ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ชมรมบริหารงานบุคคล
dot
bulletสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย
bulletชมรมบริหารงานบุคคล
bulletชมรมบริหารงานบุคคล อยุธยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลรังสิต
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคล อมตะนคร
bulletสมาคมการบริหารงานบุคคล (PAAs)
bulletชมรมบริหารงานบุคคลบางพลี
bulletชมรมนักบริหารงานบุคคลพัทยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลยุคใหม่
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคลจังหวัดราชบุรี
bulletงานบริหารงานบุคคล
bulletชมรมงานบริหารงานบุคคลกรุงเทพฯ
bulletชมรมบริหารงานบุคลสุขสวัสดิ์
dot
ติดต่อราชการศาล
dot
bulletศาลแรงงานกลาง
bulletศาลแรงงานภาค ๒
bulletศาลยุติธรรม
bulletศาลปกครอง
bulletศาลรัฐธรมนูญ
bulletสำนักงานอัยการสูงสุด
bulletกระทรวงยุติธรรม
bulletคณะกรรมการกฤษฎีกา
bulletกรมบังคับคดี
bulletสภาทนายความ
dot
หน่วยงานราชการสำคัญ
dot
bulletกระทรวงแรงงาน
bulletกรมการจัดหางาน
bulletกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
bulletกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
bulletสำนักงานประกันสังคม
bulletกรมสรรพากร
bulletกรมบัญชีกลาง
bulletกรมพัฒนาธุรกิจกาค้า
bulletกระทรวงอุตสาหกรรม
bulletกรมโรงงานอุตสาหกรรม
bulletกรมส่งเสริมอุตสาหรม
bulletการนิคมอุตสาหกรรม
dot
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน
dot
bulletสมบัติลีกัล
bulletเอกเซลสำหรับงาน HR โดย อ.สำเริง
bulletบทความดี ๆ จากโกป้อม
dot
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
dot
dot
Newsletter

dot


พยากรณ์อากาศวันนี้
..................................


ราคาน้ำมันวันนี้
..................................



ปรับลูกจ้างรายวันเป็นรายเดือน เมื่อมิได้ตกลงปรับค่าจ้างและมิได้กำหนดหลักเกณฑ์การปรับ นายจ้างใช้ค่าจ้างรายวัน x ด้วย 26 วัน จึงชอบด้วยกฎหมาย article

คำพิพากษาฎีกาที่ 1000 -1038 – 53

ปรับลูกจ้างรายวันเป็นรายเดือน เมื่อมิได้ตกลงปรับค่าจ้างและมิได้กำหนดหลักเกณฑ์การปรับ นายจ้างใช้ค่าจ้างรายวัน x ด้วย 26 วัน จึงชอบด้วยกฎหมาย
 
                                โจทก์ฟ้องว่า เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2547 โจทก์ได้รับคำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 35/2548 ให้โจทก์จ่ายค่าทำงานในวันหยุดประจำสัปดาห์ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2545 ถึงวันที่ 29 สิงหาคม 2547 จำนวน 1,828,518 บาท แก่ลูกจ้างรวม 60 คน โดยลูกจ้างทั้ง 60 คนดังกล่าวเดิมเป็นลูกจ้างรายวัน แต่ในปี 2525 สหภาพแรงงานผลิตเครื่องมือประมงแห่งประเทศไทย ได้เรียกร้องและมีข้อตกลงกับโจทก์ ให้ปรับลูกจ้างรายวันเป็นลูกจ้างรายเดือน โจทก์จึงปรับการทำงานของลูกจ้างรวม 60 คนดังกล่าวเป็นลูกจ้างรายเดือน จากค่าจ้าง 26 วันโดยมีเงินเดือนแต่ละคนไม่น้อยกว่าที่เคยได้รับอยู่เดิมที่ได้รับเหมาจ่ายเป็นเงินเดือน และไม่น้อยกว่าตามที่กำหนดในอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ จึงเป็นการปรับที่ถูกต้องแล้ว การที่จำเลยในฐานะพนักงานตรวจแรงงานเห็นว่า โจทก์ไม่ได้นำค่าจ้างเดิมของลูกจ้างต่อวันคูณ 30 วัน ต่อเดือน  ทำให้ลูกจ้าง 60 คน ได้รับค่าจ้างขาดไปเดือนละ 4 วัน นั้นไม่ถูกต้อง เพราะตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างไม่ได้กำหนดว่า เมื่อปรับสภาพการจ้างจากลูกจ้างรายวันเป็นลูกจ้างรายเดือนแล้ว จะใช้จำนวนวันเท่าใดเป็นตัวคูณแม้ในปี 2538 สหภาพแรงงานผลิตเครื่องมือประมงแห่งประเทศไทยจะยื่นข้อเรียกร้องขอให้ปรับพนักงานรายวันเป็นรายเดือนโดยใช้อัตรา 30 วัน เป็นตัวคูณและปรับย้อนหลังให้พนักงานรายวันที่ได้รับการปรับรายเดือนอีกคนละ 2 วัน ทุกคน แต่ก็ได้ถอนข้อเรียกร้องดังกล่าวไปแล้ว การที่ลูกจ้างทั้ง 60 คน ได้รับเงินเดือนจากการคำนวณดังกล่าวมาประมาณยี่สิบปีจึงเป็นการตกลงยินยอมโดยปริยายแล้ว ลูกจ้างทั้ง 60 คน มิได้ยื่นคำร้องต่อพนักงานตรวจแรงงานภายใน 2 ปี คดีจึงขาดอายุความ นอกจากนั้นในปี 2547 สหภาพแรงงานผลิตเครื่องมือประมงแห่งประเทศไทย ได้ประชุมกับโจทก์ได้ข้อสรุปร่วมกันว่าโจทก์ตกลงที่จ่ายเงินเพิ่ม 4 วัน ต่อเดือน สำหรับผู้ที่ได้ปรับเป็นเงินเดือนจากพื้นฐาน 26 วัน โดยปรับให้ในเดือนกันยายน 2547 โดยผู้ที่ประสงค์จะรับเงินต้องยื่นความจำนงและบอกสละสิทธิเงินย้อนหลังต่อโจทก์ ข้อตกลงดังกล่าวจึงผูกพันลูกจ้างทุกคนโดยลูกจ้างอื่นได้ขอรับเงินตามข้อตกลง เว้นเพียงลูกจ้าง 60 คน ดังกล่าวโจทก์จึงไม่ต้องจ่ายเงินตามคำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน ขอให้เพิกถอนคำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรปราการ ที่ 35/2548
 
