ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ชมรมบริหารงานบุคคล
dot
bulletสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย
bulletชมรมบริหารงานบุคคล
bulletชมรมบริหารงานบุคคล อยุธยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลรังสิต
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคล อมตะนคร
bulletสมาคมการบริหารงานบุคคล (PAAs)
bulletชมรมบริหารงานบุคคลบางพลี
bulletชมรมนักบริหารงานบุคคลพัทยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลยุคใหม่
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคลจังหวัดราชบุรี
bulletงานบริหารงานบุคคล
bulletชมรมงานบริหารงานบุคคลกรุงเทพฯ
bulletชมรมบริหารงานบุคลสุขสวัสดิ์
dot
ติดต่อราชการศาล
dot
bulletศาลแรงงานกลาง
bulletศาลแรงงานภาค ๒
bulletศาลยุติธรรม
bulletศาลปกครอง
bulletศาลรัฐธรมนูญ
bulletสำนักงานอัยการสูงสุด
bulletกระทรวงยุติธรรม
bulletคณะกรรมการกฤษฎีกา
bulletกรมบังคับคดี
bulletสภาทนายความ
dot
หน่วยงานราชการสำคัญ
dot
bulletกระทรวงแรงงาน
bulletกรมการจัดหางาน
bulletกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
bulletกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
bulletสำนักงานประกันสังคม
bulletกรมสรรพากร
bulletกรมบัญชีกลาง
bulletกรมพัฒนาธุรกิจกาค้า
bulletกระทรวงอุตสาหกรรม
bulletกรมโรงงานอุตสาหกรรม
bulletกรมส่งเสริมอุตสาหรม
bulletการนิคมอุตสาหกรรม
dot
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน
dot
bulletสมบัติลีกัล
bulletเอกเซลสำหรับงาน HR โดย อ.สำเริง
bulletบทความดี ๆ จากโกป้อม
dot
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
dot
dot
Newsletter

dot


พยากรณ์อากาศวันนี้
..................................


ราคาน้ำมันวันนี้
..................................



เงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ สิทธิรับบริการทางการแพทย์เพราะเกิดอุบัติเหตุ (ฉุกเฉินโรงพยาบาลแรกเบิกได้ ย้ายใหม่ต้องเข้าโรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม ไปที่อื่นเบิกไม่ได้) article

 

คำพิพากษาฎีกา 1349/51
เงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ สิทธิรับบริการทางการแพทย์เพราะเกิดอุบัติเหตุ (ฉุกเฉินโรงพยาบาลแรกเบิกได้ ย้ายใหม่ต้องเข้าโรงพยาบาลตามสิทธิประกันสังคม ไปที่อื่นเบิกไม่ได้)
                โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เข้าทำงานเป็นลูกจ้างของบริษัทซินเน็คประเทศไทย จำกัด ตำแหน่ง กราฟฟิคดีไซเนอร์ และเป็นผู้ประกันตนตามพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 โดยมีวิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาลเป็นโรงพยาบาลตามสิทธิ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2546 โจทก์ขับรถจักรยานยนต์ไปเฉี่ยวชนกับรถยนต์ของบุคคลอื่น แรงกระแทกทำให้โจทก์ลอยข้ามรถยนต์คู่กรณีแล้วหล่นลงกลางถนนเอกมัย ศีรษะฟาดพื้นถนน หมวกนิรภัยแตก โจทก์หมดสติไปเหตุเกิดบริเวณถนนเอกมัยเยื้องกับร้านบ้านไร่กาแฟ ในช่องทางเดินรถไปถนนสุขุมวิทขณะนั้นฝนตกหนัก สภาพถนนมีน้ำท่วมขัง เป็นเหตุให้โจทก์ได้รับบาดเจ็บสาหัสมีพลเมืองดีนำโจทก์ส่งโรงพยาบาลสุขุมวิท เมื่อโจทก์รู้สึกตัวแพทย์ได้ฉีดยาระงับความปวด