ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ชมรมบริหารงานบุคคล
dot
bulletสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย
bulletชมรมบริหารงานบุคคล
bulletชมรมบริหารงานบุคคล อยุธยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลรังสิต
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคล อมตะนคร
bulletสมาคมการบริหารงานบุคคล (PAAs)
bulletชมรมบริหารงานบุคคลบางพลี
bulletชมรมนักบริหารงานบุคคลพัทยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลยุคใหม่
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคลจังหวัดราชบุรี
bulletงานบริหารงานบุคคล
bulletชมรมงานบริหารงานบุคคลกรุงเทพฯ
bulletชมรมบริหารงานบุคลสุขสวัสดิ์
dot
ติดต่อราชการศาล
dot
bulletศาลแรงงานกลาง
bulletศาลแรงงานภาค ๒
bulletศาลยุติธรรม
bulletศาลปกครอง
bulletศาลรัฐธรมนูญ
bulletสำนักงานอัยการสูงสุด
bulletกระทรวงยุติธรรม
bulletคณะกรรมการกฤษฎีกา
bulletกรมบังคับคดี
bulletสภาทนายความ
dot
หน่วยงานราชการสำคัญ
dot
bulletกระทรวงแรงงาน
bulletกรมการจัดหางาน
bulletกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
bulletกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
bulletสำนักงานประกันสังคม
bulletกรมสรรพากร
bulletกรมบัญชีกลาง
bulletกรมพัฒนาธุรกิจกาค้า
bulletกระทรวงอุตสาหกรรม
bulletกรมโรงงานอุตสาหกรรม
bulletกรมส่งเสริมอุตสาหรม
bulletการนิคมอุตสาหกรรม
dot
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน
dot
bulletสมบัติลีกัล
bulletเอกเซลสำหรับงาน HR โดย อ.สำเริง
bulletบทความดี ๆ จากโกป้อม
dot
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
dot
dot
Newsletter

dot


พยากรณ์อากาศวันนี้
..................................


ราคาน้ำมันวันนี้
..................................



เปลี่ยนแปลงผู้รับผลประโยชน์กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ - บุตรนอกกฎหมายมีสิทธิรับผลประโยชน์กองทุนฯ article

คำพิพากษาฎีกา  2861/2552

เปลี่ยนแปลงผู้รับผลประโยชน์กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ - บุตรนอกกฎหมายมีสิทธิรับผลประโยชน์กองทุนฯ

