ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ชมรมบริหารงานบุคคล
dot
bulletสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย
bulletชมรมบริหารงานบุคคล
bulletชมรมบริหารงานบุคคล อยุธยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลรังสิต
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคล อมตะนคร
bulletสมาคมการบริหารงานบุคคล (PAAs)
bulletชมรมบริหารงานบุคคลบางพลี
bulletชมรมนักบริหารงานบุคคลพัทยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลยุคใหม่
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคลจังหวัดราชบุรี
bulletงานบริหารงานบุคคล
bulletชมรมงานบริหารงานบุคคลกรุงเทพฯ
bulletชมรมบริหารงานบุคลสุขสวัสดิ์
dot
ติดต่อราชการศาล
dot
bulletศาลแรงงานกลาง
bulletศาลแรงงานภาค ๒
bulletศาลยุติธรรม
bulletศาลปกครอง
bulletศาลรัฐธรมนูญ
bulletสำนักงานอัยการสูงสุด
bulletกระทรวงยุติธรรม
bulletคณะกรรมการกฤษฎีกา
bulletกรมบังคับคดี
bulletสภาทนายความ
dot
หน่วยงานราชการสำคัญ
dot
bulletกระทรวงแรงงาน
bulletกรมการจัดหางาน
bulletกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
bulletกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
bulletสำนักงานประกันสังคม
bulletกรมสรรพากร
bulletกรมบัญชีกลาง
bulletกรมพัฒนาธุรกิจกาค้า
bulletกระทรวงอุตสาหกรรม
bulletกรมโรงงานอุตสาหกรรม
bulletกรมส่งเสริมอุตสาหรม
bulletการนิคมอุตสาหกรรม
dot
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน
dot
bulletสมบัติลีกัล
bulletเอกเซลสำหรับงาน HR โดย อ.สำเริง
bulletบทความดี ๆ จากโกป้อม
dot
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
dot
dot
Newsletter

dot


พยากรณ์อากาศวันนี้
..................................


ราคาน้ำมันวันนี้
..................................



บอกกล่าวล่วงหน้าในที่ประชุม วันที่ 1 ต.ค. เพื่อแจ้งปิดกิจการในวันที่ 21 ต.ค. ถือว่านายจ้างได้บอกกล่าวล่วงหน้าตามกฎหมายแล้ว article

คำพิพากษาฎีกาที่๑๑๙๑๓ - ๑๑๙๑๗/๒๕๕๓

บอกกล่าวล่วงหน้าในที่ประชุมวันที่ 1 .. เพื่อแจ้งปิดกิจการในวันที่ 21 .. (จ่ายค่าจ้างทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน) ถือว่านายจ้างได้บอกกล่าวล่วงหน้าตามกฎหมายแล้วและในใบสำคัญจ่ายระบุว่าลาออกคืนเงินประกัน” เป็นเพียงการปฏิบัติตามความประสงค์ของนายจ้างในการเลิกจ้างเท่านั้น ไม่ถือเป็นการลาออก
 
                         รายชื่อโจทก์ปรากฏตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง
 
 
                         คดีทั้งห้าสำนวนนี้   ศาลแรงงานกลางสั่งให้รวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกัน   โดยให้เรียกโจทก์ตามลำดับสำนวนว่า  โจทก์ที่  ๑  ถึงที่  ๕  และให้เรียกจำเลยที่ ๑  และที่  ๒  ทั้งห้าสำนวนว่า  จำเลยที่ ๑ และที่ ๒
 
