คำพิพากษาฎีกาที่ 2033/2551
มีสวัสดิการกองทุนสหภาพบังคับให้กรรมการสหภาพจ่ายเงินกองทุนสหภาพได้
คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทั้งเก้าในฐานะกรรมการผู้เบิกจ่ายเงินกองทุนสมาชิกสหภาพแรงงานเทยินโพลีเอสเตอร์จ่ายเงินกองทุนสมาชิกสหภาพแรงงานเทยินโพลีเอสเตอร์เป็นเงิน 200,000 บาท ให้แก่โจทก์เพื่อเป็นการช่วยเหลือเนื่องจากโจทก์เป็นกรรมการของสหภาพแรงงานเทยินโพลีเอสเตอร์ที่ถูกนายจ้างเลิกจ้างเนื่องจากการแรงงานสัมพันธ์ตามมติที่ประชุมสมัชชาของสหภาพแรงงานเทยินโพลีเอสเตอร์ ศาลฎีกาพิพากษาคดีถึงที่สุดให้จำเลยทั้งเก้าจ่ายเงินช่วยเหลือจากกองทุนสมาชิกสหภาพแรงงานเทยินโพลีเอสเตอร์จำนวน 200,000บาท แก่โจทก์ศาลแรงงานกลางออกคำบังคับและตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดี จำเลยที่1 ถึงที่ 3 และที่ 5 ถึงที่ 9 ยื่นคำร้องว่า จำเลยที่ 1 ที่ 3 ที่ 6 ที่ 7 และที่ 9 ไม่ได้รับเลือกให้เป็นกรรมการผู้มีสิทธิเบิกจ่ายเงินกองทุนสมาชิกสหภาพแรงงานเทยินโพลีเอสเตอร์ในปี 2548 จึงไม่สามารถปฏิบัติตามคำพิพากษาได้ขอให้เพิกถอนหมายบังคับคดีศาลแรงงานกลางมีคำสั่งว่า ไม่ปรากฏว่าการออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ยกคำร้อง เจ้าพนักงานบังคับคดีมีคำสั่งอายัดเงินในบัญชีเงินฝากธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) ของกองทุนสมาชิกสหภาพแรงงานเทยินโพลีเอสเตอร์จำนวน 200,000 บาท เพื่อชำระหนี้แก่โจทก์ ผู้ร้องยื่นคำร้องว่าผู้ร้องไม่ได้เป็นลูกหนี้หรือเป็นจำเลยตามคำพิพากษา แต่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์เงินฝากในบัญชีกองทุนสมาชิกสหภาพแรงงานเทยินโพลีเอสเตอร์ได้รับความเสียหายจากการอายัดเงินในบัญชีดังกล่าว และในปี 2548 จำเลยที่ 1 ที่ 3 ที่ 6 ที่ 7 และที่ 9 ไม่ได้เป็นกรรมการผู้มีสิทธิเบิกจ่ายเงินกองทุนสมาชิกสหภาพแรงงานเทยินโพลีเอสเตอร์ศาลฎีกาไม่ได้พิพากษาว่าหากจำเลยทั้งเก้าไม่ปฏิบัติให้ถือเอาคำพิพากษาเป็นการแสดงเจตนา เมื่อจำเลยทั้งเก้าไม่อาจปฏิบัติตามคำพิพากษาได้ เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงไม่มีอำนาจอายัดเงินในบัญชีของผู้ร้อง ขอให้เพิกถอนคำสั่งอายัดเงินของเจ้าพนักงานบังคับคดีและงดการบังคับคดีไว้ก่อน
ศาลแรงงานกลางมีคำสั่งว่า โจทก์และเจ้าพนักงานบังคับคดีได้ดำเนินการบังคับคดีตามกฎหมายแล้ว ให้ยกคำร้อง
