คำพิพากษาฎีกาที่ 1604 /2551
โครงการออกก่อนกำหนด “โครงการทางเลือกใหม่” กำหนดเงื่อนไขไว้ไม่ขัดต่อกฎหมายใช้บังคับได้
โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า โจทก์เคยเป็นลูกจ้างของจำเลยครั้งสุดท้ายดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์ธุรกิจสินเชื่อและบริการ ได้รับค่าจ้างเดือนละ 78,200 บาท เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2547 จำเลยได้อนุญาตให้โจทก์ออกจากงานก่อนเกษียณอายุตามประกาศธนาคารออมสิน เรื่อง โครงการทางเลือกใหม่ (Early Retirement) ประจำปี 2547 ประกาศดังกล่าวโจทก์มีสิทธิได้รับเงินตอบแทนพิเศษและเงินชดเชย 1,876,800 บาท และโจทก์ยังมิได้รับเงินจากจำเลย คือ เงินประกันตัว 50,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยนับถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2547 เงินพ้นหน้าที่ 92,000 บาท และเงินตอบแทนพิเศษเพิ่มเติม 56,400 บาท พร้อมดอกเบี้ยของเงินดังกล่าวอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี นับแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2547 และเงินเดือนค้างจ่ายในส่วนที่ปรับเงินเดือน 9,400 บาท พร้อมดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15 ต่อปีนับแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2547 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ ขอให้บังคับจำเลยจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวทั้งหมดและดอกเบี้ยให้แก่โจทก์
จำเลยให้การว่า โจทก์เคยเป็นพนักงานของจำเลยและได้ลาออกจากงานตามโครงการทางเลือกใหม่ (Early Retirement) ประจำปี 2547 และโจทก์มีสิทธิได้รับเงินประเภทต่างๆ ตามฟ้อง ตามประกาศธนาคารออมสิน เรื่อง โครงการทางเลือกใหม่ ประจำปี 2547 ได้กำหนดเงื่อนไขถึงคุณสมบัติของพนักงานที่เข้าร่วมโครงการไว้ว่า 2.4 พนักงานที่อยู่ระหว่างถูกสอบสวนความผิดทางวินัยหรือความรับผิดทางละเมิด 2.4.2 พนักงานที่อยู่ระหว่างถูกสอบสวนความรับผิดทางละเมิดให้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ได้ โดยผู้สมัครจะต้องยินยอมให้ธนาคารอายัดผลตอบแทนไว้ก่อน และธนาคารจะจ่ายผลตอบแทนให้ตามผลการสอบสวนเมื่อผลการสอบสวนสิ้นสุดลงและธนาคารได้มีคำสั่งเป็นอย่างหนึ่งอย่างใด โดยคำนวณผลตอบแทนถึงวันที่ให้ออกตามโครงการฯ และตามใบสมัครโครงการทางเลือกใหม่ ประจำปี 2547 ได้กำหนดเงื่อนไขว่า "ในกรณีที่ข้าพเจ้ามีภาระผูกพันหรือหนี้สินค้างชำระอยู่กับธนาคารหรือจะต้องมีความรับผิดที่ก่อให้เกิดภาระผูกพันหรือหนี้สินอื่นใดต่อไปในอนาคตต่อธนาคารข้าพเจ้ายินยอมที่จะรับผลตอบแทนตามโครงการฯ ภายหลังจากที่ได้มีการนำเงินไปชำระภาระผูกพันหรือหนี้สินดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว" การที่โจทก์สมัครใจเข้าร่วมโครงการ โจทก์ได้ยอมรับเงื่อนไขและได้ทราบหลักเกณฑ์ตามประกาศและใบสมัครของจำเลยแล้ว จำเลยได้ดำเนินการอายัดเงินตอบแทนพิเศษและเงินพ้นหน้าที่ของโจทก์ไว้ทั้งสิ้น เนื่องจากโจทก์ถูกฟ้องเป็นจำเลยที่ 3 ในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 2674/2546 ของศาลแพ่ง ระหว่างบริษัท วี.