ประกันสังคมเปิดสาขาใหม่ สามพราน-หัวหิน ขยายเวลาทำการเขตกทม.ถึง6โมงเย็น
สปส.มอบของขวัญรับวันแรงงานแห่งชาติ เปิดบริการเพิ่ม 2 สาขา สามพราน และ หัวหิน พร้อมขยายเวลาการให้บริการของสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-12 เขต ออกไป 1.5 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 08.30-18.00 น. จันทร์-ศุกร์
นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า สำนักงานประกันสังคมได้เปิดสาขาสำนักงานประกันสังคมบริการเพิ่มอีก 2 แห่ง โดยเริ่มเปิดให้บริการในวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ เพื่อรองรับการขยายตัวด้านเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ได้แก่
1. สำนักงานประกันสังคม จ.ประจวบคีรีขันธ์ สาขาหัวหิน ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 27/70 ซ.หัวหิน 11 ถ.เพชรเกษม ต.บ่อฝ้าย อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ให้บริการนายจ้างผู้ประกันตนในเขตพื้นที่ รวม 2 อำเภอ คือ อ.หัวหิน และ อ.ปราณบุรี
2. สำนักงานประกันสังคม จ.นครปฐม สาขา อ.สามพราน ซึ่งมีที่ตั้งอยู่เลขที่ 16/16-19 หมู่ที่ 1 ถ.เพชรเกษม ต.ท่าตลาด อ.สามพราน จ.นครปฐม โดยได้เปิดให้บริการ นายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตนในพื้นที่ อ.สามพราน และ อ.พุทธมณฑล
นอกกจากนี้ ยังได้ขยายเวลาการให้บริการของสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-12 โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2556 ได้เพิ่มระยะเวลาให้บริการออกไปอีกวันละ 1 ชั่วโมง 30 นาที ในวันจันทร์-ศุกร์ ตั้งแต่เวลา 8.30-18.00 น. เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน ที่ไม่สามารถมารับบริการในเวลาราชการได้
สปส.-สปสช.เดินหน้ารักษามะเร็งมาตรฐานเดียว
น.พ.สนธยา พรึงลำภู กรรมการแพทย์ประกันสังคม สำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า เนื่องจากข้อมูลของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) พบว่า ผู้ป่วยมะเร็งสิทธิประกันสังคมมีความชุกประมาณ 300 คนต่อประชากรแสนราย ซึ่งพบว่ามีค่าใช้จ่ายการรักษาโรคมะเร็งมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยพบว่ามีราคาเรียกเก็บจาก รพ.เพิ่มสูงขึ้นจาก 1,200 ล้านบาท ในปี 2551 เป็น 1,700 ในปี 2554 เฉลี่ยค่าใช้จ่ายต่อหัวประมาณ 50,000 บาท ใกล้เคียงกับสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าซึ่งอยู่ที่ 52,500 บาท ดังนั้น เมื่อบูรณาการเรื่องมะเร็ง สปส.เห็นด้วยที่จะใช้แนวทางการรักษาหรือโปรโตคอลเดียวกับ สปสช. ซึ่งโปรโตคอลที่ สปสช.เพิ่มเติม สปส.ก็จะเสนอให้นำมาใช้กับผู้ประกันตนด้วย และต่อไปกรณีการจ่ายชดเชยก็อาจจะปรับเป็นแนวทางเดียวกัน สำหรับยา นอกบัญชียาหลักนั้น สิทธิประกันสังคมอนุมัติให้ใช้ได้ตามข้อบ่งชี้ แต่ก็ยังเป็นภาระหลักของ รพ. จึงเสนอว่าควรมีการกำหนดข้อบ่งชี้ทางการแพทย์เรื่องยานอกบัญชียาหลักให้ชัดเจน และให้ใช้เหมือนกันทุกกองทุน และการวินิจฉัยยาราคาแพง ซึ่งต้องมีการกำหนดข้อบ่งชี้ให้ชัดเจน รวมถึงการต่อรองราคายา
ด้าน น.พ.วินัย สวัสดิวร เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า สถานการณ์ผู้ป่วยโรคมะเร็งปัจจุบัน พบว่า จะมีผู้ป่วยมะเร็งเพิ่มขึ้น 5-7% ต่อปี ผู้ป่วยมะเร็งที่ยังมีชีวิตอยู่ ณ ปี 2555 ประมาณ 2.5 ล้านคน มีอัตราการเข้ารับการรักษาโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นทุกปี อาจแสดงได้ว่าผู้ป่วยมะเร็งเข้าถึงการรักษาได้มากขึ้น หรือมีประชาชนป่วยเป็นโรคมะเร็งมากขึ้น ซึ่งมะเร็งที่พบมากที่สุดในทุกสิทธิได้แก่ มะเร็งเต้านม มะเร็งตับ มะเร็งปอด มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งลำไส้ใหญ่ แต่สิทธิการรักษาของแต่ละกองทุนมีความแตกต่างกัน ทำให้ผู้ป่วยเข้าถึงบริการไม่เหมือนกัน ดังนั้นนโยบายของรัฐบาลจึงมีแนวทางบูรณาการมะเร็งให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกกองทุนสุขภาพ ซึ่งผลจากการประชุมนั้น ในส่วนของ สปสช.และ สปส. ได้เห็นชอบในหลักการที่จะบูรณาการระบบบริการสำหรับผู้ป่วยมะเร็งใน 6 เรื่อง ได้แก่ 1.การประชาสัมพันธ์เพื่อให้ความรู้ 2.การส่งเสริมป้องกัน 3.การคัดกรองโรคมะเร็ง 4.การจ่ายชดเชยค่าบริการ 5.การดูแลผู้ป่วยแบบประคับประคอง 6.การทำฐานข้อมูลผู้ป่วยมะเร็ง อย่างไรก็ตาม จะมีการจัดประชุมเพื่อทำข้อสรุปให้ชัดเจนและนำเสนอให้รัฐบาลรับทราบต่อไป
