ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ชมรมบริหารงานบุคคล
dot
bulletสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย
bulletชมรมบริหารงานบุคคล
bulletชมรมบริหารงานบุคคล อยุธยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลรังสิต
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคล อมตะนคร
bulletสมาคมการบริหารงานบุคคล (PAAs)
bulletชมรมบริหารงานบุคคลบางพลี
bulletชมรมนักบริหารงานบุคคลพัทยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลยุคใหม่
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคลจังหวัดราชบุรี
bulletงานบริหารงานบุคคล
bulletชมรมงานบริหารงานบุคคลกรุงเทพฯ
bulletชมรมบริหารงานบุคลสุขสวัสดิ์
dot
ติดต่อราชการศาล
dot
bulletศาลแรงงานกลาง
bulletศาลแรงงานภาค ๒
bulletศาลยุติธรรม
bulletศาลปกครอง
bulletศาลรัฐธรมนูญ
bulletสำนักงานอัยการสูงสุด
bulletกระทรวงยุติธรรม
bulletคณะกรรมการกฤษฎีกา
bulletกรมบังคับคดี
bulletสภาทนายความ
dot
หน่วยงานราชการสำคัญ
dot
bulletกระทรวงแรงงาน
bulletกรมการจัดหางาน
bulletกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
bulletกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
bulletสำนักงานประกันสังคม
bulletกรมสรรพากร
bulletกรมบัญชีกลาง
bulletกรมพัฒนาธุรกิจกาค้า
bulletกระทรวงอุตสาหกรรม
bulletกรมโรงงานอุตสาหกรรม
bulletกรมส่งเสริมอุตสาหรม
bulletการนิคมอุตสาหกรรม
dot
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน
dot
bulletสมบัติลีกัล
bulletเอกเซลสำหรับงาน HR โดย อ.สำเริง
bulletบทความดี ๆ จากโกป้อม
dot
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
dot
dot
Newsletter

dot


พยากรณ์อากาศวันนี้
..................................


ราคาน้ำมันวันนี้
..................................



การพิจารณาว่าเลิกจ้างเป็นธรรมหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาเหตุแห่งการเลิกจ้างว่ามีเหตุสมควรเลิกจ้างหรือไม่ ไม่จำต้องพิจารณาว่าการสอบสวนชอบหรือไม่ article

คำพิพากษาฎีกาที่ 13187/2553

การพิจารณาว่าเลิกจ้างเป็นธรรมหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาเหตุแห่งการเลิกจ้างว่ามีเหตุสมควรเลิกจ้างหรือไม่ ไม่จำต้องพิจารณาว่าการสอบสวนชอบหรือไม่