                                โจทก์ฟ้องว่า  นายวิเชียร  งามสมกลิ่น  สามีโดยชอบด้วยกฎหมายของโจทก์เป็นพนักงานของบริษัท  ปตท.  จำกัด  (มหาชน)  นายวิเชียรได้สมัครเป็นสมาชิกของจำเลยเมื่อวันที่  13  ธันวาคม  2536  โดยระบุให้โจทก์เป็นผู้รับผลประโยชน์แต่ผู้เดียว  ต่อมาเดือนมกราคม  2542  นายวิเชียรป่วยจึงลาพักรักษาตัวและเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลหลายครั้ง  และต่อมาเมื่อเดือนมีนาคม  2542  นายวิเชียรได้เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลกรุงเทพระหว่างที่พักรักษาตัวอยู่นั้น  นายวิโรจน์  งามสมกลิ่น  ซึ่งเป็นบุตรนอกกฎหมายของนายวิเชียรกับพวกได้มาหาและให้นายวิเชียรลงลายมือชื่อและพิมพ์ลายนิ้วมือลงในเอกสารที่ยังไม่มีการกรอกข้อความใดๆ  หลายฉบับ  เมื่อวันที่  27  มีนาคม  2542  นายวิเชียรได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์สินทั้งหมดรวมทั้งเงินผลประโยชน์ในส่วนของตนในฐานะเป็นสมาชิกของจำเลยให้โจทก์แต่ผู้เดียว  ต่อมาวันที่  12  เมษายน  2542  นายวิเชียรได้ถึงแก่กรรม  หลังจากนั้นโจทก์ได้ไปติดต่อเพื่อขอรับเงินในฐานะที่เป็นผู้รับผลประโยชน์จากการที่นายวิเชียรเป็นสมาชิกของจำเลย  แต่ได้รับแจ้งว่านายวิโรจน์  งามสมกลิ่น  ได้ยื่นหนังสือเปลี่ยนแปลงหนังสือแต่งตั้งผู้รับผลประโยชน์ของนายวิเชียร  โดยให้มีผู้รับผลประโยชน์  3  คน  คือนายวิโรจน์  งามสมกลิ่น  ได้รับส่วนแบ่งร้อยละ  50  นางจิราภรณ์  งามสมกลิ่น  ได้รับส่วนแบ่งร้อยละ  16  และโจทก์ได้รับส่วนแบ่งร้อยละ  34  ตามหนังสือแต่งตั้งผู้รับผลประโยชน์ฉบับลงวันที่  10  มีนาคม  2542  โจทก์เห็นว่าเจ้าหน้าที่ของจำเลยที่รับเรื่องเปลี่ยนแปลงผู้รับผลประโยชน์ดังกล่าวบกพร่องไม่สุจริต  ไม่ตรวจสอบให้รอบคอบรับเรื่องจากบุคคลที่ไม่ใช่สมาชิกของจำเลยซึ่งจำเลยไม่มีสิทธิรับเรื่องการเปลี่ยนแปลงผู้รับผลประโยชน์ดังกล่าวจึงได้ทำหนังสือคัดค้านไว้เมื่อวันที่  16  เมษายน  2542  ต่อมาวันที่  12  พฤษภาคม  2542  จำเลยได้มอบเช็คจ่ายเงินให้โจทก์ตามส่วนแบ่งของหนังสือแต่งตั้งผู้รับผลประโยชน์ที่นายวิโรจน์ได้ยื่นไว้  วันที่  2  พฤษภาคม  2543  โจทก์ทำเรื่องร้องเรียนอีกครั้งหนึ่งไปที่บริษัท  ปตท.  จำกัด  (มหาชน)  เพื่อให้สอบสวนการกระทำของเจ้าหน้าที่จำเลยและได้รับคำตอบเป็นหนังสือว่านายเถกิงศักดิ์  ธนังกูล  และนายอมฤต  พงศ์ไพฑูรย์  เจ้าหน้าที่ของจำเลยกระทำไปโดยถูกต้องแล้ว  การที่จำเลยจ่ายเงินสมาชิกกองทุนของนายวิเชียรตามหนังสือที่นายวิโรจน์ยื่นไว้เป็นการผิดข้อบังคับของกองทุนข้อ  9.4  ที่ระบุว่าภายใต้บังคับของข้อ  9.2  และ  9.3  ในกรณีสมาชิกถึงแก่กรรมให้คณะกรรมการกองทุนจ่ายเงินกองทุนส่วนของสมาชิกให้แก่บุคคลต่อไปนี้  ข้อ  9.4.1  ผู้ที่สมาชิกได้ทำหนังสือมอบไว้ให้แก่คณะกรรมการกองทุน  9.4.2  ผู้ที่สมาชิกได้ทำหนังสือพินัยกรรมยกเงินกองทุนส่วนของสมาชิก  หากปรากฎว่าหนังสือพินัยกรรมกระทำภายหลังหนังสือตามข้อ  9.4.1  การที่จำเลยมีเจตนาไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับของจำเลยจึงเป็นการปฏิบัติที่ไม่ชอบ  โจทก์เป็นผู้รับผลประโยชน์ตามหนังสือแต่งตั้งผู้รับประโยชน์ฉบับลงวันที่  13  ธันวาคม  2536  และเป็นผู้ที่นายวิเชียรทำพินัยกรรมยกเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพส่วนของตนให้ผู้เดียว  เจ้าหน้าที่ของจำเลยประมาทเลินเล่อบกพร่องไม่ตรวจสอบให้รอบคอบและไม่สุจริต  เป็นการจ่ายเงินกองทุนไปโดยไม่ถูกต้องอันเป็นการไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ  พ.ศ.2530  และตามข้อบังคับกองทุนดังกล่าวทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายตามอัตราส่วนร้อยละ  66  เป็นเงิน  1,778,488.80  บาท  โจทก์ขอคิดดอกเบี้ยอัตราร้อยละ  7.5  ต่อปี  นับแต่วันที่  16  เมษายน  2542  ซึ่งเป็นวันที่จำเลยปฏิเสธการจ่ายเงินตามที่โจทก์ร้องขอนับถึงวันฟ้องคิดเป็นดอกเบี้ยจำนวน  544,684  บาท  รวมค่าเสียหายเป็นเงิน  2,323,173.80  บาท  ขอให้บังคับจำเลยชำระเงินจำนวน  2,323,173.80  บาท  พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ  7.5  ต่อปี  ของต้นเงิน  1,778,488.80  บาท  นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์