 
                                จำเลยให้การว่า ลูกจ้างโจทก์ 60 คนร้องต่อจำเลยว่า ลูกจ้างทั้ง 60 คน เป็นลูกจ้างโจทก์ตั้งแต่ปี 2507 เดิมเป็นลูกจ้างรายวัน ต่อมาได้มีข้อตกลงระหว่างโจทก์กับสหภาพแรงงานผลิตเครื่องประมงแห่งประเทศไทย ให้ปรับลูกจ้างที่ปฏิบัติงานครบ 10 ปีขึ้นไป และมีเกณฑ์ประเมิน เกรดซีหรือสูงกว่า 3 ปี ติดต่อกันเป็นลูกจ้างรายเดือนโจทก์จึงได้ปรับลูกจ้าง 60 คนดังกล่าวเป็นลูกจ้างรายเดือนโดยใช้อัตราค่าจ้างต่อวันเดิมคูณ 26 วัน เป็นอัตราค่าจ้างต่อเดือนซึ่งไม่ถูกต้องเพราะเมื่อเป็นลูกจ้างรายเดือนจะต้องถือว่าเดือนหนึ่งมี 30 วัน จึงต้องใช้อัตราค่าจ้างเดิมคูณ 30 วัน มิใช่ 26 วัน หากใช้อัตราที่โจทก์เหมาจ่ายให้ลูกจ้างเดิมที่คำนวณจาก 26 วัน มาคำนวณเป็น 30 วัน อัตราค่าจ้างต่อวันที่ลูกจ้างได้รับจะน้อยกว่าอัตราค่าจ้างเดิมก่อนการเปลี่ยนโครงสร้างค่าจ้าง การที่จำเลยมีคำสั่งให้โจทก์จ่ายค่าทำงานในวันหยุดประจำสัปดาห์ส่วนที่โจทก์ไม่ได้จ่ายให้ลูกจ้างเดือนละ 4 วัน จึงเป็นการชอบแล้ว และลูกจ้าง 60 คนดังกล่าวทราบว่ามีสิทธิได้รับค่าทำงานในวันหยุด เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2547 ซึ่งเป็นวันที่ยื่นคำร้องต่อจำเลยคดีจึงไม่ขาดอายุความ ขอให้ยกฟ้อง
 
