มอบการบ้านกระทรวงแรงงาน แก้ด่วน 3 กรณีคนงานถูกละเมิดสิทธิ
คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทยบุกถึงถิ่น ให้ข้อมูล 3 กรณีร้อนคนงานโดนละเมิด จี้กระทรวงแรงงานแก้ไขด่วน ทั้งกรณี เคเอฟซี, ไทยอินดัสเตรียลแก๊ส, ยัม เรสเทอรองฯ ตัวแทนกระทรวงให้ไปร้องคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์
คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) นำโดยชาลี ลอยสูง ประธาน คสรท. เดินทางพร้อมด้วยคนงานจากกลุ่มต่างๆ เข้าพบนายอิทธิพล แผ่นเงิน ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านแรงงานสัมพันธ์ กรมสวัสดิการและคุ้มครองงาน กระทรวงแรงงาน เพื่อหารือแนวทางการช่วยเหลือคนงาน โดยนายชาลี ลอยสูง ประธานคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย กล่าวว่า มีการละเมิด พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ พ.ศ.2518 ต่อพนักงาน 3 แห่งคือ บริษัท ยัม เรสเทอรองส์อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการ ผู้บริหารและผู้ให้สิทธิแฟรนไชส์ร้านอาหารบริการด่วน เคเอฟซีและพิซซ่าฮัท ในประเทศไทย บริษัท ฟูรูกาวา เม็ททัล (ไทยแลนด์) และไทยอินดัสเตรียลแก๊ส จำกัด (มหาชน)
โดยนายชาลี ให้ข้อมูลว่า กรณีของ บ.ยัมฯ นั้น หลังพนักงานลงลายมือชื่อ 260 คนเพื่อยื่นข้อเรียกร้องเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างจาม พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์ และตั้งตัวแทนเจรจาตามกฎหมาย ปรากฎว่านายจ้างยังไม่มีท่าทีเจรจา ไม่ยอมรับการจัดตั้งสหภาพฯ เลิกจ้าง 3 แกนนำ รวมถึงกดดันคนงานให้ถอดชื่อออกด้วย ซึ่ง คสรท.มองว่านายจ้างไม่เคารพกฎหมายและท้าทายอำนาจเจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงาน
กรณีฟูรูกาวา ชัยยุต พรานน้อย รองประธานสหภาพแรงงานฟูรูกาวา เล่าว่า เรื่องเกิดจากปีที่ผ่านมา บริษัทมีนโยบายติดกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมในบริเวณที่พนักงานปฏิบัติงาน โดยปฏิเสธที่จะให้สหภาพฯ มีส่วนร่วมตัดสินใจ รวมถึงไม่ตอบคำถามของสหภาพฯ ว่ามีเจตนาอื่นแฝงเพื่อนำภาพมาลงโทษหรือไม่ ต่อมา สหภาพฯ ได้ชี้แจงต่อสมาชิกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านทางใบปลิวและการปราศรัย ซึ่งไม่ได้ขวางทางเข้า-ออกแต่อย่างใด แต่ต่อมา บริษัทได้แจ้งความข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ต่อคณะกรรมการและสมาชิกสหภาพฯ รวม 15 คน พร้อมสั่งห้ามทั้ง 15 คนเข้าปฏิบัติงานจนกว่าคดีจะถึงที่สุดหรือมีคำสั่งเป็นอย่างอื่น โดยบริษัทปฏิเสธการเจรจาใดๆ กับสหภาพฯ นอกจากนี้ยังมีการขออำนาจศาลเพื่อเลิกจ้างกรรมการสหภาพด้วย