 
                         โจทก์ทั้งห้าฟ้องว่า โจทก์ทั้งห้าเป็นพนักงานของจำเลยที่ ๑ ที่มีจำเลยที่ ๒ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ระยะเวลาทำงาน ตำแหน่งหน้าที่ อัตราค่าจ้าง ครั้งสุดท้ายและกำหนดการจ่ายค่าจ้างของโจทก์ทั้งห้าเป็นไปตามลำดับ จำเลยทั้งสองเลิกจ้างโจทก์ทั้งห้าเมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๔๘ โดยโจทก์ทั้งห้าไม่ได้กระทำความผิดและไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า โจทก์ที่ ๑ ทำงานมาครบ ๑ ปี แต่ไม่ครบ ๓ ปี มีสิทธิได้รับค่าชดเชยเป็นเงิน ๙๐,๐๐๐ บาท สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ๒๘,๐๐๐ บาท ระหว่างการทำงานจำเลยที่ ๑ ลดค่าจ้างโจทก์ที่ ๑ เป็นเงินรวม ๑๙,๐๐๐ บาท นอกจากนี้โจทก์ที่ ๑ มีสิทธิหยุดในวันหยุดตามประเพณีอีก ๑๓ วัน เป็นเงิน ๑๓,๐๐๐ บาท ส่วนโจทก์ที่ ๒ ทำงานมาครบ ๑๒๐ วัน แต่ไม่ครบ ๑ ปี มีสิทธิได้รับค่าชดเชย ๑๖,๐๐๐ บาท สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ๑๔,๙๓๓ บาท เงินค่าจ้างที่ถูกลดไป ๑๑,๗๓๓ บาท ค่าทำงานในวันหยุดตามประเพณีอีก ๑๑ วัน เป็นเงิน ๕,๘๖๖ บาท โจทก์ที่ ๓ ทำงานครบ ๑๒๐ วัน แต่ไม่ครบ ๑ ปี มีสิทธิได้รับค่าชดเชย ๑๕,๐๐๐ บาท สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ๑๔,๐๐๐ บาท เงินค่าจ้างที่ถูกลดไป ๑๒,๐๐๐ บาท ค่าทำงานในวันหยุดตามประเพณีอีก ๑๓ วัน เป็นเงิน ๖,๕๐๐ บาท โจทก์ที่ ๔ ทำงานมาครบ ๑๒๐ วันแต่ไม่ครบ ๑ ปี มีสิทธิได้รับค่าชดเชย ๑๑,๕๐๐ บาท สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ๑๐,๗๓๓ บาท เงินค่าจ้างที่ถูกลดไป ๔,๖๐๐ บาท ค่าทำงานในวันหยุดตามประเพณีอีก ๙ วัน เป็นเงิน ๓,๔๔๙ บาท โจทก์ที่ ๕ ทำงานมาครบ ๑๒๐ วัน แต่ไม่ครบ ๑ ปี มีสิทธิได้รับค่าชดเชย ๙,๐๐๐ บาท สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ๘,๔๐๐ บาท เงินค่าจ้างที่ถูกลดไป ๓,๕๐๐ บาท ค่าทำงานในวันหยุดตามประเพณีอีก ๑๓ วัน เป็นเงิน ๓,๙๐๐ บาท ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงินให้กับโจทก์ที่ ๑ ถึงที่ ๕ ตามลำดับดังนี้ สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ๒๘,๐๐๐ บาท ๑๔,๙๓๓ บาท ๑๔,๐๐๐ บาท ๑๐,๗๓๓ บาท และ ๘,๔๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยทั้งสองได้ชำระเสร็จให้แก่โจทก์ทั้งห้า ค่าจ้างค้างจ่าย ๑๙,๐๐๐ บาท ๑๑,๗๓๓ บาท ๑๒,๐๐๐ บาท ๔,๖๐๐ บาท และ ๓,๕๐๐ บาท ตามลำดับ ค่าทำงานในวันหยุดตามประเพณี ๑๓,๐๐๐ บาท ๕,๘๖๖ บาท ๖,๕๐๐ บาท ๓,๔๔๙ บาท และ ๓,๙๐๐ บาท ตามลำดับ ค่าชดเชย ๙๐,๐๐๐ บาท ๑๖,๐๐๐ บาท ๑๕,๐๐๐ บาท ๑๑,๕๐๐ บาท และ ๙,๐๐๐ บาท ตามลำดับพร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี นับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจำเลยทั้งสองได้ชำระเสร็จแก่โจทก์ทั้งห้า
 
 
                        จำเลยทั้งสองทุกสำนวนให้การว่า โจทก์ทั้งห้าสมัครใจลาออกจากการเป็นพนักงานของจำเลยเองตั้งแต่วันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๔๘ จึงไม่มีสิทธิได้รับสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าและค่าชดเชยตามฟ้อง ระหว่างทำงานก่อนลาออกดังกล่าวมีการตกลงลดเงินเดือนของโจทก์แต่ละคนลง จำเลยทั้งสองจึงไม่ได้ค้างชำระค่าจ้างโจทก์แต่ละคนตามฟ้อง เช่นเดียวกับค่าทำงานในวันหยุดตามประเพณีเนื่องจากจำเลยที่ ๑ ประกอบกิจการภัตตาคารไม่อาจให้พนักงานหยุดในวันดังกล่าวได้ แต่ให้โจทก์มีวันหยุดในแต่ละช่วงการทำงานตามที่กฎหมายกำหนดแล้ว โจทก์แต่ละคนจึงไม่มีสิทธิเรียกค่าจ้างในส่วนนี้อีก ขอให้ยกฟ้อง
 
