ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ชมรมบริหารงานบุคคล
dot
bulletสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย
bulletชมรมบริหารงานบุคคล
bulletชมรมบริหารงานบุคคล อยุธยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลรังสิต
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคล อมตะนคร
bulletสมาคมการบริหารงานบุคคล (PAAs)
bulletชมรมบริหารงานบุคคลบางพลี
bulletชมรมนักบริหารงานบุคคลพัทยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลยุคใหม่
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคลจังหวัดราชบุรี
bulletงานบริหารงานบุคคล
bulletชมรมงานบริหารงานบุคคลกรุงเทพฯ
bulletชมรมบริหารงานบุคลสุขสวัสดิ์
dot
ติดต่อราชการศาล
dot
bulletศาลแรงงานกลาง
bulletศาลแรงงานภาค ๒
bulletศาลยุติธรรม
bulletศาลปกครอง
bulletศาลรัฐธรมนูญ
bulletสำนักงานอัยการสูงสุด
bulletกระทรวงยุติธรรม
bulletคณะกรรมการกฤษฎีกา
bulletกรมบังคับคดี
bulletสภาทนายความ
dot
หน่วยงานราชการสำคัญ
dot
bulletกระทรวงแรงงาน
bulletกรมการจัดหางาน
bulletกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
bulletกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
bulletสำนักงานประกันสังคม
bulletกรมสรรพากร
bulletกรมบัญชีกลาง
bulletกรมพัฒนาธุรกิจกาค้า
bulletกระทรวงอุตสาหกรรม
bulletกรมโรงงานอุตสาหกรรม
bulletกรมส่งเสริมอุตสาหรม
bulletการนิคมอุตสาหกรรม
dot
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน
dot
bulletสมบัติลีกัล
bulletเอกเซลสำหรับงาน HR โดย อ.สำเริง
bulletบทความดี ๆ จากโกป้อม
dot
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
dot
dot
Newsletter

dot


พยากรณ์อากาศวันนี้
..................................


ราคาน้ำมันวันนี้
..................................



หมอเตือนผู้สูงอายุ,ป่วยเรื้อรังต้องรู้จักกินให้ถูกวิธี article

เพลินกินเจน้ำหนักพุ่ง หมอเตือนผู้สูงอายุ,ป่วยเรื้อรังต้องรู้จักกินให้ถูกวิธี 

         เครือข่ายคนไทยไร้พุงชี้กินเจดีมีประโยชน์ นอกจากลดการเบียดเบียนสัตว์แล้ว ยังช่วยล้างพิษในร่างกาย แต่หากกินผิดวิธีจะส่งผลเสียทำให้น้ำหนักพุ่ง โรคร้ายตามมา โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเรื้อรัง


         นพ.ฆนัท ครุธกูล กรรมการเครือข่ายคนไทยไร้พุง สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวว่า ในช่วงเทศกาลกินเจ 9 วันนี้ เป็นช่วงเวลาที่ประชาชนละเว้นกินเนื้อสัตว์แล้วหันมากินผักแทน จากการสำรวจผู้ป่วยที่มารักษาที่ รพ.รามาธิบดี ช่วงหลังเทศกาลกินเจของปีที่ผ่านมา พบว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่มีแนวโน้มน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น 2-3 กิโลกรัม สาเหตุจากการกินอาหารไม่ถูกสัดส่วน กินแป้งมากเกินไป ส่งผลให้เจ็บป่วยโรคอื่นตามมาได้ 

         "ผู้ป่วยที่ควรระวังคือ กลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ป่วยเพิ่งฟื้นไข้ ผู้ป่วยขาดสารอาหาร ผู้มีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน เป็นต้น ผู้ป่วยเหล่านี้ต้องเลือกรับประทานผักสดประเภทถั่ว ผลไม้ มากกว่าอาหารประเภทผัด ทอด เพราะจะทำให้ได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วน"

