ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ชมรมบริหารงานบุคคล
dot
bulletสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย
bulletชมรมบริหารงานบุคคล
bulletชมรมบริหารงานบุคคล อยุธยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลรังสิต
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคล อมตะนคร
bulletสมาคมการบริหารงานบุคคล (PAAs)
bulletชมรมบริหารงานบุคคลบางพลี
bulletชมรมนักบริหารงานบุคคลพัทยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลยุคใหม่
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคลจังหวัดราชบุรี
bulletงานบริหารงานบุคคล
bulletชมรมงานบริหารงานบุคคลกรุงเทพฯ
bulletชมรมบริหารงานบุคลสุขสวัสดิ์
dot
ติดต่อราชการศาล
dot
bulletศาลแรงงานกลาง
bulletศาลแรงงานภาค ๒
bulletศาลยุติธรรม
bulletศาลปกครอง
bulletศาลรัฐธรมนูญ
bulletสำนักงานอัยการสูงสุด
bulletกระทรวงยุติธรรม
bulletคณะกรรมการกฤษฎีกา
bulletกรมบังคับคดี
bulletสภาทนายความ
dot
หน่วยงานราชการสำคัญ
dot
bulletกระทรวงแรงงาน
bulletกรมการจัดหางาน
bulletกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
bulletกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
bulletสำนักงานประกันสังคม
bulletกรมสรรพากร
bulletกรมบัญชีกลาง
bulletกรมพัฒนาธุรกิจกาค้า
bulletกระทรวงอุตสาหกรรม
bulletกรมโรงงานอุตสาหกรรม
bulletกรมส่งเสริมอุตสาหรม
bulletการนิคมอุตสาหกรรม
dot
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน
dot
bulletสมบัติลีกัล
bulletเอกเซลสำหรับงาน HR โดย อ.สำเริง
bulletบทความดี ๆ จากโกป้อม
dot
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
dot
dot
Newsletter

dot


พยากรณ์อากาศวันนี้
..................................


ราคาน้ำมันวันนี้
..................................



ค่านายหน้าจากการยึดรถคิดอัตราคันละ 10,000 บาท ถือเป็นค่าจ้าง ผิดนัดต้องเรียกดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี และคดีแรงงานมิใช่คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ศาลแรงงานไม่จำต้องถือตามข้อเท็จจริงในคดีอาญา article

คำพิพากษาฎีกาที่ 7891 – 53

ค่านายหน้าจากการยึดรถคิดอัตราคันละ 10,000 บาท ถือเป็นค่าจ้าง ผิดนัดต้องเรียกดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี และคดีแรงงานมิใช่คดีแพ่งเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ศาลแรงงานไม่จำต้องถือตามข้อเท็จจริงในคดีอาญา
 
                                โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2536 จำเลยจ้างโจทก์เข้าทำงานเป็นลูกจ้าง ทำหน้าที่สุดท้ายตำแหน่งพนักงานติดตามหนี้ ค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ 9,550 บาท และค่านายหน้าโดยจ่ายเมื่อโจทก์ยึดรถลูกค้าได้คันละ 10,000 บาท กำหนดจ่ายค่าจ้างทุกวันที่ 25 ของเดือน ต่อมาวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2542 จำเลยเลิกจ้างโจทก์โดยโจทก์ไม่มีความผิดและไม่บอกกล่าวล่วงหน้า โจทก์ทำงานติดต่อกันเกินกว่า 3 ปี แต่ไม่ครบ 6 ปี มีสิทธิได้รับค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้าย 180 วัน เป็นเงิน 57,300 บาท และค่านายหน้าย้อนหลังขึ้นไปจำนวน  180 วัน เป็นเงิน 140,000 บาท มีสิทธิได้รับสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า 36 วัน เป็นเงิน 11,460 บาท และสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าในส่วนของค่านายหน้าย้อนหลังขึ้นไป 36 วัน เป็นเงิน 10,000 บาท เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมโจทก์ขอเรียกค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรมเป็นเงิน 709,208 บาท โจทก์มีสิทธิได้รับเงินสมทบในส่วนของนายจ้างเป็นเงิน 49,078 บาท ขอให้บังคับจำเลยจ่ายสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า 11,460 บาท สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าในส่วนของค่านายหน้าย้อนหลัง 10,000 บาท   พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จเงินสมทบของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพส่วนของจำเลยอีก 49,078 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันเลิกจ้างเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
 