และแจ้งให้บิดาของโจทก์ชื่อนายสุพจน์ ธีระปถัมภ์ ทราบ เมื่อบิดาโจทก์มาถึงเห็นว่าโจทก์มีบาดแผลฉกรรจ์ บาดแผลปนเปื้อนด้วยดินโคลนและน้ำสกปรกหากปล่อยทิ้งไว้จะทำให้ติดเชื้ออย่างรุนแรง จึงขอย้ายโจทก์ไปรักษาที่โรงพยาบาลเวชธานี ระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาลเวชธานี ได้จ่ายค่ารักษาพยาบาลไปเป็นเงิน 62,676.10 บาท โจทก์ยื่นคำร้องต่อสำนักงานประกันสังคมเพื่อขอรับเงินประโยชน์ทดแทนดังกล่าว สำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ 1 ปฏิเสธการจ่ายเงินดังกล่าวโจทก์ยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการอุทธรณ์ คณะกรรมการอุทธรณ์วินิจฉัยว่าการที่โจทก์ประสบอันตรายรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถยนต์ทำให้กระดูกท่อนล่างซ้ายติดกับข้อเข่าหักแบบเปิดนั้นจำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยเร่งด่วนเพราะเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งในเบื้องต้นโจทก์ได้เข้ารับบริการทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลสุขุมวิทมาแล้ว ดังนั้นเมื่อต้องการย้ายสถานพยาบาล โจทก์ก็ควรจะย้ายไปรับบริการทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลตามสิทธิเพราะมีขีดความสามารถที่จะให้การรักษาได้ การที่โจทก์เข้ารับบริการทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลเวชธานีเป็นความประสงค์ของโจทก์เอง และถือว่าไม่มีเหตุผลอันสมควรที่โจทก์ไม่สามารถไปรับบริการทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลตามสิทธิได้ จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าบริการทางการแพทย์ตามขอ และมีมติให้ยกอุทธรณ์ของโจทก์ โจทก์เห็นว่าคำวินิจฉัยของสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ 1 และคณะกรรมการอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยกฎหมายเพราะการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสุขุมวิทนั้นเนื่องจากพลเมืองดีเป็นผู้นำส่งไม่ได้เกิดจากความประสงค์ของโจทก์หรือบิดา โรงพยาบาลเวชธานีเป็นโรงพยาบาลเครือข่ายระดับบนของสำนักงานประกันสังคม มีศัลยแพทย์ทางกระดูกประจำอยู่ มีระยะห่างจากโรงพยาบาลสุขุมวิท 5 ถึง 6 กิโลเมตร การจราจรติดขัดน้อยกว่าที่จะเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลตามสิทธิ เมื่อพิจารณาถึงความเจ็บป่วยของโจทก์ ลักษณะบาดแผลแล้วจำเป็นต้องให้การรักษาโดยเร่งด่วนเพื่อรักษาชีวิตและร่างกายของโจทก์ การเข้ารักษาที่โรงพยาบาลเวชธานีจึงมีเหตุสมควรและเมื่อรวมระยะเวลาที่โจทก์เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสุขุมวิทและโรงพยาบาลเวชธานีแล้วซึ่งเป็นระยะเวลาเร่งด่วนเป็นการรักษาภายในระยะเวลา 72 ชั่วโมงนับแต่เวลาที่เข้ารับบริการทางการแพทย์จนย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลตามสิทธิ และโรงพยาบาลตามสิทธิมีญาติของโจทก์รับราชการอยู่ จึงย่อมได้รับความสะดวก แต่ด้วยเหตุผลดังกล่าวแล้วจึงเข้ารักษาโรงพยาบาลเวชธานี ขอให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ 1 และคำวินิจฉัยของคณะกรรมการอุทธรณ์ที่ 1101/2547 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2547 และจ่ายเงินค่าบริการทางการแพทย์จำนวน 62,676.10บาท พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์
 