         นพ.ฆนัทกล่าวว่า การกินอาหารเจมีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วยล้างพิษในร่างกาย และหากกินให้ถูกวิธีจะช่วยลดน้ำหนักได้ด้วย การกินอาหารเจที่ถูกวิธีต้องบริโภคในสัดส่วนที่เหมาะสม คือกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพราะหากบริโภคไม่ถูกสัดส่วนอาจส่งผลให้น้ำหนักขึ้น หรืออาจทำให้ขาดสารอาหารได้ โดยเฉพาะอาหารกลุ่มโปรตีน 


         เทคนิคการกินอาหารเจไม่ให้อ้วนคือ 1.กินข้าวหรือแป้งไม่ขัดขาว เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ลูกเดือย ธัญพืช มีปริมาณน้ำตาลน้อย ร่างกายจะใช้พลังงานในการย่อยอาหารจำพวกนี้ออกมาเป็นแป้งที่พร้อมดูดซึมเข้าร่างกาย 2.กินผักประเภทใบมากกว่าประเภทหัว เพราะมีคาร์โบไฮเดรตน้อยกว่า ทำให้ได้พลังงาน และปริมาณแป้งน้อยกว่า 3.อาหารประเภทนึ่ง ต้ม ตุ๋น ดีกว่าอาหารประเภททอดและผัดที่มีน้ำมัน ไขมันสูง 4.ลดอาหารที่มีรสหวาน 5.กินผัก ผลไม้สด เพราะย่อยง่ายกว่าอาหารประเภทอื่น และมีไฟเบอร์หรือกากใย ช่วยให้การดูดซึมของเสียในลำไส้ได้ดีขึ้น ช่วยขับถ่ายได้ดีขึ้น ท้องไม่อืด

         นพ.ฆนัทกล่าวว่า หลักการกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพง่าย ๆ คือ 

         1.เน้นอาหารประเภทโปรตีนเป็นหลัก มีมากในเต้าหู้และถั่วเหลือง อาหารจำพวกถั่วเมล็ดแห้ง เช่น ถั่วเขียว ถั่วแดง เมล็ดอัลมอลด์ เป็นต้น แต่ควรกินปริมาณพอดี เพราะมีส่วนประกอบของแป้งและน้ำมัน และควรกินอะมิโนที่จำเป็นควบคู่กันให้เป็นโปรตีนคุณภาพสูง เช่น เห็ด มีไฟเบอร์และไฟโตเอสโตรเจน ช่วยขับสารพิษตกค้าง ช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ 

         2.กินผักหลายสี ทั้งดำ แดง เขียว ขาว เหลือง เพื่อได้วิตามินและแร่ธาตุหลากหลาย 

         3.ผลไม้อุดมด้วยวิตามิน เกลือแร่ และไฟเบอร์ แต่มีพลังงานมากกว่าผัก แต่ต้องเลือกผลไม้ที่มีรสหวานน้อย 

         4.กินอาหารประเภทข้าว-แป้งแต่พอเหมาะ เช่น ผัดหมี่ วุ้นเส้น เผือก มัน ข้าวโพด เป็นต้น

        บริโภคประมาณ 1-2 ทัพพีต่อมื้อ หลีกเลี่ยงอาหารประเภทผัดที่มีน้ำมันมากเกินไป ซึ่งอาหารเจปัจจุบันใช้แป้งปั้นเป็นรูปคล้ายอาหารปกติ จึงต้องระวังการได้รับแป้งมากเกินพอดีด้วย


 

อาหารเจ กินเจ อย่างไรให้ถูกหลัก

นับถอยหลังเข้าสู่เทศกาลกินเจอีกแล้ว เชื่อว่าหลาย ๆ คน คงตั้งใจจะทาน "อาหารเจ" กันในปีนี้ ว่าแต่ "อาหารเจ" จริง ๆ แล้วอะไรที่เราทานได้ และทานไม่ได้บ้าง วันนี้มาแนะนำการกินเจที่ถูกวิธีให้ฟังกัน

          สำหรับ อาหารเจ เราจะทานในระหว่างเทศกาลกินเจ คือช่วงระหว่างวันขึ้น 1-9 ค่ำเดือน 8 (ตามปฏิทินจีน) ซึ่งตรงกับประมาณเดือนตุลาคม มีระยะเวลาประมาณ 10 วัน โดยมีความเชื่อว่า หากใครกินเจจะได้บุญ ส่งผลให้ชีวิตประสบความสุขความเจริญ ทั้งเป็นการต่อชีวิตให้ยืนยาวต่อไปด้วย หรือในบางคนอาจจะทาน "อาหารเจ" เป็นกิจวัตรประจำวันก็ได้