                         โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทมหาชนจำกัด มีจำเลยที่ 2 เป็นผู้อำนวยการใหญ่ จำเลยที่ 3 เป็นรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการ จำเลยที่ 4 เป็นผู้อำนวยการฝ่ายบริหารงานบุคคล จำเลยที่ 5 เป็นผู้อำนวยการฝ่ายบริหารนักบิน จำเลยที่ 6 เป็นผู้อำนวยการประจำสำนักรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ จำเลยที่ 7 เป็นผู้จัดการกองหัวหน้านักบินแบบ 747 400 จำเลยที่ 8 เป็นผู้อำนวยการกองฝึกอบรมพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน จำเลยที่ 9 เป็นรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายปฏิบัติการ จำเลยที่ 10 เป็นผู้จัดการฝ่ายบุคคล จำเลยที่ 11 เป็นนิติกรประจำฝ่ายกฎหมายของจำเลยที่ 1 โจทก์ทำงานเป็นพนักงานของจำเลยที่ 1 ตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2536 ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นนักบินผู้ช่วยฝ่ายปฏิบัติการบินเงินเดือนอัตราสุดท้ายเดือนละ 72,845 บาท กับค่าตอบแทนอื่นอีกส่วนหนึ่ง เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2546 เวลาประมาณ 4.30 ถึง 5.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะที่โจทก์กลับจากรับประทานอาหารเช้าและกำลังเดินกลับห้องพักที่โรงแรมเวสต์อินได้เดินผ่านห้องหมายเลข 484 ซึ่งเป็นห้องพักของนางสาวยาซูโกะ ชิชิโดะ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของจำเลยที่ 1 เห็นประตูห้องดังกล่าวเปิดแง้มอยู่ ด้วยความสงสัยและเป็นห่วงในความปลอดภัยของพนักงานของจำเลยที่ 1 โจทก์จึงเคาะประตูเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบ โจทก์คิดว่าเจ้าของห้องอาจไม่อยู่หรืออยู่แต่กำลังเกิดเหตุร้ายต้องการความช่วยเหลือ ด้วยความบริสุทธิ์ใจจึงได้ผลักประตูเดินเข้าไปดู พบคนนอนห่มผ้าอยู่บนเตียง โจทก์จึงก้าวออกมาที่บริเวณประตูเพราะกลัวจะทำให้คนที่นอนตกใจตื่นและได้เขียนข้อความลงบนกระดาษที่ติดตัวมาเพื่อเตือนเจ้าของห้องพักเป็นเวลาเดียวกับที่นางสาวยาซูโกะตื่นขึ้นมา โจทก์จึงรีบออกจากห้องพร้อมปิดประตูต่อมาวันที่ 11 มิถุนายน 2546 จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 มีคำสั่งพักงานโจทก์ระหว่างสอบสวน จำเลยที่ 1 และที่ 2 ได้มีคำสั่งตั้งจำเลยที่ 5 ถึงที่ 8 เป็นกรรมการสอบสวนเรื่องดังกล่าว จำเลยที่ 5 ถึงที่ 8 เสนอความเห็นเบื้องต้นว่าโจทก์มีความผิดให้ลงโทษให้ออกจากการเป็นพนักงาน ต่อมาวันที่ 30 มิถุนายน 2546 จำเลยที่ 1 และที่ 2 มีคำสั่งตั้งจำเลยที่ 9 ถึงที่ 11 เป็นกรรมการสอบสวนทางวินัย ต่อมาจำเลยที่ 9 ถึงที่ 11 ได้รายงานผลการสอบสวนถึงจำเลยที่ 1 และที่ 2 โดยเสนอให้ลงโทษโจทก์ให้ออกจากการเป็นพนักงานของจำเลยที่ 1 และในวันที่ 8 กันยายน 2546 จำเลยที่ 1 ถึงที่ 3 ได้ร่วมกันมีคำสั่งให้โจทก์ออกจากการเป็นพนักงานเนื่องจากพฤติการณ์ไม่เหมาะสม ทำให้จำเลยที่ 1 ไม่ไว้วางใจและไม่ประสงค์จะให้ทำงานอีกต่อไป ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2546 เป็นต้นไป คำสั่งให้สอบสวนโจทก์ คำสั่งพักงานและคำสั่งให้ออกจากการเป็นพนักงานดังกล่าวเป็นคำสั่งที่ไม่มีเหตุผลเพียงพอและเป็นคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นการเลิกจ้างโจทก์โดยไม่เป็นธรรม โจทก์ได้อุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ของจำเลยที่ 1 ก็ยังมิได้มีการพิจารณาเรื่องของโจทก์ซึ่งขัดต่อระเบียบข้อบังคับของจำเลยที่ 1 เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย จึงขอให้บังคับจำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมกันมีคำสั่งรับโจทก์กลับเข้าทำงานในอัตราเงินเดือนตำแหน่งหน้าที่เดิมและให้พิจารณาเลื่อนขั้นตามปกติเช่นเดียวกับพนักงานอื่น ให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 11 ร่วมกันชำระสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า เป็นเงิน 126,264.74 บาท ค่าชดเชยเป็นเงิน 437,070 บาท ค่าเบี้ยเลี้ยงการปฏิบัติการบินปีละ 434,673 บาท เงินโบนัสเป็นเวลา 2 ปี เป็นเงิน 673,120 บาท เงินเพิ่มประจำเดือนสำหรับค่าครองชีพเป็นเงิน 79,770  บาท เงินค่าตอบแทนชั่วโมงทำงานในการปฏิบัติการบินเป็นเงิน 465,426 บาท เงินค่าตอบแทนพิเศษต่อผู้ถือใบอนุญาตผู้บังคับอากาศยานเป็นเงิน 180,000 บาท เงินค่าชดเชยวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์เป็นเงิน 52,448 บาท ให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 11 ร่วมกันชำระภาษีเงินได้บุคคลจำนวน 704,732 บาท กับค่าเสียหายจากการผิดสัญญาจ้างและเลิกจ้างไม่เป็นธรรมเป็นเงิน 28,462,780 บาท กับค่าเสียหายต่อชื่อเสียงของโจทก์และวงศ์ตระกูลเป็นเงิน 200,000,000 บาท แก่โจทก์และให้จำเลยที่ 1 ถึงที่ 11 ร่วมกันชำระดอกเบี้ยและเงินเพิ่มในอัตราร้อยละ 15 ทุกระยะเวลา 7 วัน ของต้นเงินตามฟ้องดังกล่าวนับแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2546 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
 