 
                                ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้วฟังข้อเท็จจริงว่า ลูกจ้างทั้ง 60 คน มีวันเวลาทำงาน อัตราค่าจ้างตามคำสั่งของจำเลยตามเอกสารหมาย จ.7 เดิมลูกจ้างทั้ง 60 คน เป็นพนักงานได้รับค่าจ้างรายวัน ต่อมาในปี 2524 โจทก์ได้ปรับเปลี่ยนเป็นพนักงานให้ได้รับค่าจ้างรายเดือนเป็นเงินเดือน โดยได้รับเงินเดือนเท่ากับค่าจ้างรายวันที่เคยได้รับคูณด้วย 26 วัน ลูกจ้างได้รับเงินเดือนไม่ต่ำกว่าค่าจ้างรายวันตามจำนวนที่เคยได้รับคูณด้วยจำนวน 26 วัน และบางคนได้รับเงินเดือนมากกว่าเล็กน้อย การปรับเปลี่ยนนี้ไม่เป็นการเปลี่ยนแปลงสิทธิประโยชน์ในการทำงานอื่นใด ลูกจ้างยังคงมีจำนวนวันทำงานเท่าเดิมคือ วันจันทร์ถึงวันเสาร์และหยุดวันอาทิตย์ เวลาการทำงานเท่าเดิมคือวันละ 8 ชม. ค่ารักษาพยาบาล จำนวนวันหยุดพักผ่อนประจำปี และวันหยุดอื่นๆ เท่าเดิมแต่ได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้น กล่าวคือหากเป็นลูกจ้างรายวันเมื่อหยุดงานหรือลากิจในวันใดจะไม่ได้รับค่าจ้างในวันนั้น แต่เมื่อเป็นลูกจ้างรายเดือนแล้ว แม้หยุดงานหรือลากิจก็คงได้รับเงินเดือนเต็มจำนวนทุกเดือน เมื่อโจทก์ปรับลูกจ้างรายวันมาเป็นรายเดือนแล้ว หากนำจำนวนเงินเดือนหารด้วย 30 วัน เฉลี่ยเป็นค่าจ้างในแต่ละวัน ค่าจ้างรายวันคิดเฉลี่ยได้ไม่ต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามกฎหมายและอัตราค่าจ้างที่เฉลี่ยโดยใช้จำนวน 30 วันหารนี้ก็ไม่ต่ำกว่าอัตราขั้นต่ำตามกฎหมายตลอดมาจนถึงปัจจุบัน การปรับลูกจ้างจากรายวันมาเป็นรายเดือนเป็นไปตามเอกสารหมาย จ.8 ในการปรับเงินเดือนประจำปี โจทก์ปรับให้แก่ลูกจ้างรายวันเป็นอัตราวันละ สำหรับลูกจ้างรายเดือนปรับให้เป็นอัตราเดือนละโดยกำหนดเป็นจำนวนเงินที่แน่นอนว่าให้เพิ่มวันละกี่บาท หรือให้เพิ่มอีกเดือนละกี่บาทในระหว่างที่จำเลยพิจารณาตามคำร้องของลูกจ้าง เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2547 สหภาพแรงงานผลิตเครื่องประมงแห่งประเทศไทยได้ทำบันทึกสรุปข้อตกลงตามเอกสารหมาย จ.4 ซึ่งโจทก์ได้นำมาจัดทำเป็นประกาศบังคับใช้กับลูกจ้างตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม 2547 ตามเอกสารหมาย จ.5 ส่วนคำสั่งของจำเลยนั้นได้สั่งเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2547 เหตุที่ลูกจ้างมาร้องต่อจำเลยเพราะลูกจ้างเห็นว่า โจทก์ควรนำจำนวนค่าจ้างที่เป็นเงินเดือนหารด้วยจำนวน 26 วัน เฉลี่ยเป็นค่าจ้างในแต่ละวันและนำมาคูณด้วยจำนวน 30 วัน และจ่ายเป็นเงินเดือนให้แก่ลูกจ้าง เพราะลูกจ้างเห็นว่าเดือนหนึ่งมี 30 วัน ไม่ใช่   26 วัน แต่โจทก์เห็นว่าโจทก์ได้ปฏิบัติตามที่โจทก์ปฏิบัติต่อลูกจ้างตั้งแต่ปรับลูกจ้างรายวันมาเป็นรายเดือน คือ นำจำนวนค่าจ้างรายวันคูณด้วย 26 วัน เป็นหลักฐานในการจ่ายเงินเดือนนี้แล้ว ในการปรับค่าจ้างประจำปี โจทก์ก็ปรับจากจำนวนดังกล่าวตลอดมาตั้งแต่ปี 2524 การที่โจทก์ปรับสภาพการจ้างลูกจ้างรายวันเป็นลูกจ้างรายเดือน โดยให้ได้รับค่าจ้างเดือนไม่น้อยกว่าค่าจ้างรายวันที่เคยได้รับทั้งเดือนนั้นจะต้องปรับโดยนำจำนวนค่าจ้างรายวันคูณด้วยจำนวน 26 วัน ซึ่งเท่ากับจำนวนวันที่ ต้องทำงาน หรือต้องนำจำนวนค่าจ้างรายวันคูณด้วยจำนวน 30 วัน ซึ่งเท่ากับจำนวนวันที่ต้องทำงานรวมกับจำนวนวันหยุดประจำสัปดาห์ในแต่ละเดือน ศาลเห็นว่าในการปรับลูกจ้างรายวันเป็นลูกจ้างรายเดือนนั้น ค่าจ้างไม่ต่ำกว่าค่าแรงเดิมรวมทั้งเดือน และไม่มีการเปลี่ยนแปลงสิทธิประโยชน์ในการทำงานอื่นใด ลูกจ้างยังคงมีจำนวนวันและเวลาทำงานเท่าเดิม ค่ารักษาพยาบาล จำนวนวันหยุดพักผ่อนประจำปีและวันหยุดอื่น ๆ เท่าเดิมและยังได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มขึ้น คือ หากเป็นลูกจ้างรายวันเมื่อหยุดงานหรือลากิจในวันใดจะไม่ได้รับค่าจ้างในวันนั้น แต่เมื่อเป็นลูกจ้างรายเดือนแล้ว หากหยุดงานหรือลากิจก็ยังคงได้รับเงินเดือนเต็มจำนวน การปรับนี้จึงเป็นคุณแก่ลูกจ้างยิ่งกว่า ทั้งเมื่อนำจำนวนเงินเดือนหารด้วย 30 วัน เฉลี่ยเป็นค่าจ้างในแต่ละวันแล้ว ค่าจ้างรายวันคิดเฉลี่ยได้ไม่ต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามกฎหมาย อัตราค่าจ้างเป็นเงินเดือนนี้จึงไม่ขัดต่อกฎหมายลูกจ้างกับโจทก์ต่างยึดถือปฏิบัติอย่างนี้ต่อเนื่องกันมาเป็นเวลานานตั้งแต่ปี 2524 เป็นต้นมา จึงต้องถือว่า การปรับนี้เป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างตามพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 หมวดที่ 1 ข้อตกลงดังกล่าวนี้จึงมีผลใช้บังคับได้และพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลย ในฐานะพนักงานตรวจแรงงานสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรปราการที่ 35/2548
 