          แน่นอนว่า เมื่อพูดถึงอาหารเจ เราต้องหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ทุกชนิด และปรุงอาหารด้วยแป้ง เต้าหู้ ซีอิ๊ว ถั่วเหลือง ถั่วต่าง ๆ รวมทั้งผักนานาชนิด ยกเว้น ผักฉุน 5 ประเภท ที่เป็นผักรสหนัก มีกลิ่นเหม็นคาวรุนแรง ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ และยังมีพิษทำลายพลังธาตุทั้ง 5 ในร่างกาย ส่งผลให้อวัยวะหลักสำคัญภายในทั้ง 5 ทำงานไม่ปกติ นั่นก็คือ

         
1.กระเทียม ทั้งหัวกระเทียม ต้นกระเทียม ส่งผลกระทบต่อธาตุไฟของร่างกาย แม้ว่ากระเทียมจะมีสารที่ช่วยลดคอเลสเตอรอล แต่กระเทียมมีความระคายเคืองสูง อาจไปทำลายการทำงานของหัวใจได้ ผู้เป็นโรคกระเพาะอาหาร หรือโรคตับ ไม่ควรรับประทานมาก 

         
2.หัวหอม รวมไปถึงต้นหอม ใบหอม หอมแดง หอมขาว หอมหัวใหญ่ ซึ่งตามหลักการแพทย์โบราณของจีนเชื่อว่า หัวหอม จะกระทบกระเทือนต่อธาตุน้ำในร่างกาย และไปทำลายการทำงานของไตได้ แม้ว่าหอมแดง จะมีฤทธิ์ช่วยขับลม แก้ท้องอืด แก้ปวดประจำเดือน แต่ไม่ควรบริโภคมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดอาการหลง ๆ ลืม ๆ ได้ง่าย รวมทั้งนัยน์ตาพร่ามัว มีกลิ่นตัว

         
3.หลักเกียว หรือที่รู้จักว่า กระเทียมโทนจีน ลักษณะคล้ายหัวกระเทียมที่พบเห็นทั่วไป แต่จะมีขนาดเล็กและยาวกว่า ในทางการแพทย์ของจีนเชื่อว่า หลักเกียว ส่งผลกระทบกระเทือนต่อธาตุดินในร่างกาย และไปทำลายการทำงานของม้าม

         
4.กุยช่าย เชื่อกันว่า กุยช่าย จะไปกระทบกระเทือนต่อธาตุไม้ในร่างกาย และทำลายการทำงานของตับ

         
5.ใบยาสูบ
ไม่ว่าจะเป็นยาเส้น บุหรี่ ของเสพติดมึนเมา อะไรต่าง ๆ จะส่งผลกระทบกระเทือนต่อธาตุโลหะในร่างกาย และทำงานการทำงานของปอด
และหากต้องการกินเจให้ถูกหลัก เราควรรับประทานผักผลไม้ต่าง ๆ ให้ครบ 5 สีในแต่วัน ตามสีของแต่ละธาตุทั้ง 5 คือ

         
1.สีแดง แดงส้ม แสด ชมพู เช่น มะเขือเทศ แครอท พริกสุก มะละกอ แตงโม ฯลฯ ถือเป็นสัญลักษณ์ของธาตุไฟ จะช่วยลดคอเลสเตอรอลส่วนเกิน ลดอัตราเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ สำหรับใครที่มีปัญหาเรื่องโรคหัวใจ ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารรสขม ที่จะไปทำอันตรายต่อระบบการไหลเวียนของโลหิต

           
2.สีดำ น้ำเงิน หรือ ม่วง เช่น ถั่วดำ เผือก มะเขือม่วง เห็ดหูหนู ลูกหว้า องุ่น เป็นสัญลักษณ์ของธาตุน้ำ มีประโยชน์ต่อไต ส่วนผู้ที่มีปัญหาเรื่องไต ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารรสเค็ม