เอส.วี.โฮลดิ้ง จำกัด โจทก์ นางนวพร ปกครอง ที่ 1 กับพวกรวม 5 คน จำเลย ข้อหาละเมิดเรียกค่าเสียหาย จำนวนทุนทรัพย์ 8,251,251.95 บาท จากคดีข้างต้นทำให้โจทก์ถูกตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงความผิดทางละเมิดเพื่อหาบุคคลผู้ต้องรับผิด ตามคำสั่งธนาคารออมสินเฉพาะที่ กม.19/2546 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด ผลสรุปคณะกรรมการสอบสวนให้รอผลคดีที่โจทก์ถูกฟ้องข้างต้นจนกว่าคดีจะถึงที่สุด เงินประกันตัวเป็นเงินประกันความเสียหายที่ให้ไว้กับจำเลย โดยพนักงานทุกคนจะต้องการประกันความเสียหายตามระเบียบการธนาคารออมสินฉบับที่ 111 ว่าด้วยการประกันพนักงานธนาคารออมสิน เมื่อโจทก์ถูกฟ้องเป็นจำเลยที่ 3 ในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ 2674/2546 ของศาลแพ่งดังกล่าวข้างต้นจึงเป็นเหตุให้จำเลยอายัดเงินประกันความเสียหายของโจทก์ไว้ ซึ่งจำเลยมีสิทธินำเงินดังกล่าวไปชดใช้หรือทดแทนความเสียหายที่โจทก์ได้กระทำขึ้นได้ เงินพ้นหน้าที่จำเลยได้มีการทยอยจ่ายเงินให้แก่พนักงานที่พ้นหน้าที่ไปแล้ว จำเลยมิได้กระทำการใดที่ทำให้โจทก์เสียหาย โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยจากจำเลย ส่วนเงินเดือนเพิ่ม 3% นั้นโจทก์จะได้เป็นเงินตกเบิกย้อนหลัง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยจ่ายเงินตอบแทนพิเศษจำนวน 1,933,200 บาท และเงินประกันตัว 50,000 บาทกับดอกเบี้ยตามระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ 111 ว่าด้วยการประกันของพนักงานธนาคารออมสิน จนถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2547 พร้อมทั้งดอกเบี้ยในเงินทั้งสองจำนวนดังกล่าวข้างต้นอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีนับแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2547 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
ศาลฎีกาแผนคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์เคยเป็นลูกจ้างของจำเลย จำเลยได้ออกประกาศธนาคารออมสิน เรื่อง โครงการทางเลือกใหม่ ประจำปี 2547 โจทก์ได้ยื่นใบสมัครเข้าร่วมโครงการดังกล่าวตามใบสมัคร โครงการทางเลือกใหม่ ประจำปี 2547 ต่อมาจำเลยได้มีประกาศธนาคารออมสิน เรื่อง รายชื่อพนักงานที่ธนาคารพิจารณาอนุญาตให้ออกจากงานตามโครงการทางเลือกใหม่ ประจำปี 2547 หลังจากออกประกาศดังกล่าวแล้ว