนต์ไปใช้ในกิจธุระส่วนตัว มีพฤติกรรมคดโกง ไม่ซื่อตรง พฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต ไม่น่าไว้วางใจ ลงโทษปลดออกจากการทำงานได้ article
การกระทำที่กระทบต่อเกียรติ ชื่อเสียงของนายจ้าง และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้กระทำนอกสถานที่ทำงานและนอกเวลางาน ก็ถือว่า ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกรณีร้ายแรง article
สัญญาค้ำประกันการทำงานไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ต้องรับผิดชอบตลอดไป article
ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเลิกจ้างได้ ถือว่าเลิกจ้างเป็นธรรมและความผิดที่ลงโทษแล้วจะนำมาลงโทษอีกไม่ได้ article
ผิดสัญญาจ้างไปทำงานกับคู่แข่ง นายจ้างฟ้องเรียกค่าเสียหายตามสัญญาได้ แต่ค่าเสียหาย เป็นดุลพินิจของศาลจะกำหนด article
จงใจกระทำผิดโดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้นายจ้างเสียหาย ถือว่า กระทำละเมิดต่อนายจ้าง ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น article
ตกลงสละสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย ภายหลังเลิกจ้าง ใช้บังคับได้ ไม่เป็นโมฆะ article
ก้าวร้าวไม่ให้ความเคารพผู้บังคับบัญชา ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้ามิใช่ค่าจ้าง คิดดอกเบี้ยในอัตรา 7. 5 ต่อปี article
ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของนายจ้างในเรื่องส่วนตัวเป็นประจำ ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่กาปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต เลิกจ้างเป็นธรรม article
สั่งให้พนักงานขับรถ ขับรถออกนอกเส้นทางแต่ไม่ได้มีส่วนในการขับรถ ถือว่าผิดต่อสัญญาจ้าง แต่ไม่ต้องรับผิดอันมีผลโดยตรงจากมูลละเมิด ( ขับรถโดยประมาท ) article
จ่ายของสมนาคุณให้ลูกค้า โดยไม่ตรวจสอบบิลให้ถูกต้อง มิใช่ความผิดกรณีร้ายแรงไม่ใช่การทุจริตต่อหน้าที่ แต่ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เสร็จลุล่วงไปโดยถูกต้อง และสุจริต เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ฟ้องประเด็นละเมิด กระทำผิดสัญญาจ้าง ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง มีอายุความ 10 ปี article
ตกลงยินยอมให้หักค่าจ้างชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันเงินกู้ นายจ้างสามารถหักค่าจ้างได้ตามหนังสือยินยอมโดยไม่ต้องฟ้อง article
กระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้างและประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง article
“ งานโครงการตามมาตรา 118 วรรค 4 ” บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ว่าจ้างลูกจ้างทำงานตามโครงการที่รับเหมา ถือว่าจ้างงานในปกติธุรกิจของนายจ้าง มิใช่งานโครงการ article
เงินโบนัสต้องมีสภาพการเป็นพนักงานจนถึงวันกำหนดจ่าย ออกก่อนไม่มีสิทธิได้รับ article
ระเบียบกำหนดจ่ายเงินพิเศษ ( gratuity ) เนื่องจากเกษียณอายุ โดยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายแตกต่างจากการจ่ายค่าเชย ถือว่านายจ้างยังไม่ได้จ่ายค่าชดเยตามกฎหมาย article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด

เลขที่ 511/4 ถนนประชาอุทิศ 117/1 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร (10140)

โทร/Tel : 02 - 8159522, แฟกซ์/Fax : 02 - 8159523, มือถือ/Mobile : 081 - 7936156

อีเมล/E-mail : sawai.prm@gmail.com, เว็บไซต์/Web : www.parameelaw.com