ตุ๋นคนงานไปเมืองนอก539รายสูญ30ล้านบาท
กรมการจัดหางานเตือนแรงงานไทยระวังถูกหลอกไปทำงานต่างประเทศ เผยปลายปีที่แล้วมีจำนวนผู้ถูกหลอกลวง 539 ราย สูญเงิน 30 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านฐานะยากจน แนะตรวจสอบให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจจ่ายเงินให้นายหน้าหรือบริษัทจัดหางานเถื่อน
นายจีรศักดิ์ สุคนธชาติ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวถึงสถิติรับเรื่องร้องทุกข์ของกรมการจัดหางานจากคนหางานทั่วประเทศ กรณีถูกสาย นายหน้า หรือบริษัทจัดหางานเถื่อนหลอกลวงไปทำงานต่างประเทศว่า ตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม 2553 พบว่า มีคนหางานถูกหลอกจำนวน 539 คน มูลค่าความเสียหายรวม 30.87 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2552 พบว่า ผู้ร้องทุกข์มีจำนวนลดลง 130 คน หรือลดลงร้อยละ 19.43 แต่มูลค่าความเสียหายยังอยู่ในระดับสูง โดยคนที่ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกไปทำงานต่างประเทศนั้น ส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่มีฐานะยากจน บางรายไปกู้เงินมาจากบุคคลอื่น ซึ่งหลังจากรู้ตัวว่าถูกหลอกก็ต้องชดใช้เงินที่กู้มาพร้อมแบกภาระดอกเบี้ยอีกด้วย
นายจีรศักดิ์กล่าวว่า ผู้ที่ถูกหลอกลวงส่วนใหญ่ถูกสายหรือนายหน้าเข้ามาตีสนิทแล้วชักชวนให้ไปทำงานต่างประเทศ โดยอ้างว่ามีตำแหน่งงานที่มีรายได้สูงเกินจริงหรือไม่มีอยู่จริงเพื่อจูงใจให้หลงเชื่อ ที่น่าเป็นห่วงคือ คนหางานบางรายแม้จะรู้ว่าต้องลักลอบเดินทางไปทำงานอย่างผิดกฎหมายก็ยังยินยอมจ่ายเงินให้ เพราะเกรงว่าจะเสียโอกาส และหวังว่าจะได้ค่าจ้างตามที่นายหน้ากล่าวอ้าง สุดท้ายก็ไม่ได้เดินทางไปทำงานตามที่สัญญาไว้
บางรายต้องไปตกระกำลำบากในต่างแดน โดยถูกนายจ้างต่างชาติเอารัดเอาเปรียบและใช้แรงงานเยี่ยงทาส เพราะเห็นว่าเป็นผู้เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซ้ำยังต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ ไม่กล้าไปแจ้งความหรือร้องทุกข์ ที่หนักไปกว่านั้นคือ เมื่อได้รับการช่วยเหลือกลับประเทศมาได้ ก็ไม่สามารถฟ้องร้องดำเนินคดีหรือเรียกเงินค่าบริการและค่าใช้จ่ายคืนจากผู้หลอกลวงได้ เนื่องจากถูกหลอกให้แจ้งการเดินทางไปทำงานต่างประเทศด้วยตนเอง
"เพื่อป้องกันมิให้ถูกเอาเปรียบหรือต้องไปตกระกำลำบากในต่างแดน จนเป็นเหตุให้หน่วยงานภาครัฐเข้าไปให้ความช่วยเหลือส่งตัวกลับประเทศ ซึ่งในกรณีนี้คนงานที่ได้รับความช่วยเหลือต้องรับภาระชดใช้เงินค่าใช้จ่ายในการส่งตัวกลับคืนให้แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภายหลัง จึงขอให้ผู้ประสงค์จะไปทำงานต่างประเทศ เดินทางไปทำงานโดยถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งสมัครเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศด้วย" อธิบดีกรมการจัดหางานเผย ทั้งนี้ นอกจากจะเป็นการป้องกันการถูกหลอกแล้ว เมื่อเกิดปัญหาในต่างแดน กรมการจัดหางานจะสามารถนำเงินกองทุนฯ ไปให้ความช่วยเหลือได้ทันท่วงที โดยสอบถามข้อมูลได้ที่สำนักจัดหางานกรุงเทพฯ เขตพื้นที่ 1-10 สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด หรือที่กองตรวจและคุ้มครองคนหางาน โทร. 0-2245-6763 หรือโทร. ศูนย์มิตรไมตรี กรมการจัดหางาน 1694
ส่วนกรณีแรงงานไทยจำนวน 130 คนที่เดินทางไปทำงานในประเทศลิเบีย และได้ถูกกลุ่มชายฉกรรจ์ชาวลิเบียประมาณ 100 คน ใช้อาวุธปืนบุกปล้นทรัพย์ภายในแคมป์ที่พักคนงานไทย บังกลาเทศ และเกาหลี ซึ่งมีคนงานพักอาศัยอยู่รวมกันประมาณ 500 คน ชายฉกรรจ์กลุ่มดังกล่าวได้ขู่ทำร้ายและไล่คนงานออกจากแคมป์ จากนั้นได้ยึดเครื่องมือหนักชนิดต่างๆ และรถยนต์รับส่งคนงานซึ่งมีกว่า 10 คันไป และได้เผาทำลายสำนักงานและแคมป์คนงาน ทำให้คนงานทั้งหมดต้องหลบหนีไปพักอาศัยอยู่ในโรงอาหารภายในแคมป์คนงานเวียดนามและเนปาล ซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปกว่า 3 กิโลเมตร โดยต้องดำรงชีวิตอยู่อย่างยากลำบากและขาดแคลนอาหาร
ขณะนี้คนงานไทยยังไม่สามารถเข้าทำงานได้ตามปกติ และต้องหยุดงานต่อไปจนกว่าสถานการณ์จะยุติ ส่วนการให้ความช่วยเหลือคนงานไทยในเบื้องต้นได้ประสานให้ทางการลิเบียส่งเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจไปคุ้มครองคนงาน ตลอดจนเพิ่มอาหารในแคมป์ที่มีคนงานทั้ง 3 สัญชาติหลบหนีเข้าไปพักอาศัย ซึ่งกรมการจัดหางานจะติดตามสถานการณ์โดยประสานกับบริษัทจัดหางานผู้จัดส่งคนงานไปทำงานอย่างใกล้ชิดจนกว่าสถานการณ์จะยุติ.