 
                                จำเลยทั้งสิบเอ็ดให้การว่า จำเลยที่ 1 เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทมหาชนจำกัด จำเลยที่ 1 มอบอำนาจให้จำเลยที่ 11 ดำเนินคดีแทน เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2546 เวลาประมาณ 4.30 น. ขณะที่นางสาวยาซูโกะ ชิชิโดะ กำลังนอนหลับอยู่ในห้องพักที่โรงแรมเวสต์อิน โจทก์ได้แอบเข้าไปในห้องพักของนางสาวยาซูโกะ โดยไม่มีเหตุอันควร นางสาวยาซูโกะ ตื่นขึ้นมาพบและเรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงแรมมาเพื่อจับกุมตัวโจทก์ จำเลยที่ 7 ได้ไปรับรองกับพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงแรมว่าจะนำตัวโจทก์ไปดำเนินการที่ประเทศไทยเอง พนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงแรมจึงยอมปล่อยตัวโจทก์ให้จำเลยที่ 7 นำกลับประเทศไทยเพื่อทำการสอบสวนจำเลยที่ 1 ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนชั้นต้น เมื่อวันที่ 22 เมษายน 2546 เพื่อทำการสอบสวน แล้วจำเลยที่ 1 ได้ออกคำสั่งเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2546 ให้พักงานโจทก์ระหว่างสอบสวน ต่อมาวันที่ 30 มิถุนายน 2546 จำเลยที่ 1 ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยเพื่อทำการสอบสวนโจทก์ คณะกรรมการสอบสวนทางวินัยได้ทำการสอบสวนแล้วมีความเห็นให้ลงโทษโจทก์ให้ออกจากการเป็นพนักงาน จำเลยที่ 1 จึงมีคำสั่งเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2546 ให้จำเลยที่ 1 ออกจากการเป็นพนักงานเนื่องจากพฤติการณ์ไม่เหมาะสมทำให้จำเลยที่ 1 ไม่ไว้วางใจและไม่ประสงค์จะให้ทำงานกับจำเลยที่ 1 อีกต่อไป ตามระเบียบของจำเลยที่ 1 ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล ตอนที่ 2 ข้อ 12 ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2546 เป็นต้นไป โจทก์ยื่นอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งของจำเลยที่ 1 ต่อกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ของจำเลยที่ 1 และก่อนฟ้องคดีนี้โจทก์มอบให้ทนายความส่งหนังสือข่มขู่เรียกร้องให้นางสาวยาซูโกะ ชดใช้ค่าเสียหายจากการที่รายงานพฤติกรรมของโจทก์ต่อจำเลยที่ 1 และต่อมาโจทก์ยื่นฟ้องนางสาวยาซูโกะ เป็นคดีต่อศาลแพ่ง แล้วโจทก์ถอนฟ้องคดีดังกล่าว โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกเงินหรือค่าเสียหายใดๆ ตามฟ้องเนื่องจากการเลิกจ้างโจทก์มิใช่เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมและไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์ จำเลยที่ 2 ถึงที่ 11 ไมใช่นายจ้างของโจทก์ แต่มีฐานะเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 เช่นเดียวกับโจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2 ถึงที่ 11 และคำฟ้องข้อ 7.6 ถึง 7.10 เป็นฟ้องเคลือบคลุม ขอให้ยกฟ้อง
 
