ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ชมรมบริหารงานบุคคล
dot
bulletสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย
bulletชมรมบริหารงานบุคคล
bulletชมรมบริหารงานบุคคล อยุธยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลรังสิต
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคล อมตะนคร
bulletสมาคมการบริหารงานบุคคล (PAAs)
bulletชมรมบริหารงานบุคคลบางพลี
bulletชมรมนักบริหารงานบุคคลพัทยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลยุคใหม่
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคลจังหวัดราชบุรี
bulletงานบริหารงานบุคคล
bulletชมรมงานบริหารงานบุคคลกรุงเทพฯ
bulletชมรมบริหารงานบุคลสุขสวัสดิ์
dot
ติดต่อราชการศาล
dot
bulletศาลแรงงานกลาง
bulletศาลแรงงานภาค ๒
bulletศาลยุติธรรม
bulletศาลปกครอง
bulletศาลรัฐธรมนูญ
bulletสำนักงานอัยการสูงสุด
bulletกระทรวงยุติธรรม
bulletคณะกรรมการกฤษฎีกา
bulletกรมบังคับคดี
bulletสภาทนายความ
dot
หน่วยงานราชการสำคัญ
dot
bulletกระทรวงแรงงาน
bulletกรมการจัดหางาน
bulletกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
bulletกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
bulletสำนักงานประกันสังคม
bulletกรมสรรพากร
bulletกรมบัญชีกลาง
bulletกรมพัฒนาธุรกิจกาค้า
bulletกระทรวงอุตสาหกรรม
bulletกรมโรงงานอุตสาหกรรม
bulletกรมส่งเสริมอุตสาหรม
bulletการนิคมอุตสาหกรรม
dot
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน
dot
bulletสมบัติลีกัล
bulletเอกเซลสำหรับงาน HR โดย อ.สำเริง
bulletบทความดี ๆ จากโกป้อม
dot
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
dot
dot
Newsletter

dot


พยากรณ์อากาศวันนี้
..................................


ราคาน้ำมันวันนี้
..................................



เบี้ยเลี้ยงจ่ายทุกวันตามวันที่มาทำงานถือเป็นค่าจ้างตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 ต้องนำมาคำนวณในการหักประกันสังคม article

 คำพิพากษาฎีกา  481 - 482/2551

เบี้ยเลี้ยงจ่ายทุกวันตามวันที่มาทำงานถือเป็นค่าจ้างตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน  มาตรา  5  ต้องนำมาคำนวณในการหักประกันสังคม

         คดีทั้งสองสำนวนนี้ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งให้รวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกัน  โดยเรียกโจทก์ทั้งสองสำนวนว่า  โจทก์  และเรียกจำเลยทั้งสองสำนวนว่า  จำเลย

 
                 โจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองสำนวนในทำนองเดียวกันว่า  โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัด  จำเลยมีหนังสือฉบับลงวันที่  16  ตุลาคม  2546  จำนวน  2  ฉบับถึงโจทก์  แจ้งผลการตรวจสอบบัญชีปี  2545  และผลการตรวจสอบบัญชีค่าจ้างกองทุนประกันสังคม  2545  โดยมีคำสั่งให้โจทก์ชำระเงินสมทบเงินทดแทนเพิ่มจำนวน  24,548.93  บาท  ภายในวันที่  7  พฤศจิกายน  2546  หากเกินกำหนดต้องชำระเงินสมทบเพิ่มตามกฎหมายร้อยละ  3  ต่อเดือนและมีคำสั่งให้โจทก์ชำระเงินสมทบกองทุนประกันสังคมเพิ่มจำนวน  85,884  บาท  พร้อมเงินเพิ่มร้อยละ  2  ต่อเดือน  โจทก์จึงได้อุทธรณ์ต่อคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนและคณะกรรมการอุทธรณ์ตามลำดับ  คณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนและคณะกรรมการอุทธรณ์มีคำวินิจฉัยว่า  เงินเบี้ยเลี้ยงที่โจทก์จ่ายให้แก่ลูกจ้างเป็นการจ่ายเพื่อเป็นการตอบแทนในการทำงานจึงเป็นค่าจ้างต้องนำมารวมกับค่าจ้างเพื่อคำนวณเป็นเงินสมทบส่งกองทุนทดแทนและกองทุนประกันสังคม  คำวินิจฉัยดังกล่าวไม่ถูกต้อง  เนื่องจากการจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้แก่พนักงานโจทก์มีหลักเกณฑ์การจ่ายเพื่อจูงใจในการทำงานของพนักงานรายวัน  โดยเมื่อพนักงานรายวันได้มาทำงานในวันทำงานปกติโจทก์จะจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้  10  บาทต่อ  1  วัน  เว้นแต่พนักงานไม่มาทำงานเนื่องจากเจ็บป่วยโดยไม่มีใบรับรองแพทย์  ขาดงาน  ลากิจ  แต่หากไม่มาทำงานเพราะเนื่องจากเจ็บป่วยจากการทำงานหรือเจ็บป่วยโดยมีใบรับรองแพทย์มาแสดงหรือใช้สิทธิพักร้อน  โจทก์ยังคงจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้แก่พนักงานที่ไม่มาทำงานในวันดังกล่าว  และหากในรอบการคำนวณค่าจ้างตั้งแต่วันที่  1  ถึงวันที่  15  และวันที่  16  ถึงวันสิ้นเดือน  พนักงานได้มาทำงานในวันทำงานปกติครบทุกวัน  โจทก์จะจ่ายเบี้ยเลี้ยงเพิ่มให้แก่พนักงานรวมเป็น  150  บาท  หากพนักงานทำงานไม่ครบทุกวันในวันทำงานปกติ  ก็จะได้รับเบี้ยเลี้ยงเท่ากับวันที่พนักงานมาทำงานเท่านั้น  การจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้ดังกล่าวจึงไม่เป็นค่าจ้าง  การที่จำเลยนำเงินเบี้ยเลี้ยงมารวมกับค่าจ้างเพื่อคำนวณเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนและเงินสมทบกองทุนประกันสังคมและให้โจทก์ชำระเงินเพิ่ม  จึงไม่ถูกต้อง  ขอให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยตามหนังสือที่  นฐ.  0030/53835  และ  นฐ.  0030/53834  ลงวันที่  16  ตุลาคม  2546 
 