 
                        ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ ๑ เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด ประกอบกิจการภัตตาคารอาหารจีน มีจำเลยที่ ๒ เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการ ต่อมาได้ปิดกิจการไปเมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๔๘ โจทก์ทุกคนทำงานมาจนกระทั่งถึงวันปิดกิจการ โดยโจทก์ที่ ๑ ทำงานตั้งแต่วันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๔๗ ตำแหน่งหัวหน้าพ่อครัวได้รับค่าจ้างสุดท้ายเดือนละ ๓๐,๐๐๐ บาท โจทก์ที่ ๒ ทำงานตั้งแต่วันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๘ ได้รับค่าจ้างครั้งสุดท้ายเดือนละ ๑๖,๐๐๐ บาท โจทก์ที่ ๓ ทำงานตั้งแต่วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๔๗ ได้รับค่าจ้างครั้งสุดท้ายเดือนละ ๑๕,๐๐๐ บาท โจทก์ที่ ๔ ทำงานตั้งแต่วันที่ ๑ เมษายน ๒๕๔๘ ตำแหน่งพ่อครัวได้รับค่าจ้างครั้งสุดท้ายเดือนละ ๑๑,๕๐๐ บาท โจทก์ที่ ๕ ทำงานตั้งแต่วันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๔๗ ได้รับค่าจ้างครั้งสุดท้ายเดือนละ ๙,๐๐๐ บาท โดยจำเลยที่ ๑ มีกำหนดการจ่ายค่าจ้างทุกวันที่ ๑ และ ๑๖ ของเดือน ต่อมาจำเลยที่ ๑ ปิดกิจการ โดยโจทก์ทั้งห้าลงชื่อรับเงินเดือนในใบสำคัญการจ่ายเอกสารหมาย ล.๑๖ ซึ่งมีข้อความว่า “ลาออกและคืนเงินประกัน” ซึ่งเป็นแบบพิมพ์ที่จำเลยที่ ๑ จัดทำขึ้น วัตถุประสงค์ของการลงชื่อเพียงแต่ให้ได้รับค่าจ้างมิใช่ลาออก จำเลยที่ ๑ เลิกจ้างโจทก์ทั้งห้าโดยมิได้แจ้งการเลิกจ้างให้โจทก์ทั้งห้าทราบก่อน จำเลยทั้งสองจึงต้องจ่ายค่าชดเชยและสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าให้โจทก์ทั้งห้า นอกจากนี้ระหว่างการทำงานจำเลยทั้งสองให้โจทก์ทั้งห้าทำงานในวันหยุดตามประเพณีจึงต้องจ่ายค่าทำงานให้กับโจทก์ที่ ๑ ถึงที่ ๕ ตามลำดับ ดังนี้ สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ๒๘,๐๐๐ บาท ๑๔,๙๓๓ บาท ๑๔,๐๐๐ บาท ๑๐,๗๓๓ บาท และ ๘,๔๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ ๗.๕ ต่อปี นับแต่วันฟ้อง ( ๒๗ ตุลาคม ๒๕๔๗ ) ไปจนกว่าจะชำระเสร็จให้แก่โจทก์ ค่าจ้างค้างจ่าย (เงินเดือนที่ถูกลดไป) ๑๙,๐๐๐ บาท ๑๑,๗๓๓ บาท ๑๒,๐๐๐ บาท ๔,๖๐๐ บาท และ ๓,๕๐๐ ค่าทำงานในวันหยุดตามประเพณี ๑๓,๐๐๐ บาท ๕,๘๖๖ บาท ๖,๕๐๐ บาท ๓,๔๔๙ บาท และ ๓,๙๐๐ บาท ค่าชดเชย ๙๐,๐๐๐ บาท ๑๖,๐๐๐ บาท ๑๕,๐๐๐ บาท ๑๑,๕๐๐ บาท และ ๙๐,๐๐๐ บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๑๕ ต่อปี นับแต่วันฟ้อง (๒๗ ตุลาคม ๒๕๔๗) ไปจนกว่าจำเลยทั้งสองได้ชำระเสร็จให้แก่โจทก์
 