           
3. สีเหลือง ทั้งเหลืองแก่ และเหลืองอ่อน เช่น ฟักทอง ถั่วเหลือง มะม่วง ข้าวโพด กล้วย ทุเรียน เป็นสัญลักษณ์ของธาตุดิน มีประโยชน์ในการบำรุงม้าม แต่ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารรสหวาน

           
4. สีเขียว ทั้งสีเขียวเข้ม สีเขียวอ่อน เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง ฝรั่ง ถั่วฝักยาว ถือเป็นสัญลักษณ์ของธาตุไม้ หากรับประทานมาก ๆ จะช่วยบำรุงตับ ส่วนผู้ที่มีปัญหาเรื่องตับ ควรงดทานอาหารรสเปรี้ยว

           
5. สีขาว เช่น ลูกเดือย ผักกาดขาว มะพร้าว น้อยหน่า ถือเป็นสัญลักษณ์ของธาตุโลหะ มีประโยชน์ต่อปอด สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องปอด ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารรสเผ็ด

          อย่างไรก็ตาม ผู้ทานอาหารเจ ควรทานอาหารให้ครบทั้ง 5 สี ตามธาตุทั้ง 5 โดยสลับกันไปในแต่ละวัน เพื่อให้ได้สารอาหาร และคุณค่าที่ครบถ้วน

          และวันนี้เราก็มี สูตรอาหารเจ เมนูอาหารเจแบบง่าย ๆ มาฝากกันด้วย

ต้มจับฉ่ายเจ

ส่วนผสม ต้มจับฉ่ายเจ

          กะหล่ำปลี 1 หัว
          คะน้า 1 ถ้วย
          ซุงฉ่าย (คล้ายกวางตุ้ง แต่ต้นใบใหญ่กว่า)   1  ถ้วย
          ขึ้นฉ่าย   1  ถ้วย
          ผักกวางตุ้ง   1 ถ้วย
          หัวไชเท้า 1  หัว
          เห็ดหอม  1 ถ้วย
          รากผักชี   3 ราก
          เต้าหู้ทอด 2 ก้อน
          น้ำตาลปีบ 1 ช้อนโต๊ะ
          งาคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
          เกลือ 2 ช้อนชา
          ซีอิ๊ว 2 ช้อนโต๊ะ
          น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
          ซอสถั่วเหลืองปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
          ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ ต้มจับฉ่ายเจ

          เริ่มจากผ่ากะหล่ำปลี เป็น 8 ซีก และหั่นผักทุกชนิดเป็นชิ้นใหญ่ จากนั้นโขลกงาคั่ว รากผักชีรวมกัน แล้วเจียวกับน้ำมันพืชจนหอม ใส่ต้นซุงฉ่ายลงผัด แล้วผัดผักชนิดอื่น ๆ ตามไป ใส่น้ำ ใส่เกลือ ซีอิ๊วขาว น้ำตาลปีบ ซอสถั่วเหลืองปรุงรส เมื่อเสร็จแล้วให้ตักผัดผักที่ได้ลงหม้อ แล้วใส่เห็ดและเต้าหู้ที่ทอดไว้เรียบร้อยแล้ว ปรุงรสด้วยซีอิ๊วดำ เติมน้ำต้มให้เปื่อยยกลงเสิร์ฟ

เห็ดหอมน้ำแดง

 ส่วนผสม เห็ดหอมน้ำแดง

          เห็ดหอมสด  15  ดอก
          แป้งมัน  1/2 ช้อนโต๊ะ
          งาคั่วบด  1/2 ช้อนโต๊ะ
          น้ำมันพืช  2 ช้อนโต๊ะ
          ผงพะโล้ 1/4 ช้อนชา
          ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
          ซอสถั่วเหลืองปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
          ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา
          น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
          เกลือป่น1/2 ช้อนชา
          พริกไทย 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ เห็ดหอมน้ำแดง