 
                     จำเลยให้การว่า เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2546 เวลาประมาณ19 นาฬิกา โจทก์เกิดอุบัติเหตุถูกรถยนต์เฉี่ยวชนบริเวณถนนสุขุมวิท 63 ทำให้โจทก์ได้รับบาดเจ็บหลายแห่ง โดยเฉพาะขาข้างซ้ายกระดูกใต้หัวเข่าหักและหมดสติ มีผู้นำส่งโรงพยาบาลสุขุมวิทเวลาประมาณ 19.43 นาฬิกา โจทก์ได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่โรงพยาบาลดังกล่าว ต่อมาบิดาโจทก์ลงชื่อในคำรับรองไม่ยินยอมให้แพทย์ทำการรักษาหรือทำการผ่าตัดโดยไม่ขอใช้สิทธิเบิกค่ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลสุขุมวิทและย้ายโจทก์ไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลเวชธานี ในวันเดียวกันเวลา 22.40 นาฬิกา แพทย์ทำการผ่าตัดล้างแผลดามกระดูกด้วยโลหะ ได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเวชธานีจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2546 เป็นเวลา 3 วัน เสียค่าบริการทางการแพทย์ไปเป็นเงิน 62,676.10 บาท ตามพระราชบัญญัติประกันสังคมผู้ประกันตนจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดไว้ คือจะต้องเข้ารับการบริการทางการแพทย์ยังสถานพยาบาลที่กำหนดไว้ในบัตรรับรองสิทธิ หากไม่สามารถรับบริการจากสถานพยาบาลที่กำหนดไว้ได้จะต้องเป็นกรณีจำเป็นที่ต้องได้รับบริการทางการแพทย์อย่างฉุกเฉินหรือกรณีจำเป็นต้องได้รับการบริการทางการแพทย์เพราะเกิดอุบัติเหตุการที่โจทก์ประสบอุบัติเหตุถูกรถเฉี่ยวชนดังกล่าวถือว่าเป็นกรณีฉุกเฉินเพราะเกิดอุบัติเหตุแต่เมื่อเข้ารักษาที่โรงพยาบาลสุขุมวิทอันมิใช่โรงพยาบาลตามสิทธิแล้ว หากโจทก์ประสงค์จะย้ายไปรักษาตัวต่อจะต้องย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลตามสิทธิเท่านั้น การที่โจทก์ย้ายมารักษาที่โรงพยาบาลเวชธานีจึงไม่ถือว่าเป็นกรณีฉุกเฉินอีกต่อไป หากโจทก์อ้างว่ารักษาอาการป่วยเจ็บของโจทก์จะมีปัญหาการติดเชื้ออย่างรุนแรงยากต่อการรักษาโจทก์ต้องยินยอมให้โรงพยาบาลสุขุมวิททำการรักษาฉุกเฉินต่อไป การที่โจทก์ไม่ยินยอมและย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลเวชธานีโดยอ้างว่าโรงพยาบาลเวชธานีเป็นโรงพยาบาลระดับบนกว่าโรงพยาบาลสุขุมวิท จึงเป็นความประสงค์ของโจทก์เองที่จะเข้ารับการบริการทางการแพทย์จากสถานพยาบาลอื่นนอกเหนือจากที่กำหนดไว้ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกเงินจำนวนดังกล่าว คำสั่งของสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ 1 และคำวินิจฉัยของคณะกรรมการอุทธรณ์จึงเป็นคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ไม่มีเหตุเพิกถอนขอให้ยกฟ้อง
 