 
                                จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
 
 
                                ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว มีปัญหาต้องวินิจฉัย ตามอุทธรณ์จำเลยว่า ในการปรับลูกจ้างทั้ง 60 คน จากลูกจ้างรายวันเป็นลูกจ้างรายเดือนตามข้อตกลงระหว่างสหภาพแรงงานผลิตเครื่องมือประมงแห่งประเทศไทยกับบริษัทไทยไนลอน จำกัด เอกสารหมาย จ.9 จะต้องนำอัตราค่าจ้างรายวันคูณด้วย 30 เพื่อให้เป็นค่าจ้างรายเดือนใช่หรือไม่ เห็นว่า ข้อตกลงระหว่างสหภาพแรงงานผลิตเครื่องมือประมงแห่งประเทศไทยกับบริษัทไทยไนลอน จำกัด เอกสารหมาย จ.9 ได้แยกกรณีการขึ้นค่าแรงซึ่งก็คือค่าจ้างกับกรณีการปรับคนงานรายวันเป็นรายเดือนไว้คนละหัวข้อกันอย่างชัดเจนโดยกำหนดเงื่อนไขกรณีการขึ้นค่าแรงกับกรณีการปรับคนงานรายวัน เป็นรายเดือนแยกกันอย่างชัดเจนด้วย ไม่มีข้อความใดที่ทำให้เข้าใจได้ว่าในการปรับลูกจ้างรายวันเป็นลูกจ้างรายเดือนเป็นการปรับขึ้นค่าแรงหรือรายได้ที่ลูกจ้างได้รับอยู่ไปในตัวด้วยดังนั้น ในการปรับลูกจ้างรายวันเป็นลูกจ้างรายเดือนตามข้อตกลงดังกล่าวจึงมีผลเพียงทำให้ลูกจ้างนั้นมีสิทธิต่างๆ เพิ่มขึ้นตามที่ลูกจ้างรายเดือนของโจทก์พึงมีสิทธิได้รับเป็นต้นว่ามีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันลากิจ ซึ่งลูกจ้างรายวันไม่มีสิทธิได้รับเท่านั้น ไม่มีผลเป็นการตกลงขึ้นค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างจากลูกจ้างรายวันเป็นลูกจ้างรายเดือนโดยใช้วิธีนำค่าจ้างรายวันคูณด้วย 30 และถือเป็นการปรับขึ้นค่าจ้างรายวันที่ปรับเป็นลูกจ้างรายเดือนด้วย เพราะหากสหภาพแรงงานผลิตเครื่องมือประมงแห่งประเทศไทยหรือโจทก์มีความประสงค์เช่นนั้นก็น่าจะต้องระบุให้การปรับขึ้นค่าจ้างจากลูกจ้างรายวันเป็นลูกจ้างรายเดือนโดยใช้วิธีนำค่าจ้างรายวันคูณด้วย 30 และถือเป็นการปรับขึ้นค่าจ้างอย่างหนึ่งลงไว้ในบันทึข้อตกลงด้วยดังนั้นในการปรับลูกจ้างรายวันเป็นลูกจ้างรายเดือน หากค่าจ้างรายเดือนที่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับมิได้น้อยไปกว่าค่าจ้างรายวันรวมทั้งเดือนที่ลูกจ้างนั้นเคยมีสิทธิได้รับก็มิใช่เรื่องโจทก์ไม่ปฏิบัติให้ถูกต้องตามข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้าง ส่วนที่จำเลยอ้างว่าหากนำเงินเดือนหารด้วย 30 เป็นค่าจ้างต่อวัน อัตราค่าจ้างต่อวันย่อมน้อมลงกว่าเดิมเป็นการหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามกฎหมายนั้น เมื่อลูกจ้างทั้ง 60 คน ได้ปรับเป็นลูกจ้างรายเดือนแล้วการพิจารณาถึงรายได้ของลูกจ้างทั้ง 60 คน ก็ต้องพิจารณาจากค่าจ้างรวมทั้งเดือนเมื่อค่าจ้างรวมทั้งเดือนมิได้ลดน้อยลงกว่าเดิมหรือต่ำกว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำตามกฎหมายย่อมมิใช่เป็นการหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย จะนำเอารายได้ต่อเดือนหารด้วย 30 เพื่อให้เป็นอัตราค่าจ้างต่อวันและอ้างว่าอัตราค่าจ้างต่อวันลดลงไม่ได้เพราะลูกจ้างทั้ง 60 คน มิได้เป็นลูกจ้างรายวันอีกต่อไปแล้ว อีกทั้งการที่โจทก์กับลูกจ้างทั้ง 60 คน ยึดถือปฏิบัติตามแนวทางการปรับลูกจ้างรายวันเป็นลูกจ้างรายเดือนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2524 เป็นต้นมาจึงเป็นการยอมรับแนวทางดังกล่าวร่วมกันเป็นข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างโดยปริยายอีกด้วย ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดสมุทรปราการที่ 35/2548 ที่มีคำสั่งให้โจทก์จ่ายค่าทำงานในวันหยุดประจำสัปดาห์แก่ลูกจ้างทั้ง 60 คน จึงชอบแล้ว อุทธรณ์จำเลยฟังไม่ขึ้น
 
