ดาบซามูไร สัญชาติไทย
ดาบซามูไรอาวุธประจำกายของนักรบโบราณแดนอาทิตย์อุทัย มีทั้งความสวยงาม น่าเกรงขามและแฝงวัฒนธรรมอันลึกซึ้ง จนทำให้หลายคนหลงเสน่ห์อยากมีเก็บไว้ครอบครองอย่างไรก็ตาม ในอดีต นักสะสมต้องสั่งนำเข้าจากต่างประเทศเท่านั้นแต่จากการบุกเบิกของคนหนุ่มอย่าง “สาธิต ศิวารัตน์” ที่พลิกผันตัวเองจากนักสะสมมาสู่ผู้ผลิตดาบซามูไรสัญชาติไทยซึ่งผลงานผ่านการพิสูจน์คุณภาพมานับ 10 ปี จนก้าวสู่สินค้าส่งออกไปทั่วโลก
สาธิต ศิวารัตน์ อายุ 32 ปีเจ้าของกิจการดาบซามูไร แบรนด์ Thaitsuki & Bushiblades เผยว่าสนใจดาบซามูไรมาตั้งแต่เด็ก ศึกษาเรียนรู้ด้วยตัวเองเรื่อยมา และอยากมีไว้เก็บสะสมทว่า ดาบซามูไรของแท้จากประเทศญี่ปุ่น ราคาสูงมาก และต้องมีใบอนุญาตพกพายากที่นำออกนอกประเทศ ดังนั้น ดาบซามูไรสะสม ส่วนใหญ่จะเป็นดาบใหม่ทำเลียนแบบซึ่งเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ในประเทศไทยยังไม่มีผู้ผลิตเลย ราคาจึงแพงมากต้องสั่งนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา
ด้วยความรักในเสน่ห์ของดาบซามูไรอย่างยิ่งประกอบกับมีความพร้อมเรื่องวัสดุอุปกรณ์เพราะครอบครัวทำธุรกิจรับทำใบมีดสำหรับใช้กับเครื่องจักรอุตสาหกรรมเป็นแรงผลักดันให้หนุ่มคนนี้ ริเริ่มผลิตดาบซามูไรขึ้นเองโดยศึกษาหาข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต นิตยสาร ดูต้นแบบจากดาบสะสมรวมถึงเดินทางไปดูของแท้ถึงประเทศญี่ปุ่นที่สำคัญนำพื้นฐานความรู้ด้านผลิตเหล็กจากธุรกิจครอบครัวมาต่อยอด
“ตอนแรกผมใช้วิธีไปจ้างช่างที่อรัญญิกตีดาบให้ แต่ไม่ได้อย่างใจ เลยลองทำเองเลยซึ่งข้อมูลการทำดาบซามูไร จะไม่เป็นที่เปิดเผยมากนัก ดังนั้น การผลิตของผมอาศัยเรียนรู้ด้วยตัวเอง และบอกรายละเอียดให้ช่างทำตามที่ต้องการซึ่งดาบหนึ่งเล่มมีองค์ประกอบมากมาย และทุกส่วนมีชื่อเรียกเฉพาะตัวทั้งหมด ดังนั้นคนที่จะทำได้ ต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับดาบซามูไรจริงๆ”สาธิตอธิบายเสริม
กว่าจะสำเร็จอย่างใจหวัง เขาบอกว่าใช้เวลาลองผิดลองถูกนานนับปีและเริ่มทำตลาดเบื้องต้นผ่านวิธีส่งรูปและข้อมูลสินค้าทางอีเมลล์ไปยังผู้แทนจำหน่ายดาบซามูไรทั่วโลกซึ่งได้รับความสนใจสั่งออเดอร์จากตัวแทนรายใหญ่ ประเทศสหรัฐฯช่วยให้ขยายตลาดต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
สำหรับดาบซามูไรที่ผลิตขึ้น มีทั้งหมด 3 ประเภทคือ Katana (ดาบใบมีดยาว 29 นิ้ว ด้าม 11 นิ้ว) Wakisashi (ดาบใบมีดยาว 12-24 นิ้ว) และ Tanto (มีดสั้นพกพา) ถึงปัจจุบันมีทั้งหมด 15 แบบราคาตั้งแต่ประมาณหนึ่งหมื่นบาทถึงสี่หมื่นกว่าบาท ลูกค้ามี 3 กลุ่มหลัก ได้แก่กลุ่มนักสะสม กลุ่มนี้จะสนใจถึงรูปแบบที่ถูกต้องตรงกับดาบโบราณ กลุ่มของตกแต่งจะสนใจรูปลักษณ์ภายนอก ไม่เน้นการใช้งานจริง และกลุ่มนักกีฬาผู้ใช้จะสนใจคุณภาพเนื้อดาบเป็นสำคัญซึ่งดาบที่ทำขึ้นขณะนี้สามารถตอบความต้องการได้ครบทั้ง 3 กลุ่มส่งออกไปแทบจะทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ ยุโรป ออสเตรเลีย อเมริกาใต้ ฯลฯรวมถึงลูกค้าในประเทศไทยด้วย
สาธิต เผยว่า เริ่มบุกเบิกมาตั้งแต่ 10 ปีที่แล้ว ถือเป็นรายแรกในประเทศ ขณะที่ปัจจุบัน มีผู้ผลิตรายอื่นๆ เกิดขึ้นบ้างแต่เขายังเป็นผู้ผลิตรายเดียวที่ทำตลาดส่งออกอย่างจริงจัง
ทั้งนี้ จุดเด่นอยู่ที่ความสวยงาม ประณีตและถูกต้องเหมือนตามต้นตำรับจริงแทบทุกประการ สาธิตถึงกับให้คะแนนผลงานของตัวเองว่าเหมือนจริงมากกว่า 90% ขึ้นไป และส่วนที่เหลือสามารถพัฒนาต่อให้สมบูรณ์แบบ 100% ได้
สำหรับวัสดุเกือบทั้งหมดเป็นของในประเทศนำมาประยุกต์ ยกเว้นเชือดไหมนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น เช่นด้ามจับที่เป็นหนังปลากระเบน ใช้ว่าจ้างโรงงานทำเครื่องหนังปลากระเบนหรืออุปกรณ์ตกแต่งต่างๆ ว่าจ้างโรงงานทำเครื่องประดับเงิน เป็นต้นขณะที่ส่วนใบมีดที่ถือเป็นหัวใจสำคัญของดาบซามูไร ทำมาจากเหล็กไฮคาร์บอนสตีลผสมผสานระหว่างเหล็กแข็ง และเหล็กอ่อน ให้เกิดลวดลายคลื่นที่คมดาบตรงตามความต้องการนักสะสมในตลาด
ส่วนการผลิตนั้น มีแรงงาน 10 คน ที่มีชำนาญอย่างสูงโดยขั้นตอนการทำผสมผสานระหว่างแฮนด์เมด กับนำเครื่องจักรมาช่วยงาน เช่นใช้ค้อนไฮโดรลิกในการตีดาบ ซึ่งช่วยเพิ่มความรวดเร็ว และคุณภาพสม่ำเสมอรวมถึงลดต้นทุนได้กว่า 80% ทั้งนี้ กำลังการผลิตโดยเฉลี่ย เต็มที่ประมาณ 60 เล่มต่อเดือนเท่านั้น เพราะเป็นงานฝีมือและมีขั้นตอนซับซ้อน
ข้อเท็จจริง เจ้าของธุรกิจคนนี้ เรียนจบปริญญาโท วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จากสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เคยทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนส่วนดาบซามูไรเบื้องต้นแค่อยากทำเพื่อความสุขส่วนตัว แต่ปัจจุบันกลับกลายเป็นธุรกิจหลักของครอบครัว มีเงินหมุนเวียนนับ 8 หลักต่อปีที่สำคัญมีตลาดกำลังสูงรองรับค่อนข้างแน่นอน มีลูกค้ารอต่อคิวซื้อจนผลิตไม่ทันไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจที่ผ่านมาจะเป็นเช่นไร แทบไม่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจเลย
“ความตั้งใจของผม จะพยายามรักษาคุณภาพให้ดีพัฒนาแบบใหม่สม่ำเสมอ และอยากทำตลาดในต่างประเทศด้วยตัวเองและหวังว่าสักวันหนึ่งดาบจากฝีมือไทยจะสร้างชื่อให้คนต่างชาติได้รู้จักดาบญี่ปุ่นคุณภาพเมดอินไทยแลนด์บ้าง” สาธิต กล่าว