 
                                จำเลยให้การว่า โจทก์ได้ทำการปลอมลายมือชื่อของนายสมชัย สุทธิโสภณผู้จัดการส่วนสินเชื่อลงในหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อแล้วได้นำหนังสือบอกเลิกสัญญาเช่าซื้อดังกล่าวนั้นไปอ้างต่อห้างหุ้นส่วนจำกัดพลวัติสารคามลูกค้าของจำเลย จนทำให้ห้างหุ้นส่วนจำกัดพลวัติสารคามหลงเชื่อว่าเป็นหนังสือบอกเลิกสัญญาที่ถูกต้องและยินยอมให้โจทก์ยึดรถขุดคันที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดพลวัติสารคามได้เช่าซื้อมาจากจำเลยอันเป็นการกระทำความผิดอาญาโดยเจตนาต่อนายจ้าง จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหายนอกจากนี้ในการยึดรถดังกล่าวโจทก์ยังได้รับผลประโยชน์ร่วมกันกับผู้รับจ้างขนส่งที่บรรทุกรถคันที่ยึดมา โดยผู้ที่รับจ้างบรรทุกรถได้เรียกค่าใช้จ่ายจากการบรรทุกเป็นเงิน 60,000 บาท ซึ่งสูงกว่าปกติเป็นอันมาก โดยการกระทำของโจทก์ดังกล่าวนั้นเป็นการกระทำที่ไม่ได้รับมอบอำนาจหรือมอบหมายนายสมชัยและจำเลย และไม่เคยแจ้งเรื่องให้จำเลยทราบ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ทุจริตต่อหน้าที่ และจงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย อีกทั้งเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานหรือระเบียบหรือคำสั่งของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรมในกรณีร้ายแรง จำเลยตั้งกรรมการสอบสวนโจทก์และโจทก์สมัครใจลงลายมือชื่อในใบลาออกเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2542 โดยประสงค์จะลาออกในวันที่ 16 มีนาคม 2542 ต่อมาวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2542 จำเลยไล่โจทก์ออกโดยให้มีผลในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2542 จำเลยเลิกจ้างโจทก์ได้โดยที่ไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย และไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายจาการเลิกจ้างเพราะเป็นการเลิกจ้างที่ถูกต้องตามกฎหมาย โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้องให้จำเลยรับผิดชำระค่านายหน้าย้อนหลัง 180 วัน เป็นเงิน 140,000 บาท และสินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าย้อนหลังขึ้นไป 36 วัน เป็นเงิน 10,000 บาท เนื่องจากค่านายหน้าดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นเงินค่าจ้างตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานโจทก์จะมีสิทธิได้รับเงินค่านายหน้าต่อเมื่อโจทก์ได้ติดตามยึดรถจากลูกค้าที่ผิดนัดชำระค่าเช่าซื้อให้กลับมาอยู่ในความครอบครองของจำเลย เมื่อโจทก์ไม่สามารถติดตามยึดรถกลับคืนมาได้โจทก์ก็ไม่มีสิทธิที่จะเรียกร้องเงินดังกล่าวจากจำเลย นอกจากนี้เงินดังกล่าวนั้นเป็นเงินที่ไม่แน่นอนไม่ได้จ่ายเป็นประจำทุกเดือน นอกจากนี้เงินดังกล่าวนั้นเป็นเงินที่ไม่แน่นอนไม่ได้จ่ายเป็นประจำทุกเดือน จะต้องจ่ายให้แก่โจทก์มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับผลการติดตามการยึดรถของโจทก์เป็นสำคัญ เงินส่วนนี้จึงไม่ใช่เงินค่าจ้างตามกฎหมาย ฟ้องโจทก์ในเรื่องค่านายหน้าเคลือบคลุม อย่างไรก็ตามโจทก์ไม่สามารถติดตามยึดรถคืนจากลูกค้าได้อย่างที่โจทก์กล่าวอ้าง จำเลยจึงไม่ต้องชำระค่านายหน้า การที่จำเลยเลิกจ้างโจทก์เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม จำเลยจึงไม่ต้องชำระค่าเสียหายจากการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม ขอให้ยกฟ้อง
 
 
                                ระหว่างพิจารณาโจทก์สละประเด็นในส่วนที่ฟ้องเรียกเงินสมทบและผลประโยชน์เงินสมทบของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจากจำเลย จำเลยสละคำให้การที่ต่อสู้ไว้ว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม และในส่วนที่กล่าวอ้างว่าโจทก์ลาออกเอง
 
 
                                ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยจ่ายเงินค่านายหน้าในการยึดรถให้แก่โจทก์ 100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 30 มกราคม 2544 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
 
 
 