          ตัดก้านเห็ดหอมออกโดยใช้มีดบาก 2-3 รอย แต่อย่าให้ขาดแล้วทุบให้แบน เจียวงาในน้ำมันพอร้อนแล้วใส่เห็ดลงไปผัด เติมน้ำ 1 ถ้วย เคี่ยวจนสุกแล้ว จากนั้นใส่แป้งละลายน้ำลงไปเคี่ยวให้เดือดสักครู่ ปรุงรสก่อนจะยกลงเสิร์ฟ

ข้าวผัดเจ

ส่วนผสม ข้าวผัดเจ

          ข้าวสวย 1 ถ้วย
          แครอทหั่นเป็นลูกเต๋า 1/4 ถ้วย
          เห็ดหอม 2 ดอก (หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ )
          ถั่วฝักยาว หั่น 1/2 ซม. 1/4 ถ้วย
          เต้าหู้สีเหลืองหั่นเป็นลูกเต๋า 1/2 ถ้วย
          น้ำตาลทราย      1      ช้อนชา
          ซีอิ๊วขาว     1/2     ช้อนโต๊ะ
          น้ำมันพืช     2     ช้อนโต๊ะ
          ซีอิ๊วดำ     1/2     ช้อนชา

วิธีทำ ข้าวผัดเจ

          ตั้งไฟอ่อน ใส่น้ำมันพืชลงในกระทะ 1 ช้อนโต๊ะ นำเห็ดหอมที่หั่นแล้วลงไปผัดจนเริ่มเหลือง ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวแล้วตักขึ้นพักไว้ จากนั้นใส่น้ำมันในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่ข้าวลงผัด ตามด้วยเต้าหู้เหลือง ถั่วฝักยาว แครอท และเห็ดหอมที่ผัดไว้เรียบร้อยแล้ว ผัดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยซีอิ๊วดำ  ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย เมื่อผัดส่วนผสมจนสุกทั่วกันแล้วยกลงเสิร์ฟได้

ผัดหมี่เจ

ส่วนผสม ผัดหมี่เจ

          หมี่เหลือง 1 ถ้วย
          ผักคะน้า 1 ต้น
          เห็ดฟาง 4-5 ดอก
          เห็ดหอมปรุงรสหั่นเสี้ยว  2  ดอก
          เต้าหู้เหลืองหั่นเล็ก 1ช้อนโต๊ะ
          หัวไชโป๊สับละเอียด 1  ช้อนโต๊ะ
          ถั่วงอกเด็ดหาง 1/2 ถ้วย
          ถั่วลิสงคั่วป่น  1 ช้อนโต๊ะ
          พริกป่น 1-2 ช้อนชา
          น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
          ซีอิ๊วขาว  1 ช้อนโต๊ะ
          น้ำส้มสายชู  1 ช้อนโต๊ะ
          น้ำซุปผัก 1/2 ถ้วย
          น้ำมันพืช 3-4 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ ผัดหมี่เจ

          หั่นผักคะน้าเป็นชิ้นพอดี ส่วนเห็ดฟางให้เฉือนโคนที่สกปรกออก แล้วผ่าครึ่ง จากนั้นใสน้ำมันในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน นำผักคะน้า เห็ดฟาง เห็ดหอม เต้าหู้ หัวไชโป๊ ลงไปผัดให้หอม ใส่หมี่เหลือง คลุกเคล้าผัดให้ทั่ว แล้วใส่น้ำซุป ผัดต่อไปจนแห้ง ปรุงรสด้วยพริกป่น น้ำตาล ซีอิ๊วขาว น้ำส้มสายชู ใส่ถั่วลิสงป่น ผัดสักครู่ ใส่ถั่วงอก (แบ่งไว้โรยหน้าเล็กน้อย) พอทุกอย่างสุก ยกลงตักใส่จานเสิร์ฟพร้อมกับมะนาวหั่นเสี้ยว และถั่วงอกโรยหน้า

         
แถมท้ายสำหรับใครที่ชอบดื่มกาแฟเป็นประจำ เทศกาลกินเจนี้อาจต้องเปลี่ยนมาดื่ม "กาแฟดำ" หรือกาแฟที่ไม่ใส่ทั้ง "นม" และ "ครีม" เช่น "เอสเพรซโซ" แทนค่ะ แต่หลายคนก็ทานกาแฟดำไม่ได้ ถ้าเช่นนั้นก็ลองใช้ "นมถั่วเหลือง" แทนได้ค่ะ หรือลองหาซื้อ "กาแฟเจ" ที่บางยี่ห้อวางขายในช่วงเทศกาลกินเจนี้ดูก็ได้
 