 
                     ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว พิพากษาให้เพิกถอนคำวินิจฉัยของสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ 1 และคำวินิจฉัยของคณะกรรมการอุทธรณ์ที่ 1101/2547 ลงวันที่ 24 สิงหาคม 2547 และให้จำเลยจ่ายเงินค่าบริการทางการแพทย์ตามจำนวนที่กฎหมายกำหนด พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันฟ้อง (วันที่ 30 พฤศจิกายน 2547) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
 
 
                     จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
 
 
                     ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์เป็นผู้ประกันตน มีวิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาลเป็นโรงพยาบาลตามสิทธิ เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2546 เวลาประมาณ 19 นาฬิกา โจทก์ประสบอุบัติเหตุขับรถจักรยานยนต์เฉี่ยวชนกับรถยนต์ของบุคคลอื่น โจทก์ได้รับบาดเจ็บและหมดสติไป มีบาดแผลที่ขาหลายแห่งกระดูกขาหัก มีพลเมืองดีนำโจทก์ส่งโรงพยาบาลสุขุมวิท โจทก์รู้สึกและได้โทรศัพท์ไปหาบิดา หลังจากนั้นเวลาประมาณ 20 นาฬิกา บิดาโจทก์มาถึง ได้ขอให้โรงพยาบาลสุขุมวิทฉีดยาระงับการปวด และเอกซเรย์กระดูกขาให้และทำเรื่องขอย้ายโจทก์ไปรักษาที่โรงพยาบาลเวชธานี ทำบันทึกไว้ว่า ไม่ประสงค์จะให้โรงพยาบาลสุขุมวิทรักษาต่อไปตามบันทึกในเอกสารหมาย จล.1 โจทก์ได้รับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลเวชธานี โดยเข้ารักษาในวันเดียวกันนั้นเวลาประมาณ 22 นาฬิกา แพทย์ทำการผ่าตัดกระดูกดามกระดูกขาและรักษาบาดแผล เสียค่าบริการทางการแพทย์ประเภทผู้ป่วยในเป็นเงิน 62,676.10 บาท ตามเอกสารหมาย จล.5 วันที่ 28 และ 29มิถุนายน 2546 เป็นวันเสาร์และวันอาทิตย์เป็นวันหยุดราชการ ต่อมาวันที่ 30มิถุนายน 2546 โจทก์ย้ายไปรักษาตัวที่ดามกระดูกขาและรักษาบาดแผลตามสิทธิ โจทก์นำค่าบริการทางการแพทย์ที่ชำระไปที่โรงพยาบาลเวชธานี จำนวน62,676.10 บาท มาขอเบิกจากสำนักงานประกันสังคม แต่จำเลยปฏิเสธไม่จ่ายโดยให้เหตุผลว่า การที่โจทก์เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสุขุมวิทแล้วย่อมหมดสิทธิที่จะเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งอื่นอีก ยกเว้นโรงพยาบาลตามสิทธิเท่านั้น แล้ววินิจฉัยว่า พฤติการณ์ที่โจทก์ถูกนำส่งที่โรงพยาบาลสุขุมวิทโดยมิได้เกิดจากความสมัครใจของโจทก์ ประกอบกับความเจ็บป่วยที่โจทก์ได้รับจากอุบัติเหตุมีบาดแผลลักษณะฉกรรจ์ ตามภาพถ่ายเอกสารหมาย จ.2 ภาพที่ 4 จำเป็นต้องได้รับการรักษาและผ่าตัดโดยเร่งด่วนไม่อาจรอคอยได้ แต่โรงพยาบาลสุขุมวิทไม่ได้ดำเนินการรักษาในทันที กลับรอญาติของโจทก์มาถึงก่อนจึงน่าเชื่อว่าโรงพยาบาลสุขุมวิทยังไม่ได้ให้บริการทางการแพทย์แก่โจทก์เป็นให้การรักษาเบื้องต้น ต้องรอญาติของโจทก์มาติดต่อก่อนจึงจะตกลงรับโจทก์เข้ารักษาต่อไป โจทก์และบิดาโจทก์จึงยังมีสิทธิที่จะเลือกโรงพยาบาลที่เห็นว่าเหมาะสมที่สุดที่จะให้การรักษาโจทก์ ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและร่างกายของโจทก์ เมื่อบิดาโจทก์เห็นว่าโรงพยาบาลเวชธานีเป็นโรงพยาบาลที่มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกประจำอยู่และมีเครื่องมืออุปกรณ์การผ่าตัดที่สมบูรณ์กว่า จึงเชื่อถือและให้ความไว้วางใจให้ทำการรักษาโจทก์ ก็ย่อมเป็นสิทธิที่โจทก์พึงกระทำได้และขณะนั้นเป็นเวลากลางคืนเวลาประมาณ 20 นาฬิกา ฝนตกหนัก การเดินทางไปรักษาที่โรงพยาบาลเวชธานี ซึ่งใช้เวลาประมาณ 20 นาที ย่อมได้รับความสะดวกและปลอดภัยแก่โจทก์ซึ่งมีอาการป่วยหนัก การตัดสินใจของโจทก์จึงมีเหตุผลสมควรแล้ว ส่วนบิดาโจทก์ได้ทำหนังสือให้ไว้แก่โรงพยาบาลสุขุมวิทว่า ไม่ประสงค์จะรับการรักษาที่โรงพยาบาลสุขุมวิทต่อไปตามเอกสารหมาย จล.1 นั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โรงพยาบาลสุขุมวิทมิได้รับโจทก์เข้ารับการรักษา ถึงแม้บิดาโจทก์จะทำบันทึกเอกสารหมาย จล.1 ไว้ก็ไม่มีผลต่อการพิจารณาแต่อย่างใด ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ว่าโจทก์ซึ่งเป็นผู้ประกันตนเข้ารักการบริการทางการแพทย์ครั้งแรกที่โรงพยาบาลเวชธานีและเข้ารับการรักษาภายในระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงโดยไม่นับรวมวันหยุดราชการ โจทก์จึงมีสิทธิได้รับค่าบริการทางการแพทย์ตามที่จ่ายไปจริง ตามอัตราที่กำหนดไว้ในประกาศสำนักงานประกันสังคม เรื่องกำหนดจำนวนเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์(ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2541 ข้อ 4.2 กรณีจึงมีเหตุเพิกถอนคำสั่งของสำนักงานประกันสังคมเขตพื้นที่ 1 เอกสารหมาย จล.1 และคำวินิจฉัยของคณะกรรมการอุทธรณ์ที่ 1101/2547  ลงวันที่ 29 สิงหาคม 2547 เอกสารหมาย จล.7 และโจทก์มีสิทธิได้รับค่าบริการทางการแพทย์ตามอัตราที่กำหนดไว้ในประกาศสำนักงานประกันสังคมดังกล่าว และมีสิทธิเรียกดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันผิดนัด แต่โจทก์ขอนับแต่วันฟ้อง จึงกำหนดให้ตามขอ
 