 
                                พิพากษายืน



อัพเดท ฎีกาน่าสนใจ

ขึ้นทะเบียนรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเกิน ๓๐ วัน ยังมีสิทธิได้รับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานได้ article
ลักษณะความผิดเดียวกัน แต่ระดับความร้ายแรงแตกต่างกัน นายจ้างพิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ผู้จัดการสาขา เสนอรายชื่อลูกค้าที่ขาดคุณสมบัติทำประกันชีวิต ถือว่าจงใจทำให้นายจ้างเสียหาย / ผิดร้ายแรง article
หยุดกิจการชั่วคราวตาม มาตรา ๗๕ article
สัญญาจ้างเป็นสัญญาต่างตอบแทน นายจ้างออกค่าใช้จ่ายในการเข้าทดสอบเพื่อรับเกียรติบัตร เมื่อทดสอบผ่านต้องทำงานกับนายจ้าง ๕ ปี บังคับใช้ได้ article
ศาลแรงงานกลางมีอำนาจสั่งรับพยานเอกสารได้ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม article
ประกอบธุรกิจแข่งขัน / ไปทำงานกับนายจ้างอื่น ในลักษณะผิดต่อสัญญาจ้าง เมื่อลูกจ้างได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้างตามสัญญาแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะบังคับ / ห้ามทำงานตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างอีกต่อไป article
คดีแรงงานเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้คดีอาญายกฟ้อง แต่พฤติกรรมการกระทำผิด เป็นเหตุให้นายจ้างไม่อาจไว้วางใจในการทำงานได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
เลิกจ้างเนื่องจากปรับโครงสร้างองค์กร แต่กำหนดรายชื่อไว้ล่วงหน้า ถือเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม article
การหักลบกลบหนี้ หนี้อันเกิดจากสัญญาจ้าง กรณีลูกจ้างกระทำผิดกับสิทธิประโยชน์ที่มีสิทธิได้รับตามสัญญาจ้าง ถือเป็นมูลหนี้อันเป็นวัตถุอย่างเดียวกันหักลบกลบหนี้กันได้ article
เล่นการพนันฉลากกินรวบ เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน กรณีร้ายแรง article
กรณีไม่ถือเป็นการประกอบธุรกิจแข่งขันหรือไม่ถือว่าทำงานกับนายจ้างใหม่ในลักษณะธุรกิจเดียวกับนายจ้าง article
สัญญาฝึกอบรม นายจ้างกำหนดเบี้ยปรับได้ เป็นสัญญาที่เป็นธรรม article
ค้ำประกันการทำงาน หลักประกันการทำงาน การหักลบกลบหนี้ค่าเสียหายจากการทำงาน article
ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์แต่ตนเอง เรียกรับเงินจากลูกค้า ถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ article
ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา มาทำงานสายประจำ ถือว่า กระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สหภาพแรงงานทำบันทักข้อตกลงเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างกับนายจ้าง อันส่งผลกระทบต่อสิทธิหน้าที่ของสมาชิก ขัดกับข้อตกลงเดิมและมิได้ขอมติที่ประชุมใหญ่ ข้อตกลงดังกล่าวไม่อาจใช้บังคับได้ article
ขอเกษียณอายุก่อนกำหนดตามประกาศ ถือเป็นการสมัครใจเลิกสัญญาจ้างแรงงานต่อกัน มิใช่การเลิกจ้างหรือการเกษียณอายุ จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยตามระเบียบกรณีเกษียณอายุ article
สถาบันวิจัยอันเป็นส่วนหนึ่งของกิจการมหาวิทยาลัยถือเป็นหน่วยงานของรัฐ ได้รับยกเว้น ไม่อยู่ภายใต้บังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา ๔ (๑) article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า จากการเลิกจ้างมีอายุความฟ้องร้องได้ภายใน ๑๐ ปี article
ทะเลาะวิวาทเรื่องส่วนตัวไม่ส่งผลกระทบต่อการบังคับบัญชา ไม่เป็นความผิด กรณีร้ายแรง ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ article
พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน มิใช่ทายาทผู้มีสิทธิรับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ และเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ตามพระราชบัญญัติ ประกันสังคม มาตรา ๗๓ และมาตรา ๗๗ article
ขับรถเร็วเกินกว่าข้อบังคับกำหนด เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนคำสั่งโยกย้าย เลิกจ้างได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ประกาศใช้ระเบียบใหม่ ไม่ปรากฏว่ามีพนักงานโต้แย้งคัดค้าน ถือว่าทุกคนยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ article