                                โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
 
 
                                ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ศาลแรงงานกลางรับฟังข้อเท็จจริงและวินิจฉัยว่า เดิมจำเลยเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด ต่อมาได้จดทะเบียนเลิกบริษัทซึ่งนายทะเบียนรับจดทะเบียนเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2547 โดยมีนายชิเกรุ อารีมา เป็นผู้ชำระบัญชีและต่อมาได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2549 จำเลยโดยนายชิเกรุได้มอบอำนาจให้นางสุพัตราเมธมโนศักดิ์ ดำเนินคดีแทน โจทก์เป็นพนักงานของจำเลยตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน 2536 ตำแหน่งสุดท้ายทำหน้าที่พนักงานติดตามหนี้สิน ได้รับค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ 9,550 บาท ในกรณีที่โจทก์ยึดรถจากลูกค้าได้จะได้รับค่านายหน้าจากการยึดรถคันละ 10,000 บาท จำเลยกำหนดจ่ายค่าจ้างให้แก่โจทก์ทุกวันที่ 25 ของเดือน โจทก์เป็นพนักงานของจำเลยที่ประจำอยู่ที่สำนักงานของจำเลยที่จังหวัดขอนแก่นดูแลรับผิดชอบภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 11 จังหวัด ห้างหุ้นส่วนจำกัดพลวัติสารคามเป็นลูกค้าของจำเลยที่ได้เช่าซื้อรถไปจากจำเลย ต่อมาได้ผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้อโจทก์จึงได้ติดตามยึดรถคันดังกล่าวมา ซึ่งห้างหุ้นส่วนจำกัดพลวัติสารคามก็ได้ทำการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และทำสัญญาเช่าซื้อฉบับใหม่กับจำเลย แต่ต่อมาก็ปรากฏว่าห้างหุ้นส่วนจำกัดพลวัติสารคามผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้ออีกโจทก์จึงได้นำหนังสือบอกเลิกสัญญาไปทำการยึดรถของห้างหุ้นส่วนจำกัดพลวัติสารคามจากอำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยว่าจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัดสยามไทยโยธาบรรทุกรถคันที่ยึดจากบริเวณที่ยึดมาไว้ที่สำนักงานของห้างหุ้นส่วนจำกัดสยามไทยการโยธาที่จังหวัดขอนแก่น แต่ก่อนที่จะบรรทุกเอาไปไว้ที่คลังสินค้าของจำเลยที่อำเภอหนองแค จังหวัดสระบุรี นายนารถ พรรณะ หุ้นส่วนผู้จัดการของห้างหุ้นส่วนจำกัดพลวัติสารคามได้มาพูดคุยกับโจทก์จนกระทั่งตกลงได้ว่านายนารถยอมทำบันทึกข้อตกลงว่าจะจ่ายเงินให้ครบถ้วนตามสัญญาเช่าซื้อ และยอมลงลายมือชื่อในสัญญาเช่าซื้อฉบับที่ยังไม่ได้ลงลายมือชื่อ และนายนารถได้จ่ายเงินค่าขนส่งให้แก่ห้างหุ้นส่วนจำกัดสยามไทยการโยธาเป็นเงิน 60,000 บาท แล้วนายนารถได้นำรถคันดังกล่าวนั้นกลับไป โดยในการยึดรถครั้งนี้โจทก์ไม่ได้แจ้งให้ฝ่ายจำเลยทราบทั้งก่อนและหลังการยึด ต่อมานายนารถได้ร้องเรียนต่อนายสมชัยว่าถูกเรียกเงินค่าขนส่งสูงเกินไป นายสมชัยจึงตรวจสอบหนังสือบอกเลิกสัญญาที่นายนารถอ้างว่าโจทก์เอามาแสดงขณะยึดรถ ห้างหุ้นส่วนจำกัดสยามไทยการโยธาได้ทำการเช่าซื้อรถจากจำเลยรวม 14 คัน ต่อมาผิดสัญญาจำเลยจึงทำหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์ติดตามยึดรถคืนมา แต่ก่อนที่จำเลยจะเลิกจ้างโจทก์ จำเลยได้รถคืนมาเพียง 10 คัน เมื่อจำเลยสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วเชื่อว่าโจทก์ปลอมลายมือชื่อของนายสมชัยและร่วมรู้เห็นในการเรียกค่าขนส่งในราคาสูงเกินไปจึงได้เลิกจ้างโจทก์เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2542 ด้วยเหตุที่ว่าโจทก์กระทำการทุจริตต่อหน้าที่ กระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย ฝ่าฝืนกฎระเบียบข้อบังคับในการทำงานในกรณีร้ายแรง  นอกจากนี้จำเลยยังได้แจ้งความดำเนินคดีอาญาแก่โจทก์กับพวกในข้อหาปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม และกรรโชกทรัพย์ซึ่งในคดีอาญาดังกล่าวนายสมชัย สุทธิโสภณ นายพสุพงศ์ ศรภักดี นายอนุศักดิ์ แวงวรรณ นายนารถ พรรณะ และพันตำรวจโทดาวเรือง สันดี ได้เบิกความเป็นพยานไว้ โดยโจทก์และจำเลยในคดีนี้ยอมรับเอาคำพยานดังกล่าวมาเป็นพยานในคดีนี้ ลายมือชื่อที่ลงไว้บนช่องชื่อนายสมชัย สุทธิโสภณ ในหนังสือบอกเลิกสัญญาเอกสารหมาย ล.12 ไม่ใช่ลายมือชื่อที่แท้จริงของนายสมชัย แต่โจทก์เป็นผู้ลงลายมือชื่อในเอกสารดังกล่าว การกระทำของโจทก์จึงเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมอันเป็นการกระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง เป็นการจงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย อีกทั้งเป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานหรือระเบียบหรือคำสั่งของนายจ้างอันชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรมในกรณีร้ายแรง จำเลยเลิกจ้างโจทก์ได้โดยไม่ถือว่าเป็นการเลิกจ้างที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่เป็นธรรม จำเลยจึงไม่ต้องจ่ายเงินต่าง ๆ ตามที่โจทก์ฟ้อง ในส่วนของค่านายหน้า ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าโจทก์เป็นผู้ยึดหรือมีส่วนร่วมในการยึดรถจากห้างหุ้นส่วนจำกัดสยามไทยการโยธารวม 10 คัน โดยยังไม่ได้คำนายหน้าในการยึดรถจำเลยจึงต้องรับผิดจ่ายค่านายหน้าในการยึดรถให้แก่โจทก์ 10 คัน คันละ 10,000 บาท รวมเป็นเงิน 100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 30 มกราคม 2544 ไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
 
