ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ชมรมบริหารงานบุคคล
dot
bulletสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย
bulletชมรมบริหารงานบุคคล
bulletชมรมบริหารงานบุคคล อยุธยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลรังสิต
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคล อมตะนคร
bulletสมาคมการบริหารงานบุคคล (PAAs)
bulletชมรมบริหารงานบุคคลบางพลี
bulletชมรมนักบริหารงานบุคคลพัทยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลยุคใหม่
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคลจังหวัดราชบุรี
bulletงานบริหารงานบุคคล
bulletชมรมงานบริหารงานบุคคลกรุงเทพฯ
bulletชมรมบริหารงานบุคลสุขสวัสดิ์
dot
ติดต่อราชการศาล
dot
bulletศาลแรงงานกลาง
bulletศาลแรงงานภาค ๒
bulletศาลยุติธรรม
bulletศาลปกครอง
bulletศาลรัฐธรมนูญ
bulletสำนักงานอัยการสูงสุด
bulletกระทรวงยุติธรรม
bulletคณะกรรมการกฤษฎีกา
bulletกรมบังคับคดี
bulletสภาทนายความ
dot
หน่วยงานราชการสำคัญ
dot
bulletกระทรวงแรงงาน
bulletกรมการจัดหางาน
bulletกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
bulletกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
bulletสำนักงานประกันสังคม
bulletกรมสรรพากร
bulletกรมบัญชีกลาง
bulletกรมพัฒนาธุรกิจกาค้า
bulletกระทรวงอุตสาหกรรม
bulletกรมโรงงานอุตสาหกรรม
bulletกรมส่งเสริมอุตสาหรม
bulletการนิคมอุตสาหกรรม
dot
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน
dot
bulletสมบัติลีกัล
bulletเอกเซลสำหรับงาน HR โดย อ.สำเริง
bulletบทความดี ๆ จากโกป้อม
dot
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
dot
dot
Newsletter

dot


พยากรณ์อากาศวันนี้
..................................


ราคาน้ำมันวันนี้
..................................



ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่มีอยู่เดิม และไม่ได้ตกลงกันให้คงไว้ตามเดิม มีผลใช้บังคับกับสภาพการจ้างที่มีอยู่เดิม article

 

คำพิพากษาฎีกาที่ 16023 - 16031/53
ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่มีอยู่เดิม และไม่ได้ตกลงกันให้คงไว้ตามเดิม มีผลใช้บังคับกับสภาพการจ้างที่มีอยู่เดิม
                       
                                คดีทั้งเก้าสำนวนศาลแรงงานกลางมีคำสั่งให้รวมพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกันกับคดีอื่นอีกหนึ่งสำนวน โดยให้เรียกโจทก์เรียงตามลำดับสำนวนว่า โจทก์ที่ 1 ถึงโจทก์ที่ 10 และเรียกจำเลยทุกสำนวนว่า จำเลย แต่คดีสำหรับโจทก์ที่ 5 ถึงที่สุดแล้วโดยการถอนอุทธรณ์ ศาลมีคำสั่งอนุญาตจำหน่ายคดีออกจากสารบบความแล้ว คงขึ้นมาสู่ศาลฎีกาเฉพาะคดีเก้าสำนวนนี้
 
 
                                โจทก์ทั้งเก้าสำนวนฟ้องในทำนองเดียวกันว่า โจทก์ทั้งสิบเป็นลูกจ้างของจำเลย โดยมีวันเข้าทำงาน ตำแหน่ง หน้าที่ อัตราค่าจ้างสุดท้าย และวันกำหนดจ่ายค่าจ้าง ปรากฏรายละเอียดตามคำฟ้องของโจทก์ในแต่ละสำนวน เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2549 สหภาพแรงงานสินธานีและสหภาพแรงงานพนักงานสินธานีทำข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างกับจำเลยในเรื่องเกี่ยวกับการปรับค่าจ้างประจำปี โดยข้อตกลงข้อ 2 กำหนดให้จำเลยปรับเงินค่าจ้างให้โดยใช้หลักเกณฑ์ของคะแนนการประเมินผลของพนักงานปี 2549 มาเป็นเกณฑ์ในการคิดปรับขึ้นเงินเดือนตามที่จำเลยกำหนด ซึ่งหลักเกณฑ์ของคะแนนการประเมินผลของพนักงานกำหนดว่า คะแนนรวมเฉลี่ยใน 1 ปี ต่ำกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ จะไม่ได้รับการปรับเงินเดือน ต่อมาเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2550 ซึ่งเป็นวันปรับค่าจ้างเพิ่มประจำปีจำเลยไม่ปรับค่าจ้างประจำปีเพิ่มให้โจทก์ทั้งเก้าและไม่ชี้แจงสาเหตุให้โจทก์ทั้งเก้าทราบ โจทก์ทั้งเก้าได้รับการบอกกล่าวจากหัวหน้างานของโจทก์ทั้งเก้าว่าโจทก์ทั้งเก้าได้รับคะแนนประเมินผลการปฏิบัติงานในรอบปี 2549 เกินกว่าร้อยละ 50 ของคะแนนเฉลี่ย โจทก์ทั้งเก้าจึงมีสิทธิได้รับการปรับค่าจ้างเพิ่มตามสัดส่วนของคะแนนการประเมินผลที่โจทก์ทั้งเก้าได้รับ ขอให้จำเลยปรับเงินเดือนเพิ่มให้แก่โจทก์ทั้งเก้าเป็นจำนวนเงินตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ในแต่ละสำนวน โดยปรับเพิ่มย้อนหลังตั้งแต่เดือนมกราคม 2550
 