 
                จำเลยทั้งสองสำนวนให้การว่า  ในการดำเนินคดีนี้จำเลยมอบอำนาจให้นางจันทวรรณ  ทองสมบุญ  รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคมเป็นผู้ดำเนินคดีแทน  ตามคำสั่งของโจทก์ที่  บค.007/2540  ลงวันที่  1  พฤษภาคม  2540  ที่โจทก์กำหนดจ่ายเบี้ยเลี้ยงให้พนักงานนั้นเป็นการจ่ายให้แก่ลูกจ้างรายวันทุกวัน  วันละ  10  บาท  หรือ  150  บาท  ต่องวดการทำงาน  15  วัน  โดยรวมวันหยุดประจำสัปดาห์  กรณีที่ลูกจ้างมาทำงานไม่ครบจำนวนวันทำงาน  1  งวด  การทำงานจะได้รับเบี้ยเลี้ยงเท่ากับจำนวนวันที่มาทำงานจริงยกเว้นการหยุดงานมาจากสาเหตุป่วยเนื่องจากการทำงานและการลาป่วยที่มีใบรับรองแพทย์และการลาพักร้อนเท่านั้นเงินเบี้ยเลี้ยงที่จ่ายในลักษณะดังกล่าวถือเป็นค่าตอบแทนในการทำงานโดยตรงไม่ใช่เบี้ยขยัน  เงินที่จ่ายดังกล่าวจึงเป็นค่าจ้าง  ต้องนำมารวมคำนวณเป็นเงินค่าจ้างเพื่อคำนวณเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนและเงินสมทบกองทุนประกันสังคม  คำสั่งของจำเลยชอบด้วยกฎหมายแล้ว  ขอให้ยกฟ้อง
 
 

                ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว  พิพากษาให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยตามหนังสือที่  นฐ.  0030/53835  ลงวันที่  16  ตุลาคม  2546  เรื่อง  แจ้งผลการตรวจสอบบัญชีปี  2545  และตามหนังสือที่  นฐ.  0030/53834  ลงวันที่  16  ตุลาคม  2546  เรื่อง  แจ้งผลการตรวจสอบบัญชีค่าจ้างกองทุนประกันสังคมปี  2545 


                   จำเลยทั้งสองสำนวนอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา


                ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว  ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า  หลักเกณฑ์ในการจ่ายค่าจ้างของโจทก์คือ  จ่ายทุกวันที่  5  และวันที่  20  ของทุกเดือน  โดยค่าจ้างงวดการทำงานในวันที่  1  ถึงวันที่  15  จะจ่ายให้ในวันที่  20  ค่าจ้างงวดการทำงานในวันที่  16  ถึงวันที่  30  หรือ  31  จะจ่ายให้ในวันที่  5  เมื่อวันที่  1  พฤษภาคม  2540  โจทก์ได้ออกคำสั่งเรื่องการปรับเปลี่ยนสวัสดิการและค่าแรงของพนักงานรายวันที่  บค.  007/2540  ตามสำเนาคำสั่งเอกสารหมาย  จ.3  มีเงื่อนไขให้จ่ายเบี้ยเลี้ยงประจำวัน  วันละ  10  บาท  หรือ  150  บาทต่องวดการทำงาน  15  วัน  โดยรวมวันหยุดประจำสัปดาห์  งวดการทำงานของโจทก์งวดหนึ่งมี  15  วัน  จากวันที่  1  ถึงวันที่  15  และจากวันที่  16  ถึงวันที่  30  หรือ  31  แต่วันทำงานจริงโดยหักวันหยุดประจำสัปดาห์ออกแล้วจะมีวันทำงานจริงงวดละ  12  หรือ  13  วันแล้วแต่กรณี  ในกรณีที่พนักงานทำงานไม่ครบจำนวนวันทำงานในงวดการทำงานจะได้รับเงินดังกล่าวเท่ากับวันทำงานที่มาทำงานจริง  เว้นแต่การหยุดงานนั้นมาจากสาเหตุป่วยเนื่องจากการทำงานและลาป่วยที่มีใบรับรองแพทย์  และลาพักร้อนก็ยังคงได้รับเงินดังกล่าว  หากหยุดจากสาเหตุอื่นหรือลาป่วยโดยไม่มีใบรับรองแพทย์ก็จะไม่ได้รับเงินตามคำสั่งนี้  โจทก์ได้จ่ายเงินดังกล่าวเรื่อยมาจนกระทั่งการจ่ายค่าจ้างในปี  2545  ก็ยังจ่ายตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวอยู่  โดยยังไม่มีคำสั่งเปลี่ยนแปลงคำสั่งที่  บค.  007/2540  ปรากตามหนังสือชี้แจงของโจทก์ลงวันที่  3  ธันวาคม  2546  เอกสารหมาย  จ.4  ข้อบังคับในการทำงานของโจทก์เป็นไปตามสำเนาข้อบังคับในการทำงานเอกสารหมาย  จ.5  การจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างในปี  2545  เป็นตามไปสำเนางานรายได้  ค่าใช้จ่ายและภาษีเอกสารหมาย  จ.6  โดยเอกสารหมาย  จ.6  ที่ระบุการจ่ายเงินพิพาทเป็นเบี้ยขยันเนื่องจากในภายหลังจากมีกรณีพิพาทนี้โจทก์ได้เปลี่ยนแปลงรายการการจ่ายเงินดังกล่าว  โดยเรียกเป็นเบี้ยขยันและแก้ไขรายการดังกล่าวในเครื่องคอมพิวเตอร์  เครื่องจึงเปลี่ยนแปลงรายการจ่ายเงินเป็นเบี้ยขยันทั้งหมด  เมื่อพิมพ์ออกมาไม่ว่าในปีใด  ก็จะปรากฏเช่นนี้  สำหรับการจ่ายค่าจ้างของโจทก์ในปี  2545  จำเลยได้นำเงินที่โจทก์จ่ายให้แก่ลูกจ้างตามคำสั่งที่  บค.  007/2540  มารวมกับค่าจ้างเนื่องจากเห็นว่าเงินดังกล่าวเป็นค่าจ้าง  เพื่อคำนวณเงินสมทบกองทุนประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทน  และได้มีหนังสือแจ้งผลการตรวจบัญชีปี  2545  ให้โจทก์ทราบ  ปรากฏตามสำเนาหนังสือที่  นฐ  0030/53835  และที่ นฐ  0030/53834  ลงวันที่  16  ตุลาคม  2546  เอกสารหมาย  จ.7  และ  จ. 8  โจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์  คณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนได้มีคำวินิจฉัยในเรื่องดังกล่าวปรากฏตามสำเนารายงานการประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เงินทดแทนและสำเนารายงานประชุมคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนและคำวินิจฉัยของคณะกรรมการกองทุนเงินทดแทนที่  10/2548  เอกสารหมาย  จ.9  ถึง  จ.11  คณะกรรมการอุทธรณ์ตามพระราชบัญญัติประกันสังคมได้มีคำวินิจฉัยเรื่องเงินสมทบกองทุนประกันสังคมปรากฏตามสำเนารายงานการประชุมและสำเนาคำวินิจฉัยที่  1773/2547  เอกสารหมาย  จ.12  และ  จ.13  การคำนวณเพื่อเรียกเก็บเงินสมทบเงินทดแทนและกองทุนประกันสังคมนั้น  จำเลยได้นำเงินที่โจทก์จ่ายให้แก่ลูกจ้างตามคำสั่งที่  บค.007/2540  ตามที่ลูกจ้างรับจริงทั้งหมดมารวมกับค่าจ้าง  เช่น  ลูกจ้างรับจริงงวดละ  100  บาท  หรือ  150  บาท  จำเลยก็จะนำเงินที่ลูกจ้างได้รับจริงดังกล่าวมารวมกับค่าจ้างเพื่อคำนวณเป็นเงินสมทบทั้งหมด

  

                มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยประการเดียวว่า  เงินเบี้ยเลี้ยงที่โจทก์จ่ายให้แก่พนักงานเป็นค่าจ้างที่ต้องนำมาคำนวณเป็นเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนและกองทุนประกันสังคมหรือไม่  โดยจำเลยอุทธรณ์ว่า  โจทก์ได้กำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายเบี้ยเลี้ยงของพนักงานรายวันวันละ  10  บาท  หรือ  150  บาท  ต่องวดการทำงาน  15  วัน  จึงเป็นเงินที่จ่ายเป็นค่าตอบแทนการทำงานโดยตรง  มิใช่เพื่อจูงใจให้พนักงานขยันมาทำงานแต่อย่างใดนั้นเห็นว่า  พระราชบัญญัติประกันสังคม  พ.ศ.2533  มาตรา  5  และพระราชบัญญัติเงินทดแทน  พ.ศ.2537  มาตรา  5  นิยามศัพท์คำว่า  ค่าจ้างในทำนองเดียวกันว่า  “ค่าจ้าง”  หมายความว่าเงินทุกประเภทที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างเป็นค่าตอบแทนการทำงานในวันและเวลาทำงานปกติไม่ว่าจะคำนวณตามระยะเวลาหรือคำนวณตามผลงานที่ลูกจ้างทำได้  และให้หมายความรวมถึงเงินที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้างในวันหยุดและวันลาซึ่งลูกจ้างไม่ได้ทำงานด้วย  ทั้งนี้  ไม่ว่าจะกำหนดคำนวณหรือจ่ายในลักษณะใดหรือโดยวิธีใด  และไม่ว่าจะเรียกชื่ออย่างไร”  บทบัญญัติดังกล่าวให้ความหมายของค่าจ้างไว้ว่าต้องเป็นเงินที่นายจ้างจ่ายให้แก่ลูกจ้าง  โดยมีวัตถุประสงค์ของการจ่ายเพื่อเป็นการตอบแทนการทำงานในวันและเวลาทำงานปกติของลูกจ้างที่ทำให้แก่นายจ้าง  เมื่อพิจารณาจากคำสั่งเรื่องการปรับเปลี่ยนสวัสดิการและค่าแรงของพนักงานรายวันเอกสารหมาย  จ.3  และตามข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางรับฟังปรากฏว่า  โจทก์ได้ออกประกาศคำสั่ง  3  ข้อ  โดยข้อ  1  ระบุให้ปรับค่าจ้างแก่พนักงานรายวันเข้าใหม่เพิ่มขึ้นจากอัตราค่าจ้างขั้นต่ำอีกจำนวน  5  บาท  และเมื่อมีอายุการทำงานครบ  2  เดือน  จะปรับเพิ่มขึ้นอีกจำนวน  3  บาทต่อวัน  ส่วนข้อ  2  ระบุให้พนักงานรายวันที่เริ่มเข้าทำงานใหม่มีสิทธิได้รับเบี้ยเลี้ยงประจำวัน  วันละ  10  บาท  หรือ  150  บาท  ต่องวดการทำงาน  15  วัน  โดยรวมวันหยุดประจำสัปดาห์ด้วย  ในกรณีที่พนักงานมาทำงานไม่ครบจำนวนวันทำงานในงวดการทำงานจะได้รับเบี้ยเลี้ยงเท่ากับจำนวนวันที่มาทำงานจริงเท่านั้น  เว้นแต่กรณีป่วยเนื่องจากการทำงาน  การลาป่วยที่มีใบรับรองแพทย์และการลาพักร้อน  ดังนี้  การจ่ายเงินตามคำสั่งเรื่องการปรับเปลี่ยนสวัสดิการและค่าแรงของพนักงานรายวัน  เอกสารหมาย  จ.3  จึงมีสองส่วนคือการปรับค่าจ้างตามข้อ  1  และการกำหนดให้พนักงานรายวันได้รับเบี้ยเลี้ยงตามข้อ  2  การจ่ายเบี้ยเลี้ยงวันละ  10  บาท  หรือ  150  บาท  ต่องวดการทำงาน  15  วัน  จะได้รับทุกวันที่มาปฏิบัติงานและหากมาทำงานครบงวดการทำงานจะได้รับเพิ่มในส่วนของวันหยุดประจำสัปดาห์ซึ่งปกติพนักงานรายวันจะไม่มีสิทธิได้รับด้วย  แต่หากมาทำงานไม่ครบจำนวนวันทำงานในงวดการทำงานนั้น  ก็จะได้รับเฉพาะเพียงวันที่มาทำงาน  แต่จะไม่ได้รับเพิ่มในส่วนของวันหยุดประจำสัปดาห์  ยกเว้นกรณีลาหรือป่วยดังกล่าว  การจ่ายเบี้ยเลี้ยงในส่วนของการทำงานครบจำนวนวันในงวดการทำงาน  และได้รับเบี้ยเลี้ยงเพิ่มโดยรวมส่วนของวันหยุดประจำสัปดาห์นั้น  การจะได้รับเบี้ยเลี้ยงส่วนนี้ต่อเมื่อทำงานครบจำนวนวันในงวดการทำงาน  15  วัน  หากทำงานไม่ครบจำนวนวันก็จะไม่ได้รับ  การจ่ายเบี้ยเลี้ยงส่วนนี้จึงมิใช่เป็นการจ่ายเพื่อตอบแทนการทำงานในวันและเวลาทำงานปกติ  แต่เป็นการจ่ายเพื่อจูงใจให้พนักงานรายวันขยันมาทำงานทุกวัน  จึงมิใช่ค่าจ้าง  แต่การจ่ายเบี้ยเลี้ยงประจำวัน  วันละ  10  บาท  เป็นการจ่ายแก่พนักงานรายวันทุกวันที่มาทำงาน  จึงเป็นการจ่ายเพื่อตอบแทนการทำงานในวันและเวลาทำงานปกติ  จึงเป็นค่าจ้างตามพระราชบัญญัติประกันสังคม  พ.ศ.2533  มาตรา  5  ที่จะต้องนำมาคำนวณเงินสมทบกองทุนประกันสังคม  และเป็นค่าจ้างตามพระราชบัญญัติเงินทดแทน  พ.ศ.2537  มาตรา  5  ที่ต้องนำมาคำนวณเป็นเงินสมทบกองทุนเงินทดแทนต่อไป  อุทธรณ์จำเลยฟังขึ้นบางส่วน