เงินค่าตอบแทนพิเศษกับเงินโบนัส มีเงื่อนไขต่างกัน หลักเกณฑ์การจ่ายต่างกัน จึงต้องพิจารณาต่างกัน article
ทายาทผู้มีสิทธิได้รับเงินกองทุนเงินทดแทน article
ค่ารถแทนรถยนต์ประจำตำแหน่ง ไม่ถือเป็นค่าจ้าง และ ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสมให้ถือตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานที่กำหนดไว้ article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างไม่ตกลง ขอเวลาตัดสินใจและหยุดงานไป นายจ้างแจ้งให้กลับเข้าทำงานตามปกติ ถือว่านายจ้างยังไม่มีเจตนาเลิกจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ แอบนอนหลับในเวลาทำงาน ถือเป็นเหตุในการเลิกจ้างได้ เลิกจ้างเป็นธรรม article
ลาออกโดยไม่สุจริต ไม่มีผลใช้บังคับ article
ทำความผิดคล้ายคลึงกันแต่ไม่เหมือนกัน พิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ประกอบธุรกิจ บริการ ด่าลูกค้าด้วยถ้อยคำหยาบคาย " ควาย " ถือเป็นการกระทำความผิดกรณีร้ายแรง article
ข้อบังคับ ระบุให้ผู้บังคับบัญชาเหนือกว่ามีอำนาจแก้ไข เพิ่มโทษ หรือลดโทษได้ การยกเลิกคำสั่งลงโทษเดิมและให้ลงโทษใหม่หนักกว่าเดิมจึงสามารถทำได้ article
เลือกปฏิบัติในการลงโทษระเบียบการห้ามใส่ตุ้มหูมาทำงาน บังคับใช้ได้ แต่เลือกปฏิบัติในการลงโทษไม่ได้ article
ลงโทษพักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างและเตือนในคราวเดียวกันได้ ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน article
จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย article
ข้อตกลงรับเงินและยินยอมปลดหนี้ให้แก่กัน ถือเป็นการตกลงระงับข้อพิพาทแม้จะทำขึ้นก่อนคำสั่งเลิกจ้างมีผลใช้บังคับ article
ศาลแรงงานมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานที่คู่ความอ้างส่งศาลได้ แม้มิได้ระบุบัญชีพยานไว้ก็ตาม article
สัญญาจ้างห้ามลูกจ้างไปทำงานกับนายจ้างใหม่ที่ประกอบธุรกิจเช่นเดียวกันมีกำหนดเวลา บังคับใช้ได้ article
เลิกจ้างและรับเงินค่าชดเชย ใบรับเงิน ระบุขอสละสิทธิ์เรียกร้องเงินอื่นใดใช้บังคับได้ ลูกจ้างไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องสินจ้างและค่าเสียหายได้อีก article
เกษียณอายุ 60 ปี ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยนับแต่วันครบกำหนดเกษียณอายุ แม้นายจ้างไม่ได้บอกเลิกจ้างก็ตาม article
ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องและเพิกเฉยไม่ดูแลผลประโยชน์ของนายจ้าง เป็นเหตุให้นายจ้างไม่ไว้วางใจในการทำงานได้เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ละเลยต่อหน้าที่ ไม่รายงานเคพีไอ นายจ้างตักเตือนแล้ว ถือว่าผิดซ้ำคำเตือน เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ทำสัญญาจ้างต่างด้าวทำงานในอาชีพต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว สัญญาจ้างถือเป็นโมฆะ article
ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง article
ศาลมีคำสั่งให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษาตามหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน ในขณะที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ยุติ ต้องสืบพยานใหม่และพิพากษาใหม่ไปตามรูปคดี article
แม้สัญญาจ้างไม่ได้ระบุระยะเวลาทดลองงานไว้ แต่นายจ้างก็สามารถประเมินผลการทำงานของลูกจ้างได้ article
การควบรวมกิจการ สิทธิและหน้าที่โอนไปเป็นของบริษัทใหม่ การจ่ายเงินสมทบบริษัทใหม่ที่ควบรวมจึงมีสิทธิจ่ายเงินสมทบในอัตราเดิมตามสิทธิ มิใช่ในอัตราบริษัทตั้งใหม่ article
เลิกจ้างรับเงินค่าชดเชยแล้วตกลงสละสิทธิ์จะไม่เรียกร้องผละประโยชน์ใดๆ ถือว่าสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเป็นอันระงับไป article
รับเหมาก่อสร้าง ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบ จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมแทนผู้รับเหมาช่วง หากผู้รับเหมาช่วงไม่นำส่งเงินสมทบตามกฎหมายโดยคำนวณจากอัตราค่าจ้างที่ระบุตามแบบ ( ภ.ง.ด. 50 ) และบัญชีงบดุล article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานระบุห้ามทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกาย ผู้บังคับบัญชา เพื่อนพนักงาน ทั้งในสถานที่ทำงาน หรือสถานที่อื่นๆ ฝ่าฝืนถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง ใช้บังคับได้ไม่ขัดต่อกฎหมาย article