 
                        จำเลยให้การว่า ตามข้อตกลงเกี่ยวสภาพการจ้างฉบับลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2549 (ข้อ 2) ในส่วนของการขึ้นเงินเดือนพนักงานจำเลยตกลงปรับค่าจ้างให้โดยใช้เกณฑ์ของคะแนนการประเมินผลของพนักงานปี 2549 มาเป็นเกณฑ์ในการคิดเงินขึ้น ตามที่จำเลยกำหนด เดิมจำเลยกำหนดเกณฑ์การขึ้นเงินประจำปีโดยใช้ระบบประเมินผลการปฏิบัติงานพนักงานโรงงานเป็นเกณฑ์ในการวัดผลเพื่อขึ้นเงินเดือนให้แก่พนักงานแต่ละราย ตามแบบประเมินผลดังกล่าวมีทั้งการให้คะแนนและการตัดคะแนนซึ่งพนักงานแต่ละรายจะได้รับคะแนนหรือถูกตัดคะแนนก็ขึ้นอยู่กับการทำงาน หรือการหยุดงานหรือตามข้อกำหนดอื่น ๆ โดยคะแนนที่จะนำมาเป็นเกณฑ์เพื่อขึ้นเงินเดือนก็คือคะแนนเฉลี่ยทั้งปีที่รวมคะแนนที่ได้รับและคะแนนที่ถูกตัดเข้าด้วยกัน สำหรับโจทก์ทั้งเก้าจำเลยประเมินคะแนนตามแบบประเมินดังกล่าวเหมือนดังเช่นพนักงานคนอื่น แต่ในช่วงปี 2547 และปี 2548 มีพนักงานหลายรายหยุดงานบ่อยโดยสาเหตุส่วนใหญ่ของการหยุดงานคือลาป่วย และมักจะอ้างถึงสาเหตุของการป่วยว่า ปวดหัว เป็นไข้ ปวดท้อง ท้องเสียเป็นประจำ แต่ไม่ยอมไปพบแพทย์และไม่นำใบรับรองแพทย์มาแสดง อันเป็นเหตุให้จำเลยไม่ทราบว่าพนักงานป่วยเป็นโรคใด และมีผลกับการทำงานหรือไม่ เนื่องจากจำเลยเป็นโรงงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มีการใช้สารเคมีหลายประเภทและมีเครื่องจักรขนาดใหญ่หลายเครื่อง จึงคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นปัจจัยหลักในการทำงาน หากพนักงานป่วยเป็นโรคที่มีผลกับการทำงานและไม่ได้รับการรักษาให้หายขาดตามหลักการแพทย์ อาจเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงในการทำงานได้ จำเลยจึงแจ้งไปยังพนักงานที่มีประวัติการลาป่วยบ่อยครั้งให้ไปตรวจรักษาโรคที่เป็นอยู่กับแพทย์แผนปัจจุบัน และให้พนักงานขอใบรับรองแพทย์มาแสดงแก่จำเลยด้วย เพื่อที่จำเลยจะได้ช่วยดูแลและช่วยเหลือในเรื่องการรักษาให้หายขาดและจะได้ประเมินถึงอาการเจ็บป่วยและความพร้อมของร่างกายของพนักงานว่ามีความพร้อมเพียงพอหรือไม่ที่จะทำงานในระหว่างที่ยังคงเจ็บป่วยอยู่ แต่พนักงานที่ลาป่วยส่วนใหญ่ไม่ไปพบแพทย์และไม่นำใบรับรองแพทย์มาแสดง อันเป็นการแสดงให้เห็นว่าพนักงานเหล่านั้นปล่อยปละละเลยไม่ดูแลรักษาตัวเอง ดังนั้นเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2549 จำเลยจึงจัดประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไข ผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วยฝ่ายบริษัทและพนักงานที่มีประวัติการลาป่วยโดยไม่มีใบรับรองแพทย์บ่อยมากจำนวน 17 ราย ซึ่งรวมถึงโจทก์ทั้งเก้านี้ด้วย ที่ประชุมเสนอแนวทางการแก้ไขโดยลดวันหยุดของพนักงานทุกคนที่มีวันลาตั้งแต่ 15 วันขึ้นไป ซึ่งลาป่วยโดยไม่มีรับรองแพทย์มาแสดง (ไม่รวมป่วยผ่าตัด,อุบัติเหตุฯ) ลงร้อยละ 20 ด้วยการให้พนักงานที่ลาหยุดด้วยเหตุลาป่วยนำใบรับรองแพทย์มาแสดงทุกครั้งเพื่อที่จำเลยจะได้เข้าช่วยเหลือ เพื่อรักษาให้ตรงจุดและหายขาดจากโรคที่เป็น อันจะทำให้เกิดความปลอดภัยในการทำงานและสามารถทำงานให้สำเร็จลุล่วงตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ หากพนักงานที่เข้าโครงการลดวันหยุดด้วยเหตุลาป่วยโดยไม่มีใบรับรองแพทย์รายใดหยุดงานด้วยเหตุลาป่วยแต่ไม่ไปพบแพทย์เพื่อรักษาตัวเอง จะถือว่าพนักงานคนดังกล่าวละเลยที่จะไม่ดูแลรักษาตัวเอง จำเลยโดยฝ่ายบุคคลจะทำการตัดคะแนนประเมินผลครั้งละ 10,000 คะแนน หากมีใบรับรองแพทย์มาแสดงจะไม่มีการตัดคะแนนแต่อย่างใด ทั้งนี้จำเลยฝ่ายบุคคลประกาศให้พนักงานทราบทั่วกันแล้วเมื่อโจทก์ทั้งเก้าและพนักงานที่เข้าประชุมทั้ง 17 ราย ลาหยุดด้วยเหตุลาป่วยโดยไม่มีใบรับรองแพทย์มาแสดงและมีวันลาหยุดด้วยเหตุดังกล่าวในหนึ่งปีรวมกันเกิน 14 วัน จึงเข้าเงื่อนไขที่จะต้องเข้าโครงการลดวันหยุดในปีถัดไปตามที่ได้ร่วมประชุม ในปี 2549 โจทก์ทั้งเก้ายังคงลาหยุดโดยเหตุลาป่วยเป็นประจำและยังคงไม่ไปพบแพทย์และไม่มีใบรับรองแพทย์มาแสดง จำเลยจึงตัดคะแนน 10,000 คะแนน ทุกครั้งที่โจทก์แต่ละคนลาป่วยและไม่มีใบรับรองแพทย์มาแสดง จึงทำให้คะแนนเฉลี่ยปลายปีไม่ถึงเกณฑ์ที่จะได้รับการพิจารณาให้ขึ้นเงินเดือน ขอให้ยกฟ้อง
 