  

                                จำเลยให้การว่า  คดีนี้ไม่อยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลแรงงานฟ้องโจทก์เคลือบคลุม  จำเลยจ่ายเงินกองทุนไปโดยถูกต้องตามระเบียบและข้อบังคับโดยชอบ  โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะเป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตและคดีของโจทก์ขาดอายุความ  ขอให้ยกฟ้อง

  

                                อธิบดีผู้พิพากษาศาลแรงงานกลางมีคำวินิจฉัยว่า  คดีอยู่ในอำนาจพิจารณาพิพากษาของศาลแรงงาน

  

                                ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว  พิพากษายกฟ้อง

  

                                โจทก์อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา

  

                               ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว  ข้อเท็จจริงที่ศาลแรงงานกลางฟังมาได้ความว่า  นายวิเชียร  งามสมกลิ่น  สามีโจทก์เป็นสมาชิกกองทุนจำเลยโดยยื่นใบสมัครพร้อมทำหนังสือแต่งตั้งผู้รับผลประโยชน์ระบุให้โจทก์เป็นผู้รับผลประโยชน์แต่เพียงผู้เดียวตามเอกสารหมาย  จ.5  ต่อมานายวิเชียรทำหนังสือแต่งตั้งผู้รับผลประโยชน์ขึ้นใหม่ระบุผู้รับผลประโยชน์ไว้  3  คน  คือนายวิโรจน์  งามสมกลิ่น  ส่วนแบ่งของผลประโยชน์คิดเป็นร้อยละ  50  นางจิราภรณ์  งามสมกลิ่น  ส่วนแบ่งของผลประโยชน์คิดเป็นร้อยละ  16  และโจทก์  ส่วนแบ่งของผลประโยชน์คิดเป็นร้อยละ  34  ตามเอกสารหมาย  จ.20  นายวิโรจน์และนางจิราภรณ์เป็นบุตรชายและบุตรสาวของนายวิเชียรซึ่งเกิดจากภริยาคนก่อน  แล้วฟังข้อเท็จจริงต่อไปว่า  หนังสือแต่งตั้งผู้รับผลประโยชน์ตามเอกสารหมาย  จ.20  เป็นการทำขึ้นโดยนายวิเชียรมีเจตนาจะให้บุตรทั้งสองมีส่วนได้รับผลประโยชน์จากกองทุนด้วย

  