สุดท้ายนี้ขอให้ผู้อ่านทุกท่านอิ่มบุญ  อิ่มใจ  ได้บุญกันทั่วหน้า  ตลอดเทศกาลทานถือศีลกินเจ




นานา น่ารู้

ระวัง! สารกันบูดในขนมปังร้านดัง article
กินอย่างไร เมื่อโคเลสเตอรอลในเลือดสูง article
นาฬิกาแขวนผนัง article
อ่านให้จบนะ..ดีมากๆ? เลย article
อ่านแล้วชอบ จึงขอแบ่งปัน article
ช้อนยาวหนึ่งเมตร article
ป้องกันและชะลอ “ข้อเข่าเสื่อม” ก่อนวัย article
ทำไมแสงแดดถึงเป็นอันตราย article
อย่าไปเกลียดใคร ให้แผ่เมตตา article
13 คุณประโยชน์จากวาซาบิที่คุณคาดไม่ถึง article
อุจจาระบอกความผิดปกติ article
ตำนานวันไหว้พระจันทร์ article
ผู้ชาย VS วัยทอง article
ท้องป่อง อ้วนลงพุง article
คาถาบูชาพ่อ แม่สวดทุกวัน article
ขึ้นฉ่าย ปรับประจำเดือนให้เป็นปกติ article
กินอาโวคาโดลดไขมัน ไม่ทำให้อ้วน article
การใช้บุญที่ถูกต้องถึงจะได้ผล article
กระชาย : ชะลอความแก่ article
อ่านแล้วสบายใจ article
เช็คความเสื่อมแต่ละวัย! article
จงใช้ชีวิตให้คุ้มค่า article
ลืมได้ ก็จำได้ article
ยาหมดอายุแล้วสามารถกินได้ไหม? article
จริงหรือไม่ เจ็บคอ บ่อยๆ article
ตอนอยู่ อยากได้เงิน ตอนตาย อยากได้บุญ ตอนอยู่ ทำตามใจกิเลส ตอนตาย เลยกลายเปรต article
คน 8 ประเภท อย่าคบ อย่าช่วย ถอยห่างได้เป็นดี article
เรื่องน่ารู้ของ สีพาสปอร์ตในไทย article
บทเรียนของคนวัย 40 ปีขึ้นไป ที่อยากแก้ไข และเตือนคนรุ่นหลัง article
จริงหรือไม่? กินไก่มาก เป็น “โรคเกาต์” article
ดื่มนมต่างเวลา ได้คุณค่าแตกต่างกัน article
จริงหรือไม่ วางมือถือข้างหมอน เสี่ยง "มะเร็งสมอง" article
คุณสมบัติหลินจือกับสุขภาพร่างกาย article
อ่านเถอะดีมาก เคล็ดลับการดูแลสมอง 10 ประการ จาก "หนูดี วนิษา เรซ" article
จริง หรือ ไม่ ความอ้วน ฮอร์โมนเป็นตัวกำหนด ? article
ทำไมต้องนั่งสมาธิในเวลา "ก่อนนอน หรือ ตอนเช้า" article
เครียดไม่รู้ตัว ภัยเงียบที่อาจอยู่ข้างๆคุณ article
คนเราตายแล้วไปไหนบ้าง ? article
กรรมที่เกิดมาเป็นสัตว์ article
แค่กำมือก็ช่วยความดันได้ article
วันนี้... คือ “ วันที่ดีที่สุด ” article
คำกลอน วันพุธ article
คำกลอน วันอังคาร article
คำกลอน วันจันทร์ article
คำกลอน วันอาทิตย์ article
คำกลอน วันเสาร์
คำกลอน วันศุกร์ article
คำกลอน วันพฤหัสบดี article
ไข่ไก่ แทบจะเป็นเมนูหลักเมนูหนึ่งของคนไทยเลยทีเดียว article
คีโม คือธุรกิจเลือดเย็นของโรงพยาบาลแบบเจ้ามือหวย คนเล่นเสีย เจ้ามือรวย article
วิธีใช้ปุ่มบนเครื่องคิดเลข article
มนุษย์ที่หมดบุญ มี 2 อย่างด้วยกัน article