 
 
                                ปัญหาที่ต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ที่ศาลแรงงานกลางสั่งรับมาประการแรกว่า จำเลยมีสิทธิดำเนินคดีนี้หรือปฏิบัติในฐานะคู่ความได้หรือไม่ โดยโจทก์อุทธรณ์ว่า จำเลยจดทะเบียนเลิกบริษัทเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2547 และต่อมาได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2549 จำเลยสิ้นสุดสภาพบุคคลแล้ว สิทธิและความสามารถย่อมหมดลงแล้วนั้น ศาลแรงงานกลางไม่ได้วินิจฉัยอำนาจในส่วนนี้จึงไม่ชอบนั้น เห็นว่า ปัญหาข้อนี้แม้จะไม่ปรากฏจากคำฟ้องและคำให้การอันเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลแรงงานกลางก็ตาม แต่สิทธิในการดำเนินคดีในฐานะคู่ความมีหรือไม่ เป็นปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน จึงเห็นสมควรวินิจฉัยให้ด้วย และเห็นว่าโจทก์ฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2544 ซึ่งเป็นวันก่อนที่จำเลยจะจดทะเบียนเลิกบริษัทและจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชีประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1249 บัญญัติว่า "ห้างหุ้นส่วนก็ดี บริษัท ก็ดี แม้จะได้เลิกกันแล้ว ก็ให้พึงถือว่ายังคงตั้งอยู่ตราบเท่าเวลาที่จำเป็นเพื่อการชำระบัญชี" และมาตรา 1272 บัญญัติว่า "ในคดีฟ้องเรียกหนี้สินซึ่งห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทหรือผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้นหรือผู้ชำระบัญชีเป็นลูกหนี้อยู่ในฐานะเช่นนั้น ท่านห้ามมิให้ฟ้องเมื่อพ้นกำหนดสองปีนับแต่วันถึงที่สุดแห่งการชำระบัญชี" จากบทบัญญัติดังกล่าว เห็นได้ว่าแม้การชำระบัญชีสิ้นสุดไปแล้ว กฎหมายยังให้เจ้าหนี้ฟ้องเรียกหนี้สินที่บริษัทเป็นหนี้อยู่ได้โดยเฉพาะคดีนี้เป็นเรื่องที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ให้โจทก์ก่อนที่จำเลยจะเลิกบริษัทเสียอีก โจทก์และจำเลยจึงยังคงว่ากล่าวกันต่อมาได้ หาใช่สิทธิในการดำเนินคดีในฐานะคู่ความสิ้นสุดไปในระหว่างพิจารณา เพราะเหตุการชำระบัญชีสิ้นสุดไปแล้วไม่ อุทธรณ์ของโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
 
 
 
                                ปัญหาวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ประการต่อไปมีว่า คำสั่งของศาลแรงงานที่ไม่งดการพิจารณาคดีไว้เพื่อรอฟังผลในคดีอาญาที่จำเลยถูกฟ้องในความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมเสียก่อน กลับวินิจฉัยชี้ขาดคดีนี้ไปเสียเองนั้นชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า คดีแรงงานมิใช่คดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาศาลแรงงานกลางจึงไม่จำต้องถือตามข้อเท็จจริงในคดีอาญา ที่ศาลแรงงานกลางไม่งดการพิจารณาคดีนี้ไว้เพื่อรอฟังผลในคดีอาญาที่จำเลยถูกฟ้องในความผิดฐานปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมเสียก่อนจึงมิใช่คำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย อุทธรณ์ของโจทก์ข้อนี้ฟังไม่ขึ้น
 
 
 
                                ปัญหาวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ประการสุดท้ายมีว่า ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยเสียดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี จากเงินค่านายหน้าในการยึดรถจำนวน 100,000 บาท และให้เสียดอกเบี้ยนับแต่วันที่ 30 มกราคม 2544 เป็นต้นไปชอบหรือไม่ โดยโจทก์อุทธรณ์ว่า ค่านายหน้าในการยึดรถเป็นค่าจ้าง จำเลยจึงต้องเสียดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15 ต่อปี จากค่านายหน้าดังกล่าว ทั้งโจทก์ทำเรื่องขอเบิกเงินดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม 2542 โจทก์จึงมีสิทธิได้รับดอกเบี้ยนับแต่วันดังกล่าวซึ่งเป็นวันที่โจทก์ทำเรื่องขอเบิกนั้น เห็นว่า ค่านายหน้าในการยึดรถเป็นเงินที่จำเลยตกลงจ่ายให้แก่โจทก์ โดยคำนวณจากจำนวนรถที่โจทก์ยึดได้ในอัตราแน่นอนคันละ 10,000 บาท นอกเหนือจากค่าจ้างรายเดือนอัตราเดือนละ 9,500 บาท ที่กำหนดจ่ายให้ทุกวันที่ 25  ของเดือน จึงเป็นการจ่ายให้เป็นค่าตอบแทนในการทำงานคำนวณตามผลงานที่โจทก์ทำได้ในเวลาปกติของวันทำงาน ถือเป็นค่าจ้างอีกส่วนหนึ่งนอกเหนือจากค่าจ้างที่ต้องจ่ายตามระยะเวลาการทำงานปกติตามความหมายของคำว่า "ค่าจ้าง" ที่พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 5 ให้คำจำกัดความไว้เมื่อจำเลยยังไม่ได้จ่ายให้แก่โจทก์ จำเลยจึงต้องเสียดอกเบี้ยให้แก่โจทก์ในระหว่างเวลาผิดนัดร้อยละ 15 ต่อปี ตามมาตรา 9 วรรคหนึ่ง ส่วนที่โจทก์ขอให้จำเลยเสียดอกเบี้ยนับแต่วันที่ 30 มกราคม 2542 โดยอ้างว่าโจทก์ทำเรื่องขอเบิกเงินในวันดังกล่าวนั้น เห็นว่า ศาลแรงงานกลางมิได้ฟังข้อเท็จจริงดังที่อ้าง ทั้งโจทก์ฟ้องขอให้ชำระดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป การที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยชำระดอกเบี้ยนับแต่วันที่ 30 มกราคม 2544 ซึ่งเป็นวันฟ้องต้นไปตามคำขอของโจทก์จึงชอบแล้วอุทธรณ์ของโจทก์ข้อนี้ฟังขึ้นบางส่วน
 
 
 
                                พิพากษาแก้เป็นว่า เฉพาะในส่วนดอกเบี้ยของเงินค่านายหน้าในการยึดรถให้จำเลยชำระให้แก่โจทก์ในอัตราร้อยละ 15 ต่อปี นอกจากที่แก้ให้เป็นตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง
                                