                                คดีมีปัญหาวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ที่ศาลฎีกามีคำสั่งให้รับในข้อกฎหมายประการแรกว่า  การเปลี่ยนแปลงบุคคลผู้รับผลประโยชน์สามารถกระทำได้ตามระเบียบข้อบังคับของกองทุนหรือไม่  เห็นว่า  ตามระเบียบข้อบังคับของจำเลยตามเอกสารหมาย  จ.23  ที่ใช้บังคับอยู่ขณะนายวิเชียรถึงแก่กรรมไม่มีข้อห้ามไม่ให้เปลี่ยนแปลงบุคคลผู้รับผลประโยชน์ไว้  เมื่อการแต่งตั้งผู้รับผลประโยชน์เป็นสิทธิเฉพาะตัวของสมาชิกกองทุนจำเลย  การที่นายวิเชียรแต่งตั้งผู้รับผลประโยชน์ใหม่ตามเอกสารหมาย  จ.20  เช่นนี้  ย่อมชอบด้วยกฎหมายหาขัดต่อระเบียบข้อบังคับของกองทุนจำเลยดังที่โจทก์อุทธรณ์ไม่  ส่วนปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยประการต่อไปที่ว่า  นายวิโรจน์และนางจิราภรณ์  งามสมกลิ่น  มิได้เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายหรือบุตรที่บิดารับรองแล้วของนายวิเชียร  ต้องห้ามมิให้เป็นผู้รับผลประโยชน์ตามพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ  พ.ศ.2530  หรือไม่  เห็นว่า  กรณีดังกล่าวมีบัญญัติไว้ในมาตรา  23  วรรคหนึ่ง  แห่งพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ  พ.ศ.2530  ว่า  "เมื่อลูกจ้างสิ้นสมาชิกภาพเพราะเหตุอื่นซึ่งมิใช่กองทุนเลิก  ผู้จัดการกองทุนต้องจ่ายเงินจากกองทุนให้แก่ลูกจ้างตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในข้อบังคับของกองทุน..."  และวรรคสองบัญญัติว่า  "ในกรณีสิ้นสมาชิกภาพเพราะถึงแก่ความตาย  ถ้าลูกจ้างมิได้กำหนดบุคคลผู้จะพึงได้รับเงินจากกองทุนไว้โดยพินัยกรรมหรือทำเป็นหนังสือมอบไว้แก่ผู้จัดการกองทุน  หรือได้กำหนดไว้แต่บุคคลผู้นั้นตายก่อน  ให้จ่ายเงินจากกองทุนตามวรรคหนึ่งให้แก่บุคคลตามหลักเกณฑ์ดังนี้  (1)  บุตรให้ได้รับสองส่วน..."  ดังนั้น  เมื่อนายวิเชียรลูกจ้างซึ่งเป็นสมาชิกกองทุนจำเลยได้กำหนดตัวบุคคลผู้จะพึงได้รับเงินไว้ตามหนังสือแต่งตั้งผู้รับผลประโยชน์เอกสารหมาย จ.20  และผู้จะพึงได้รับผลประโยชน์ยังมีชีวิตอยู่จึงต้องเป็นไปตามข้อกำหนดของสมาชิก  หาใช่ให้แบ่งจ่ายตามหลักเกณฑ์ของพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ  พ.ศ.2530  มาตรา  23  ดังกล่าวไม่  ทั้งตามข้อบังคับของจำเลยฉบับปี  2537  เอกสารหมาย  จ.23  ก็กำหนดทำนองเดียวกันโดยไม่มีข้อจำกัดว่าผู้ที่ลูกจ้างกำหนดเป็นผู้จะพึงได้รับเงินจากกองทุนจะต้องเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย  ดังนั้น  แม้นายวิโรจน์กับนางจิราภรณ์จะมิใช่บุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของนายวิเชียร  ก็ย่อมเป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินจากกองทุนตามที่นายวิเชียรกำหนดไว้ในหนังสือแต่งตั้งผู้รับผลประโยชน์  หาต้องห้ามกฎหมายไม่  อุทธรณ์ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น

  