ไส้ติ่งอักเสบ แพทย์วินิจฉัยให้ผ่าตัด ถือเป็นกรณีฉุกเฉิน เบิกค่ารักษาได้ มีสิทธิรับเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ได้ article
ค่าเช่าที่พัก ค่าใช้จ่ายเดินทางเป็นสวัสดิการไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่ารถยนต์ซึ่งกำหนดเป็นสวัสดิการไว้ชัดเจนแยกจากฐานเงินเดือนปกติ ถือเป็นสวัสดิการไม่ใช่ค่าจ้าง article
ละเมิดข้อตกลงสภาพการจ้าง ละเมิดสัญญาจ้าง มีอายุความ 10 ปี มิใช่ 1 ปี article
พฤติกรรมการจ้างที่ถือว่าเป็นการจ้างแรงงาน ถือเป็นลูกจ้าง / นายจ้างตามกฎหมาย article
พนักงานขายรถยนต์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ประจำบูธ ตามที่ได้รับมอบหมาย ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
เลือกตั้งคณะกรรมการสหภาพฯ ขัดต่อข้อบังคับสหภาพหรือขัดต่อกฎหมาย ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบ article
ฝ่าฝืนสัญญาจ้าง กรณีห้ามทำการแข่งขันกับนายจ้างหรือทำธุรกิจคล้ายคลึงกับนายจ้างเป็นเวลา 2 ปี นับจากสิ้นสุดสัญญาต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้าง article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระบุให้นายจ้างเลิกจ้างเพราะเหตุคนล้นงาน ปรับลด ขนาดองค์กรได้ ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะเลิกจ้างลูกจ้างได้ article
ข้อบังคับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรณีตัดสิทธิ์รับเงินสมทบพร้อมผลประโยชน์หากกระทำผิดถูกปลดออกจากงานบังคับใช้ได้ article
ทะเลาะวิวาทกัน นอกเวลางาน นอกบริเวณบริษัทฯ ไม่ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนไม่ไปตรวจสารเสพติดซ้ำตามคำสั่งและนโยบาย ถือว่าฝ่าฝืน ข้อบังคับ หรือ ระเบียบ กรณีร้ายแรง article
วันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วน article
เป็นลูกจ้างที่มีอำนาจกระทำการแทนนายจ้างในการจ้างงาน ไม่มีสิทธิได้รับค่าทำงานในวันหยุด และลักทรัพย์เอาต้นไม้ของนายจ้างไป ถือว่ากระทำผิดอาญาแก่นายจ้าง เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ผลการทำงานดีมาโดยตลอดและไม่เคยกระทำผิดมาก่อน แต่ปีสุดท้ายผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ถือเป็นเหตุที่จะอ้างในการเลิกจ้าง article
ได้รับบาดเจ็บรายการเดียว เข้ารักษา 2 ครั้ง ถือว่าเป็นการรักษารายการเดียว นายจ้างสำรองจ่ายเพิ่มเติมไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ใช่ 200,000 บาท article
ผู้บริหารบริษัท ฯ ถือเป็นลูกจ้างหรือไม่ ดูจาก_________ ? article
ขับรถออกนอกเส้นทาง แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรงและก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้าง นายจ้างหักเงินประกันการทำงานได้ article
ค่าจ้างระหว่างพักงาน เมื่อข้อเท็จจริง ลูกจ้างกระทำความผิดจริง จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างระหว่างพักงาน article
“ นายจ้าง ” ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 article
สัญญารักษาความลับ ข้อมูลทางการค้า (ห้ามประกอบหรือรับปฏิบัติงานแข่งขันนายจ้าง) มีกำหนด 2 ปี บังคับใช้ได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย และการกำหนดค่าเสียหาย ถือเป็นเบี้ยปรับตามกฎหมาย ศาลปรับลดได้ตามสมควร article
เงินรางวัลการขายประจำเดือน จ่ายตามเป้าหมายการขาย ที่กำหนดไว้ ไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่าโทรศัพท์ เหมาจ่าย ถือเป็นค่าจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ 3 วันทำการ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เลิกจ้างเป็นธรรมไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ลาออกมีผลใช้บังคับแล้ว ออกหนังสือเลิกจ้างภายหลังใช้บังคับไม่ได้ article
ตกลงรับเงิน ไม่ติดใจฟ้องร้องอีกถือเป็นการตกลงประนีประนอมกันบังคับได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย
เลิกจ้างระหว่างทดลองงาน ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ข้อตกลงว่า “หากเกิดข้อพิพาทตามสัญญาจ้างแรงงาน ให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย” ไม่เกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมายแรงงาน เมื่อเกิดสิทธิตามกฎหมาย ฟ้องศาลแรงงานได้ โดยไม่ต้องให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย article
เลิกจ้างด้วยเหตุอื่น อันมิใช่ความผิดเดิมที่เคยตักเตือน ไม่ใช่เหตุที่จะไม่จ่ายค่าชดเชย เลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย article
นำรถยนต์ไปใช้ในกิจธุระส่วนตัว มีพฤติกรรมคดโกง ไม่ซื่อตรง พฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต ไม่น่าไว้วางใจ ลงโทษปลดออกจากการทำงานได้ article
การกระทำที่กระทบต่อเกียรติ ชื่อเสียงของนายจ้าง และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้กระทำนอกสถานที่ทำงานและนอกเวลางาน ก็ถือว่า ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกรณีร้ายแรง article
สัญญาค้ำประกันการทำงานไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ต้องรับผิดชอบตลอดไป article
ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเลิกจ้างได้ ถือว่าเลิกจ้างเป็นธรรมและความผิดที่ลงโทษแล้วจะนำมาลงโทษอีกไม่ได้ article
ผิดสัญญาจ้างไปทำงานกับคู่แข่ง นายจ้างฟ้องเรียกค่าเสียหายตามสัญญาได้ แต่ค่าเสียหาย เป็นดุลพินิจของศาลจะกำหนด article
จงใจกระทำผิดโดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้นายจ้างเสียหาย ถือว่า กระทำละเมิดต่อนายจ้าง ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น article
ตกลงสละสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย ภายหลังเลิกจ้าง ใช้บังคับได้ ไม่เป็นโมฆะ article
ก้าวร้าวไม่ให้ความเคารพผู้บังคับบัญชา ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้ามิใช่ค่าจ้าง คิดดอกเบี้ยในอัตรา 7. 5 ต่อปี article
ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของนายจ้างในเรื่องส่วนตัวเป็นประจำ ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่กาปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต เลิกจ้างเป็นธรรม article
สั่งให้พนักงานขับรถ ขับรถออกนอกเส้นทางแต่ไม่ได้มีส่วนในการขับรถ ถือว่าผิดต่อสัญญาจ้าง แต่ไม่ต้องรับผิดอันมีผลโดยตรงจากมูลละเมิด ( ขับรถโดยประมาท ) article
จ่ายของสมนาคุณให้ลูกค้า โดยไม่ตรวจสอบบิลให้ถูกต้อง มิใช่ความผิดกรณีร้ายแรงไม่ใช่การทุจริตต่อหน้าที่ แต่ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เสร็จลุล่วงไปโดยถูกต้อง และสุจริต เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ฟ้องประเด็นละเมิด กระทำผิดสัญญาจ้าง ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง มีอายุความ 10 ปี article
ตกลงยินยอมให้หักค่าจ้างชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันเงินกู้ นายจ้างสามารถหักค่าจ้างได้ตามหนังสือยินยอมโดยไม่ต้องฟ้อง article
กระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้างและประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง article
“ งานโครงการตามมาตรา 118 วรรค 4 ” บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ว่าจ้างลูกจ้างทำงานตามโครงการที่รับเหมา ถือว่าจ้างงานในปกติธุรกิจของนายจ้าง มิใช่งานโครงการ article
เงินโบนัสต้องมีสภาพการเป็นพนักงานจนถึงวันกำหนดจ่าย ออกก่อนไม่มีสิทธิได้รับ article
ระเบียบกำหนดจ่ายเงินพิเศษ ( gratuity ) เนื่องจากเกษียณอายุ โดยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายแตกต่างจากการจ่ายค่าเชย ถือว่านายจ้างยังไม่ได้จ่ายค่าชดเยตามกฎหมาย article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด

เลขที่ 511/4 ถนนประชาอุทิศ 117/1 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร (10140)

โทร/Tel : 02 - 8159522, แฟกซ์/Fax : 02 - 8159523, มือถือ/Mobile : 081 - 7936156

อีเมล/E-mail : sawai.prm@gmail.com, เว็บไซต์/Web : www.parameelaw.com