อัพเดท ฎีกาน่าสนใจ

ขึ้นทะเบียนรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเกิน ๓๐ วัน ยังมีสิทธิได้รับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานได้ article
ลักษณะความผิดเดียวกัน แต่ระดับความร้ายแรงแตกต่างกัน นายจ้างพิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ผู้จัดการสาขา เสนอรายชื่อลูกค้าที่ขาดคุณสมบัติทำประกันชีวิต ถือว่าจงใจทำให้นายจ้างเสียหาย / ผิดร้ายแรง article
หยุดกิจการชั่วคราวตาม มาตรา ๗๕ article
สัญญาจ้างเป็นสัญญาต่างตอบแทน นายจ้างออกค่าใช้จ่ายในการเข้าทดสอบเพื่อรับเกียรติบัตร เมื่อทดสอบผ่านต้องทำงานกับนายจ้าง ๕ ปี บังคับใช้ได้ article
ศาลแรงงานกลางมีอำนาจสั่งรับพยานเอกสารได้ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม article
ประกอบธุรกิจแข่งขัน / ไปทำงานกับนายจ้างอื่น ในลักษณะผิดต่อสัญญาจ้าง เมื่อลูกจ้างได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้างตามสัญญาแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะบังคับ / ห้ามทำงานตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างอีกต่อไป article
คดีแรงงานเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้คดีอาญายกฟ้อง แต่พฤติกรรมการกระทำผิด เป็นเหตุให้นายจ้างไม่อาจไว้วางใจในการทำงานได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
เลิกจ้างเนื่องจากปรับโครงสร้างองค์กร แต่กำหนดรายชื่อไว้ล่วงหน้า ถือเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม article
การหักลบกลบหนี้ หนี้อันเกิดจากสัญญาจ้าง กรณีลูกจ้างกระทำผิดกับสิทธิประโยชน์ที่มีสิทธิได้รับตามสัญญาจ้าง ถือเป็นมูลหนี้อันเป็นวัตถุอย่างเดียวกันหักลบกลบหนี้กันได้ article
เล่นการพนันฉลากกินรวบ เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน กรณีร้ายแรง article
กรณีไม่ถือเป็นการประกอบธุรกิจแข่งขันหรือไม่ถือว่าทำงานกับนายจ้างใหม่ในลักษณะธุรกิจเดียวกับนายจ้าง article
สัญญาฝึกอบรม นายจ้างกำหนดเบี้ยปรับได้ เป็นสัญญาที่เป็นธรรม article
ค้ำประกันการทำงาน หลักประกันการทำงาน การหักลบกลบหนี้ค่าเสียหายจากการทำงาน article
ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์แต่ตนเอง เรียกรับเงินจากลูกค้า ถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ article
ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา มาทำงานสายประจำ ถือว่า กระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สหภาพแรงงานทำบันทักข้อตกลงเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างกับนายจ้าง อันส่งผลกระทบต่อสิทธิหน้าที่ของสมาชิก ขัดกับข้อตกลงเดิมและมิได้ขอมติที่ประชุมใหญ่ ข้อตกลงดังกล่าวไม่อาจใช้บังคับได้ article
ขอเกษียณอายุก่อนกำหนดตามประกาศ ถือเป็นการสมัครใจเลิกสัญญาจ้างแรงงานต่อกัน มิใช่การเลิกจ้างหรือการเกษียณอายุ จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยตามระเบียบกรณีเกษียณอายุ article
สถาบันวิจัยอันเป็นส่วนหนึ่งของกิจการมหาวิทยาลัยถือเป็นหน่วยงานของรัฐ ได้รับยกเว้น ไม่อยู่ภายใต้บังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา ๔ (๑) article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า จากการเลิกจ้างมีอายุความฟ้องร้องได้ภายใน ๑๐ ปี article
ทะเลาะวิวาทเรื่องส่วนตัวไม่ส่งผลกระทบต่อการบังคับบัญชา ไม่เป็นความผิด กรณีร้ายแรง ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ article
พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน มิใช่ทายาทผู้มีสิทธิรับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ และเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ตามพระราชบัญญัติ ประกันสังคม มาตรา ๗๓ และมาตรา ๗๗ article
ขับรถเร็วเกินกว่าข้อบังคับกำหนด เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนคำสั่งโยกย้าย เลิกจ้างได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ประกาศใช้ระเบียบใหม่ ไม่ปรากฏว่ามีพนักงานโต้แย้งคัดค้าน ถือว่าทุกคนยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ article
เงินค่าตอบแทนพิเศษกับเงินโบนัส มีเงื่อนไขต่างกัน หลักเกณฑ์การจ่ายต่างกัน จึงต้องพิจารณาต่างกัน article
ทายาทผู้มีสิทธิได้รับเงินกองทุนเงินทดแทน article
ค่ารถแทนรถยนต์ประจำตำแหน่ง ไม่ถือเป็นค่าจ้าง และ ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสมให้ถือตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานที่กำหนดไว้ article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างไม่ตกลง ขอเวลาตัดสินใจและหยุดงานไป นายจ้างแจ้งให้กลับเข้าทำงานตามปกติ ถือว่านายจ้างยังไม่มีเจตนาเลิกจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ แอบนอนหลับในเวลาทำงาน ถือเป็นเหตุในการเลิกจ้างได้ เลิกจ้างเป็นธรรม article
ลาออกโดยไม่สุจริต ไม่มีผลใช้บังคับ article
ทำความผิดคล้ายคลึงกันแต่ไม่เหมือนกัน พิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ประกอบธุรกิจ บริการ ด่าลูกค้าด้วยถ้อยคำหยาบคาย " ควาย " ถือเป็นการกระทำความผิดกรณีร้ายแรง article
ข้อบังคับ ระบุให้ผู้บังคับบัญชาเหนือกว่ามีอำนาจแก้ไข เพิ่มโทษ หรือลดโทษได้ การยกเลิกคำสั่งลงโทษเดิมและให้ลงโทษใหม่หนักกว่าเดิมจึงสามารถทำได้ article
เลือกปฏิบัติในการลงโทษระเบียบการห้ามใส่ตุ้มหูมาทำงาน บังคับใช้ได้ แต่เลือกปฏิบัติในการลงโทษไม่ได้ article
ลงโทษพักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างและเตือนในคราวเดียวกันได้ ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน article
จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย article
ข้อตกลงรับเงินและยินยอมปลดหนี้ให้แก่กัน ถือเป็นการตกลงระงับข้อพิพาทแม้จะทำขึ้นก่อนคำสั่งเลิกจ้างมีผลใช้บังคับ article
ศาลแรงงานมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานที่คู่ความอ้างส่งศาลได้ แม้มิได้ระบุบัญชีพยานไว้ก็ตาม article
สัญญาจ้างห้ามลูกจ้างไปทำงานกับนายจ้างใหม่ที่ประกอบธุรกิจเช่นเดียวกันมีกำหนดเวลา บังคับใช้ได้ article
เลิกจ้างและรับเงินค่าชดเชย ใบรับเงิน ระบุขอสละสิทธิ์เรียกร้องเงินอื่นใดใช้บังคับได้ ลูกจ้างไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องสินจ้างและค่าเสียหายได้อีก article
เกษียณอายุ 60 ปี ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยนับแต่วันครบกำหนดเกษียณอายุ แม้นายจ้างไม่ได้บอกเลิกจ้างก็ตาม article
ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องและเพิกเฉยไม่ดูแลผลประโยชน์ของนายจ้าง เป็นเหตุให้นายจ้างไม่ไว้วางใจในการทำงานได้เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ละเลยต่อหน้าที่ ไม่รายงานเคพีไอ นายจ้างตักเตือนแล้ว ถือว่าผิดซ้ำคำเตือน เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ทำสัญญาจ้างต่างด้าวทำงานในอาชีพต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว สัญญาจ้างถือเป็นโมฆะ article
ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง article
ศาลมีคำสั่งให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษาตามหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน ในขณะที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ยุติ ต้องสืบพยานใหม่และพิพากษาใหม่ไปตามรูปคดี article
แม้สัญญาจ้างไม่ได้ระบุระยะเวลาทดลองงานไว้ แต่นายจ้างก็สามารถประเมินผลการทำงานของลูกจ้างได้ article
การควบรวมกิจการ สิทธิและหน้าที่โอนไปเป็นของบริษัทใหม่ การจ่ายเงินสมทบบริษัทใหม่ที่ควบรวมจึงมีสิทธิจ่ายเงินสมทบในอัตราเดิมตามสิทธิ มิใช่ในอัตราบริษัทตั้งใหม่ article
เลิกจ้างรับเงินค่าชดเชยแล้วตกลงสละสิทธิ์จะไม่เรียกร้องผละประโยชน์ใดๆ ถือว่าสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเป็นอันระงับไป article
รับเหมาก่อสร้าง ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบ จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมแทนผู้รับเหมาช่วง หากผู้รับเหมาช่วงไม่นำส่งเงินสมทบตามกฎหมายโดยคำนวณจากอัตราค่าจ้างที่ระบุตามแบบ ( ภ.ง.ด. 50 ) และบัญชีงบดุล article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานระบุห้ามทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกาย ผู้บังคับบัญชา เพื่อนพนักงาน ทั้งในสถานที่ทำงาน หรือสถานที่อื่นๆ ฝ่าฝืนถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง ใช้บังคับได้ไม่ขัดต่อกฎหมาย article
ไส้ติ่งอักเสบ แพทย์วินิจฉัยให้ผ่าตัด ถือเป็นกรณีฉุกเฉิน เบิกค่ารักษาได้ มีสิทธิรับเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ได้ article
ค่าเช่าที่พัก ค่าใช้จ่ายเดินทางเป็นสวัสดิการไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่ารถยนต์ซึ่งกำหนดเป็นสวัสดิการไว้ชัดเจนแยกจากฐานเงินเดือนปกติ ถือเป็นสวัสดิการไม่ใช่ค่าจ้าง article
ละเมิดข้อตกลงสภาพการจ้าง ละเมิดสัญญาจ้าง มีอายุความ 10 ปี มิใช่ 1 ปี article
พฤติกรรมการจ้างที่ถือว่าเป็นการจ้างแรงงาน ถือเป็นลูกจ้าง / นายจ้างตามกฎหมาย article
พนักงานขายรถยนต์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ประจำบูธ ตามที่ได้รับมอบหมาย ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
เลือกตั้งคณะกรรมการสหภาพฯ ขัดต่อข้อบังคับสหภาพหรือขัดต่อกฎหมาย ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบ article
ฝ่าฝืนสัญญาจ้าง กรณีห้ามทำการแข่งขันกับนายจ้างหรือทำธุรกิจคล้ายคลึงกับนายจ้างเป็นเวลา 2 ปี นับจากสิ้นสุดสัญญาต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้าง article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระบุให้นายจ้างเลิกจ้างเพราะเหตุคนล้นงาน ปรับลด ขนาดองค์กรได้ ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะเลิกจ้างลูกจ้างได้ article
ข้อบังคับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรณีตัดสิทธิ์รับเงินสมทบพร้อมผลประโยชน์หากกระทำผิดถูกปลดออกจากงานบังคับใช้ได้ article
ทะเลาะวิวาทกัน นอกเวลางาน นอกบริเวณบริษัทฯ ไม่ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนไม่ไปตรวจสารเสพติดซ้ำตามคำสั่งและนโยบาย ถือว่าฝ่าฝืน ข้อบังคับ หรือ ระเบียบ กรณีร้ายแรง article
วันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วน article
เป็นลูกจ้างที่มีอำนาจกระทำการแทนนายจ้างในการจ้างงาน ไม่มีสิทธิได้รับค่าทำงานในวันหยุด และลักทรัพย์เอาต้นไม้ของนายจ้างไป ถือว่ากระทำผิดอาญาแก่นายจ้าง เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ผลการทำงานดีมาโดยตลอดและไม่เคยกระทำผิดมาก่อน แต่ปีสุดท้ายผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ถือเป็นเหตุที่จะอ้างในการเลิกจ้าง article
ได้รับบาดเจ็บรายการเดียว เข้ารักษา 2 ครั้ง ถือว่าเป็นการรักษารายการเดียว นายจ้างสำรองจ่ายเพิ่มเติมไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ใช่ 200,000 บาท article
ผู้บริหารบริษัท ฯ ถือเป็นลูกจ้างหรือไม่ ดูจาก_________ ? article