ชัยยุต ระบุว่า ปัจจุบัน คนงานทั้ง 15 คนไม่ได้ทำงานมาเกือบ 2 เดือนแล้ว โดยมีการจ่ายเงินเดือน แต่ตัดเงินบางส่วนเนื่องจาก บ.อ้างว่าพวกเขาไม่ได้ทำงาน ขณะที่ในโรงงานมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มจากเดิมที่ระบุว่าจะติด 70 ตัวเป็น 100 ตัว โดยเฉพาะเจาะจงนตำแหน่งของคณะกรรมการสหภาพฯ ซึ่งสร้างความไม่สบายใจต่อคนงานอย่างยิ่ง
ขณะที่กรณีของสหภาพไทยอินดัสเตรียลแก๊ส ฉัตรชัย ไพยเสน เลขาธิการสหภาพฯ เล่าถึงคดีที่อนุกรรมการของสหภาพฯ ถูกผู้บริหารฟ้องดำเนินคดีด้วยข้อหาหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาและนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ด้วยเนื้อหาอันเป็นเท็จฯ ตามมาตรา 14 ของ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยแม้ว่าต่อมาผู้บริหารจะไม่เอาเรื่องแล้ว แต่ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เป็นอาญาแผ่นดิน ยอมความไม่ได้ คนงานจึงยังต้องสู้คดีต่อไป
ทั้งนี้ ฉัตรชัย แสดงความเห็นว่า พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เป็นกฎหมายที่มีช่องโหว่ โดยตัวกฎหมายไม่มีความชัดเจนในการตีความ และเชื่อว่าในอนาคต นักสหภาพฯ ที่สื่อสารทางอีเมลคงจะโดนคดีแบบนี้ จึงอยากให้กระทรวงแรงงานก้าวให้ทันเกมของนายจ้าง เพื่อปกป้องนักสหภาพฯ และคนงานในอนาคต
หลังรับฟังปัญหา ตัวแทนฝ่ายกฎหมายกระทรวงแรงงานกล่าวเน้นถึงการใช้แรงงานสัมพันธ์ก่อนการใช้กฎหมาย โดยแนะนำให้ร้องต่อคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์ (ครส.) ส่วนกรณีมีการใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์นั้น ระบุว่า ขณะนี้มีการปรับแก้ พ.ร.บ.แรงงานสัมพันธ์และ พ.ร.บ.รัฐวิสาหกิจ รับว่าจะปรับแก้เพื่อให้คุ้มครองแรงงานมากขึ้น
จากนั้น คณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) ได้เปิดแถลงข่าว โดยชัยสิทธิ์ สุขสมบูรณ์ รองประธาน คสรท. ระบุว่า ภายหลังการรับฟังปัญหาอยากเสนอให้กระทรวงแรงงานออกมาตรการเร่งด่วน เพื่อเตือนให้นายจ้างยุติการละเมิดสิทธิคนงานเหล่านี้ด้วย
ด้านชาลี ลอยสูง ประธาน คสรท. กล่าวฝากไปยังนักการเมืองที่กำลังหาเสียงสำหรับการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมาถึงให้หันมาสนใจดูแลลูกจ้างที่ถูกคุกคามเสรีภาพ พร้อมระบุว่า กรณีของเคเอฟซี จะมีการรณรงค์ไปทางสหพันธ์แรงงานอาหารระหว่างประเทศ (IUF) องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) และสถานทูตอเมริกาด้วย หากยังไม่มีการใช้แรงงานสัมพันธ์ที่ดี ก็จะใช้มาตรการกดดันทางสังคมต่อไป เพื่อชี้ให้ผู้บริโภคเห็นว่า บริษัทอาหารของโลกที่ภาพลักษณ์ดี แต่กลับไม่เคารพสิทธิเสรีภาพของคนงาน
ขณะที่กรณีการใช้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฟ้องร้องคนงานนั้น คงต้องหารือกับศูนย์ช่วยเหลือและจัดการวิกฤตแรงงาน ซึ่งเป็นฝ่ายกฎหมายของแรงงานเพื่อหาทางแก้ไขต่อไป รวมถึงคาดว่าจะส่งเรื่องไปยังคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย ซึ่งมีนายชัยสิทธิ์เป็นหนึ่งในคณะกรรมการด้วย