 
                                ศาลแรงงานกลางพิพากษายกฟ้อง
 
 
                                โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
 
 
                            ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่าโจทก์เป็นพนักงานของจำเลยที่ 1 ในตำแหน่งนักบินผู้ช่วยฝ่ายปฏิบัติการบิน เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2546  เวลาประมาณ 4.30 น.  ขณะที่นางสาวยาซูโกะ ชิชิโดะ พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของจำเลยที่ 1 นอนหลับอยู่บนเตียงในห้องพักเลขที่ 484 โรงแรมเวสต์อิน ประเทศสหรัฐอเมริกา โจทก์ได้เข้าไปในห้องพักดังกล่าว เมื่อโจทก์เห็นนางสาวยาซูโกะนอนหลับอยู่โจทก์จึงเข้าไปในห้องน้ำภายในห้องพัก เป็นจังหวะเดียวกับที่นางสาวยาซูโกะรู้สึกตัวตื่นขึ้นแต่แกล้งทำเป็นหลับเพราะความกลัวแล้วรีบโทรศัพท์แจ้งพนักงานรักษาความปลอดภัยของโรงแรมมานำโจทก์ออกไปจากห้องพัก พฤติการณ์ที่โจทก์เข้าไปในห้องพักและห้องน้ำภายในห้องพักของนางสาวยาซูโกะซึ่งไม่เคยรู้จักสนิทสนมคุ้นเคยกันมาก่อนโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุอันควรที่จะเข้าไป ถือได้ว่าเป็นการเข้าไปรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นโดยปกติสุข เป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่งที่พนักงานระดับสูงอย่างโจทก์จะพึงกระทำจึงเป็นการกระทำผิดตามที่ระบุในหนังสือเลิกจ้างซึ่งเป็นกรณีที่ร้ายแรงและก่อให้เกิดความไม่ไว้วางใจแก่จำเลยที่ 1 ที่จะให้โจทก์ปฏิบัติหน้าที่อื่นสำคัญต่อไป การที่จำเลยที่ 1 เลิกจ้างโจทก์จึงไม่ใช่การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมและการจะพิจารณาว่าการเลิกจ้างเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมหรือไม่นั้นต้องพิจารณาเหตุแห่งการเลิกจ้างว่ามีเหตุสมควรเลิกจ้างหรือไม่ ไม่จำเป็นต้องวินิจฉัยว่าการสอบสวนของจำเลยที่ 1 ชอบหรือไม่ เพราะไม่ทำให้ผลของคดีเปลี่ยนแปลงไป เมื่อการเลิกจ้างเกิดจากโจทก์กระทำผิดเป็นกรณีที่ร้ายแรงและมิใช่การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม จำเลยที่ 1 จึงไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า และโจทก์ไม่มีสิทธิขอให้จำเลยที่ 1 รับโจทก์กลับเข้ามาทำงานหรือชดใช้ค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม นอกจากนี้ศาลแรงงานกลางยังฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยที่ 2 ถึงที่ 11 ต่างล้วนเป็นลูกจ้างของจำเลยที่ 1 เช่นเดียวกับโจทก์มิได้มีฐานะเป็นนายจ้างของโจทก์ จึงไม่ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 ในฐานะนายจ้างที่โจทก์อุทธรณ์ข้อ 2.2 ทำนองว่า โจทก์มีหน้าที่ควบคุมปฏิบัติการบินรวมถึงการดูแลความปลอดภัยผู้โดยสารและลูกเรือซึ่งเป็นพนักงานของจำเลยที่ 1 ที่พักอาศัยอยู่ต่างประเทศด้วย วันเกิดเหตุโจทก์เห็นประตูห้องพักของนางสาวยาซูโกะเปิดอยู่โจทก์เกรงว่าจะเกิดอันตรายเนื่องจากทราบว่าเคยมีการทำร้ายและลักทรัพย์ผู้เข้าพักมาก่อนโจทก์จึงเข้าไปในห้องพักของนางสาวยาซูโกะเพื่อต้องการเตือน มิได้มีเจตนาร้ายหรือต้องการล่วงละเมิดทางเพศหรือต้องการลักทรัพย์แต่อย่างใด และเมื่อนางสาวยาซูโกะบอกให้โจทก์ออกไปจากห้องพักโจทก์ก็ปฏิบัติตาม ทั้งจากพยานหลักฐานก็ไม่ปรากฏว่ามีการแจ้งความดำเนินคดีต่อโจทก์ในข้อหาบุกรุกแต่อย่างใด ดังนั้น การที่โจทก์เข้าไปในห้องพักของนางสาวยาซูโกะจึงเป็นการเข้าไปโดยมีเหตุอันสมควร และไม่เป็นความผิดกรณีที่ร้ายแรงถึงขั้นเลิกจ้างนั้น อุทธรณ์ของโจทก์ดังกล่าว ล้วนแล้วแต่เป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการฟังข้อเท็จจริงของศาลแรงงานกลางเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยข้อกฎหมายจึงเป็นอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ.2522 มาตรา 54 วรรคหนึ่ง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
 
 
                                ที่โจทก์อุทธรณ์ข้อ 2.1 ว่า ตามระเบียบจำเลยที่ 1 ว่าด้วยการบริหารบุคคล การที่จำเลยที่ 1 จะลงโทษโจทก์ จำเลยที่ 1 จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่ได้กำหนดไว้ในระเบียบดังกล่าวโดยผู้มีอำนาจตามที่จำเลยที่ 1 กำหนดไว้ตามเอกสารแนบท้ายระเบียบและการลงโทษต้องทำเป็นลายลักษณ์อักษร การแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยก็มิได้แต่งตั้งโดยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การสอบสวนของคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง และของคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยขัดกับระเบียบของจำเลยที่ 1 การเลิกจ้างโจทก์จึงขัดกับกับระเบียบจำเลยที่ 1 ว่าด้วยการบริหารงานบุคคลนั้น ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงและวินิจฉัยว่า การเลิกจ้างโจทก์มิใช่การเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม เนื่องจากการกระทำของโจทก์เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานและระเบียบของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายกรณีที่ร้ายแรง ดังนั้น อุทธรณ์ของโจทก์ดังกล่าวแม้ศาลฎีกาจะวินิจฉัยให้ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลแห่งคดีได้ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
 
 
                                สำหรับปัญหาตามอุทธรณ์ของโจทก์ประการสุดท้ายว่า จำเลยที่ 2 ถึงที่ 11 ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 หรือไม่นั้น เมื่อปรากฏว่าจำเลยที่ 1 ไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์แล้ว จึงไม่จำต้องวินิจฉัยในประเด็นนี้ต่อไปอีก
 
 
                                พิพากษายกอุทธรณ์โจทก์.