ประกันสังคมเพิ่มค่าฟอกไตให้ผู้ประกันตน
สปส.ปรับเพิ่มค่าฟอกไตให้ผู้ประกันตน เป็นคนละ 1,500 บาทต่อครั้ง ไม่เกินคนละ 4,500 บาทต่อสัปดาห์ คาดกำหนดใช้เมษานี้
นายอารักษ์ พรหมณี รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ในฐานะโฆษก สปส. เผยว่า ที่ประชุม บอร์ด สปส. มีมติปรับอัตราค่าฟอกเลือดสำหรับผู้ประกันตนที่ป่วยเป็นโรคไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายก่อนการเป็นผู้ประกันตนให้ได้รับสิทธิเพิ่มจากอัตราเดิมที่กำหนดคนละ 1,000 บาทต่อครั้ง และไม่เกินคนละ 3,000 บาทต่อสัปดาห์ เพิ่มเป็นคนละ 1,500 บาทต่อครั้ง และไม่เกินคนละ 4,500 บาทต่อสัปดาห์
ทั้งนี้ ผู้ประกันตนที่เคยใช้สิทธิบำบัดทดแทนไตกรณีผู้ป่วยไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายกับโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า (บัตรทอง) หรือสิทธิสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการมาก่อนที่จะเข้าระบบประกันสังคมจะได้รับสิทธิต่อเนื่อง โดยไม่ต้องผ่านการพิจารณาอนุมัติใหม่ โดยคาดว่าจะประกาศใช้ได้ประมาณเดือนเมษายนนี้
"สปส.ได้ปรับหลักเกณฑ์และวิธีอนุมัติให้แก่ผู้ประกันตนที่จำเป็นต้องฟอกเลือดรายใหม่ให้ได้รับสิทธิรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยการกระจายอำนาจการพิจารณาอนุมัติสิทธิให้เจ้าหน้าที่สำนักงานประกันสังคม/จังหวัด/พื้นที่ สามารถอนุมัติสิทธิให้แก่ผู้ประกันตนได้ โดยไม่ต้องส่งเรื่องหารือต่อคณะอนุกรรมการการแพทย์ของ สปส. หากมีข้อบ่งชี้ตามหลักเกณฑ์ ทำให้ผู้ประกันตนมีสิทธิบำบัดทดแทนไตรวดเร็วขึ้นและผู้ประกันตนไม่ต้องสำรองจ่ายค่าบริการทางการแพทย์เมื่อได้รับการอนุมัติสิทธิแล้ว ซึ่งขณะนี้คณะกรรมการแพทย์ของ สปส.กำลังเร่งจัดทำร่างประกาศเพื่อให้ประธานกรรมการการแพทย์ของ สปส.ลงนามประกาศใช้ คาดว่าจะประกาศใช้ได้ประมาณเดือนเมษายนนี้" นายอารักษ์ กล่าว
ประกันสังคมปรับสิทธิ์ฯ ช่วยผู้ป่วยเอดส์
นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ข้อมูลเมื่อวันที่ 31 พ.ค.56 มีผู้ประกันตนที่ติดเชื้อเอชไอวี และผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์ในความดูแลของ สปส. จำนวน 65,000 ราย ในปี 2556 สปส.ได้จัดซื้อยาต้านไวรัสเอชไอวีไปแล้วเป็นเงิน 356.53 ล้านบาท ทั้งนี้ การให้ความคุ้มครองผู้ประกันตนที่ติดเชื้อเอชไอวีและผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์นั้น จะได้รับการรักษาและการรับยาต้านไวรัสนี้ได้เร็วขึ้นทำให้ผู้ประกันตนที่ติดเชื้อมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยพบว่าผู้ประกันตนที่ติดเชื้อส่วนใหญ่ ยังสามารถทำงานได้ตามปกติ
นายจีรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน สปส.ได้ปรับปรุงสิทธิประโยชน์ตามประกาศคณะกรรมการแพทย์ฯ เรื่องหลักเกณฑ์และอัตราสำหรับประโยชน์ทดแทนกรณีผู้ประกันตนติดเชื้อเอช ไอวี และผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์ ฉบับใหม่ (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 5 มิ.ย.56 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย.56 เป็นต้นไป โดยกำหนดให้ผู้ประกันตนที่ติดเชื้อไวรัสเอชไอวี และผู้ประกันตนที่เป็นโรคเอดส์สามารถรับยาต้านไวรัสได้เร็วขึ้น หรือได้ปรับการให้ยาต้านไวรัสเอชไอวี จากเดิมผู้ป่วยต้องมี CD4 น้อยกว่า หรือเท่ากับ 200 Cells/mm3 เป็น CD4 น้อยกว่าหรือเท่ากับ 350 Cells/mm3 ผู้ประกันตนสามารถได้รับยาต้านไวรัสได้ทันที และยังได้มีการปรับสูตรยาต้านไวรัส ซึ่งทั้งเกณฑ์การเริ่มการให้ยาและสูตรยาต้านไวรัสที่ปรับปรุง เป็นไปตามมาตรฐานการรักษาของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ ผู้ประกันตนมีสิทธิได้รับการรักษาและยาต้านไวรัส ทั้งสูตรพื้นฐาน สูตรทางเลือก และสูตรดื้อยา โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย