จับเขมรลอบเข้ากทม.หวังได้300
บุรีรัมย์ * ร.ต.ต.เข็มทิศ บุญนำพา ร้อยเวร สภ.เมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากสายว่าจะมีแรง งานต่างด้าวลักลอบเดินทางปะปนมากับผู้โดย สารคนไทย ในรถทัวร์สายนครราชสีมา-บุรีรัมย์สุรินทร์ เพื่อมุ่งหน้าไปขายแรงงานที่กรุงเทพฯ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนจะพร้อมด้วย พ.ต.ท.ปรีชา อรัญญิก รองผู้กำกับการปราบปราม สภ.เมืองบุรีรัมย์ และกำลังตำรวจสายตรวจ รุดไปตรวจสอบที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร
เมื่อไปถึงพบรถทัวร์สีฟ้า ป.2 สายราช สีมา-บุรีรัมย์-สุรินทร์ หมายเลขข้างรถ 563-105 ที่รับผู้โดยสารออกจากสถานีขนส่งจังหวัดสุรินทร์ ปลายทาง จ.นครราชสีมา ได้แวะเข้ามารับส่งผู้โดยสารที่สถานีขนส่งบุรีรัมย์ จึงได้ขึ้นไปตรวจค้นบนรถทัวร์คันดังกล่าวตามที่ได้รับแจ้ง พบชายหญิงจำนวน 9 คน อายุระหว่าง 12-30 ปี นั่งอยู่บริเวณเบาะหลังของรถท่าทางมีพิรุธ และทั้งหมดไม่มีบัตรหรือหลักฐานใดๆ ที่แสดงตัวว่า เป็นคนไทย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวไปสอบ สวนที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์
โดยทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าเป็นชาวกัมพูชา พร้อมอ้างว่าก่อนหน้านี้ได้จ่ายเงินให้กับนายหน้าซึ่งเป็นคนไทยไปแล้ว โดยหลอกว่าจะทำพาสปอร์ตให้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ จึงพากันเสี่ยงลักลอบเดินทางเข้ามาทางด่านชายแดนจังหวัดสุรินทร์ และมาขึ้นรถที่สถานีขนส่งเพื่อเดินทางไปขายแรงงานที่กรุงเทพฯ โดยหวังว่าจะได้ค่าจ้าง 300 บาทต่อวันเท่ากับแรงงานไทย แต่ก็มาถูกเจ้าหน้า ที่ตำรวจจับกุมได้เสียก่อน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ควบ คุมตัวแรงงานต่างด้าวทั้ง 9 คนไว้ดำเนินคดีตาม กฎหมาย ในข้อหาหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ก่อนจะทำการผลักดันกลับประเทศภูมิลำเนาต่อไป
ด้าน พ.ต.ท.ปรีชา อรัญญิก รอง ผกก.ปป.สภ.เมืองบุรีรัมย์ กล่าวว่า แรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชามักอาศัยช่วงวันหยุดลักลอบเดินทางปะปนมากับผู้โดยสารคนไทย ซึ่งที่ผ่านมาตำรวจได้ตั้งจุดตรวจสกัดอย่างเข้มงวด ทำให้จับกุมแรงงานต่างด้าวได้หลายราย
ทั้งนี้ หลังจากที่มีการประกาศปรับขึ้นค่า แรงวันละ 300 บาท ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.56 จนถึงขณะนี้ตำรวจภูธร จ.บุรีรัมย์ สามารถจับกุมแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติ ทั้งลาว, พม่า และกัมพูชาได้รวมกว่า 200 รายแล้ว.