ขับรถออกนอกเส้นทาง แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรงและก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้าง นายจ้างหักเงินประกันการทำงานได้ article
ค่าจ้างระหว่างพักงาน เมื่อข้อเท็จจริง ลูกจ้างกระทำความผิดจริง จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างระหว่างพักงาน article
“ นายจ้าง ” ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 article
สัญญารักษาความลับ ข้อมูลทางการค้า (ห้ามประกอบหรือรับปฏิบัติงานแข่งขันนายจ้าง) มีกำหนด 2 ปี บังคับใช้ได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย และการกำหนดค่าเสียหาย ถือเป็นเบี้ยปรับตามกฎหมาย ศาลปรับลดได้ตามสมควร article
เงินรางวัลการขายประจำเดือน จ่ายตามเป้าหมายการขาย ที่กำหนดไว้ ไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่าโทรศัพท์ เหมาจ่าย ถือเป็นค่าจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ 3 วันทำการ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เลิกจ้างเป็นธรรมไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ลาออกมีผลใช้บังคับแล้ว ออกหนังสือเลิกจ้างภายหลังใช้บังคับไม่ได้ article
ตกลงรับเงิน ไม่ติดใจฟ้องร้องอีกถือเป็นการตกลงประนีประนอมกันบังคับได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย
เลิกจ้างระหว่างทดลองงาน ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ข้อตกลงว่า “หากเกิดข้อพิพาทตามสัญญาจ้างแรงงาน ให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย” ไม่เกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมายแรงงาน เมื่อเกิดสิทธิตามกฎหมาย ฟ้องศาลแรงงานได้ โดยไม่ต้องให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย article
เลิกจ้างด้วยเหตุอื่น อันมิใช่ความผิดเดิมที่เคยตักเตือน ไม่ใช่เหตุที่จะไม่จ่ายค่าชดเชย เลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย article
นำรถยนต์ไปใช้ในกิจธุระส่วนตัว มีพฤติกรรมคดโกง ไม่ซื่อตรง พฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต ไม่น่าไว้วางใจ ลงโทษปลดออกจากการทำงานได้ article
การกระทำที่กระทบต่อเกียรติ ชื่อเสียงของนายจ้าง และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้กระทำนอกสถานที่ทำงานและนอกเวลางาน ก็ถือว่า ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกรณีร้ายแรง article
สัญญาค้ำประกันการทำงานไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ต้องรับผิดชอบตลอดไป article
ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเลิกจ้างได้ ถือว่าเลิกจ้างเป็นธรรมและความผิดที่ลงโทษแล้วจะนำมาลงโทษอีกไม่ได้ article
ผิดสัญญาจ้างไปทำงานกับคู่แข่ง นายจ้างฟ้องเรียกค่าเสียหายตามสัญญาได้ แต่ค่าเสียหาย เป็นดุลพินิจของศาลจะกำหนด article
จงใจกระทำผิดโดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้นายจ้างเสียหาย ถือว่า กระทำละเมิดต่อนายจ้าง ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น article
ตกลงสละสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย ภายหลังเลิกจ้าง ใช้บังคับได้ ไม่เป็นโมฆะ article
ก้าวร้าวไม่ให้ความเคารพผู้บังคับบัญชา ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้ามิใช่ค่าจ้าง คิดดอกเบี้ยในอัตรา 7. 5 ต่อปี article
ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของนายจ้างในเรื่องส่วนตัวเป็นประจำ ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่กาปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต เลิกจ้างเป็นธรรม article
สั่งให้พนักงานขับรถ ขับรถออกนอกเส้นทางแต่ไม่ได้มีส่วนในการขับรถ ถือว่าผิดต่อสัญญาจ้าง แต่ไม่ต้องรับผิดอันมีผลโดยตรงจากมูลละเมิด ( ขับรถโดยประมาท ) article
จ่ายของสมนาคุณให้ลูกค้า โดยไม่ตรวจสอบบิลให้ถูกต้อง มิใช่ความผิดกรณีร้ายแรงไม่ใช่การทุจริตต่อหน้าที่ แต่ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เสร็จลุล่วงไปโดยถูกต้อง และสุจริต เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ฟ้องประเด็นละเมิด กระทำผิดสัญญาจ้าง ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง มีอายุความ 10 ปี article
ตกลงยินยอมให้หักค่าจ้างชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันเงินกู้ นายจ้างสามารถหักค่าจ้างได้ตามหนังสือยินยอมโดยไม่ต้องฟ้อง article
กระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้างและประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง article
“ งานโครงการตามมาตรา 118 วรรค 4 ” บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ว่าจ้างลูกจ้างทำงานตามโครงการที่รับเหมา ถือว่าจ้างงานในปกติธุรกิจของนายจ้าง มิใช่งานโครงการ article
เงินโบนัสต้องมีสภาพการเป็นพนักงานจนถึงวันกำหนดจ่าย ออกก่อนไม่มีสิทธิได้รับ article
ระเบียบกำหนดจ่ายเงินพิเศษ ( gratuity ) เนื่องจากเกษียณอายุ โดยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายแตกต่างจากการจ่ายค่าเชย ถือว่านายจ้างยังไม่ได้จ่ายค่าชดเยตามกฎหมาย article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด

เลขที่ 511/4 ถนนประชาอุทิศ 117/1 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร (10140)

โทร/Tel : 02 - 8159522, แฟกซ์/Fax : 02 - 8159523, มือถือ/Mobile : 081 - 7936156

อีเมล/E-mail : sawai.prm@gmail.com, เว็บไซต์/Web : www.parameelaw.com