ผู้ร้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ผู้ร้องอุทธรณ์ว่าจำเลยทั้งเก้าเป็นเพียงผู้ทำหน้าที่เบิกจ่ายเงินจากกองทุนสมาชิกสหภาพแรงงานเทยินโพลีเอสเตอร์ ต่อมาจำเลยที่ 1 ที่ 2 (ที่ถูกน่าจะเป็นที่ 3) ที่ 6 ที่ 7 และที่ 9 ไม่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการผู้มีสิทธิเบิกจ่ายเงินจึงเป็นเหตุให้ขัดข้องพ้นวิสัยโจทก์ไม่ได้ฟ้องผู้ร้องเป็นจำเลย โจทก์ย่อมไม่อาจขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดเงินกองทุนสมาชิกสหภาพแรงงานเทยินโพลีเอสเตอร์ของผู้ร้องได้นั้น เห็นว่า โจทก์ฟ้องว่าที่ประชุมสมัชชาของสหภาพแรงงานเทยินโพลีเอสเตอร์ได้ลงมติให้จ่ายเงินกองทุนสมาชิกสหภาพแรงงานเทยินโพลีเอสเตอร์แก่โจทก์แล้วแต่จำเลยทั้งเก้าในฐานะกรรมการผู้มีหน้าที่เบิกจ่ายเงินกองทุนสมาชิกสหภาพแรงงานเทยินโพลีเอสเตอร์ไม่ดำเนินการเบิกจ่ายเงินตามมติดังกล่าวแก่โจทก์ ซึ่งจำเลยทั้งเก้าให้การด้วยวาจาว่าที่ประชุมใหญ่ของสหภาพแรงงานเทยินโพลีเอสเตอร์ไม่ได้ลงมติเสียงข้างมากให้จ่ายเงินช่วยเหลือแก่โจทก์ ประเด็นพิพาทในคดีนี้จึงเป็นกรณีที่เกี่ยวข้องโดยตรงว่า ที่ประชุมใหญ่ของสหภาพแรงงานเทยินโพลีเอสเตอร์ผู้ร้องได้มีมติเสียงข้างมากให้จ่ายเงินช่วยเหลือจากกองทุนสมาชิกสหภาพแรงงานเทยินโพลีเอสเตอร์แก่โจทก์หรือไม่ เพียงใด ซึ่งศาลฎีกาได้วินิจฉัยว่า ที่ประชุมใหญ่ของสหภาพแรงงานเทยินโพลีเอสเตอร์ผู้ร้องมีมติให้จ่ายเงินช่วยเหลือจากกองทุนสมาชิกสหภาพแรงงานเทยินโพลีเอสเตอร์จำนวน 200,000 บาท แก่โจทก์ จึงได้พิพากษาให้จำเลยทั้งเก้าจ่ายเงินช่วยเหลือจากกองทุนสมาชิกสหภาพแรงงานเทยินโพลีเอสเตอร์จำนวน 200,000บาท แก่โจทก์ คำพิพากษาศาลฎีกาจึงบังคับโดยตรงต่อกองทุนสมาชิกสหภาพแรงงานเทยินโพลีเอสเตอร์ที่ต้องจ่ายเงินแก่โจทก์เพียงแต่ในขณะที่ฟ้องคดีนี้จำเลยทั้งเก้าเป็นกรรมการผู้มีหน้าที่เบิกจ่ายเงินกองทุนสมาชิกสหภาพแรงงานเทยินโพลีเอสเตอร์ จึงให้จำเลยทั้งเก้าเป็นผู้จ่ายเงินดังกล่าวจากกองทุนสมาชิกสหภาพแรงงานเทยินโพลีเอสเตอร์ดังนั้น เมื่อปรากฏว่าในปี 2548 จำเลยบางคนไม่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการผู้มีหน้าที่เบิกจ่ายเงินแล้วเช่นนี้ เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงมีอำนาจสั่งอายัดเงินกองทุนสมาชิกสหภาพแรงงานเทยินโพลีเอสเตอร์จำนวน 200,000 บาท จากบัญชีเงินฝากธนาคารเพื่อชำระตามคำพิพากษาศาลฎีกาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 282 จึงไม่มีเหตุให้เพิกถอนคำสั่งอายัดเงินของเจ้าพนักงานบังคับคดี คำสั่งศาลแรงงานกลางที่ยกคำร้องของผู้ร้องจึงชอบด้วยพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน พ.ศ. 2522 มาตรา 58 แล้วอุทธรณ์ของผู้ร้องฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน