คสรท.ค้าน กทม.เหตุเตรียมเลิกจ้างลูกจ้างชั่วคราวหากปรับค่าแรง 300 บาท ชี้ ต้องหารือกัน อย่าเอาลูกจ้างเป็นตัวประกัน
คสรท.ค้าน กทม.เหตุเตรียมเลิกจ้างลูกจ้างชั่วคราวหากปรับค่าแรง 300 บาท ชี้ ต้องหารือกัน อย่าเอาลูกจ้างเป็นตัวประกัน พท.ต้องรับผิดชอบตามที่หาเสียง แนะสำรวจลูกจ้างชั่วคราวของรัฐ พร้อมหาเงินหนุน-ยกระดับคุณภาพชีวิต-คุมราคาสินค้า
วันนี้ นางสาววิไลวรรณ แซ่เตีย รองประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) กล่าวถึงแนวคิดของ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) ที่ระบุว่า อาจจะต้องเลิกจ้างลูกจ้างชั่วคราวของ กทม.6 หมื่นคน หากต้องปรับขึ้นค่าจ้างเป็น 300 บาท ตามนโนบายของรัฐบาล เพราะแบกภาระด้านงบประมาณไม่ไหว ว่า ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ และเห็นว่า เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรมกับลูกจ้าง กทม.ที่หลายคนทำงานเป็นลูกจ้างชั่วคราวมา 4-6 ปี ควรได้รับการปรับสถานะเป็นลูกจ้างประจำ และเพิ่มสวัสดิการให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ใช่ กทม.ไปเลิกจ้างแล้วให้บริษัทเอกชนรับเหมาช่วงมาทำ
อย่างไรก็ตาม อยากให้รัฐบาล และ กทม.รวมถึงหน่วยงานรัฐอื่นๆ ที่มีลูกจ้างชั่วคราว และคาดว่า จะได้รับผลกระทบจากนโยบายการปรับขึ้นค่าจ้าง 300 บาทต่อวัน ทำให้ต้องมีการเลิกจ้างลูกจ้างชั่วคราว มาหารือกันเพื่อหาแนวทางแก้ปัญหา โดยมีการสำรวจจำนวนลูกจ้างชั่วคราวที่ทำงานในหน่วยงานรัฐทั้งหมดให้ชัดเจน และดูว่าต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติมเพื่อปรับค่าจ้างเป็น 300 บาทต่อวันจำนวนเท่าใด จากนั้นรัฐบาลก็ต้องหางบมาสนับสนุนให้แก่กทม.และหน่วยงานรัฐต่างๆ
“เมื่อพรรคเพื่อไทย (พท.) หาเสียงด้วยนโยบายปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน พร้อมกันทั่วประเทศ แล้วได้รับเลือกตั้งเป็นรัฐบาล ก็ต้องรับผิดชอบต่อนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ เชื่อว่าก่อนที่พรรคเพื่อไทยจะประกาศนโยบายนี้ออกมาจะต้องมีการคิดและวางแผนดำเนินการไว้ก่อนแล้ว ดังนั้น เมื่อกทม.และหน่วยงานรัฐต่างๆ มีปัญหาด้านงบประมาณเพื่อรองรับค่าจ้าง 300 บาท รัฐบาลก็ต้องช่วยแก้ปัญหา นอกจากนี้ รัฐจะต้องมีการเพิ่มสวัสดิการต่างๆ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของแรงงานเหล่านี้ให้ดีขึ้น รวมทั้งควบคุมราคาสินค้าอุปโภคบริโภคด้วย” นางสาววิไลวรรณ กล่าว
นางสาววิไลวรรณ กล่าวด้วยว่า ไม่อยากให้รัฐบาล หรือ กทม.และหน่วยงานรัฐต่างเอาลูกจ้างชั่วคราวเป็นตัวประกันนโยบายค่าจ้าง 300 บาท เพราะจะทำให้ลูกจ้างชั่วคราวไม่มีที่พึ่ง ไม่รู้จะหันหน้าไปหาใคร ถ้ารัฐบาลและหน่วยงานรัฐต่างๆ ไม่ยอมพูดคุยกัน จึงอยากให้มองว่าหากลูกจ้างชั่วคราวได้รับผลกระทบจากการขึ้นค่าจ้าง 300 บาท จนต้องถูกเลิกจ้าง ชีวิตของคนเหล่านี้จะอยู่อย่างไร พวกเขาต้องหาเช้ากินค่ำ มีพ่อแม่และลูกต้องเลี้ยงดู ไม่อยากเห็นข่าวลูกจ้างต้องฆ่าตัวตาย เพราะตกงานจากนโยบายค่าจ้าง 300 บาท
ทั้งนี้ ข้อมูลโครงการสำรวจภาวะการทำงานของประชากรทั่วราชอาณาจักรในไตรมาสที่ 1 ปี 2554 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า ปัจจุบันมีลูกจ้างหน่วยงานรัฐทุกประเภททั้งหมดประมาณ 3.6 ล้านคน และลูกจ้างหน่วยงานเอกชนทั้งหมดประมาณ 13.9 ล้านคน