                                พิพากษายืน 




อัพเดท ฎีกาน่าสนใจ

ขึ้นทะเบียนรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเกิน ๓๐ วัน ยังมีสิทธิได้รับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานได้ article
ลักษณะความผิดเดียวกัน แต่ระดับความร้ายแรงแตกต่างกัน นายจ้างพิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ผู้จัดการสาขา เสนอรายชื่อลูกค้าที่ขาดคุณสมบัติทำประกันชีวิต ถือว่าจงใจทำให้นายจ้างเสียหาย / ผิดร้ายแรง article
หยุดกิจการชั่วคราวตาม มาตรา ๗๕ article
สัญญาจ้างเป็นสัญญาต่างตอบแทน นายจ้างออกค่าใช้จ่ายในการเข้าทดสอบเพื่อรับเกียรติบัตร เมื่อทดสอบผ่านต้องทำงานกับนายจ้าง ๕ ปี บังคับใช้ได้ article
ศาลแรงงานกลางมีอำนาจสั่งรับพยานเอกสารได้ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม article
ประกอบธุรกิจแข่งขัน / ไปทำงานกับนายจ้างอื่น ในลักษณะผิดต่อสัญญาจ้าง เมื่อลูกจ้างได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้างตามสัญญาแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะบังคับ / ห้ามทำงานตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างอีกต่อไป article
คดีแรงงานเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้คดีอาญายกฟ้อง แต่พฤติกรรมการกระทำผิด เป็นเหตุให้นายจ้างไม่อาจไว้วางใจในการทำงานได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
เลิกจ้างเนื่องจากปรับโครงสร้างองค์กร แต่กำหนดรายชื่อไว้ล่วงหน้า ถือเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม article
การหักลบกลบหนี้ หนี้อันเกิดจากสัญญาจ้าง กรณีลูกจ้างกระทำผิดกับสิทธิประโยชน์ที่มีสิทธิได้รับตามสัญญาจ้าง ถือเป็นมูลหนี้อันเป็นวัตถุอย่างเดียวกันหักลบกลบหนี้กันได้ article
เล่นการพนันฉลากกินรวบ เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน กรณีร้ายแรง article
กรณีไม่ถือเป็นการประกอบธุรกิจแข่งขันหรือไม่ถือว่าทำงานกับนายจ้างใหม่ในลักษณะธุรกิจเดียวกับนายจ้าง article
สัญญาฝึกอบรม นายจ้างกำหนดเบี้ยปรับได้ เป็นสัญญาที่เป็นธรรม article
ค้ำประกันการทำงาน หลักประกันการทำงาน การหักลบกลบหนี้ค่าเสียหายจากการทำงาน article
ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์แต่ตนเอง เรียกรับเงินจากลูกค้า ถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ article
ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา มาทำงานสายประจำ ถือว่า กระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สหภาพแรงงานทำบันทักข้อตกลงเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างกับนายจ้าง อันส่งผลกระทบต่อสิทธิหน้าที่ของสมาชิก ขัดกับข้อตกลงเดิมและมิได้ขอมติที่ประชุมใหญ่ ข้อตกลงดังกล่าวไม่อาจใช้บังคับได้ article
ขอเกษียณอายุก่อนกำหนดตามประกาศ ถือเป็นการสมัครใจเลิกสัญญาจ้างแรงงานต่อกัน มิใช่การเลิกจ้างหรือการเกษียณอายุ จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยตามระเบียบกรณีเกษียณอายุ article
สถาบันวิจัยอันเป็นส่วนหนึ่งของกิจการมหาวิทยาลัยถือเป็นหน่วยงานของรัฐ ได้รับยกเว้น ไม่อยู่ภายใต้บังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา ๔ (๑) article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า จากการเลิกจ้างมีอายุความฟ้องร้องได้ภายใน ๑๐ ปี article
ทะเลาะวิวาทเรื่องส่วนตัวไม่ส่งผลกระทบต่อการบังคับบัญชา ไม่เป็นความผิด กรณีร้ายแรง ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ article
พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน มิใช่ทายาทผู้มีสิทธิรับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ และเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ตามพระราชบัญญัติ ประกันสังคม มาตรา ๗๓ และมาตรา ๗๗ article
ขับรถเร็วเกินกว่าข้อบังคับกำหนด เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนคำสั่งโยกย้าย เลิกจ้างได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ประกาศใช้ระเบียบใหม่ ไม่ปรากฏว่ามีพนักงานโต้แย้งคัดค้าน ถือว่าทุกคนยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ article