 
                        จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
 
 
                        ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองประการแรกว่า โจทก์ทั้งห้ามีสิทธิได้รับสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าจ้างค้างจ่าย ค่าทำงานในวันหยุดตามประเพณี ค่าชดเชย พร้อมดอกเบี้ยตามฟ้องหรือไม่ จำเลยทั้งสองอุทธรณ์อ้างว่าโจทก์ทั้งห้าลงลายมือชื่อในเอกสารรับเงินค่าจ้าง ซึ่งมีข้อความระบุในช่องหมายเหตุว่า “ลาออกและคืนเงินประกัน” เป็นการสมัครใจลาออกของโจทก์ทั้งห้านั้น ข้อเท็จจริงปรากฏว่าก่อนจำเลยที่ปิดกิจการจำเลยที่ได้เรียกประชุมพนักงานเพื่อแจ้งให้พนักงานทราบปัญหาการขาดทุนของจำเลยที่และปรับลดค่าจ้างของพนักงานทุกคนร้อยละสิบถึงร้อยละยี่สิบจากฐานเงินเดือน และให้พนักงานเตรียมหางานใหม่ก่อนปิดกิจการ หากไม่สามารถดำเนินกิจการให้ได้ผลกำไรภายใน ๓ เดือน ตามรายงานการประชุมวันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๔๘ เอกสารหมาย ล.๙ และต่อมาวันที่ตุลาคม๒๕๔๘จำเลยที่ได้เรียกประชุมพนักงานแจ้งว่าผลประกอบการไม่ดีขึ้นจึงจะปิดกิจการในวันที่๒๑ตุลาคม๒๕๔๘และขอให้พนักงานทุกคนรับเงินเดือนพร้อมกับเงินประกันคืนตามรายงานการประชุมวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๘ เอกสารหมาย ล.๑๔ ดังนั้น จึงเป็นกรณีที่จำเลยทั้งสองแสดงเจตนาเลิกจ้างโจทก์ทั้งห้านับแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๔๘ โดยให้มีผลเป็นการเลิกจ้างในวันที่๒๑ตุลาคม๒๕๔๘และเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าจำเลยทั้งสองจ่ายค่าจ้างให้โจทก์ทั้งห้าทุกวันที่และ๑๖ของเดือนจึงถือได้ว่าจำเลยทั้งสองได้บอกกล่าวเลิกจ้างล่วงหน้าโดยชอบแล้ว โจทก์ทั้งห้าจึงไม่มีสิทธิได้รับสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ต่อมาโจทก์ทั้งห้าลงลายมือชื่อรับเงินเดือนและเงินประกันคืนตามใบสำคัญจ่ายเงินเดือน ลงวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๔๘ เพื่อรับเงินค่าจ้างของการทำงานระหว่างวันที่ ๑ ถึง ๒๐ ตุลาคม ๒๕๔๘ โดยใบสำคัญการจ่ายเงินเดือนดังกล่าวหมายเหตุเป็นตัวพิมพ์ว่าลาออกคืนเงินประกันตามใบสำคัญจ่ายเงินเดือนเอกสารหมาย ล.๑๖ ก็เป็นแต่เพียงการปฏิบัติตามความประสงค์ของจำเลยทั้งสองที่แสดงในขณะแจ้งการเลิกจ้างโจทก์ทั้งห้าเท่านั้น และเมื่อจำเลยทั้งสองเลิกจ้างโจทก์ทั้งห้าเป็นเหตุให้ความสัมพันธ์ในฐานะนายจ้างและลูกจ้างระหว่างกันสิ้นสุดลงตามความประสงค์ของจำเลยทั้งสองเช่นนี้จึงไม่อาจมีการสิ้นสุดความสัมพันธ์ในฐานะนายจ้างและลูกจ้างด้วยการลาออกขึ้นได้อีก ดังนั้นโจทก์ทั้งห้าจึงมีสิทธิได้รับค่าจ้างค้างจ่าย ค่าทำงานในวันหยุดตามประเพณี ค่าชดเชยพร้อมดอกเบี้ยของเงินดังกล่าวเท่านั้น ที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยให้จำเลยทั้งสองจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าด้วยนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองฟังขึ้นบางส่วน
 
 
                        ส่วนที่จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ว่า โจทก์ทั้งห้ายินยอมลดค่าจ้างลงด้วยความสมัครใจ จำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องชำระค่าจ้างค้างจ่ายให้แก่โจทก์ทั้งห้า และไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าโจทก์ทั้งห้าทำงานในวันหยุดตามประเพณี ทั้งโจทก์ทั้งห้าไม่สามารถสืบพยานหลักฐานได้ตามฟ้อง จำเลยทั้งสองจึงไม่ต้องชำระค่าจ้างค้างจ่ายและค่าทำงานในวันหยุดตามประเพณีให้แก่โจทก์ทั้งห้านั้น ปรากฏข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางฟังว่า จำเลยทั้งสองลดค่าจ้างโจทก์ทั้งห้าโดยโจทก์ทั้งห้าไม่ได้สมัครใจ แต่อยู่ในสภาวะจำยอม จำเลยทั้งสองจึงต้องคืนค่าจ้างที่หักไว้ให้แก่โจทก์ทั้งห้าและฟังว่าโจทก์ทั้งห้ามาทำงานในวันหยุดตามประเพณี ดังนั้น อุทธรณ์จำเลยทั้งสองในเรื่องดังกล่าวจึงเป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลแรงงานกลาง เป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๕๔ วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
 
 
                       สำหรับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองประการสุดท้ายว่า โจทก์ที่ ๕ ฟ้องเรียกค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย ๓๐ วัน เป็นเงินเพียง ๙,๐๐๐ บาท แต่ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยทั้งสองชำระค่าชดเชยให้โจทก์ที่ ๕ จำนวน ๙๐,๐๐๐ บาท จึงเป็นการไม่ชอบนั้น ข้อเท็จจริงปรากฏตามคำฟ้องของโจทก์ที่ ๕ ว่า โจทก์ที่ ๕ ได้รับค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ ๙,๐๐๐ บาท มีสิทธิได้รับค่าชดเชยไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย ๓๐ วัน คิดเป็นเงิน ๙,๐๐๐ บาท และมีคำขอท้ายฟ้องให้จำเลยทั้งสองจ่ายค่าชดเชยจำนวนดังกล่าว ซึ่งศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์ที่ ๕ ได้รับค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ ๙,๐๐๐ บาท แต่พิพากษาให้จ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์ที่ ๕ จำนวน ๙๐,๐๐๐ บาท อันเกินไปกว่าหรือนอกจากที่ปรากฏในคำฟ้อง เมื่อโจทก์ที่ ๕ มีสิทธิได้รับค่าชดเชยจำนวน ๙,๐๐๐ บาท ศาลแรงงานกลางต้องพิพากษาให้ตามที่โจทก์ที่ ๕ มีสิทธิเท่านั้น อุทธรณ์จำเลยทั้งสองในปัญหาข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
 
 
                       พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยทั้งสองไม่ต้องจ่ายเงินค่าสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าพร้อมดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ทั้งห้า และให้จำเลยทั้งสองร่วมกันจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์ที่ ๕ จำนวน ๙,๐๐๐ บาท นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง.