 
                 พิพากษาแก้เป็นว่า  ให้เพิกถอนคำสั่งของจำเลยตามหนังสือที่  นฐ  0030/53835  ลงวันที่  16  ตุลาคม  2546  เรื่อง  แจ้งผลการตรวจสอบบัญชีปี  2545  และตามหนังสือที่  นฐ  0030/53834  ลงวันที่  16  ตุลาคม  2546  เรื่องแจ้งผลการตรวจสอบบัญชีค่าจ้างกองทุนประกันสังคมปี  2545  เฉพาะส่วนที่จำเลยนำค่าเบี้ยเลี้ยงที่โจทก์จ่ายให้ลูกจ้างเพิ่มในส่วนของวันหยุดประจำสัปดาห์  วันละ  10  บาท  มาคำนวณเงินสมทบ



อัพเดท ฎีกาน่าสนใจ

ขึ้นทะเบียนรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเกิน ๓๐ วัน ยังมีสิทธิได้รับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานได้ article
ลักษณะความผิดเดียวกัน แต่ระดับความร้ายแรงแตกต่างกัน นายจ้างพิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ผู้จัดการสาขา เสนอรายชื่อลูกค้าที่ขาดคุณสมบัติทำประกันชีวิต ถือว่าจงใจทำให้นายจ้างเสียหาย / ผิดร้ายแรง article
หยุดกิจการชั่วคราวตาม มาตรา ๗๕ article
สัญญาจ้างเป็นสัญญาต่างตอบแทน นายจ้างออกค่าใช้จ่ายในการเข้าทดสอบเพื่อรับเกียรติบัตร เมื่อทดสอบผ่านต้องทำงานกับนายจ้าง ๕ ปี บังคับใช้ได้ article
ศาลแรงงานกลางมีอำนาจสั่งรับพยานเอกสารได้ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม article
ประกอบธุรกิจแข่งขัน / ไปทำงานกับนายจ้างอื่น ในลักษณะผิดต่อสัญญาจ้าง เมื่อลูกจ้างได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้างตามสัญญาแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะบังคับ / ห้ามทำงานตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างอีกต่อไป article
คดีแรงงานเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้คดีอาญายกฟ้อง แต่พฤติกรรมการกระทำผิด เป็นเหตุให้นายจ้างไม่อาจไว้วางใจในการทำงานได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
เลิกจ้างเนื่องจากปรับโครงสร้างองค์กร แต่กำหนดรายชื่อไว้ล่วงหน้า ถือเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม article
การหักลบกลบหนี้ หนี้อันเกิดจากสัญญาจ้าง กรณีลูกจ้างกระทำผิดกับสิทธิประโยชน์ที่มีสิทธิได้รับตามสัญญาจ้าง ถือเป็นมูลหนี้อันเป็นวัตถุอย่างเดียวกันหักลบกลบหนี้กันได้ article
เล่นการพนันฉลากกินรวบ เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน กรณีร้ายแรง article
กรณีไม่ถือเป็นการประกอบธุรกิจแข่งขันหรือไม่ถือว่าทำงานกับนายจ้างใหม่ในลักษณะธุรกิจเดียวกับนายจ้าง article
สัญญาฝึกอบรม นายจ้างกำหนดเบี้ยปรับได้ เป็นสัญญาที่เป็นธรรม article
ค้ำประกันการทำงาน หลักประกันการทำงาน การหักลบกลบหนี้ค่าเสียหายจากการทำงาน article
ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์แต่ตนเอง เรียกรับเงินจากลูกค้า ถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ article
ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา มาทำงานสายประจำ ถือว่า กระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สหภาพแรงงานทำบันทักข้อตกลงเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างกับนายจ้าง อันส่งผลกระทบต่อสิทธิหน้าที่ของสมาชิก ขัดกับข้อตกลงเดิมและมิได้ขอมติที่ประชุมใหญ่ ข้อตกลงดังกล่าวไม่อาจใช้บังคับได้ article
ขอเกษียณอายุก่อนกำหนดตามประกาศ ถือเป็นการสมัครใจเลิกสัญญาจ้างแรงงานต่อกัน มิใช่การเลิกจ้างหรือการเกษียณอายุ จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยตามระเบียบกรณีเกษียณอายุ article
สถาบันวิจัยอันเป็นส่วนหนึ่งของกิจการมหาวิทยาลัยถือเป็นหน่วยงานของรัฐ ได้รับยกเว้น ไม่อยู่ภายใต้บังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา ๔ (๑) article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า จากการเลิกจ้างมีอายุความฟ้องร้องได้ภายใน ๑๐ ปี article
ทะเลาะวิวาทเรื่องส่วนตัวไม่ส่งผลกระทบต่อการบังคับบัญชา ไม่เป็นความผิด กรณีร้ายแรง ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ article
พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน มิใช่ทายาทผู้มีสิทธิรับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ และเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ตามพระราชบัญญัติ ประกันสังคม มาตรา ๗๓ และมาตรา ๗๗ article