เงินค่าตอบแทนพิเศษกับเงินโบนัส มีเงื่อนไขต่างกัน หลักเกณฑ์การจ่ายต่างกัน จึงต้องพิจารณาต่างกัน article
ทายาทผู้มีสิทธิได้รับเงินกองทุนเงินทดแทน article
ค่ารถแทนรถยนต์ประจำตำแหน่ง ไม่ถือเป็นค่าจ้าง และ ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสมให้ถือตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานที่กำหนดไว้ article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างไม่ตกลง ขอเวลาตัดสินใจและหยุดงานไป นายจ้างแจ้งให้กลับเข้าทำงานตามปกติ ถือว่านายจ้างยังไม่มีเจตนาเลิกจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ แอบนอนหลับในเวลาทำงาน ถือเป็นเหตุในการเลิกจ้างได้ เลิกจ้างเป็นธรรม article
ลาออกโดยไม่สุจริต ไม่มีผลใช้บังคับ article
ทำความผิดคล้ายคลึงกันแต่ไม่เหมือนกัน พิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ประกอบธุรกิจ บริการ ด่าลูกค้าด้วยถ้อยคำหยาบคาย " ควาย " ถือเป็นการกระทำความผิดกรณีร้ายแรง article
ข้อบังคับ ระบุให้ผู้บังคับบัญชาเหนือกว่ามีอำนาจแก้ไข เพิ่มโทษ หรือลดโทษได้ การยกเลิกคำสั่งลงโทษเดิมและให้ลงโทษใหม่หนักกว่าเดิมจึงสามารถทำได้ article
เลือกปฏิบัติในการลงโทษระเบียบการห้ามใส่ตุ้มหูมาทำงาน บังคับใช้ได้ แต่เลือกปฏิบัติในการลงโทษไม่ได้ article
ลงโทษพักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างและเตือนในคราวเดียวกันได้ ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน article
จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย article
ข้อตกลงรับเงินและยินยอมปลดหนี้ให้แก่กัน ถือเป็นการตกลงระงับข้อพิพาทแม้จะทำขึ้นก่อนคำสั่งเลิกจ้างมีผลใช้บังคับ article
ศาลแรงงานมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานที่คู่ความอ้างส่งศาลได้ แม้มิได้ระบุบัญชีพยานไว้ก็ตาม article
สัญญาจ้างห้ามลูกจ้างไปทำงานกับนายจ้างใหม่ที่ประกอบธุรกิจเช่นเดียวกันมีกำหนดเวลา บังคับใช้ได้ article
เลิกจ้างและรับเงินค่าชดเชย ใบรับเงิน ระบุขอสละสิทธิ์เรียกร้องเงินอื่นใดใช้บังคับได้ ลูกจ้างไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องสินจ้างและค่าเสียหายได้อีก article
เกษียณอายุ 60 ปี ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยนับแต่วันครบกำหนดเกษียณอายุ แม้นายจ้างไม่ได้บอกเลิกจ้างก็ตาม article
ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องและเพิกเฉยไม่ดูแลผลประโยชน์ของนายจ้าง เป็นเหตุให้นายจ้างไม่ไว้วางใจในการทำงานได้เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ละเลยต่อหน้าที่ ไม่รายงานเคพีไอ นายจ้างตักเตือนแล้ว ถือว่าผิดซ้ำคำเตือน เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ทำสัญญาจ้างต่างด้าวทำงานในอาชีพต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว สัญญาจ้างถือเป็นโมฆะ article
ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง article
ศาลมีคำสั่งให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษาตามหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน ในขณะที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ยุติ ต้องสืบพยานใหม่และพิพากษาใหม่ไปตามรูปคดี article
แม้สัญญาจ้างไม่ได้ระบุระยะเวลาทดลองงานไว้ แต่นายจ้างก็สามารถประเมินผลการทำงานของลูกจ้างได้ article
การควบรวมกิจการ สิทธิและหน้าที่โอนไปเป็นของบริษัทใหม่ การจ่ายเงินสมทบบริษัทใหม่ที่ควบรวมจึงมีสิทธิจ่ายเงินสมทบในอัตราเดิมตามสิทธิ มิใช่ในอัตราบริษัทตั้งใหม่ article
เลิกจ้างรับเงินค่าชดเชยแล้วตกลงสละสิทธิ์จะไม่เรียกร้องผละประโยชน์ใดๆ ถือว่าสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเป็นอันระงับไป article
รับเหมาก่อสร้าง ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบ จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมแทนผู้รับเหมาช่วง หากผู้รับเหมาช่วงไม่นำส่งเงินสมทบตามกฎหมายโดยคำนวณจากอัตราค่าจ้างที่ระบุตามแบบ ( ภ.ง.ด. 50 ) และบัญชีงบดุล article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานระบุห้ามทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกาย ผู้บังคับบัญชา เพื่อนพนักงาน ทั้งในสถานที่ทำงาน หรือสถานที่อื่นๆ ฝ่าฝืนถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง ใช้บังคับได้ไม่ขัดต่อกฎหมาย article