อัพเดท ฎีกาน่าสนใจ

ขึ้นทะเบียนรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเกิน ๓๐ วัน ยังมีสิทธิได้รับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานได้ article
ลักษณะความผิดเดียวกัน แต่ระดับความร้ายแรงแตกต่างกัน นายจ้างพิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ผู้จัดการสาขา เสนอรายชื่อลูกค้าที่ขาดคุณสมบัติทำประกันชีวิต ถือว่าจงใจทำให้นายจ้างเสียหาย / ผิดร้ายแรง article
หยุดกิจการชั่วคราวตาม มาตรา ๗๕ article
สัญญาจ้างเป็นสัญญาต่างตอบแทน นายจ้างออกค่าใช้จ่ายในการเข้าทดสอบเพื่อรับเกียรติบัตร เมื่อทดสอบผ่านต้องทำงานกับนายจ้าง ๕ ปี บังคับใช้ได้ article
ศาลแรงงานกลางมีอำนาจสั่งรับพยานเอกสารได้ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม article
ประกอบธุรกิจแข่งขัน / ไปทำงานกับนายจ้างอื่น ในลักษณะผิดต่อสัญญาจ้าง เมื่อลูกจ้างได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้างตามสัญญาแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะบังคับ / ห้ามทำงานตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างอีกต่อไป article
คดีแรงงานเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้คดีอาญายกฟ้อง แต่พฤติกรรมการกระทำผิด เป็นเหตุให้นายจ้างไม่อาจไว้วางใจในการทำงานได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
เลิกจ้างเนื่องจากปรับโครงสร้างองค์กร แต่กำหนดรายชื่อไว้ล่วงหน้า ถือเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม article
การหักลบกลบหนี้ หนี้อันเกิดจากสัญญาจ้าง กรณีลูกจ้างกระทำผิดกับสิทธิประโยชน์ที่มีสิทธิได้รับตามสัญญาจ้าง ถือเป็นมูลหนี้อันเป็นวัตถุอย่างเดียวกันหักลบกลบหนี้กันได้ article
เล่นการพนันฉลากกินรวบ เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน กรณีร้ายแรง article
กรณีไม่ถือเป็นการประกอบธุรกิจแข่งขันหรือไม่ถือว่าทำงานกับนายจ้างใหม่ในลักษณะธุรกิจเดียวกับนายจ้าง article
สัญญาฝึกอบรม นายจ้างกำหนดเบี้ยปรับได้ เป็นสัญญาที่เป็นธรรม article
ค้ำประกันการทำงาน หลักประกันการทำงาน การหักลบกลบหนี้ค่าเสียหายจากการทำงาน article
ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์แต่ตนเอง เรียกรับเงินจากลูกค้า ถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ article
ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา มาทำงานสายประจำ ถือว่า กระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สหภาพแรงงานทำบันทักข้อตกลงเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างกับนายจ้าง อันส่งผลกระทบต่อสิทธิหน้าที่ของสมาชิก ขัดกับข้อตกลงเดิมและมิได้ขอมติที่ประชุมใหญ่ ข้อตกลงดังกล่าวไม่อาจใช้บังคับได้ article
ขอเกษียณอายุก่อนกำหนดตามประกาศ ถือเป็นการสมัครใจเลิกสัญญาจ้างแรงงานต่อกัน มิใช่การเลิกจ้างหรือการเกษียณอายุ จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยตามระเบียบกรณีเกษียณอายุ article
สถาบันวิจัยอันเป็นส่วนหนึ่งของกิจการมหาวิทยาลัยถือเป็นหน่วยงานของรัฐ ได้รับยกเว้น ไม่อยู่ภายใต้บังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา ๔ (๑) article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า จากการเลิกจ้างมีอายุความฟ้องร้องได้ภายใน ๑๐ ปี article
ทะเลาะวิวาทเรื่องส่วนตัวไม่ส่งผลกระทบต่อการบังคับบัญชา ไม่เป็นความผิด กรณีร้ายแรง ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ article
พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน มิใช่ทายาทผู้มีสิทธิรับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ และเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ตามพระราชบัญญัติ ประกันสังคม มาตรา ๗๓ และมาตรา ๗๗ article
ขับรถเร็วเกินกว่าข้อบังคับกำหนด เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนคำสั่งโยกย้าย เลิกจ้างได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ประกาศใช้ระเบียบใหม่ ไม่ปรากฏว่ามีพนักงานโต้แย้งคัดค้าน ถือว่าทุกคนยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ article
เงินค่าตอบแทนพิเศษกับเงินโบนัส มีเงื่อนไขต่างกัน หลักเกณฑ์การจ่ายต่างกัน จึงต้องพิจารณาต่างกัน article
ทายาทผู้มีสิทธิได้รับเงินกองทุนเงินทดแทน article
ค่ารถแทนรถยนต์ประจำตำแหน่ง ไม่ถือเป็นค่าจ้าง และ ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสมให้ถือตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานที่กำหนดไว้ article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างไม่ตกลง ขอเวลาตัดสินใจและหยุดงานไป นายจ้างแจ้งให้กลับเข้าทำงานตามปกติ ถือว่านายจ้างยังไม่มีเจตนาเลิกจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ แอบนอนหลับในเวลาทำงาน ถือเป็นเหตุในการเลิกจ้างได้ เลิกจ้างเป็นธรรม article
ลาออกโดยไม่สุจริต ไม่มีผลใช้บังคับ article
ทำความผิดคล้ายคลึงกันแต่ไม่เหมือนกัน พิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ประกอบธุรกิจ บริการ ด่าลูกค้าด้วยถ้อยคำหยาบคาย " ควาย " ถือเป็นการกระทำความผิดกรณีร้ายแรง article
ข้อบังคับ ระบุให้ผู้บังคับบัญชาเหนือกว่ามีอำนาจแก้ไข เพิ่มโทษ หรือลดโทษได้ การยกเลิกคำสั่งลงโทษเดิมและให้ลงโทษใหม่หนักกว่าเดิมจึงสามารถทำได้ article
เลือกปฏิบัติในการลงโทษระเบียบการห้ามใส่ตุ้มหูมาทำงาน บังคับใช้ได้ แต่เลือกปฏิบัติในการลงโทษไม่ได้ article
ลงโทษพักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างและเตือนในคราวเดียวกันได้ ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน article
จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย article
ข้อตกลงรับเงินและยินยอมปลดหนี้ให้แก่กัน ถือเป็นการตกลงระงับข้อพิพาทแม้จะทำขึ้นก่อนคำสั่งเลิกจ้างมีผลใช้บังคับ article
ศาลแรงงานมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานที่คู่ความอ้างส่งศาลได้ แม้มิได้ระบุบัญชีพยานไว้ก็ตาม article
สัญญาจ้างห้ามลูกจ้างไปทำงานกับนายจ้างใหม่ที่ประกอบธุรกิจเช่นเดียวกันมีกำหนดเวลา บังคับใช้ได้ article
เลิกจ้างและรับเงินค่าชดเชย ใบรับเงิน ระบุขอสละสิทธิ์เรียกร้องเงินอื่นใดใช้บังคับได้ ลูกจ้างไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องสินจ้างและค่าเสียหายได้อีก article
เกษียณอายุ 60 ปี ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยนับแต่วันครบกำหนดเกษียณอายุ แม้นายจ้างไม่ได้บอกเลิกจ้างก็ตาม article
ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องและเพิกเฉยไม่ดูแลผลประโยชน์ของนายจ้าง เป็นเหตุให้นายจ้างไม่ไว้วางใจในการทำงานได้เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ละเลยต่อหน้าที่ ไม่รายงานเคพีไอ นายจ้างตักเตือนแล้ว ถือว่าผิดซ้ำคำเตือน เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ทำสัญญาจ้างต่างด้าวทำงานในอาชีพต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว สัญญาจ้างถือเป็นโมฆะ article
ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง article
ศาลมีคำสั่งให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษาตามหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน ในขณะที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ยุติ ต้องสืบพยานใหม่และพิพากษาใหม่ไปตามรูปคดี article
แม้สัญญาจ้างไม่ได้ระบุระยะเวลาทดลองงานไว้ แต่นายจ้างก็สามารถประเมินผลการทำงานของลูกจ้างได้ article
การควบรวมกิจการ สิทธิและหน้าที่โอนไปเป็นของบริษัทใหม่ การจ่ายเงินสมทบบริษัทใหม่ที่ควบรวมจึงมีสิทธิจ่ายเงินสมทบในอัตราเดิมตามสิทธิ มิใช่ในอัตราบริษัทตั้งใหม่ article
เลิกจ้างรับเงินค่าชดเชยแล้วตกลงสละสิทธิ์จะไม่เรียกร้องผละประโยชน์ใดๆ ถือว่าสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเป็นอันระงับไป article
รับเหมาก่อสร้าง ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบ จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมแทนผู้รับเหมาช่วง หากผู้รับเหมาช่วงไม่นำส่งเงินสมทบตามกฎหมายโดยคำนวณจากอัตราค่าจ้างที่ระบุตามแบบ ( ภ.ง.ด. 50 ) และบัญชีงบดุล article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานระบุห้ามทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกาย ผู้บังคับบัญชา เพื่อนพนักงาน ทั้งในสถานที่ทำงาน หรือสถานที่อื่นๆ ฝ่าฝืนถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง ใช้บังคับได้ไม่ขัดต่อกฎหมาย article
ไส้ติ่งอักเสบ แพทย์วินิจฉัยให้ผ่าตัด ถือเป็นกรณีฉุกเฉิน เบิกค่ารักษาได้ มีสิทธิรับเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ได้ article
ค่าเช่าที่พัก ค่าใช้จ่ายเดินทางเป็นสวัสดิการไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่ารถยนต์ซึ่งกำหนดเป็นสวัสดิการไว้ชัดเจนแยกจากฐานเงินเดือนปกติ ถือเป็นสวัสดิการไม่ใช่ค่าจ้าง article
ละเมิดข้อตกลงสภาพการจ้าง ละเมิดสัญญาจ้าง มีอายุความ 10 ปี มิใช่ 1 ปี article
พฤติกรรมการจ้างที่ถือว่าเป็นการจ้างแรงงาน ถือเป็นลูกจ้าง / นายจ้างตามกฎหมาย article
พนักงานขายรถยนต์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ประจำบูธ ตามที่ได้รับมอบหมาย ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
เลือกตั้งคณะกรรมการสหภาพฯ ขัดต่อข้อบังคับสหภาพหรือขัดต่อกฎหมาย ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบ article
ฝ่าฝืนสัญญาจ้าง กรณีห้ามทำการแข่งขันกับนายจ้างหรือทำธุรกิจคล้ายคลึงกับนายจ้างเป็นเวลา 2 ปี นับจากสิ้นสุดสัญญาต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้าง article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระบุให้นายจ้างเลิกจ้างเพราะเหตุคนล้นงาน ปรับลด ขนาดองค์กรได้ ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะเลิกจ้างลูกจ้างได้ article
ข้อบังคับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรณีตัดสิทธิ์รับเงินสมทบพร้อมผลประโยชน์หากกระทำผิดถูกปลดออกจากงานบังคับใช้ได้ article
ทะเลาะวิวาทกัน นอกเวลางาน นอกบริเวณบริษัทฯ ไม่ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนไม่ไปตรวจสารเสพติดซ้ำตามคำสั่งและนโยบาย ถือว่าฝ่าฝืน ข้อบังคับ หรือ ระเบียบ กรณีร้ายแรง article
วันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วน article
เป็นลูกจ้างที่มีอำนาจกระทำการแทนนายจ้างในการจ้างงาน ไม่มีสิทธิได้รับค่าทำงานในวันหยุด และลักทรัพย์เอาต้นไม้ของนายจ้างไป ถือว่ากระทำผิดอาญาแก่นายจ้าง เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ผลการทำงานดีมาโดยตลอดและไม่เคยกระทำผิดมาก่อน แต่ปีสุดท้ายผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ถือเป็นเหตุที่จะอ้างในการเลิกจ้าง article
ได้รับบาดเจ็บรายการเดียว เข้ารักษา 2 ครั้ง ถือว่าเป็นการรักษารายการเดียว นายจ้างสำรองจ่ายเพิ่มเติมไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ใช่ 200,000 บาท article
ผู้บริหารบริษัท ฯ ถือเป็นลูกจ้างหรือไม่ ดูจาก_________ ? article
ขับรถออกนอกเส้นทาง แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรงและก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้าง นายจ้างหักเงินประกันการทำงานได้ article
ค่าจ้างระหว่างพักงาน เมื่อข้อเท็จจริง ลูกจ้างกระทำความผิดจริง จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างระหว่างพักงาน article
“ นายจ้าง ” ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 article
สัญญารักษาความลับ ข้อมูลทางการค้า (ห้ามประกอบหรือรับปฏิบัติงานแข่งขันนายจ้าง) มีกำหนด 2 ปี บังคับใช้ได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย และการกำหนดค่าเสียหาย ถือเป็นเบี้ยปรับตามกฎหมาย ศาลปรับลดได้ตามสมควร article
เงินรางวัลการขายประจำเดือน จ่ายตามเป้าหมายการขาย ที่กำหนดไว้ ไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่าโทรศัพท์ เหมาจ่าย ถือเป็นค่าจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ 3 วันทำการ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เลิกจ้างเป็นธรรมไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ลาออกมีผลใช้บังคับแล้ว ออกหนังสือเลิกจ้างภายหลังใช้บังคับไม่ได้ article
ตกลงรับเงิน ไม่ติดใจฟ้องร้องอีกถือเป็นการตกลงประนีประนอมกันบังคับได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย
เลิกจ้างระหว่างทดลองงาน ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ข้อตกลงว่า “หากเกิดข้อพิพาทตามสัญญาจ้างแรงงาน ให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย” ไม่เกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมายแรงงาน เมื่อเกิดสิทธิตามกฎหมาย ฟ้องศาลแรงงานได้ โดยไม่ต้องให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย article
เลิกจ้างด้วยเหตุอื่น อันมิใช่ความผิดเดิมที่เคยตักเตือน ไม่ใช่เหตุที่จะไม่จ่ายค่าชดเชย เลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย article
นำรถยนต์ไปใช้ในกิจธุระส่วนตัว มีพฤติกรรมคดโกง ไม่ซื่อตรง พฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต ไม่น่าไว้วางใจ ลงโทษปลดออกจากการทำงานได้ article
การกระทำที่กระทบต่อเกียรติ ชื่อเสียงของนายจ้าง และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้กระทำนอกสถานที่ทำงานและนอกเวลางาน ก็ถือว่า ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกรณีร้ายแรง article
สัญญาค้ำประกันการทำงานไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ต้องรับผิดชอบตลอดไป article
ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเลิกจ้างได้ ถือว่าเลิกจ้างเป็นธรรมและความผิดที่ลงโทษแล้วจะนำมาลงโทษอีกไม่ได้ article
ผิดสัญญาจ้างไปทำงานกับคู่แข่ง นายจ้างฟ้องเรียกค่าเสียหายตามสัญญาได้ แต่ค่าเสียหาย เป็นดุลพินิจของศาลจะกำหนด article
จงใจกระทำผิดโดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้นายจ้างเสียหาย ถือว่า กระทำละเมิดต่อนายจ้าง ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น article
ตกลงสละสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย ภายหลังเลิกจ้าง ใช้บังคับได้ ไม่เป็นโมฆะ article
ก้าวร้าวไม่ให้ความเคารพผู้บังคับบัญชา ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้ามิใช่ค่าจ้าง คิดดอกเบี้ยในอัตรา 7. 5 ต่อปี article
ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของนายจ้างในเรื่องส่วนตัวเป็นประจำ ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่กาปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต เลิกจ้างเป็นธรรม article
สั่งให้พนักงานขับรถ ขับรถออกนอกเส้นทางแต่ไม่ได้มีส่วนในการขับรถ ถือว่าผิดต่อสัญญาจ้าง แต่ไม่ต้องรับผิดอันมีผลโดยตรงจากมูลละเมิด ( ขับรถโดยประมาท ) article
จ่ายของสมนาคุณให้ลูกค้า โดยไม่ตรวจสอบบิลให้ถูกต้อง มิใช่ความผิดกรณีร้ายแรงไม่ใช่การทุจริตต่อหน้าที่ แต่ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เสร็จลุล่วงไปโดยถูกต้อง และสุจริต เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ฟ้องประเด็นละเมิด กระทำผิดสัญญาจ้าง ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง มีอายุความ 10 ปี article
ตกลงยินยอมให้หักค่าจ้างชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันเงินกู้ นายจ้างสามารถหักค่าจ้างได้ตามหนังสือยินยอมโดยไม่ต้องฟ้อง article
กระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้างและประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง article
“ งานโครงการตามมาตรา 118 วรรค 4 ” บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ว่าจ้างลูกจ้างทำงานตามโครงการที่รับเหมา ถือว่าจ้างงานในปกติธุรกิจของนายจ้าง มิใช่งานโครงการ article
เงินโบนัสต้องมีสภาพการเป็นพนักงานจนถึงวันกำหนดจ่าย ออกก่อนไม่มีสิทธิได้รับ article
ระเบียบกำหนดจ่ายเงินพิเศษ ( gratuity ) เนื่องจากเกษียณอายุ โดยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายแตกต่างจากการจ่ายค่าเชย ถือว่านายจ้างยังไม่ได้จ่ายค่าชดเยตามกฎหมาย article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด

เลขที่ 511/4 ถนนประชาอุทิศ 117/1 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร (10140)

โทร/Tel : 02 - 8159522, แฟกซ์/Fax : 02 - 8159523, มือถือ/Mobile : 081 - 7936156

อีเมล/E-mail : sawai.prm@gmail.com, เว็บไซต์/Web : www.parameelaw.com