อัพเดท ฎีกาน่าสนใจ

ขึ้นทะเบียนรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเกิน ๓๐ วัน ยังมีสิทธิได้รับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานได้ article
ลักษณะความผิดเดียวกัน แต่ระดับความร้ายแรงแตกต่างกัน นายจ้างพิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ผู้จัดการสาขา เสนอรายชื่อลูกค้าที่ขาดคุณสมบัติทำประกันชีวิต ถือว่าจงใจทำให้นายจ้างเสียหาย / ผิดร้ายแรง article
หยุดกิจการชั่วคราวตาม มาตรา ๗๕ article
สัญญาจ้างเป็นสัญญาต่างตอบแทน นายจ้างออกค่าใช้จ่ายในการเข้าทดสอบเพื่อรับเกียรติบัตร เมื่อทดสอบผ่านต้องทำงานกับนายจ้าง ๕ ปี บังคับใช้ได้ article
ศาลแรงงานกลางมีอำนาจสั่งรับพยานเอกสารได้ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม article
ประกอบธุรกิจแข่งขัน / ไปทำงานกับนายจ้างอื่น ในลักษณะผิดต่อสัญญาจ้าง เมื่อลูกจ้างได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้างตามสัญญาแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะบังคับ / ห้ามทำงานตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างอีกต่อไป article
คดีแรงงานเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้คดีอาญายกฟ้อง แต่พฤติกรรมการกระทำผิด เป็นเหตุให้นายจ้างไม่อาจไว้วางใจในการทำงานได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
เลิกจ้างเนื่องจากปรับโครงสร้างองค์กร แต่กำหนดรายชื่อไว้ล่วงหน้า ถือเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม article
การหักลบกลบหนี้ หนี้อันเกิดจากสัญญาจ้าง กรณีลูกจ้างกระทำผิดกับสิทธิประโยชน์ที่มีสิทธิได้รับตามสัญญาจ้าง ถือเป็นมูลหนี้อันเป็นวัตถุอย่างเดียวกันหักลบกลบหนี้กันได้ article
เล่นการพนันฉลากกินรวบ เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน กรณีร้ายแรง article
กรณีไม่ถือเป็นการประกอบธุรกิจแข่งขันหรือไม่ถือว่าทำงานกับนายจ้างใหม่ในลักษณะธุรกิจเดียวกับนายจ้าง article
สัญญาฝึกอบรม นายจ้างกำหนดเบี้ยปรับได้ เป็นสัญญาที่เป็นธรรม article
ค้ำประกันการทำงาน หลักประกันการทำงาน การหักลบกลบหนี้ค่าเสียหายจากการทำงาน article
ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์แต่ตนเอง เรียกรับเงินจากลูกค้า ถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ article
ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา มาทำงานสายประจำ ถือว่า กระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สหภาพแรงงานทำบันทักข้อตกลงเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างกับนายจ้าง อันส่งผลกระทบต่อสิทธิหน้าที่ของสมาชิก ขัดกับข้อตกลงเดิมและมิได้ขอมติที่ประชุมใหญ่ ข้อตกลงดังกล่าวไม่อาจใช้บังคับได้ article
ขอเกษียณอายุก่อนกำหนดตามประกาศ ถือเป็นการสมัครใจเลิกสัญญาจ้างแรงงานต่อกัน มิใช่การเลิกจ้างหรือการเกษียณอายุ จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยตามระเบียบกรณีเกษียณอายุ article
สถาบันวิจัยอันเป็นส่วนหนึ่งของกิจการมหาวิทยาลัยถือเป็นหน่วยงานของรัฐ ได้รับยกเว้น ไม่อยู่ภายใต้บังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา ๔ (๑) article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า จากการเลิกจ้างมีอายุความฟ้องร้องได้ภายใน ๑๐ ปี article
ทะเลาะวิวาทเรื่องส่วนตัวไม่ส่งผลกระทบต่อการบังคับบัญชา ไม่เป็นความผิด กรณีร้ายแรง ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ article
พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน มิใช่ทายาทผู้มีสิทธิรับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ และเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ตามพระราชบัญญัติ ประกันสังคม มาตรา ๗๓ และมาตรา ๗๗ article
ขับรถเร็วเกินกว่าข้อบังคับกำหนด เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนคำสั่งโยกย้าย เลิกจ้างได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ประกาศใช้ระเบียบใหม่ ไม่ปรากฏว่ามีพนักงานโต้แย้งคัดค้าน ถือว่าทุกคนยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ article
เงินค่าตอบแทนพิเศษกับเงินโบนัส มีเงื่อนไขต่างกัน หลักเกณฑ์การจ่ายต่างกัน จึงต้องพิจารณาต่างกัน article
ทายาทผู้มีสิทธิได้รับเงินกองทุนเงินทดแทน article
ค่ารถแทนรถยนต์ประจำตำแหน่ง ไม่ถือเป็นค่าจ้าง และ ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสมให้ถือตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานที่กำหนดไว้ article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างไม่ตกลง ขอเวลาตัดสินใจและหยุดงานไป นายจ้างแจ้งให้กลับเข้าทำงานตามปกติ ถือว่านายจ้างยังไม่มีเจตนาเลิกจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ แอบนอนหลับในเวลาทำงาน ถือเป็นเหตุในการเลิกจ้างได้ เลิกจ้างเป็นธรรม article
ลาออกโดยไม่สุจริต ไม่มีผลใช้บังคับ article
ทำความผิดคล้ายคลึงกันแต่ไม่เหมือนกัน พิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ประกอบธุรกิจ บริการ ด่าลูกค้าด้วยถ้อยคำหยาบคาย " ควาย " ถือเป็นการกระทำความผิดกรณีร้ายแรง article
ข้อบังคับ ระบุให้ผู้บังคับบัญชาเหนือกว่ามีอำนาจแก้ไข เพิ่มโทษ หรือลดโทษได้ การยกเลิกคำสั่งลงโทษเดิมและให้ลงโทษใหม่หนักกว่าเดิมจึงสามารถทำได้ article
เลือกปฏิบัติในการลงโทษระเบียบการห้ามใส่ตุ้มหูมาทำงาน บังคับใช้ได้ แต่เลือกปฏิบัติในการลงโทษไม่ได้ article
ลงโทษพักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างและเตือนในคราวเดียวกันได้ ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน article
จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย article
ข้อตกลงรับเงินและยินยอมปลดหนี้ให้แก่กัน ถือเป็นการตกลงระงับข้อพิพาทแม้จะทำขึ้นก่อนคำสั่งเลิกจ้างมีผลใช้บังคับ article
ศาลแรงงานมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานที่คู่ความอ้างส่งศาลได้ แม้มิได้ระบุบัญชีพยานไว้ก็ตาม article
สัญญาจ้างห้ามลูกจ้างไปทำงานกับนายจ้างใหม่ที่ประกอบธุรกิจเช่นเดียวกันมีกำหนดเวลา บังคับใช้ได้ article
เลิกจ้างและรับเงินค่าชดเชย ใบรับเงิน ระบุขอสละสิทธิ์เรียกร้องเงินอื่นใดใช้บังคับได้ ลูกจ้างไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องสินจ้างและค่าเสียหายได้อีก article
เกษียณอายุ 60 ปี ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยนับแต่วันครบกำหนดเกษียณอายุ แม้นายจ้างไม่ได้บอกเลิกจ้างก็ตาม article
ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องและเพิกเฉยไม่ดูแลผลประโยชน์ของนายจ้าง เป็นเหตุให้นายจ้างไม่ไว้วางใจในการทำงานได้เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ละเลยต่อหน้าที่ ไม่รายงานเคพีไอ นายจ้างตักเตือนแล้ว ถือว่าผิดซ้ำคำเตือน เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ทำสัญญาจ้างต่างด้าวทำงานในอาชีพต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว สัญญาจ้างถือเป็นโมฆะ article
ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง article
ศาลมีคำสั่งให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษาตามหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน ในขณะที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ยุติ ต้องสืบพยานใหม่และพิพากษาใหม่ไปตามรูปคดี article
แม้สัญญาจ้างไม่ได้ระบุระยะเวลาทดลองงานไว้ แต่นายจ้างก็สามารถประเมินผลการทำงานของลูกจ้างได้ article
การควบรวมกิจการ สิทธิและหน้าที่โอนไปเป็นของบริษัทใหม่ การจ่ายเงินสมทบบริษัทใหม่ที่ควบรวมจึงมีสิทธิจ่ายเงินสมทบในอัตราเดิมตามสิทธิ มิใช่ในอัตราบริษัทตั้งใหม่ article
เลิกจ้างรับเงินค่าชดเชยแล้วตกลงสละสิทธิ์จะไม่เรียกร้องผละประโยชน์ใดๆ ถือว่าสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเป็นอันระงับไป article
รับเหมาก่อสร้าง ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบ จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมแทนผู้รับเหมาช่วง หากผู้รับเหมาช่วงไม่นำส่งเงินสมทบตามกฎหมายโดยคำนวณจากอัตราค่าจ้างที่ระบุตามแบบ ( ภ.ง.ด. 50 ) และบัญชีงบดุล article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานระบุห้ามทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกาย ผู้บังคับบัญชา เพื่อนพนักงาน ทั้งในสถานที่ทำงาน หรือสถานที่อื่นๆ ฝ่าฝืนถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง ใช้บังคับได้ไม่ขัดต่อกฎหมาย article
ไส้ติ่งอักเสบ แพทย์วินิจฉัยให้ผ่าตัด ถือเป็นกรณีฉุกเฉิน เบิกค่ารักษาได้ มีสิทธิรับเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ได้ article
ค่าเช่าที่พัก ค่าใช้จ่ายเดินทางเป็นสวัสดิการไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่ารถยนต์ซึ่งกำหนดเป็นสวัสดิการไว้ชัดเจนแยกจากฐานเงินเดือนปกติ ถือเป็นสวัสดิการไม่ใช่ค่าจ้าง article
ละเมิดข้อตกลงสภาพการจ้าง ละเมิดสัญญาจ้าง มีอายุความ 10 ปี มิใช่ 1 ปี article
พฤติกรรมการจ้างที่ถือว่าเป็นการจ้างแรงงาน ถือเป็นลูกจ้าง / นายจ้างตามกฎหมาย article
พนักงานขายรถยนต์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ประจำบูธ ตามที่ได้รับมอบหมาย ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
เลือกตั้งคณะกรรมการสหภาพฯ ขัดต่อข้อบังคับสหภาพหรือขัดต่อกฎหมาย ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบ article
ฝ่าฝืนสัญญาจ้าง กรณีห้ามทำการแข่งขันกับนายจ้างหรือทำธุรกิจคล้ายคลึงกับนายจ้างเป็นเวลา 2 ปี นับจากสิ้นสุดสัญญาต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้าง article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระบุให้นายจ้างเลิกจ้างเพราะเหตุคนล้นงาน ปรับลด ขนาดองค์กรได้ ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะเลิกจ้างลูกจ้างได้ article
ข้อบังคับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรณีตัดสิทธิ์รับเงินสมทบพร้อมผลประโยชน์หากกระทำผิดถูกปลดออกจากงานบังคับใช้ได้ article
ทะเลาะวิวาทกัน นอกเวลางาน นอกบริเวณบริษัทฯ ไม่ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนไม่ไปตรวจสารเสพติดซ้ำตามคำสั่งและนโยบาย ถือว่าฝ่าฝืน ข้อบังคับ หรือ ระเบียบ กรณีร้ายแรง article
วันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วน article
เป็นลูกจ้างที่มีอำนาจกระทำการแทนนายจ้างในการจ้างงาน ไม่มีสิทธิได้รับค่าทำงานในวันหยุด และลักทรัพย์เอาต้นไม้ของนายจ้างไป ถือว่ากระทำผิดอาญาแก่นายจ้าง เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ผลการทำงานดีมาโดยตลอดและไม่เคยกระทำผิดมาก่อน แต่ปีสุดท้ายผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ถือเป็นเหตุที่จะอ้างในการเลิกจ้าง article
ได้รับบาดเจ็บรายการเดียว เข้ารักษา 2 ครั้ง ถือว่าเป็นการรักษารายการเดียว นายจ้างสำรองจ่ายเพิ่มเติมไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ใช่ 200,000 บาท article
ผู้บริหารบริษัท ฯ ถือเป็นลูกจ้างหรือไม่ ดูจาก_________ ? article