 
                                ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว พิพากษายกฟ้อง
 
 
                                โจทก์ทั้งเก้าอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
 
                               
                               ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว  ศาลแรงานกลางฟังข้อเท็จ
จริงว่าข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างฉบับวันที่ 23 พฤศจิกายน 2549 ข้อ 2 กำหนดให้จำเลยปรับเงินค่าจ้างได้โดยใช้หลักเกณฑ์คะแนนการประเมินผลของพนักงานปี 2549 มาเป็นเกณฑ์ในการคิดเงินขึ้นตามที่จำเลยกำหนด ตามเอกสารหมาย จ.ล.2 แต่มิได้เป็นหลักเกณฑ์บังคับเด็ดขาด จำเลยอาจกำหนดหลักเกณฑ์อื่นขึ้นมาประกอบการพิจารณาปรับขึ้นเงินเดือนให้พนักงานได้ หากจำเลยเห็นว่าเหมาะสมแก่การบริหารงานของจำเลย การที่จำเลยจัดให้มีโครงการลดวันหยุดของพนักงานตามเอกสารหมาย ล.1 กำหนดให้พนักงานที่มีวันหยุดด้วยเหตุลาป่วยแต่ไม่มีใบรับรองแพทย์มาแสดงและมีวันลาหยุดดังกล่าวในหนึ่งปีรวมกันเกิน 15 วัน พนักงานผู้นั้นต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาและนำใบรับรองแพทย์มาแสดง หากไม่พบแพทย์และไม่นำใบรับรองแพทย์มาแสดงจะถูกตัดคะแนนประเมินผลครั้งละ 10,000 คะแนน โครงการลดวันหยุดดังกล่าวถือว่าเป็นหลักเกณฑ์ที่จำเลยกำหนดขึ้นเพื่อความเหมาะสมในการบริหารงานภายในองค์กรและนำมาใช้เป็นหลักเกณฑ์ประเมินผลงานเพื่อปรับขึ้นเงินเดือนให้พนักงานของจำเลยได้ไม่ถือว่าเป็นการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อตกลงกับสภาพการจ้างตามเอกสารหมาย จ.ล.2 การปรับขึ้นเงินของพนักงานจำเลยในปี 2550 จำเลยยังคงใช้หลักเกณฑ์ตามแบบประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานปี 2549 มาพิจารณาปรับขึ้นเงินให้พนักงานเพียงแต่การปรับขึ้นเงินในปี 2550 จำเลยนำโครงการลดวันหยุดของพนักงานตามที่ได้ประชุมพนักงานที่มีวันหยุดเพราะเหตุลาป่วยมาพิจารณาประกอบ เมื่อโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 และที่ 6 ถึงที่ 10 มีวันหยุดเพราะเหตุลาป่วยและจำเลยได้ตัดคะแนนตามโครงการลดวันหยุดทำให้คะแนนการประเมินผลไม่ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 และที่ 6 ถึงที่ 10 จึงไม่ได้รับการปรับเงินขึ้น ที่โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 และที่ 6 ถึงที่ 10 อุทธรณ์ว่า ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างฉบับวันที่ 23 พฤศจิกายน 2549 ข้อ 2 หมายถึง การตกลงกันให้จำเลยเป็นผู้กำหนดจำนวนเงินที่จะปรับขึ้นให้พนักงานเท่านั้น ส่วนการประเมินผลคะแนนการปฏิบัติงานต้องยึดถือตามแบบประเมินผลเอกสารหมาย จ.ล.3 มิได้หมายรวมถึงว่าจำเลยเป็นผู้กำหนดแบบการประเมินผลคะแนนอย่างไรก็ได้ตามที่จำเลยจะเห็นสมควร และข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างข้อ 9 ฉบับวันที่ 23 พฤศจิกายน 2548 (ที่ถูกข้อ 11 ฉบับวันที่ 23 พฤศจิกายน 2549) ว่า บริษัทฯ ตกลงให้สภาพการจ้างที่นอกเหนือจากการยื่นข้อเรียกร้องในครั้งนี้ให้คงไว้ตามเดิม มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2549 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2549 (ที่ถูกวันที่ 1 มกราคม 2550 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2550) ซึ่งในระหว่างที่ข้อตกลงมีผลใช้บังคับ ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2549 จำเลยได้กำหนดหลักเกณฑ์การให้คะแนนการประเมินผลการปฏิบัติงานเพิ่มเติมจากแบบประเมินผลการปฏิบัติงานเอกสารหมาย จ.