จำเลยได้ดำเนินการตรวจสอบว่าผู้มีรายชื่อในประกาศอยู่ในข่ายที่จะยึดเงินไว้ก่อนหรือไม่ และจำเลยได้มีหนังสือแจ้งโจทก์ว่าจะอายัดผลตอบแทนตามโครงการฯ ไว้ก่อนจำเลยจึงได้อายัดเงินตอบแทนพิเศษ 1,933,200 บาท ที่โจทก์มีสิทธิได้รับไว้และได้อายัดเงินประกันตัว 50,000 บาท ของโจทก์ไว้ตามสัญญาผุ้เข้าทำงานธนาคารออมสินและระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ 111 ว่าด้วยการประกันของพนักงานธนาคารออมสิน เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2546 บริษัท วี.เอส.วี.โฮลดิ้ง จำกัด ได้ยื่นฟ้องโจทก์เป็นจำเลยที่ 3 และฟ้องจำเลยเป็นจำเลยที่ 5 ในข้อหาละเมิด ขอให้บังคับจำเลยทั้งห้าร่วมรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย จำเลยจึงมีคำสั่งธนาคารออมสินเฉพาะที่ กม.19/2546 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด และต่อมาศาลแพ่งได้มีคำพิพากษาให้ยกฟ้องโจทก์ คดีดังกล่าวอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดมีความเห็นให้ยุติดเรื่องการสอบสวนข้อเท็จจริงไว้เป็นการชั่วคราวเพื่อรอผลคดีถึงที่สุดก่อน
จำเลยอุทธรณ์ข้อ 2.1 ถึง ข้อ 2.3 โดยสรุปได้ว่าจำเลยประกาศโครงการทางเลือกใหม่ ประจำปี 2547 ผู้ที่เข้าร่วมโครงการมีสิทธิได้รับเงินตอบแทนพิเศษมากกว่าทำงานจนเกษียณอายุ เมื่อโจทก์สมัครเข้าโครงการดังกล่าวโดยมีข้อสัญญาว่าพนักงานที่อยู่ระหว่างถูกสอบสวนความรับผิดทางละเมิดให้สมัครเข้าร่วมโครงการได้โดยผู้สมัครต้องยินยอมให้ธนาคารอายัดผลตอบแทนไว้ก่อน และโจทก์สมัครเข้าโครงการในระหว่างถูกสอบสวนความรับผิดทางละเมิด จำเลยจึงมีสิทธิอายัดผลตอบแทนไว้จนกว่าการสอบสวนจะสิ้นสุดโดยระหว่างนั้นโจทก์ยังได้รับเงินบำนาญรายเดือนตามปกติ จำเลยจึงมีสิทธิอายัดเงินตอบแทนพิเศษและเงินประกันตัวของโจทก์นั้น เห็นว่า ตามประกาศธนาคารออมสิน เรื่องโครงการทางเลือกใหม่ ประจำปี 2547 ระบุว่าจำเลยจัดทำโครงการทางเลือกใหม่ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2547 ซึ่งอนุมัติให้รัฐวิสาหกิจดำเนินโครงการร่วมใจจากองค์กร/เกษียณอายุก่อนกำหนดโดยใช้หลักเกณฑ์เดิมของกระทรวงการคลังที่กำหนดให้ผู้เข้าร่วมโครงการได้รับผลประโยชน์ตอบแทนพิเศษสูงสุดไม่เกิน 30 เท่าของเงินเดือนเดือนสุดท้ายบวกเงินชดเชยตามกฎหมายแรงงาน และห้ามมิให้พนักงานที่เข้าโครงการนี้กลับเข้ามาปฏิบัติงานในรัฐวิสาหกิจนั้นอีก โดยส่วนของผลตอบแทนมีสองส่วนคือตามประกาศฯ ข้อ 3.3.1 ที่กำหนดให้เงินตอบแทนพิเศษเป็นจำนวนเงินเท่ากับเงินเดือนเดือนสุดท้าย คูณด้วย 1 เท่าของระยะเวลาทำทำงาน (นับเป็นปี) ทั้งนี้ไม่เกิน 30 เท่าของเงินเดือนเดือนสุดท้าย หรือไม่เกินกว่าเงินเดือนเดือนสุดท้ายคูณด้วยระยะเวลาทำงานที่เหลือ โดยพนักงานที่มีระยะเวลาทำงาน 30 ปีขึ้นไป