แผลในปาก เกิดจากอะไร กันแน่!! article
10 อาหารช่วยลดกลิ่นตัว กลิ่นตัวหอมธรรมชาติไม่ต้องพึ่งโรลออน article
10 ข้อคิดยุคใหม่ article
5 อาการนิ้วล๊อคเป็นอย่างไร? article
จำกันได้ไหม เด็กน้อย
จำกันได้ไหม แมวเหมียวแยกเขี้ยวยิงฟัน
จำกันได้ไหม กาดำ article
ระลึก นึกถึง พระคุณ พ่อ แม่
จำกันได้ไหม ยี่สิบม้วนไม้ม้วน
ทบทวนความจำ พยัญชนะไทย article
ท่อง จำ ติดหู ติดใจ กันได้บ้างไหม article
อาหารเสริม กับ การกินเจ article
เทศกาลกินเจ 2564 ตรงกับวันที่ 6 ตุลาคม - 14 ตุลาคม 2564 article
วิตามินและอาหารเสริมควรทานเวลาไหนดี? article
อาการแบบใดเรียก ว่า กำลังอยู่ในภาวะช็อค ! article
ปรัชญาแห่ง “ความเรียบง่าย” ของชีวิต article
รวมบทธรรมะ article
ความดันโลหิตสูง article
ระวัง !!!! Favipiravir มีขายเกลื่อนเนท article
ระวัง! ฟ้าทะลายโจรปลอม เช็กให้ดีก่อนซื้อ
ความเข้าใจผิด ท่านพุทธทาสภิกขุ article
เงินกับเวลา article
10 พฤติกรรมทำลายกระดูกและส่วนสูง ถ้าไม่อยาก เตี้ยลง ควรหยุดทำสิ่งเหล่านี้ article
ไม่น่าเชื่อว่าน้ำตาลในกล้วยตากมากกว่าทุเรียนเกือบเท่าตัว ในขณะที่ article
วิตามิน กินอย่างไรให้ถูกวิธี? article
มนุษย์เราเอ๋ย article
อารมณ์ไม่ดี article
เคยสงสัยไหม? ทำไมรางรถไฟต้องถูกรองด้วยก้อนหิน article
...คนดีเดินไปไหน... ใครก็ทัก article
อวัยวะ กลัวอะไร article
สุดท้าย article
วิธีแก้เครียดก่อนเข้านอน article
ประโยชน์ของใบย่านาง ไอเดียการกินการใช้ใบย่านางเพื่อสุขภาพ ข้อควรระวัง article
สิ่งที่คุณต้อง ขอบคุณ article
มีเมียสวยไม่สู้มีเมียใจซื่อ article
#ไม่ขอสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ # article
การตื่นเช้า article
รู้จัก 5 แซ่จีน ลูกหลานมังกรในไทย เปิดที่มาต้นกำเนิดนามสกุลจีน article
บริจาคเลือดตามวันเกิด article
ยาที่ดีที่สุด article
อยากลดน้ำหนัก article
รักษาไขมันพอกตับ article
หลงลืมตามวัยหรือสมองเสื่อม article
8 ต้นเหตุ พร้อม 7 วิธีแก้ บอกลา ตะคริว แบบถาวร article
กระตุ้น สมอง article
ทำไมเราถึงตด? article
“สาลี่” ผลไม้สรรพคุณดีจากจีน ช่วยบำรุงหัวใจ ฟอกเลือด article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด

เลขที่ 511/4 ถนนประชาอุทิศ 117/1 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร (10140)

โทร/Tel : 02 - 8159522, แฟกซ์/Fax : 02 - 8159523, มือถือ/Mobile : 081 - 7936156

อีเมล/E-mail : sawai.prm@gmail.com, เว็บไซต์/Web : www.parameelaw.com