ล.3 ซึ่งเป็นข้อตกลงที่เกี่ยวกับสภาพการจ้างโดยไม่เป็นคุณแก่โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 และที่ 6 ถึงที่ 10 นอกจากนี้ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างเอกสารหมาย จ.ล.2 ข้อ 11 ฉบับวันที่ 23 พฤศจิกายน 2549 ว่า บริษัทฯ ตกลงให้สภาพการจ้างที่นอกเหนือจากการยื่นข้อเรียกร้องในครั้งนี้ให้คงไว้ตามเดิม หมายความว่าโจทก์และจำเลยได้ตกลงกันให้ใช้หลักเกณฑ์ของคะแนนการประเมินผลเอกสารหมาย จ.ล.3 ตามเดิม การที่จำเลยกำหนดหลักเกณฑ์ขึ้นมาใหม่แตกต่างไปจากแบบประเมินผลการปฏิบัติงานเอกสารหมาย จ.ล.3 โดยไม่เป็นคุณแก่โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 และที่ 6 ถึงที่ 10 จึงเป็นการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เห็นว่า ข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างฉบับวันที่ 23 พฤศจิกายน 2549 ข้อ 2 ให้ใช้หลักเกณฑ์ของคะแนนการประเมินผลของพนักงานปี 2549 มาเป็นเกณฑ์ในการคิดเงินขึ้น ตามเอกสารหมาย จ.ล.2 หลักเกณฑ์การประเมินดังกล่าวปรากฏตามแบบประเมินผลการปฏิบัติงานเอกสารหมาย จ.ล.3 แต่เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2549 โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 และที่ 6 ถึงที่ 10 และพนักงานของจำเลยอีกส่วนหนึ่งตกลงกับจำเลยว่าหากมีการหยุดงานตั้งแต่ 15 ขึ้นไป ถ้าป่วยแต่ละครั้งหากไม่ไปพบแพทย์เพื่อรักษา ไม่มีใบรับรองแพทย์มาแสดงจะทำการตัดคะแนนประเมินผลครั้งละ 10,000 คะแนน ตามบันทึกการประชุม เอกสารหมาย ล.1 การที่โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 และที่ 6 ถึงที่ 10 ทำข้อตกลงกับจำเลยในลักษณะเช่นนี้มิใช่เป็นการเปลี่ยนแปลงข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง แต่เป็นเพียงวิธีการเปลี่ยนแปลงแบบวิธีการประเมินตามที่ตกลงกันไว้ใหม่เท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่องของอำนาจการบริหารกิจการของนายจ้างที่สามารถกระทำได้ ทั้งเป็นการตกลงก่อนที่จำเลยกับสหภาพแรงงานสินธานีและสหภาพแรงงานพนักงานสินธานีจะทำข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างเอกสารหมาย จ.ล.2 ซึ่งข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างดังกล่าว ข้อ 11 ตกลงให้สภาพการจ้างที่นอกเหนือจากการยื่นข้อเรียกร้องครั้งนี้ให้คงไว้ตามเดิม เมื่อโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 และที่ 6 ถึงที่ 10 ยอมรับข้อตกลงตามบันทึกการประชุมเอกสารหมาย ล.1 โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 และที่ 6 ถึงที่ 10 ก็ต้องผูกพันตามข้อตกลงนั้นและข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างเอกสารหมาย จ.ล.2 ซึ่งทำขึ้นภายหลังยอมรับให้คงไว้ตามเดิม โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 และที่ 6 ถึงที่ 10 จึงต้องยอมรับหลักเกณฑ์การประเมินตามข้อตกลงเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2549 ดังนั้นข้ออ้างตามอุทธรณ์ของโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 4 และที่ 6 ถึงที่ 10 จึงฟังไม่ขึ้น
 