ขับรถเร็วเกินกว่าข้อบังคับกำหนด เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนคำสั่งโยกย้าย เลิกจ้างได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ประกาศใช้ระเบียบใหม่ ไม่ปรากฏว่ามีพนักงานโต้แย้งคัดค้าน ถือว่าทุกคนยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ article
เงินค่าตอบแทนพิเศษกับเงินโบนัส มีเงื่อนไขต่างกัน หลักเกณฑ์การจ่ายต่างกัน จึงต้องพิจารณาต่างกัน article
ทายาทผู้มีสิทธิได้รับเงินกองทุนเงินทดแทน article
ค่ารถแทนรถยนต์ประจำตำแหน่ง ไม่ถือเป็นค่าจ้าง และ ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสมให้ถือตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานที่กำหนดไว้ article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างไม่ตกลง ขอเวลาตัดสินใจและหยุดงานไป นายจ้างแจ้งให้กลับเข้าทำงานตามปกติ ถือว่านายจ้างยังไม่มีเจตนาเลิกจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ แอบนอนหลับในเวลาทำงาน ถือเป็นเหตุในการเลิกจ้างได้ เลิกจ้างเป็นธรรม article
ลาออกโดยไม่สุจริต ไม่มีผลใช้บังคับ article
ทำความผิดคล้ายคลึงกันแต่ไม่เหมือนกัน พิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ประกอบธุรกิจ บริการ ด่าลูกค้าด้วยถ้อยคำหยาบคาย " ควาย " ถือเป็นการกระทำความผิดกรณีร้ายแรง article
ข้อบังคับ ระบุให้ผู้บังคับบัญชาเหนือกว่ามีอำนาจแก้ไข เพิ่มโทษ หรือลดโทษได้ การยกเลิกคำสั่งลงโทษเดิมและให้ลงโทษใหม่หนักกว่าเดิมจึงสามารถทำได้ article
เลือกปฏิบัติในการลงโทษระเบียบการห้ามใส่ตุ้มหูมาทำงาน บังคับใช้ได้ แต่เลือกปฏิบัติในการลงโทษไม่ได้ article
ลงโทษพักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างและเตือนในคราวเดียวกันได้ ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน article
จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย article
ข้อตกลงรับเงินและยินยอมปลดหนี้ให้แก่กัน ถือเป็นการตกลงระงับข้อพิพาทแม้จะทำขึ้นก่อนคำสั่งเลิกจ้างมีผลใช้บังคับ article
ศาลแรงงานมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานที่คู่ความอ้างส่งศาลได้ แม้มิได้ระบุบัญชีพยานไว้ก็ตาม article
สัญญาจ้างห้ามลูกจ้างไปทำงานกับนายจ้างใหม่ที่ประกอบธุรกิจเช่นเดียวกันมีกำหนดเวลา บังคับใช้ได้ article
เลิกจ้างและรับเงินค่าชดเชย ใบรับเงิน ระบุขอสละสิทธิ์เรียกร้องเงินอื่นใดใช้บังคับได้ ลูกจ้างไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องสินจ้างและค่าเสียหายได้อีก article
เกษียณอายุ 60 ปี ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยนับแต่วันครบกำหนดเกษียณอายุ แม้นายจ้างไม่ได้บอกเลิกจ้างก็ตาม article
ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องและเพิกเฉยไม่ดูแลผลประโยชน์ของนายจ้าง เป็นเหตุให้นายจ้างไม่ไว้วางใจในการทำงานได้เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ละเลยต่อหน้าที่ ไม่รายงานเคพีไอ นายจ้างตักเตือนแล้ว ถือว่าผิดซ้ำคำเตือน เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ทำสัญญาจ้างต่างด้าวทำงานในอาชีพต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว สัญญาจ้างถือเป็นโมฆะ article
ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง article
ศาลมีคำสั่งให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษาตามหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน ในขณะที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ยุติ ต้องสืบพยานใหม่และพิพากษาใหม่ไปตามรูปคดี article
แม้สัญญาจ้างไม่ได้ระบุระยะเวลาทดลองงานไว้ แต่นายจ้างก็สามารถประเมินผลการทำงานของลูกจ้างได้ article
การควบรวมกิจการ สิทธิและหน้าที่โอนไปเป็นของบริษัทใหม่ การจ่ายเงินสมทบบริษัทใหม่ที่ควบรวมจึงมีสิทธิจ่ายเงินสมทบในอัตราเดิมตามสิทธิ มิใช่ในอัตราบริษัทตั้งใหม่ article
เลิกจ้างรับเงินค่าชดเชยแล้วตกลงสละสิทธิ์จะไม่เรียกร้องผละประโยชน์ใดๆ ถือว่าสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเป็นอันระงับไป article
