'อาชีวะ'การันตีไม่มีตกงาน ประกอบอาชีพพ่วงใบปริญญา
ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยมีการถดถอยและชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่องจึงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศมาก จนทำให้ได้ยินคำว่าคนว่างงาน คนตกงาน อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นอยู่บ่อยๆ และปัจจุบันนี้ในเรื่องของการศึกษาก็มีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วและมากขึ้น ทำให้การที่ผลิตนิสิตออกมาเป็นจำนวนมากๆ นั้น ไม่สอดคล้องกับตลาดแรงงาน
มีหลายสถาบันที่เมื่อจบการศึกษาแล้วจะมีงานรองรับเลย แต่เอาเข้าจริงเหล่าบัณฑิตต้องหางานทำ ซึ่งบางคนกว่าจะได้งานทำก็ต้องตั้งตัวนาน และมีหลายคนที่ได้ทำงานโดยที่ไม่สอดคล้องกับสายที่ตนศึกษามา แต่ยังมีอีกหนึ่งสถาบันที่พร้อมรองรับให้นักศึกษาที่จบออกมามีอาชีพที่แน่นอน นั่นคือ "อาชีวศึกษา" แม้บางอาชีพจะมีรายได้ไม่มากนัก แต่ก็เป็นอาชีพที่กินได้ยาว และใช้ฝีมือล้วนๆ
และอีกไม่นานเกินรอ สถาบันการอาชีว ศึกษา ภาคกลาง 1 เป็นสถาบันการอาชีวศึกษาหนึ่งใน 19 แห่งทั่วประเทศ เป็นสถาบันริเริ่มที่มีการเปิดการเรียนปริญญาตรี ในปีการศึกษา 2556 โดยจะเปิดปริญญาตรี 8 ประเภทวิชา ได้แก่ อุตสาหกรรม, เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร,บริหารธุรกิจ, อุตสาหกรรมท่องเที่ยว, ศิลปกรรม, คหกรรม, เกษตรกรรม และประมง รวมทั้งหมด 28 สาขาวิชา
สถาบัน 19 แห่ง ได้ถูกกำหนดให้ตั้งในกรุงเทพมหานคร 1 แห่ง ภาคกลาง 5 แห่ง ภาคเหนือ 4 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5 แห่ง ภาคตะวันออก 1 แห่ง และภาคใต้ 3 แห่ง ซึ่งจะสามารถให้บริการจัดการเรียนการสอนให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ 5 ภูมิภาค เพื่อผลิตกำลังคนรองรับความต้องการของจังหวัดและกลุ่มจังหวัด และผลิตบุคลากรเพื่อการก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ อีกทั้งยังเป็นการผนึกกำลังด้านทรัพยากรและการเรียนการสอนอาชีวศึกษา ที่จะผลิตกำลังคนสายอาชีพ เริ่มตั้งแต่ระดับฝีมือไปจนถึงระดับเทคโนโลยีสายปฏิบัติการ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้สามารถประกอบอาชีพโดยอิสระที่สามารถพึ่งตนเองได้
ซึ่งจะเป็นผลดีมากสำหรับนักศึกษาอาชีวะ ที่นอกจากจะมีงานรองรับที่แน่นอนแล้ว ยังได้ใบปริญญาเทียบเท่าหลายมหาวิทยาลัย และแน่นอนว่า ในส่วนของค่าแรงว่าจ้าง ต้องเทียบเท่าปริญ ญาตรี
โดยนายอกนิษฐ์ คลังแสง รองเลขาธิการการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวว่า "สถา บันการอาชีวศึกษา ภาคกลาง 1 เป็นสถาบันการ อาชีวศึกษาหนึ่งใน 19 แห่ง ในเขตจังหวัดนนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา และสระบุรี ซึ่งประ กอบด้วย 10 สถานศึกษา คือ 1.วิทยาลัยการอาชีว ศึกษาปทุมธานี 2.วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี 3.วิทยา ลัยเทคนิคธัญบุรี 4.วิทยาลัยเทคนิคนนทบุรี 5.วิทยา ลัยเทคนิคพระนครศรีอยุธยา 6.วิทยาลัยอาชีวศึกษาพระนครศรีอยุธยา 7.วิทยาลัยเทคโนโลยีและอุต สาหกรรมการต่อเรือพระนครศรีอยุธยา 8.วิทยาลัย เทคนิคอุตสาหกรรมยานยนต์ 9.วิทยาลัยเทคนิค สระบุรี 10.วิทยาลัยอาชีวศึกษาสระบุรี"
สำหรับ 10 สถาบันการอาชีวศึกษาเหล่านี้ จะเป็นสถาบันเบิกร่องให้มีการเรียนในระบบปริญญาตรี ในปีการศึกษา 2556 รวมทั้งสิ้น 28 สาขาวิชา โดยเมื่อจัดตั้งเป็นสถาบันการอาชีวศึกษาแล้ว จะสามารถจัดการเรียนการสอนได้ถึงระดับปริญญาตรี ที่เรียกว่าระบบ 3-2-2 คือ ปวช.-ปวส.-ปริญญาตรี แบบต่อเนื่องซึ่งจะทำให้สถาบันอาชีวศึกษาเป็นสถาบันอันดับหนึ่งที่ผลิตบุคลากรด้านอาชีพ อีกทั้งยังมีงานรองรับอย่างแน่นอนเมื่อจบการศึกษา
ด้านนายไชยศิริ สมสกุล ผู้อำนวยการวิทยา ลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี กล่าวว่า ถือว่าเป็นนิมิตหมายอันดีที่สถาบันอาชีวศึกษา ภาคกลาง 1 เป็นผู้ดำเนินการในการเปิดสอนหลักสูตรปริญญาตรีอย่างจริงจัง เพื่อเป็นแบบอย่างแก่สถาบันการศึกษาอื่นและในวันข้างหน้า สถาบันอาชีวศึกษาจะเป็นสถาบันอันดับหนึ่งที่สร้างบุคลากรที่มีคุณภาพในด้านงานอาชีพที่มีงานรองรับเมื่อจบการศึกษา ซึ่งการเปิดรับสมัครนั้นจะเริ่มตั้งแต่ปีการศึกษา 2556 เป็นต้นไป โดยเมื่อสมัครเข้ามาแล้วจะมีการสอบคัดเลือกผู้เข้าศึกษา ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.cvei1.ac.th หรือสามารถติดต่อสอบถามได้ที่สถานศึกษาทั้ง 10 แห่ง ในสังกัดสถาบันการอาชีวศึกษา ภาคกลาง 1
หลังจากนี้เชื่อว่าจะมีคนเข้าไปศึกษาในสถาบันศึกษาอาชีวศึกษามากขึ้น เพราะนอกจากจะมีงานรองรับที่ดี มีรายได้เมื่อจบการศึกษาแล้วยังสามารถศึกษาต่อในหลักสูตรปริญญาตรีกว่า 28 สาขาให้เทียบเท่ามหาวิทยาลัยต่างๆ ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดีของเหล่านักศึกษาไทย.