จะมีเงินตอบแทนพิเศษอีกตามเกณฑ์ส่วนหนึ่ง และผลตอบแทนตามประกาศ ข้อ 3.3.2 ที่กำหนดให้เป็นเงินชดเชยจำนวน 6 เท่าของเงินเดือนเดือนสุดท้าย พนักงานที่ประสงค์จะเข้าร่วมโครงการทางเลือกใหม่จะต้องมีคุณสมบัติตามที่ประกาศ ดังกล่าวระบุไว้และยื่นใบสมัครเข้าร่วมโครงการอันมีลักษณะเป็นการตกลงระงับสัญญาจ้างระหว่างจำเลยกับพนักงานที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวด้วยความสมัครใจจึงมิใช่เป็นการพ้นจากการเป็นลูกจ้างของจำเลยสืบเนืองมาจากการที่จำเลยมีคำสั่งเลิกจ้างหรือเกษียณอายุ ผลตอบแทนดังกล่าวจึงเป็นเงินตอบแทนพิเศษนอกเหนือจากที่กฎหมายบัญญัติไว้เมื่อปรากฏว่าโจทก์สมัครเข้าร่วมโครงการในระหว่างถูกสอบสวนความรับผิดทางละเมิดซึ่งตามใบสมัครโครงการทางเลือกใหม่ประจำปี 2547 ของโจทก์ตามเอกสารท้ายคำให้การหมายเลข 2 ระบุว่า "ในกรณีที่ข้าพเจ้ามีภาระผูกพันหรือหนี้สินค้างชำระอยู่กับธนาคารหรือจะต้องมีความรับผิดที่ก่อให้เกิดภาระผูกพันหรือหนี้สินอื่นใดต่อไปในอนาคตต่อธนาคาร ข้าพเจ้ายินยอมที่จะรับผลตอบแทนตามโครงการฯ ภายหลังจากที่ได้มีการนำเงินไปชำระภาระผูกพันหรือหนี้สินดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว" และตามประกาศธนาคารออมสิน เรื่องโครงการทางเลือกใหม่ประจำปี 2547 เอกสารท้ายคำให้การหมายเลข 1 ข้อ 2.4.2 ระบุว่า "พนักงานที่อยู่ระหว่างถูกสอบสวนความรับผิดทางละเมิดให้สมัครเข้าร่วมโครงการฯ ได้ โดยผู้สมัครจะต้องยินยอมให้ธนาคารอายัดผลตอบแทนไว้ก่อน และธนาคารจะจ่ายผลตอบแทนให้ตามผลการสอบสวนเมื่อผลการสอบสวนสิ้นสุดลงและธนาคารได้มีคำสั่งเป็นอย่างหนึ่งอย่างใดโดยคำนวณผลตอบแทนถึงวันที่ให้ออกตามโครงการฯ" ข้อสัญญาดังกล่าวมิได้ขัดหรือแย้งต่อบทบัญญัติของกฎหมายและมิได้ขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนจึงมีผลบังคับได้ เมื่อศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้มีคำสั่งธนาคารออมสินเฉพาะที่ กม.19/2546 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมสอบสวนข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด อ้างเหตุว่าบริษัท วี.เอส.วี.โฮลดิ้ง จำกัด เป็นโจทก์ฟ้องนางนวพร ปกครองโจทก์ในคดีนี้ จำเลยในคดีนี้ และลูกจ้างอื่นของจำเลยรวม 5 คน เป็นจำเลยข้อหาละเมิด โดยให้รายงานผลการสอบสวนพร้อมทั้งความเห็นต่อคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิดภายในระยะเวลา 60 วันนับแต่วันที่มีคำสั่ง (วันที่ 4สิงหาคม2546) ต่อมาวันที่ 29 ตุลาคม 2546 คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดได้รายงานผลการสอบสวนพร้อมทั้งเสนอความเห็นต่อประธานคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิดโดยเสนอยุติการสอบสวนข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดไว้ชั่วคราว