รับเหมาก่อสร้าง ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบ จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมแทนผู้รับเหมาช่วง หากผู้รับเหมาช่วงไม่นำส่งเงินสมทบตามกฎหมายโดยคำนวณจากอัตราค่าจ้างที่ระบุตามแบบ ( ภ.ง.ด. 50 ) และบัญชีงบดุล article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานระบุห้ามทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกาย ผู้บังคับบัญชา เพื่อนพนักงาน ทั้งในสถานที่ทำงาน หรือสถานที่อื่นๆ ฝ่าฝืนถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง ใช้บังคับได้ไม่ขัดต่อกฎหมาย article
ไส้ติ่งอักเสบ แพทย์วินิจฉัยให้ผ่าตัด ถือเป็นกรณีฉุกเฉิน เบิกค่ารักษาได้ มีสิทธิรับเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ได้ article
ค่าเช่าที่พัก ค่าใช้จ่ายเดินทางเป็นสวัสดิการไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่ารถยนต์ซึ่งกำหนดเป็นสวัสดิการไว้ชัดเจนแยกจากฐานเงินเดือนปกติ ถือเป็นสวัสดิการไม่ใช่ค่าจ้าง article
ละเมิดข้อตกลงสภาพการจ้าง ละเมิดสัญญาจ้าง มีอายุความ 10 ปี มิใช่ 1 ปี article
พฤติกรรมการจ้างที่ถือว่าเป็นการจ้างแรงงาน ถือเป็นลูกจ้าง / นายจ้างตามกฎหมาย article
พนักงานขายรถยนต์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ประจำบูธ ตามที่ได้รับมอบหมาย ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
เลือกตั้งคณะกรรมการสหภาพฯ ขัดต่อข้อบังคับสหภาพหรือขัดต่อกฎหมาย ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบ article
ฝ่าฝืนสัญญาจ้าง กรณีห้ามทำการแข่งขันกับนายจ้างหรือทำธุรกิจคล้ายคลึงกับนายจ้างเป็นเวลา 2 ปี นับจากสิ้นสุดสัญญาต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้าง article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระบุให้นายจ้างเลิกจ้างเพราะเหตุคนล้นงาน ปรับลด ขนาดองค์กรได้ ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะเลิกจ้างลูกจ้างได้ article
ข้อบังคับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรณีตัดสิทธิ์รับเงินสมทบพร้อมผลประโยชน์หากกระทำผิดถูกปลดออกจากงานบังคับใช้ได้ article
ทะเลาะวิวาทกัน นอกเวลางาน นอกบริเวณบริษัทฯ ไม่ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนไม่ไปตรวจสารเสพติดซ้ำตามคำสั่งและนโยบาย ถือว่าฝ่าฝืน ข้อบังคับ หรือ ระเบียบ กรณีร้ายแรง article
วันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วน article
เป็นลูกจ้างที่มีอำนาจกระทำการแทนนายจ้างในการจ้างงาน ไม่มีสิทธิได้รับค่าทำงานในวันหยุด และลักทรัพย์เอาต้นไม้ของนายจ้างไป ถือว่ากระทำผิดอาญาแก่นายจ้าง เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ผลการทำงานดีมาโดยตลอดและไม่เคยกระทำผิดมาก่อน แต่ปีสุดท้ายผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ถือเป็นเหตุที่จะอ้างในการเลิกจ้าง article
ได้รับบาดเจ็บรายการเดียว เข้ารักษา 2 ครั้ง ถือว่าเป็นการรักษารายการเดียว นายจ้างสำรองจ่ายเพิ่มเติมไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ใช่ 200,000 บาท article
ผู้บริหารบริษัท ฯ ถือเป็นลูกจ้างหรือไม่ ดูจาก_________ ? article
ขับรถออกนอกเส้นทาง แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรงและก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้าง นายจ้างหักเงินประกันการทำงานได้ article
ค่าจ้างระหว่างพักงาน เมื่อข้อเท็จจริง ลูกจ้างกระทำความผิดจริง จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างระหว่างพักงาน article
“ นายจ้าง ” ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 article
สัญญารักษาความลับ ข้อมูลทางการค้า (ห้ามประกอบหรือรับปฏิบัติงานแข่งขันนายจ้าง) มีกำหนด 2 ปี บังคับใช้ได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย และการกำหนดค่าเสียหาย ถือเป็นเบี้ยปรับตามกฎหมาย ศาลปรับลดได้ตามสมควร article
เงินรางวัลการขายประจำเดือน จ่ายตามเป้าหมายการขาย ที่กำหนดไว้ ไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่าโทรศัพท์ เหมาจ่าย ถือเป็นค่าจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ 3 วันทำการ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เลิกจ้างเป็นธรรมไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ลาออกมีผลใช้บังคับแล้ว ออกหนังสือเลิกจ้างภายหลังใช้บังคับไม่ได้ article
ตกลงรับเงิน ไม่ติดใจฟ้องร้องอีกถือเป็นการตกลงประนีประนอมกันบังคับได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย
เลิกจ้างระหว่างทดลองงาน ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ข้อตกลงว่า “หากเกิดข้อพิพาทตามสัญญาจ้างแรงงาน ให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย” ไม่เกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมายแรงงาน เมื่อเกิดสิทธิตามกฎหมาย ฟ้องศาลแรงงานได้ โดยไม่ต้องให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย article
เลิกจ้างด้วยเหตุอื่น อันมิใช่ความผิดเดิมที่เคยตักเตือน ไม่ใช่เหตุที่จะไม่จ่ายค่าชดเชย เลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย article
นำรถยนต์ไปใช้ในกิจธุระส่วนตัว มีพฤติกรรมคดโกง ไม่ซื่อตรง พฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต ไม่น่าไว้วางใจ ลงโทษปลดออกจากการทำงานได้ article
การกระทำที่กระทบต่อเกียรติ ชื่อเสียงของนายจ้าง และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้กระทำนอกสถานที่ทำงานและนอกเวลางาน ก็ถือว่า ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกรณีร้ายแรง article
สัญญาค้ำประกันการทำงานไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ต้องรับผิดชอบตลอดไป article
ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเลิกจ้างได้ ถือว่าเลิกจ้างเป็นธรรมและความผิดที่ลงโทษแล้วจะนำมาลงโทษอีกไม่ได้ article
ผิดสัญญาจ้างไปทำงานกับคู่แข่ง นายจ้างฟ้องเรียกค่าเสียหายตามสัญญาได้ แต่ค่าเสียหาย เป็นดุลพินิจของศาลจะกำหนด article
จงใจกระทำผิดโดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้นายจ้างเสียหาย ถือว่า กระทำละเมิดต่อนายจ้าง ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น article
ตกลงสละสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย ภายหลังเลิกจ้าง ใช้บังคับได้ ไม่เป็นโมฆะ article
ก้าวร้าวไม่ให้ความเคารพผู้บังคับบัญชา ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้ามิใช่ค่าจ้าง คิดดอกเบี้ยในอัตรา 7. 5 ต่อปี article
ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของนายจ้างในเรื่องส่วนตัวเป็นประจำ ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่กาปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต เลิกจ้างเป็นธรรม article
สั่งให้พนักงานขับรถ ขับรถออกนอกเส้นทางแต่ไม่ได้มีส่วนในการขับรถ ถือว่าผิดต่อสัญญาจ้าง แต่ไม่ต้องรับผิดอันมีผลโดยตรงจากมูลละเมิด ( ขับรถโดยประมาท ) article
จ่ายของสมนาคุณให้ลูกค้า โดยไม่ตรวจสอบบิลให้ถูกต้อง มิใช่ความผิดกรณีร้ายแรงไม่ใช่การทุจริตต่อหน้าที่ แต่ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เสร็จลุล่วงไปโดยถูกต้อง และสุจริต เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ฟ้องประเด็นละเมิด กระทำผิดสัญญาจ้าง ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง มีอายุความ 10 ปี article
ตกลงยินยอมให้หักค่าจ้างชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันเงินกู้ นายจ้างสามารถหักค่าจ้างได้ตามหนังสือยินยอมโดยไม่ต้องฟ้อง article
กระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้างและประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง article
“ งานโครงการตามมาตรา 118 วรรค 4 ” บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ว่าจ้างลูกจ้างทำงานตามโครงการที่รับเหมา ถือว่าจ้างงานในปกติธุรกิจของนายจ้าง มิใช่งานโครงการ article
เงินโบนัสต้องมีสภาพการเป็นพนักงานจนถึงวันกำหนดจ่าย ออกก่อนไม่มีสิทธิได้รับ article
ระเบียบกำหนดจ่ายเงินพิเศษ ( gratuity ) เนื่องจากเกษียณอายุ โดยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายแตกต่างจากการจ่ายค่าเชย ถือว่านายจ้างยังไม่ได้จ่ายค่าชดเยตามกฎหมาย article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด

เลขที่ 511/4 ถนนประชาอุทิศ 117/1 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร (10140)

โทร/Tel : 02 - 8159522, แฟกซ์/Fax : 02 - 8159523, มือถือ/Mobile : 081 - 7936156

อีเมล/E-mail : sawai.prm@gmail.com, เว็บไซต์/Web : www.parameelaw.com