ไส้ติ่งอักเสบ แพทย์วินิจฉัยให้ผ่าตัด ถือเป็นกรณีฉุกเฉิน เบิกค่ารักษาได้ มีสิทธิรับเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ได้ article
ค่าเช่าที่พัก ค่าใช้จ่ายเดินทางเป็นสวัสดิการไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่ารถยนต์ซึ่งกำหนดเป็นสวัสดิการไว้ชัดเจนแยกจากฐานเงินเดือนปกติ ถือเป็นสวัสดิการไม่ใช่ค่าจ้าง article
ละเมิดข้อตกลงสภาพการจ้าง ละเมิดสัญญาจ้าง มีอายุความ 10 ปี มิใช่ 1 ปี article
พฤติกรรมการจ้างที่ถือว่าเป็นการจ้างแรงงาน ถือเป็นลูกจ้าง / นายจ้างตามกฎหมาย article
พนักงานขายรถยนต์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ประจำบูธ ตามที่ได้รับมอบหมาย ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
เลือกตั้งคณะกรรมการสหภาพฯ ขัดต่อข้อบังคับสหภาพหรือขัดต่อกฎหมาย ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบ article
ฝ่าฝืนสัญญาจ้าง กรณีห้ามทำการแข่งขันกับนายจ้างหรือทำธุรกิจคล้ายคลึงกับนายจ้างเป็นเวลา 2 ปี นับจากสิ้นสุดสัญญาต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้าง article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระบุให้นายจ้างเลิกจ้างเพราะเหตุคนล้นงาน ปรับลด ขนาดองค์กรได้ ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะเลิกจ้างลูกจ้างได้ article
ข้อบังคับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรณีตัดสิทธิ์รับเงินสมทบพร้อมผลประโยชน์หากกระทำผิดถูกปลดออกจากงานบังคับใช้ได้ article
ทะเลาะวิวาทกัน นอกเวลางาน นอกบริเวณบริษัทฯ ไม่ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนไม่ไปตรวจสารเสพติดซ้ำตามคำสั่งและนโยบาย ถือว่าฝ่าฝืน ข้อบังคับ หรือ ระเบียบ กรณีร้ายแรง article
วันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วน article
เป็นลูกจ้างที่มีอำนาจกระทำการแทนนายจ้างในการจ้างงาน ไม่มีสิทธิได้รับค่าทำงานในวันหยุด และลักทรัพย์เอาต้นไม้ของนายจ้างไป ถือว่ากระทำผิดอาญาแก่นายจ้าง เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ผลการทำงานดีมาโดยตลอดและไม่เคยกระทำผิดมาก่อน แต่ปีสุดท้ายผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ถือเป็นเหตุที่จะอ้างในการเลิกจ้าง article
ได้รับบาดเจ็บรายการเดียว เข้ารักษา 2 ครั้ง ถือว่าเป็นการรักษารายการเดียว นายจ้างสำรองจ่ายเพิ่มเติมไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ใช่ 200,000 บาท article
ผู้บริหารบริษัท ฯ ถือเป็นลูกจ้างหรือไม่ ดูจาก_________ ? article
ขับรถออกนอกเส้นทาง แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรงและก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้าง นายจ้างหักเงินประกันการทำงานได้ article
ค่าจ้างระหว่างพักงาน เมื่อข้อเท็จจริง ลูกจ้างกระทำความผิดจริง จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างระหว่างพักงาน article
“ นายจ้าง ” ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 article
สัญญารักษาความลับ ข้อมูลทางการค้า (ห้ามประกอบหรือรับปฏิบัติงานแข่งขันนายจ้าง) มีกำหนด 2 ปี บังคับใช้ได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย และการกำหนดค่าเสียหาย ถือเป็นเบี้ยปรับตามกฎหมาย ศาลปรับลดได้ตามสมควร article
เงินรางวัลการขายประจำเดือน จ่ายตามเป้าหมายการขาย ที่กำหนดไว้ ไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่าโทรศัพท์ เหมาจ่าย ถือเป็นค่าจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ 3 วันทำการ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เลิกจ้างเป็นธรรมไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ลาออกมีผลใช้บังคับแล้ว ออกหนังสือเลิกจ้างภายหลังใช้บังคับไม่ได้ article
ตกลงรับเงิน ไม่ติดใจฟ้องร้องอีกถือเป็นการตกลงประนีประนอมกันบังคับได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย
เลิกจ้างระหว่างทดลองงาน ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ข้อตกลงว่า “หากเกิดข้อพิพาทตามสัญญาจ้างแรงงาน ให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย” ไม่เกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมายแรงงาน เมื่อเกิดสิทธิตามกฎหมาย ฟ้องศาลแรงงานได้ โดยไม่ต้องให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย article
เลิกจ้างด้วยเหตุอื่น อันมิใช่ความผิดเดิมที่เคยตักเตือน ไม่ใช่เหตุที่จะไม่จ่ายค่าชดเชย เลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย article
นำรถยนต์ไปใช้ในกิจธุระส่วนตัว มีพฤติกรรมคดโกง ไม่ซื่อตรง พฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต ไม่น่าไว้วางใจ ลงโทษปลดออกจากการทำงานได้ article
การกระทำที่กระทบต่อเกียรติ ชื่อเสียงของนายจ้าง และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้กระทำนอกสถานที่ทำงานและนอกเวลางาน ก็ถือว่า ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกรณีร้ายแรง article
สัญญาค้ำประกันการทำงานไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ต้องรับผิดชอบตลอดไป article
ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเลิกจ้างได้ ถือว่าเลิกจ้างเป็นธรรมและความผิดที่ลงโทษแล้วจะนำมาลงโทษอีกไม่ได้ article
ผิดสัญญาจ้างไปทำงานกับคู่แข่ง นายจ้างฟ้องเรียกค่าเสียหายตามสัญญาได้ แต่ค่าเสียหาย เป็นดุลพินิจของศาลจะกำหนด article
จงใจกระทำผิดโดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้นายจ้างเสียหาย ถือว่า กระทำละเมิดต่อนายจ้าง ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น article
ตกลงสละสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย ภายหลังเลิกจ้าง ใช้บังคับได้ ไม่เป็นโมฆะ article
ก้าวร้าวไม่ให้ความเคารพผู้บังคับบัญชา ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้ามิใช่ค่าจ้าง คิดดอกเบี้ยในอัตรา 7. 5 ต่อปี article
ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของนายจ้างในเรื่องส่วนตัวเป็นประจำ ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่กาปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต เลิกจ้างเป็นธรรม article
สั่งให้พนักงานขับรถ ขับรถออกนอกเส้นทางแต่ไม่ได้มีส่วนในการขับรถ ถือว่าผิดต่อสัญญาจ้าง แต่ไม่ต้องรับผิดอันมีผลโดยตรงจากมูลละเมิด ( ขับรถโดยประมาท ) article
จ่ายของสมนาคุณให้ลูกค้า โดยไม่ตรวจสอบบิลให้ถูกต้อง มิใช่ความผิดกรณีร้ายแรงไม่ใช่การทุจริตต่อหน้าที่ แต่ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เสร็จลุล่วงไปโดยถูกต้อง และสุจริต เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ฟ้องประเด็นละเมิด กระทำผิดสัญญาจ้าง ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง มีอายุความ 10 ปี article
ตกลงยินยอมให้หักค่าจ้างชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันเงินกู้ นายจ้างสามารถหักค่าจ้างได้ตามหนังสือยินยอมโดยไม่ต้องฟ้อง article
กระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้างและประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง article
“ งานโครงการตามมาตรา 118 วรรค 4 ” บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ว่าจ้างลูกจ้างทำงานตามโครงการที่รับเหมา ถือว่าจ้างงานในปกติธุรกิจของนายจ้าง มิใช่งานโครงการ article
เงินโบนัสต้องมีสภาพการเป็นพนักงานจนถึงวันกำหนดจ่าย ออกก่อนไม่มีสิทธิได้รับ article
ระเบียบกำหนดจ่ายเงินพิเศษ ( gratuity ) เนื่องจากเกษียณอายุ โดยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายแตกต่างจากการจ่ายค่าเชย ถือว่านายจ้างยังไม่ได้จ่ายค่าชดเยตามกฎหมาย article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด

เลขที่ 511/4 ถนนประชาอุทิศ 117/1 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร (10140)

โทร/Tel : 02 - 8159522, แฟกซ์/Fax : 02 - 8159523, มือถือ/Mobile : 081 - 7936156

อีเมล/E-mail : sawai.prm@gmail.com, เว็บไซต์/Web : www.parameelaw.com