เพื่อรอผลของคดีถึงที่สุดก่อน เมื่อผลของคดีเป็นประการใดแล้วจะได้ดำเนินการยกขึ้นพิจารณาตามระเบียบการ ฉบับที่ 390 ข้อ 5 ต่อไป จึงเป็นกรณีที่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดแล้ว และเพียงแต่ยุติการสอบสวนชั่วคราวเพื่อรอผลของคดีถึงที่สุดก่อนเท่านั้น จำเลยจึงอายัดผลตอบแทนในส่วนของเงินตอบแทนพิเศษจำนวน 1,933,200 บาท ของโจทก์ไว้ได้ตามประกาศธนาคารออมสิน เรื่องโครงการทางเลือกใหม่ ประจำปี 2547 เอกสารท้ายคำให้การหมายเลข 1 ข้อ 2.4.2 อุทธรณ์ของจำเลยส่วนนี้ฟังขึ้น
สำหรับเงินประกันตัวของโจทก์จำนวน 50,000 บาท ตามระเบียบ
การธนาคารออมสิน ฉบับที่ 111 ว่าด้วยการประกันของพนักงานออมสิน ที่จำเลยขออายัดไว้นั้น ปรากฏตามสัญญาผู้เข้าทำงานธนาคารออมสิน ฉบับลงวัน 16 มิถุนายน
2512 ฉบับลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2537 และฉบับลงวันที่ 8 สิงหาคม 2537 เอกสารท้ายคำแถลงลงวันที่ 2 มิถุนายน 2548 ข้อ 6 ระบุไว้เช่นเดียวกันว่า "หากข้าพเจ้าทำให้ธนาคารออมสินเสียหายด้วยประการใดๆ ก็ดี ข้าพเจ้ายินยอมให้ธนาคารออมสินหักเงินเดือน ยึด จำหน่าย จ่ายโอนหลักประกันหรือนำสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าได้รับจากธนาคารออมสินชดใช้ความเสียหายดังกล่าวให้ธนาคารออมสินโดยไม่จำเป็นต้องฟ้องร้องข้าพเจ้าก่อน หรือสุดแต่ธนาคารออมสินจะเห็นสมควร" โดยโจทก์มีเงินสดที่เป็นประกันตามระเบียบการธนาคารออมสิน ฉบับที่ 111 ว่าด้วยการประกันของพนักงานออมสินเอกสารท้ายคำแถลงลงวันที่ 2 มิถุนายน 2548 ข้อ 3 จำนวน 50,000 บาท ตามเงื่อนไขของสัญญาผู้เข้าทำงานธนาคารออมสินและตามระเบียบ
การดังกล่าว จำเลยจะอายัดสิทธิในเงินประกันของโจทก์ได้ต่อเมื่อโจทก์ทำให้จำเลยได้รับความเสียหายจำเลยจึงจะนำเงินประกันชดใช้ความเสียหายได้ เมื่อศาลแรงงาน
กลางฟังข้อเท็จจริงว่ากรณีที่บริษัทวี.เอส.วี.โฮลดิ้ง จำกัด ฟ้องโจทก์และจำเลยและพนักงานอื่นของจำเลยในข้อหาละเมิดเป็นกรณีที่บุคคลภายนอกกล่าวหาและฟ้องร้องเป็นคดีขึ้น ซึ่งศาลแพ่งได้มีคำพิพากษายกฟ้องโจทก์แล้ว ในขณะที่โจทก์ออกจากการเป็นพนักงานจำเลยจึงไม่ปรากฏว่าโจทก์ได้ทำให้จำเลยเสียหายอันจะเป็นเงื่อนไขให้จำเลยอายัดเงินประกัน จำนวน 50,000 บาท ของโจทก์ได้ที่ศาลแรงงานกลางวินิจฉัยว่าโจทก์มิได้กระทำประการใดที่จะเป็นเหตุให้จำเลยมีสิทธิอายัดเงินประกันจำเลยจึงไม่มีสิทธิอายัดเงินประกันจำนวน 50,000 บาท ของโจทก์นั้นจึงชอบแล้วอุทธรณ์ของจำเลยส่วนนี้ฟังไม่ขึ้น
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้จำเลยอายัดผลตอบแทนพิเศษจำนวน
1,933,200 บาท ได้ตามประกาศธนาคารออมสิน เรื่องโครงการทางเลือกใหม่ ประจำปี 2547 ข้อ 2.4.2 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลาง