บอร์ดค่าจ้างยังไม่สรุปปรับขึ้นค่าแรงปี 54 เหตุยังเป็นชุดรักษาการ
นพ.สมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ระบุว่า ที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้างกลางว่าวันนี้จะยังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับการปรับขึ้นค่าจ้างประจำปี 54 โดยจะเป็นเพียงการหารือถึงแนวทางและกรอบความคิดการปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานเพื่อให้สอดคล้องกับค่าใช้จ่ายของแรงงานและต้นทุนของผู้ประกอบการ
นอกจากนี้ ยังต้องรอการประกาศแต่งตั้งคณะกรรมการค่าจ้างกลางอย่างเป็นทางการภายในสัปดาห์หน้า เพราะคณะกรรมการชุดนี้ยังเป็นชุดรักษาการซึ่งจะมีวาระดำรงตำแหน่ง 1 ปี จึงทำให้ไม่สามารถมีมติการปรับขึ้นค่าจ้างประจำปีได้
ขณะเดียวกันต้องใช้เวลาในการรวบรวมข้อมูลสรุปตัวเลขอัตราค่าจ้างที่คณะอนุกรรมการค่าจ้างจังหวัดได้ส่งมาให้เมื่อวันที่ 30 ก.ย.53 ซึ่งจะทราบข้อมูลการปรับขึ้นค่าจ้างได้ในช่วงเดือนต.ค.-พ.ย.นี้ โดยมีเวลาเพียงพอในการประกาศขึ้นค่าจ้างอย่างเป็นทางการตั้งแต่ต้นปี 54 เพื่อให้ผู้ประกอบการและแรงงานได้มีเวลาปรับตัวทัน
ส่วนแนวทางการแบ่งค่าจ้างเป็นโซนตามพื้นที่นั้น จะนำมาหารือถึงข้อดีข้อเสียและผลกระทบตามพื้นที่อย่างรอบคอบเพราะหากปรับขึ้นเป็นโซนจะส่งผลต่อพื้นที่ใกล้เคียงที่มีอัตราค่าจ้างไม่เท่ากัน และจะทำให้เกิดปัญหาการเคลื่อนย้ายแรงงานในอนาคต
ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังการประชุมฯ ว่า ที่ประชุมวันนี้ยังไม่ได้ข้อสรุปอัตราค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำที่จะมีการปรับขึ้น โดยที่ประชุมได้มอบกรอบแนวคิดไว้ 4 ประการ เพื่อให้คณะอนุกรรมการฝ่ายวิชาการเร่งไปศึกษาให้แล้วเสร็จภายในเดือนพ.ย.53
ประกอบด้วย 1.การปรับค่าจ้างขั้นต่ำ ให้คำนึงถึงคุณภาพชีวิตแรงงานขั้นพื้นฐาน แต่จะต้องไม่ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการที่จ่ายค่าจ้าง 2.ข้อเสนอการปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำในปัจจุบันยังต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งที่ประชุมได้มอบให้คณะอนุกรรมการฝ่ายวิชาการกลับไปคำนวณฐานค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ โดยให้เทียบกับอัตราการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
3.ให้ไปศึกษามาตรการที่จะให้นายจ้างสามารถจ่ายค่าจ้างได้สูงขึ้น โดยให้คำนึงถึงว่าจะสามารถปรับประสิทธิภาพของแรงงานให้เพิ่มขึ้นได้อย่างไร และ 4.ให้ศึกษามาตรการพัฒนาฝีมือแรงงานให้มากขึ้น
สำหรับการเสนอกรอบการปรับขึ้นค่าจ้างแบบก้าวกระโดดมาเป็น 250 บาท/วัน เท่ากันทั่วประเทศตามแนวคิดของนายกรัฐมนตรีนั้น เป็นเพียงกรอบที่ต้องการให้คุณภาพชีวิตแรงงานไทยดีขึ้น แต่หลักเกณฑ์การพิจารณาค่าจ้างครั้งนี้คณะกรรมการจะศึกษาจากค่าครองชีพของแรงงาน, ต้นทุนของผู้ประกอบการ และอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ซึ่งขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะเป็นไปตามกรอบที่นายกรัฐมนตรีให้ไว้หรือไม่
"นายกฯ ได้ให้ตัวเลขมา ท่านก็มีกรอบความคิดที่เราต้องนำมาพิจารณาว่ามีจุดอ่อนอะไรบ้าง แต่เราไม่ได้ไปลบล้างกรอบความคิดเดิม" ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าว
คกก.กลางมีมติให้ทยอยขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 8-17บ.ใน 5 ปี,ปีแรกเฉลี่ย 5-7 บ.
นายสมเกียรติ ฉายะศรีวงศ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธานประชุมคณะกรรมการค่าจ้างกลาง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการฯ วันนี้มีมติให้มีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำปี 54 แบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 8-17 บาท/วัน ซึ่งจะมีเม็ดเงินเพิ่มเข้ามาในระบบ 14,694 ล้านบาท คิดเป็นผลกระทบทางเศรษฐกิจจะทำให้การบริโภคเพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 1 แสนล้านบาท โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.54 "การสำรวจในทุกจังหวัดพบว่า ค่าจ้างแต่ละจังหวัดไม่เท่ากัน ทางอนุกรรมการวิชาการใช้หลักดูเป็นรายภาค ซึ่งอนุกรรมการค่างจ้างวิชาการเห็นว่า ต้องมีการปรับแบบค่อยเป็นค่อยไป ซึ่งต้องใช้เวลา 5 ปี โดยปีแรกให้ปรับขึ้นเฉลี่ย 5-7 บาท/วัน"นายสมเกียรติ กล่าว
สำหรับในกรุงเทพฯและปริมณฑลได้มีการพิจารณาแล้วเห็นว่าอัตราค่าจ้างขั้นต่ำจะปรับขึ้นมาอยู่ที่ 215 บาท/วัน โดยในส่วนของข้อมูลพบว่า จังหวัดที่ปรับค่าจ้างขึ้นมา 8 บาทนั้น มีอยู่ 7 จังหวัด ได้แก่ พะเยา ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ อุทัยธานี และประจวบคีรีขั้นธ์ ส่วนจังหวัดที่ได้รับการปรับค่าจ้างสูงสุด คือ จ.ภูเก็ต
ทั้งนี้ ปลัดกระทรวงแรงงาน ยืนยันว่า การพิจารณาในวันนี้ได้พิจารณาอย่างรอบด้าน พิจารณาความสามารถของนายจ้าง รวมทั้งความพึงพอใจของลูกจ้างที่จะได้รับ โดยยืนยันว่าข้อเรียกร้องของกลุ่มต่างๆได้พิจารณาอย่างรอบด้านแล้ว และมติที่ออกมาก็เป็นพอใจของทุกฝ่าย
หลังจากนี้ คณะกรรมการค่าจ้างจะรายงานผลการพิจารณาไปยัง รมว.แรงงานเพื่อลงนามในประกาศของกระทรวง ก่อนจะส่งประกาศดังกล่าวลงในราชกิจจานุเบกษา พร้อมทั้งนำเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อรับทราบและแจ้งอัตราค่าจ้างขั้นต่ำให้นายจ้างและลูกจ้างรับทราบต่อไป ซึ่งทั้งหมดจะมีผลตั้งวันที่ 1 ม.ค.54