 
    ปัญหาวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยมีว่า จำเลยจะต้องจ่ายเงินค่าบริการทางการแพทย์ที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ประกันตนจ่ายให้แก่โรงพยาบาลเวชธานีไปแล้วหรือไม่ โดยจำเลยอุทธรณ์ว่า เมื่อแพทย์โรงพยาบาลสุขุมวิทให้ยาลดความเจ็บปวดและทำการเอกซเรย์ให้ซึ่งถือเป็นการรักษาพยาบาลเบื้องต้นเพื่อรักษาชีวิตของโจทก์ไว้แล้วอาการเจ็บป่วยของโจทก์ในตอนหลังจึงไม่ถือเป็นกรณีฉุกเฉินแล้ว หากโจทก์จะย้ายก็ต้องย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลตามสิทธิเท่านั้น การย้ายไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเวชธานีเป็นการพ้นกรณีฉุกเฉินแล้ว โจทก์จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าทดแทนตามกฎหมายพิเคราะห์แล้ว ตามประกาศของสำนักงานประกันสังคมจำเลย เรื่องกำหนดจำนวนเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ (ฉบับที่ 2) ลงวันที่ 20 กรกฎาคม 2541 ระบุไว้ในข้อ 4.2 ว่า “กรณีจำเป็นต้องได้รับบริการทางการแพทย์เพราะเกิดอุบัติเหตุจ่ายเงินเป็นค่าบริการทางการแพทย์เฉพาะค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริงตามความจำเป็นภายในระยะเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมงนับแต่เวลาที่ผู้ประกันตนเข้ารับบริการทางการแพทย์ครั้งแรก...” ดังนั้นจำเลยจะต้องจ่ายค่าบริการทางการแพทย์ที่โจทก์จ่ายให้แก่โรงพยาบาลเวชธานีไปแล้วหรือไม่ จึงต้องพิจารณาก่อนว่า มีความจำเป็นที่โจทก์ผู้ประกันตนจะต้องเข้ารับบริการทางการแพทย์จากโรงพยาบาลเวชธานีหรือไม่ เห็นว่า หลังจากโจทก์ประสบอุบัติเหตุโจทก์ได้รับบาดเจ็บและหมดสติไปโดยโจทก์มีบาดแผลที่ขาหลายแห่งและกระดูกขาหัก มีพลเมืองดีนำโจทก์ส่งโรงพยาบาลสุขุมวิท โจทก์รู้สึกตัวและโทรศัพท์ไปหาบิดา เมื่อบิดาโจทก์มาถึงจึงขอให้โรงพยาบาลสุขุมวิทฉีดยาระงับอาการปวดและเอกซเรย์กระดูกขาให้ หลังจากนั้นจึงทำเรื่องขอย้ายโจทก์ไปรักษาที่โรงพยาบาลเวชธานี โดยทำบันทึกไว้ว่าไม่ประสงค์จะให้โรงพยาบาลสุขุมวิทรักษาโจทก์ต่อไปและโจทก์ได้รับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลเวชธานีโดยแพทย์ทำการผ่าตัดกระดูกดามกระดูกขาและรักษาบาดแผลเสียค่าบริการทางการแพทย์ประเภทผู้ป่วยในเป็นเงิน 62,676.10 บาท ซึ่งจะเห็นได้ว่าในขณะที่จะย้ายโจทก์ออกจากโรงพยาบาลสุขุมวิทไปรักษาต่อนั้น โรงพยาบาลสุขุมวิทได้ทำการรักษาเบื้องต้นเท่าที่จำเป็นไปบ้างแล้วขั้นตอนต่อไปจะต้องทำการผ่าตัดรักษากระดูกขาที่หัก แม้จะเป็นกรณีที่จะต้องได้รับการรักษาโดยเร็ว แต่ก็ได้ความว่าวิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาลซึ่งเป็นโรงพยาบาลตามสิทธิและโรงพยาบาลเวชธานีต่างก็มีสถานที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานครด้วยกัน ใช้ระยะเวลาเดินทางใกล้เคียงกัน การนำส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลตามสิทธิหรือโรงพยาบาลเวชธานีจึงไม่น่าจะใช้เวลาแตกต่างกันมากนักทั้งโรงพยาบาลสุขุมวิทได้ทำการรักษาเบื้องต้นเท่าที่จำเป็นให้แก่โจทก์บ้างแล้ว จึงไม่น่าจะเป็นไปได้ว่าหากนำส่งตัวโจทก์ไปรักษาที่โรงพยาบาลตามสิทธิแล้วการรักษาจะไม่ทันท่วงทีหรืออาจเกิดอันตรายร้ายแรงขึ้นแก่โจทก์ การที่บิดาโจทก์ส่งตัวโจทก์ไปรักษาที่โรงพยาบาลเวชธานี จึงเป็นเพราะบิดาโจทก์มีความเชื่อถือการรักษาพยาบาลของโรงพยาบาลเวชธานีนั่นเอง การที่นำส่งตัวโจทก์ไปรักษาที่โรงพยาบาลเวชธานีซึ่งมิใช่โรงพยาบาลตามสิทธิจึงมิใช่เป็นกรณีที่มีเหตุจำเป็นต้องรับการบริการทางแพทย์จากโรงพยาบาลเวชธานี แต่เป็นความประสงค์ที่จะได้รับการรักษาจากโรงพยาบาลแห่งนี้ ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่จำเลยจะต้องจ่ายเงินค่าบริการทางแพทย์ตามประกาศของสำนักงานประกันสังคมจำเลย ข้อ 4.2 ดังกล่าว กรณีไม่จำต้องวินิจฉัยไปถึงว่าโจทก์เข้ารับการบริการทางแพทย์ครั้งแรกที่โรงพยาบาลสุขุมวิทหรือโรงพยาบาลเวชธานีเพราะเมื่อไม่มีเหตุจำเป็นต้องรับการบริการทางแพทย์จากโรงพยาบาลเวชธานีเสียแล้ว จำเลยก็ไม่จำต้องจ่ายค่าบริการทางแพทย์ที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้ประกันตนจ่ายให้แก่โรงพยาบาลเวชธานีไปแล้วคืนให้แก่โจทก์ ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษามานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นด้วย อุทธรณ์ของจำเลยฟังขึ้น
 
 
 
     พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
 
 



อัพเดท ฎีกาน่าสนใจ

ขึ้นทะเบียนรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเกิน ๓๐ วัน ยังมีสิทธิได้รับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานได้ article
ลักษณะความผิดเดียวกัน แต่ระดับความร้ายแรงแตกต่างกัน นายจ้างพิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ผู้จัดการสาขา เสนอรายชื่อลูกค้าที่ขาดคุณสมบัติทำประกันชีวิต ถือว่าจงใจทำให้นายจ้างเสียหาย / ผิดร้ายแรง article
หยุดกิจการชั่วคราวตาม มาตรา ๗๕ article
สัญญาจ้างเป็นสัญญาต่างตอบแทน นายจ้างออกค่าใช้จ่ายในการเข้าทดสอบเพื่อรับเกียรติบัตร เมื่อทดสอบผ่านต้องทำงานกับนายจ้าง ๕ ปี บังคับใช้ได้ article
ศาลแรงงานกลางมีอำนาจสั่งรับพยานเอกสารได้ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม article
ประกอบธุรกิจแข่งขัน / ไปทำงานกับนายจ้างอื่น ในลักษณะผิดต่อสัญญาจ้าง เมื่อลูกจ้างได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้างตามสัญญาแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะบังคับ / ห้ามทำงานตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างอีกต่อไป article
คดีแรงงานเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้คดีอาญายกฟ้อง แต่พฤติกรรมการกระทำผิด เป็นเหตุให้นายจ้างไม่อาจไว้วางใจในการทำงานได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
เลิกจ้างเนื่องจากปรับโครงสร้างองค์กร แต่กำหนดรายชื่อไว้ล่วงหน้า ถือเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม article
การหักลบกลบหนี้ หนี้อันเกิดจากสัญญาจ้าง กรณีลูกจ้างกระทำผิดกับสิทธิประโยชน์ที่มีสิทธิได้รับตามสัญญาจ้าง ถือเป็นมูลหนี้อันเป็นวัตถุอย่างเดียวกันหักลบกลบหนี้กันได้ article
เล่นการพนันฉลากกินรวบ เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน กรณีร้ายแรง article
กรณีไม่ถือเป็นการประกอบธุรกิจแข่งขันหรือไม่ถือว่าทำงานกับนายจ้างใหม่ในลักษณะธุรกิจเดียวกับนายจ้าง article
สัญญาฝึกอบรม นายจ้างกำหนดเบี้ยปรับได้ เป็นสัญญาที่เป็นธรรม article
ค้ำประกันการทำงาน หลักประกันการทำงาน การหักลบกลบหนี้ค่าเสียหายจากการทำงาน article
ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์แต่ตนเอง เรียกรับเงินจากลูกค้า ถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ article
ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา มาทำงานสายประจำ ถือว่า กระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สหภาพแรงงานทำบันทักข้อตกลงเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างกับนายจ้าง อันส่งผลกระทบต่อสิทธิหน้าที่ของสมาชิก ขัดกับข้อตกลงเดิมและมิได้ขอมติที่ประชุมใหญ่ ข้อตกลงดังกล่าวไม่อาจใช้บังคับได้ article
ขอเกษียณอายุก่อนกำหนดตามประกาศ ถือเป็นการสมัครใจเลิกสัญญาจ้างแรงงานต่อกัน มิใช่การเลิกจ้างหรือการเกษียณอายุ จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยตามระเบียบกรณีเกษียณอายุ article
สถาบันวิจัยอันเป็นส่วนหนึ่งของกิจการมหาวิทยาลัยถือเป็นหน่วยงานของรัฐ ได้รับยกเว้น ไม่อยู่ภายใต้บังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา ๔ (๑) article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า จากการเลิกจ้างมีอายุความฟ้องร้องได้ภายใน ๑๐ ปี article
ทะเลาะวิวาทเรื่องส่วนตัวไม่ส่งผลกระทบต่อการบังคับบัญชา ไม่เป็นความผิด กรณีร้ายแรง ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ article
พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน มิใช่ทายาทผู้มีสิทธิรับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ และเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ตามพระราชบัญญัติ ประกันสังคม มาตรา ๗๓ และมาตรา ๗๗ article
ขับรถเร็วเกินกว่าข้อบังคับกำหนด เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนคำสั่งโยกย้าย เลิกจ้างได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ประกาศใช้ระเบียบใหม่ ไม่ปรากฏว่ามีพนักงานโต้แย้งคัดค้าน ถือว่าทุกคนยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ article
เงินค่าตอบแทนพิเศษกับเงินโบนัส มีเงื่อนไขต่างกัน หลักเกณฑ์การจ่ายต่างกัน จึงต้องพิจารณาต่างกัน article
ทายาทผู้มีสิทธิได้รับเงินกองทุนเงินทดแทน article
ค่ารถแทนรถยนต์ประจำตำแหน่ง ไม่ถือเป็นค่าจ้าง และ ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสมให้ถือตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานที่กำหนดไว้ article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างไม่ตกลง ขอเวลาตัดสินใจและหยุดงานไป นายจ้างแจ้งให้กลับเข้าทำงานตามปกติ ถือว่านายจ้างยังไม่มีเจตนาเลิกจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ แอบนอนหลับในเวลาทำงาน ถือเป็นเหตุในการเลิกจ้างได้ เลิกจ้างเป็นธรรม article
ลาออกโดยไม่สุจริต ไม่มีผลใช้บังคับ article
ทำความผิดคล้ายคลึงกันแต่ไม่เหมือนกัน พิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ประกอบธุรกิจ บริการ ด่าลูกค้าด้วยถ้อยคำหยาบคาย " ควาย " ถือเป็นการกระทำความผิดกรณีร้ายแรง article
ข้อบังคับ ระบุให้ผู้บังคับบัญชาเหนือกว่ามีอำนาจแก้ไข เพิ่มโทษ หรือลดโทษได้ การยกเลิกคำสั่งลงโทษเดิมและให้ลงโทษใหม่หนักกว่าเดิมจึงสามารถทำได้ article
เลือกปฏิบัติในการลงโทษระเบียบการห้ามใส่ตุ้มหูมาทำงาน บังคับใช้ได้ แต่เลือกปฏิบัติในการลงโทษไม่ได้ article
ลงโทษพักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างและเตือนในคราวเดียวกันได้ ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน article
จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย article
ข้อตกลงรับเงินและยินยอมปลดหนี้ให้แก่กัน ถือเป็นการตกลงระงับข้อพิพาทแม้จะทำขึ้นก่อนคำสั่งเลิกจ้างมีผลใช้บังคับ article
ศาลแรงงานมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานที่คู่ความอ้างส่งศาลได้ แม้มิได้ระบุบัญชีพยานไว้ก็ตาม article
สัญญาจ้างห้ามลูกจ้างไปทำงานกับนายจ้างใหม่ที่ประกอบธุรกิจเช่นเดียวกันมีกำหนดเวลา บังคับใช้ได้ article
เลิกจ้างและรับเงินค่าชดเชย ใบรับเงิน ระบุขอสละสิทธิ์เรียกร้องเงินอื่นใดใช้บังคับได้ ลูกจ้างไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องสินจ้างและค่าเสียหายได้อีก article
เกษียณอายุ 60 ปี ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยนับแต่วันครบกำหนดเกษียณอายุ แม้นายจ้างไม่ได้บอกเลิกจ้างก็ตาม article
ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องและเพิกเฉยไม่ดูแลผลประโยชน์ของนายจ้าง เป็นเหตุให้นายจ้างไม่ไว้วางใจในการทำงานได้เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ละเลยต่อหน้าที่ ไม่รายงานเคพีไอ นายจ้างตักเตือนแล้ว ถือว่าผิดซ้ำคำเตือน เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ทำสัญญาจ้างต่างด้าวทำงานในอาชีพต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว สัญญาจ้างถือเป็นโมฆะ article
ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง article
ศาลมีคำสั่งให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษาตามหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน ในขณะที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ยุติ ต้องสืบพยานใหม่และพิพากษาใหม่ไปตามรูปคดี article
แม้สัญญาจ้างไม่ได้ระบุระยะเวลาทดลองงานไว้ แต่นายจ้างก็สามารถประเมินผลการทำงานของลูกจ้างได้ article
การควบรวมกิจการ สิทธิและหน้าที่โอนไปเป็นของบริษัทใหม่ การจ่ายเงินสมทบบริษัทใหม่ที่ควบรวมจึงมีสิทธิจ่ายเงินสมทบในอัตราเดิมตามสิทธิ มิใช่ในอัตราบริษัทตั้งใหม่ article
เลิกจ้างรับเงินค่าชดเชยแล้วตกลงสละสิทธิ์จะไม่เรียกร้องผละประโยชน์ใดๆ ถือว่าสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเป็นอันระงับไป article
รับเหมาก่อสร้าง ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบ จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมแทนผู้รับเหมาช่วง หากผู้รับเหมาช่วงไม่นำส่งเงินสมทบตามกฎหมายโดยคำนวณจากอัตราค่าจ้างที่ระบุตามแบบ ( ภ.ง.ด. 50 ) และบัญชีงบดุล article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานระบุห้ามทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกาย ผู้บังคับบัญชา เพื่อนพนักงาน ทั้งในสถานที่ทำงาน หรือสถานที่อื่นๆ ฝ่าฝืนถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง ใช้บังคับได้ไม่ขัดต่อกฎหมาย article
ไส้ติ่งอักเสบ แพทย์วินิจฉัยให้ผ่าตัด ถือเป็นกรณีฉุกเฉิน เบิกค่ารักษาได้ มีสิทธิรับเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ได้ article
ค่าเช่าที่พัก ค่าใช้จ่ายเดินทางเป็นสวัสดิการไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่ารถยนต์ซึ่งกำหนดเป็นสวัสดิการไว้ชัดเจนแยกจากฐานเงินเดือนปกติ ถือเป็นสวัสดิการไม่ใช่ค่าจ้าง article
ละเมิดข้อตกลงสภาพการจ้าง ละเมิดสัญญาจ้าง มีอายุความ 10 ปี มิใช่ 1 ปี article
พฤติกรรมการจ้างที่ถือว่าเป็นการจ้างแรงงาน ถือเป็นลูกจ้าง / นายจ้างตามกฎหมาย article
พนักงานขายรถยนต์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ประจำบูธ ตามที่ได้รับมอบหมาย ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
เลือกตั้งคณะกรรมการสหภาพฯ ขัดต่อข้อบังคับสหภาพหรือขัดต่อกฎหมาย ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบ article
ฝ่าฝืนสัญญาจ้าง กรณีห้ามทำการแข่งขันกับนายจ้างหรือทำธุรกิจคล้ายคลึงกับนายจ้างเป็นเวลา 2 ปี นับจากสิ้นสุดสัญญาต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้าง article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระบุให้นายจ้างเลิกจ้างเพราะเหตุคนล้นงาน ปรับลด ขนาดองค์กรได้ ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะเลิกจ้างลูกจ้างได้ article
ข้อบังคับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรณีตัดสิทธิ์รับเงินสมทบพร้อมผลประโยชน์หากกระทำผิดถูกปลดออกจากงานบังคับใช้ได้ article
ทะเลาะวิวาทกัน นอกเวลางาน นอกบริเวณบริษัทฯ ไม่ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนไม่ไปตรวจสารเสพติดซ้ำตามคำสั่งและนโยบาย ถือว่าฝ่าฝืน ข้อบังคับ หรือ ระเบียบ กรณีร้ายแรง article
วันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วน article
เป็นลูกจ้างที่มีอำนาจกระทำการแทนนายจ้างในการจ้างงาน ไม่มีสิทธิได้รับค่าทำงานในวันหยุด และลักทรัพย์เอาต้นไม้ของนายจ้างไป ถือว่ากระทำผิดอาญาแก่นายจ้าง เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ผลการทำงานดีมาโดยตลอดและไม่เคยกระทำผิดมาก่อน แต่ปีสุดท้ายผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ถือเป็นเหตุที่จะอ้างในการเลิกจ้าง article
ได้รับบาดเจ็บรายการเดียว เข้ารักษา 2 ครั้ง ถือว่าเป็นการรักษารายการเดียว นายจ้างสำรองจ่ายเพิ่มเติมไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ใช่ 200,000 บาท article