ขับรถออกนอกเส้นทาง แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรงและก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้าง นายจ้างหักเงินประกันการทำงานได้ article
ค่าจ้างระหว่างพักงาน เมื่อข้อเท็จจริง ลูกจ้างกระทำความผิดจริง จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างระหว่างพักงาน article
“ นายจ้าง ” ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 article
สัญญารักษาความลับ ข้อมูลทางการค้า (ห้ามประกอบหรือรับปฏิบัติงานแข่งขันนายจ้าง) มีกำหนด 2 ปี บังคับใช้ได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย และการกำหนดค่าเสียหาย ถือเป็นเบี้ยปรับตามกฎหมาย ศาลปรับลดได้ตามสมควร article
เงินรางวัลการขายประจำเดือน จ่ายตามเป้าหมายการขาย ที่กำหนดไว้ ไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่าโทรศัพท์ เหมาจ่าย ถือเป็นค่าจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ 3 วันทำการ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เลิกจ้างเป็นธรรมไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ลาออกมีผลใช้บังคับแล้ว ออกหนังสือเลิกจ้างภายหลังใช้บังคับไม่ได้ article
ตกลงรับเงิน ไม่ติดใจฟ้องร้องอีกถือเป็นการตกลงประนีประนอมกันบังคับได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย
เลิกจ้างระหว่างทดลองงาน ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ข้อตกลงว่า “หากเกิดข้อพิพาทตามสัญญาจ้างแรงงาน ให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย” ไม่เกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมายแรงงาน เมื่อเกิดสิทธิตามกฎหมาย ฟ้องศาลแรงงานได้ โดยไม่ต้องให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย article
เลิกจ้างด้วยเหตุอื่น อันมิใช่ความผิดเดิมที่เคยตักเตือน ไม่ใช่เหตุที่จะไม่จ่ายค่าชดเชย เลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย article
นำรถยนต์ไปใช้ในกิจธุระส่วนตัว มีพฤติกรรมคดโกง ไม่ซื่อตรง พฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต ไม่น่าไว้วางใจ ลงโทษปลดออกจากการทำงานได้ article
การกระทำที่กระทบต่อเกียรติ ชื่อเสียงของนายจ้าง และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้กระทำนอกสถานที่ทำงานและนอกเวลางาน ก็ถือว่า ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกรณีร้ายแรง article
สัญญาค้ำประกันการทำงานไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ต้องรับผิดชอบตลอดไป article
ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเลิกจ้างได้ ถือว่าเลิกจ้างเป็นธรรมและความผิดที่ลงโทษแล้วจะนำมาลงโทษอีกไม่ได้ article
ผิดสัญญาจ้างไปทำงานกับคู่แข่ง นายจ้างฟ้องเรียกค่าเสียหายตามสัญญาได้ แต่ค่าเสียหาย เป็นดุลพินิจของศาลจะกำหนด article
จงใจกระทำผิดโดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้นายจ้างเสียหาย ถือว่า กระทำละเมิดต่อนายจ้าง ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น article
ตกลงสละสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย ภายหลังเลิกจ้าง ใช้บังคับได้ ไม่เป็นโมฆะ article
ก้าวร้าวไม่ให้ความเคารพผู้บังคับบัญชา ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้ามิใช่ค่าจ้าง คิดดอกเบี้ยในอัตรา 7. 5 ต่อปี article
ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของนายจ้างในเรื่องส่วนตัวเป็นประจำ ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่กาปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต เลิกจ้างเป็นธรรม article
สั่งให้พนักงานขับรถ ขับรถออกนอกเส้นทางแต่ไม่ได้มีส่วนในการขับรถ ถือว่าผิดต่อสัญญาจ้าง แต่ไม่ต้องรับผิดอันมีผลโดยตรงจากมูลละเมิด ( ขับรถโดยประมาท ) article
จ่ายของสมนาคุณให้ลูกค้า โดยไม่ตรวจสอบบิลให้ถูกต้อง มิใช่ความผิดกรณีร้ายแรงไม่ใช่การทุจริตต่อหน้าที่ แต่ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เสร็จลุล่วงไปโดยถูกต้อง และสุจริต เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ฟ้องประเด็นละเมิด กระทำผิดสัญญาจ้าง ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง มีอายุความ 10 ปี article
ตกลงยินยอมให้หักค่าจ้างชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันเงินกู้ นายจ้างสามารถหักค่าจ้างได้ตามหนังสือยินยอมโดยไม่ต้องฟ้อง article
กระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้างและประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง article
“ งานโครงการตามมาตรา 118 วรรค 4 ” บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ว่าจ้างลูกจ้างทำงานตามโครงการที่รับเหมา ถือว่าจ้างงานในปกติธุรกิจของนายจ้าง มิใช่งานโครงการ article
เงินโบนัสต้องมีสภาพการเป็นพนักงานจนถึงวันกำหนดจ่าย ออกก่อนไม่มีสิทธิได้รับ article
ระเบียบกำหนดจ่ายเงินพิเศษ ( gratuity ) เนื่องจากเกษียณอายุ โดยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายแตกต่างจากการจ่ายค่าเชย ถือว่านายจ้างยังไม่ได้จ่ายค่าชดเยตามกฎหมาย article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด

เลขที่ 511/4 ถนนประชาอุทิศ 117/1 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร (10140)

โทร/Tel : 02 - 8159522, แฟกซ์/Fax : 02 - 8159523, มือถือ/Mobile : 081 - 7936156

อีเมล/E-mail : sawai.prm@gmail.com, เว็บไซต์/Web : www.parameelaw.com