               
                                พิพากษายืน.                       

 




อัพเดท ฎีกาน่าสนใจ

ขึ้นทะเบียนรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเกิน ๓๐ วัน ยังมีสิทธิได้รับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานได้ article
ลักษณะความผิดเดียวกัน แต่ระดับความร้ายแรงแตกต่างกัน นายจ้างพิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ผู้จัดการสาขา เสนอรายชื่อลูกค้าที่ขาดคุณสมบัติทำประกันชีวิต ถือว่าจงใจทำให้นายจ้างเสียหาย / ผิดร้ายแรง article
หยุดกิจการชั่วคราวตาม มาตรา ๗๕ article
สัญญาจ้างเป็นสัญญาต่างตอบแทน นายจ้างออกค่าใช้จ่ายในการเข้าทดสอบเพื่อรับเกียรติบัตร เมื่อทดสอบผ่านต้องทำงานกับนายจ้าง ๕ ปี บังคับใช้ได้ article
ศาลแรงงานกลางมีอำนาจสั่งรับพยานเอกสารได้ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม article
ประกอบธุรกิจแข่งขัน / ไปทำงานกับนายจ้างอื่น ในลักษณะผิดต่อสัญญาจ้าง เมื่อลูกจ้างได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้างตามสัญญาแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะบังคับ / ห้ามทำงานตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างอีกต่อไป article
คดีแรงงานเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้คดีอาญายกฟ้อง แต่พฤติกรรมการกระทำผิด เป็นเหตุให้นายจ้างไม่อาจไว้วางใจในการทำงานได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
เลิกจ้างเนื่องจากปรับโครงสร้างองค์กร แต่กำหนดรายชื่อไว้ล่วงหน้า ถือเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม article
การหักลบกลบหนี้ หนี้อันเกิดจากสัญญาจ้าง กรณีลูกจ้างกระทำผิดกับสิทธิประโยชน์ที่มีสิทธิได้รับตามสัญญาจ้าง ถือเป็นมูลหนี้อันเป็นวัตถุอย่างเดียวกันหักลบกลบหนี้กันได้ article
เล่นการพนันฉลากกินรวบ เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน กรณีร้ายแรง article
กรณีไม่ถือเป็นการประกอบธุรกิจแข่งขันหรือไม่ถือว่าทำงานกับนายจ้างใหม่ในลักษณะธุรกิจเดียวกับนายจ้าง article
สัญญาฝึกอบรม นายจ้างกำหนดเบี้ยปรับได้ เป็นสัญญาที่เป็นธรรม article
ค้ำประกันการทำงาน หลักประกันการทำงาน การหักลบกลบหนี้ค่าเสียหายจากการทำงาน article
ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์แต่ตนเอง เรียกรับเงินจากลูกค้า ถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ article
ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา มาทำงานสายประจำ ถือว่า กระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สหภาพแรงงานทำบันทักข้อตกลงเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างกับนายจ้าง อันส่งผลกระทบต่อสิทธิหน้าที่ของสมาชิก ขัดกับข้อตกลงเดิมและมิได้ขอมติที่ประชุมใหญ่ ข้อตกลงดังกล่าวไม่อาจใช้บังคับได้ article
ขอเกษียณอายุก่อนกำหนดตามประกาศ ถือเป็นการสมัครใจเลิกสัญญาจ้างแรงงานต่อกัน มิใช่การเลิกจ้างหรือการเกษียณอายุ จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยตามระเบียบกรณีเกษียณอายุ article
สถาบันวิจัยอันเป็นส่วนหนึ่งของกิจการมหาวิทยาลัยถือเป็นหน่วยงานของรัฐ ได้รับยกเว้น ไม่อยู่ภายใต้บังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา ๔ (๑) article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า จากการเลิกจ้างมีอายุความฟ้องร้องได้ภายใน ๑๐ ปี article
ทะเลาะวิวาทเรื่องส่วนตัวไม่ส่งผลกระทบต่อการบังคับบัญชา ไม่เป็นความผิด กรณีร้ายแรง ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ article
พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน มิใช่ทายาทผู้มีสิทธิรับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ และเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ตามพระราชบัญญัติ ประกันสังคม มาตรา ๗๓ และมาตรา ๗๗ article
ขับรถเร็วเกินกว่าข้อบังคับกำหนด เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนคำสั่งโยกย้าย เลิกจ้างได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ประกาศใช้ระเบียบใหม่ ไม่ปรากฏว่ามีพนักงานโต้แย้งคัดค้าน ถือว่าทุกคนยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ article
เงินค่าตอบแทนพิเศษกับเงินโบนัส มีเงื่อนไขต่างกัน หลักเกณฑ์การจ่ายต่างกัน จึงต้องพิจารณาต่างกัน article
ทายาทผู้มีสิทธิได้รับเงินกองทุนเงินทดแทน article
ค่ารถแทนรถยนต์ประจำตำแหน่ง ไม่ถือเป็นค่าจ้าง และ ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสมให้ถือตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานที่กำหนดไว้ article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างไม่ตกลง ขอเวลาตัดสินใจและหยุดงานไป นายจ้างแจ้งให้กลับเข้าทำงานตามปกติ ถือว่านายจ้างยังไม่มีเจตนาเลิกจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ แอบนอนหลับในเวลาทำงาน ถือเป็นเหตุในการเลิกจ้างได้ เลิกจ้างเป็นธรรม article
ลาออกโดยไม่สุจริต ไม่มีผลใช้บังคับ article
ทำความผิดคล้ายคลึงกันแต่ไม่เหมือนกัน พิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ประกอบธุรกิจ บริการ ด่าลูกค้าด้วยถ้อยคำหยาบคาย " ควาย " ถือเป็นการกระทำความผิดกรณีร้ายแรง article
ข้อบังคับ ระบุให้ผู้บังคับบัญชาเหนือกว่ามีอำนาจแก้ไข เพิ่มโทษ หรือลดโทษได้ การยกเลิกคำสั่งลงโทษเดิมและให้ลงโทษใหม่หนักกว่าเดิมจึงสามารถทำได้ article
เลือกปฏิบัติในการลงโทษระเบียบการห้ามใส่ตุ้มหูมาทำงาน บังคับใช้ได้ แต่เลือกปฏิบัติในการลงโทษไม่ได้ article
ลงโทษพักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างและเตือนในคราวเดียวกันได้ ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน article
จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย article
ข้อตกลงรับเงินและยินยอมปลดหนี้ให้แก่กัน ถือเป็นการตกลงระงับข้อพิพาทแม้จะทำขึ้นก่อนคำสั่งเลิกจ้างมีผลใช้บังคับ article
ศาลแรงงานมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานที่คู่ความอ้างส่งศาลได้ แม้มิได้ระบุบัญชีพยานไว้ก็ตาม article
สัญญาจ้างห้ามลูกจ้างไปทำงานกับนายจ้างใหม่ที่ประกอบธุรกิจเช่นเดียวกันมีกำหนดเวลา บังคับใช้ได้ article
เลิกจ้างและรับเงินค่าชดเชย ใบรับเงิน ระบุขอสละสิทธิ์เรียกร้องเงินอื่นใดใช้บังคับได้ ลูกจ้างไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องสินจ้างและค่าเสียหายได้อีก article
เกษียณอายุ 60 ปี ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยนับแต่วันครบกำหนดเกษียณอายุ แม้นายจ้างไม่ได้บอกเลิกจ้างก็ตาม article
ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องและเพิกเฉยไม่ดูแลผลประโยชน์ของนายจ้าง เป็นเหตุให้นายจ้างไม่ไว้วางใจในการทำงานได้เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ละเลยต่อหน้าที่ ไม่รายงานเคพีไอ นายจ้างตักเตือนแล้ว ถือว่าผิดซ้ำคำเตือน เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ทำสัญญาจ้างต่างด้าวทำงานในอาชีพต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว สัญญาจ้างถือเป็นโมฆะ article
ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง article
ศาลมีคำสั่งให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษาตามหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน ในขณะที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ยุติ ต้องสืบพยานใหม่และพิพากษาใหม่ไปตามรูปคดี article
แม้สัญญาจ้างไม่ได้ระบุระยะเวลาทดลองงานไว้ แต่นายจ้างก็สามารถประเมินผลการทำงานของลูกจ้างได้ article
การควบรวมกิจการ สิทธิและหน้าที่โอนไปเป็นของบริษัทใหม่ การจ่ายเงินสมทบบริษัทใหม่ที่ควบรวมจึงมีสิทธิจ่ายเงินสมทบในอัตราเดิมตามสิทธิ มิใช่ในอัตราบริษัทตั้งใหม่ article
เลิกจ้างรับเงินค่าชดเชยแล้วตกลงสละสิทธิ์จะไม่เรียกร้องผละประโยชน์ใดๆ ถือว่าสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเป็นอันระงับไป article
รับเหมาก่อสร้าง ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบ จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมแทนผู้รับเหมาช่วง หากผู้รับเหมาช่วงไม่นำส่งเงินสมทบตามกฎหมายโดยคำนวณจากอัตราค่าจ้างที่ระบุตามแบบ ( ภ.ง.ด. 50 ) และบัญชีงบดุล article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานระบุห้ามทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกาย ผู้บังคับบัญชา เพื่อนพนักงาน ทั้งในสถานที่ทำงาน หรือสถานที่อื่นๆ ฝ่าฝืนถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง ใช้บังคับได้ไม่ขัดต่อกฎหมาย article