ผู้บริหารบริษัท ฯ ถือเป็นลูกจ้างหรือไม่ ดูจาก_________ ? article
ขับรถออกนอกเส้นทาง แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรงและก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้าง นายจ้างหักเงินประกันการทำงานได้ article
ค่าจ้างระหว่างพักงาน เมื่อข้อเท็จจริง ลูกจ้างกระทำความผิดจริง จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างระหว่างพักงาน article
“ นายจ้าง ” ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 article
สัญญารักษาความลับ ข้อมูลทางการค้า (ห้ามประกอบหรือรับปฏิบัติงานแข่งขันนายจ้าง) มีกำหนด 2 ปี บังคับใช้ได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย และการกำหนดค่าเสียหาย ถือเป็นเบี้ยปรับตามกฎหมาย ศาลปรับลดได้ตามสมควร article
เงินรางวัลการขายประจำเดือน จ่ายตามเป้าหมายการขาย ที่กำหนดไว้ ไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่าโทรศัพท์ เหมาจ่าย ถือเป็นค่าจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ 3 วันทำการ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เลิกจ้างเป็นธรรมไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ลาออกมีผลใช้บังคับแล้ว ออกหนังสือเลิกจ้างภายหลังใช้บังคับไม่ได้ article
ตกลงรับเงิน ไม่ติดใจฟ้องร้องอีกถือเป็นการตกลงประนีประนอมกันบังคับได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย
เลิกจ้างระหว่างทดลองงาน ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ข้อตกลงว่า “หากเกิดข้อพิพาทตามสัญญาจ้างแรงงาน ให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย” ไม่เกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมายแรงงาน เมื่อเกิดสิทธิตามกฎหมาย ฟ้องศาลแรงงานได้ โดยไม่ต้องให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย article
เลิกจ้างด้วยเหตุอื่น อันมิใช่ความผิดเดิมที่เคยตักเตือน ไม่ใช่เหตุที่จะไม่จ่ายค่าชดเชย เลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย article
นำรถยนต์ไปใช้ในกิจธุระส่วนตัว มีพฤติกรรมคดโกง ไม่ซื่อตรง พฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต ไม่น่าไว้วางใจ ลงโทษปลดออกจากการทำงานได้ article
การกระทำที่กระทบต่อเกียรติ ชื่อเสียงของนายจ้าง และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้กระทำนอกสถานที่ทำงานและนอกเวลางาน ก็ถือว่า ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกรณีร้ายแรง article
สัญญาค้ำประกันการทำงานไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ต้องรับผิดชอบตลอดไป article
ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเลิกจ้างได้ ถือว่าเลิกจ้างเป็นธรรมและความผิดที่ลงโทษแล้วจะนำมาลงโทษอีกไม่ได้ article
ผิดสัญญาจ้างไปทำงานกับคู่แข่ง นายจ้างฟ้องเรียกค่าเสียหายตามสัญญาได้ แต่ค่าเสียหาย เป็นดุลพินิจของศาลจะกำหนด article
จงใจกระทำผิดโดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้นายจ้างเสียหาย ถือว่า กระทำละเมิดต่อนายจ้าง ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น article
ตกลงสละสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย ภายหลังเลิกจ้าง ใช้บังคับได้ ไม่เป็นโมฆะ article
ก้าวร้าวไม่ให้ความเคารพผู้บังคับบัญชา ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้ามิใช่ค่าจ้าง คิดดอกเบี้ยในอัตรา 7. 5 ต่อปี article
ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของนายจ้างในเรื่องส่วนตัวเป็นประจำ ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่กาปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต เลิกจ้างเป็นธรรม article
สั่งให้พนักงานขับรถ ขับรถออกนอกเส้นทางแต่ไม่ได้มีส่วนในการขับรถ ถือว่าผิดต่อสัญญาจ้าง แต่ไม่ต้องรับผิดอันมีผลโดยตรงจากมูลละเมิด ( ขับรถโดยประมาท ) article
จ่ายของสมนาคุณให้ลูกค้า โดยไม่ตรวจสอบบิลให้ถูกต้อง มิใช่ความผิดกรณีร้ายแรงไม่ใช่การทุจริตต่อหน้าที่ แต่ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เสร็จลุล่วงไปโดยถูกต้อง และสุจริต เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ฟ้องประเด็นละเมิด กระทำผิดสัญญาจ้าง ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง มีอายุความ 10 ปี article
ตกลงยินยอมให้หักค่าจ้างชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันเงินกู้ นายจ้างสามารถหักค่าจ้างได้ตามหนังสือยินยอมโดยไม่ต้องฟ้อง article
กระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้างและประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง article
“ งานโครงการตามมาตรา 118 วรรค 4 ” บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ว่าจ้างลูกจ้างทำงานตามโครงการที่รับเหมา ถือว่าจ้างงานในปกติธุรกิจของนายจ้าง มิใช่งานโครงการ article
เงินโบนัสต้องมีสภาพการเป็นพนักงานจนถึงวันกำหนดจ่าย ออกก่อนไม่มีสิทธิได้รับ article
ระเบียบกำหนดจ่ายเงินพิเศษ ( gratuity ) เนื่องจากเกษียณอายุ โดยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายแตกต่างจากการจ่ายค่าเชย ถือว่านายจ้างยังไม่ได้จ่ายค่าชดเยตามกฎหมาย article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด

เลขที่ 511/4 ถนนประชาอุทิศ 117/1 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร (10140)

โทร/Tel : 02 - 8159522, แฟกซ์/Fax : 02 - 8159523, มือถือ/Mobile : 081 - 7936156

อีเมล/E-mail : sawai.prm@gmail.com, เว็บไซต์/Web : www.parameelaw.com