ไส้ติ่งอักเสบ แพทย์วินิจฉัยให้ผ่าตัด ถือเป็นกรณีฉุกเฉิน เบิกค่ารักษาได้ มีสิทธิรับเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ได้ article
ค่าเช่าที่พัก ค่าใช้จ่ายเดินทางเป็นสวัสดิการไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่ารถยนต์ซึ่งกำหนดเป็นสวัสดิการไว้ชัดเจนแยกจากฐานเงินเดือนปกติ ถือเป็นสวัสดิการไม่ใช่ค่าจ้าง article
ละเมิดข้อตกลงสภาพการจ้าง ละเมิดสัญญาจ้าง มีอายุความ 10 ปี มิใช่ 1 ปี article
พฤติกรรมการจ้างที่ถือว่าเป็นการจ้างแรงงาน ถือเป็นลูกจ้าง / นายจ้างตามกฎหมาย article
พนักงานขายรถยนต์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ประจำบูธ ตามที่ได้รับมอบหมาย ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
เลือกตั้งคณะกรรมการสหภาพฯ ขัดต่อข้อบังคับสหภาพหรือขัดต่อกฎหมาย ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบ article
ฝ่าฝืนสัญญาจ้าง กรณีห้ามทำการแข่งขันกับนายจ้างหรือทำธุรกิจคล้ายคลึงกับนายจ้างเป็นเวลา 2 ปี นับจากสิ้นสุดสัญญาต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้าง article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระบุให้นายจ้างเลิกจ้างเพราะเหตุคนล้นงาน ปรับลด ขนาดองค์กรได้ ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะเลิกจ้างลูกจ้างได้ article
ข้อบังคับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรณีตัดสิทธิ์รับเงินสมทบพร้อมผลประโยชน์หากกระทำผิดถูกปลดออกจากงานบังคับใช้ได้ article
ทะเลาะวิวาทกัน นอกเวลางาน นอกบริเวณบริษัทฯ ไม่ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนไม่ไปตรวจสารเสพติดซ้ำตามคำสั่งและนโยบาย ถือว่าฝ่าฝืน ข้อบังคับ หรือ ระเบียบ กรณีร้ายแรง article
วันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วน article
เป็นลูกจ้างที่มีอำนาจกระทำการแทนนายจ้างในการจ้างงาน ไม่มีสิทธิได้รับค่าทำงานในวันหยุด และลักทรัพย์เอาต้นไม้ของนายจ้างไป ถือว่ากระทำผิดอาญาแก่นายจ้าง เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ผลการทำงานดีมาโดยตลอดและไม่เคยกระทำผิดมาก่อน แต่ปีสุดท้ายผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ถือเป็นเหตุที่จะอ้างในการเลิกจ้าง article
ได้รับบาดเจ็บรายการเดียว เข้ารักษา 2 ครั้ง ถือว่าเป็นการรักษารายการเดียว นายจ้างสำรองจ่ายเพิ่มเติมไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ใช่ 200,000 บาท article
ผู้บริหารบริษัท ฯ ถือเป็นลูกจ้างหรือไม่ ดูจาก_________ ? article
ขับรถออกนอกเส้นทาง แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรงและก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้าง นายจ้างหักเงินประกันการทำงานได้ article
ค่าจ้างระหว่างพักงาน เมื่อข้อเท็จจริง ลูกจ้างกระทำความผิดจริง จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างระหว่างพักงาน article
“ นายจ้าง ” ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 article
สัญญารักษาความลับ ข้อมูลทางการค้า (ห้ามประกอบหรือรับปฏิบัติงานแข่งขันนายจ้าง) มีกำหนด 2 ปี บังคับใช้ได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย และการกำหนดค่าเสียหาย ถือเป็นเบี้ยปรับตามกฎหมาย ศาลปรับลดได้ตามสมควร article
เงินรางวัลการขายประจำเดือน จ่ายตามเป้าหมายการขาย ที่กำหนดไว้ ไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่าโทรศัพท์ เหมาจ่าย ถือเป็นค่าจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ 3 วันทำการ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เลิกจ้างเป็นธรรมไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ลาออกมีผลใช้บังคับแล้ว ออกหนังสือเลิกจ้างภายหลังใช้บังคับไม่ได้ article
ตกลงรับเงิน ไม่ติดใจฟ้องร้องอีกถือเป็นการตกลงประนีประนอมกันบังคับได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย
เลิกจ้างระหว่างทดลองงาน ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ข้อตกลงว่า “หากเกิดข้อพิพาทตามสัญญาจ้างแรงงาน ให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย” ไม่เกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมายแรงงาน เมื่อเกิดสิทธิตามกฎหมาย ฟ้องศาลแรงงานได้ โดยไม่ต้องให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย article
เลิกจ้างด้วยเหตุอื่น อันมิใช่ความผิดเดิมที่เคยตักเตือน ไม่ใช่เหตุที่จะไม่จ่ายค่าชดเชย เลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย article
นำรถยนต์ไปใช้ในกิจธุระส่วนตัว มีพฤติกรรมคดโกง ไม่ซื่อตรง พฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต ไม่น่าไว้วางใจ ลงโทษปลดออกจากการทำงานได้ article
การกระทำที่กระทบต่อเกียรติ ชื่อเสียงของนายจ้าง และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้กระทำนอกสถานที่ทำงานและนอกเวลางาน ก็ถือว่า ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกรณีร้ายแรง article
สัญญาค้ำประกันการทำงานไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ต้องรับผิดชอบตลอดไป article
ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเลิกจ้างได้ ถือว่าเลิกจ้างเป็นธรรมและความผิดที่ลงโทษแล้วจะนำมาลงโทษอีกไม่ได้ article
ผิดสัญญาจ้างไปทำงานกับคู่แข่ง นายจ้างฟ้องเรียกค่าเสียหายตามสัญญาได้ แต่ค่าเสียหาย เป็นดุลพินิจของศาลจะกำหนด article
จงใจกระทำผิดโดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้นายจ้างเสียหาย ถือว่า กระทำละเมิดต่อนายจ้าง ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น article
ตกลงสละสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย ภายหลังเลิกจ้าง ใช้บังคับได้ ไม่เป็นโมฆะ article
ก้าวร้าวไม่ให้ความเคารพผู้บังคับบัญชา ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้ามิใช่ค่าจ้าง คิดดอกเบี้ยในอัตรา 7. 5 ต่อปี article
ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของนายจ้างในเรื่องส่วนตัวเป็นประจำ ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่กาปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต เลิกจ้างเป็นธรรม article
สั่งให้พนักงานขับรถ ขับรถออกนอกเส้นทางแต่ไม่ได้มีส่วนในการขับรถ ถือว่าผิดต่อสัญญาจ้าง แต่ไม่ต้องรับผิดอันมีผลโดยตรงจากมูลละเมิด ( ขับรถโดยประมาท ) article
จ่ายของสมนาคุณให้ลูกค้า โดยไม่ตรวจสอบบิลให้ถูกต้อง มิใช่ความผิดกรณีร้ายแรงไม่ใช่การทุจริตต่อหน้าที่ แต่ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เสร็จลุล่วงไปโดยถูกต้อง และสุจริต เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ฟ้องประเด็นละเมิด กระทำผิดสัญญาจ้าง ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง มีอายุความ 10 ปี article
ตกลงยินยอมให้หักค่าจ้างชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันเงินกู้ นายจ้างสามารถหักค่าจ้างได้ตามหนังสือยินยอมโดยไม่ต้องฟ้อง article
กระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้างและประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง article
“ งานโครงการตามมาตรา 118 วรรค 4 ” บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ว่าจ้างลูกจ้างทำงานตามโครงการที่รับเหมา ถือว่าจ้างงานในปกติธุรกิจของนายจ้าง มิใช่งานโครงการ article
เงินโบนัสต้องมีสภาพการเป็นพนักงานจนถึงวันกำหนดจ่าย ออกก่อนไม่มีสิทธิได้รับ article
ระเบียบกำหนดจ่ายเงินพิเศษ ( gratuity ) เนื่องจากเกษียณอายุ โดยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายแตกต่างจากการจ่ายค่าเชย ถือว่านายจ้างยังไม่ได้จ่ายค่าชดเยตามกฎหมาย article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด

เลขที่ 511/4 ถนนประชาอุทิศ 117/1 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร (10140)

โทร/Tel : 02 - 8159522, แฟกซ์/Fax : 02 - 8159523, มือถือ/Mobile : 081 - 7936156

อีเมล/E-mail : sawai.prm@gmail.com, เว็บไซต์/Web : www.parameelaw.com