ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ชมรมบริหารงานบุคคล
dot
bulletสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย
bulletชมรมบริหารงานบุคคล
bulletชมรมบริหารงานบุคคล อยุธยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลรังสิต
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคล อมตะนคร
bulletสมาคมการบริหารงานบุคคล (PAAs)
bulletชมรมบริหารงานบุคคลบางพลี
bulletชมรมนักบริหารงานบุคคลพัทยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลยุคใหม่
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคลจังหวัดราชบุรี
bulletงานบริหารงานบุคคล
bulletชมรมงานบริหารงานบุคคลกรุงเทพฯ
bulletชมรมบริหารงานบุคลสุขสวัสดิ์
dot
ติดต่อราชการศาล
dot
bulletศาลแรงงานกลาง
bulletศาลแรงงานภาค ๒
bulletศาลยุติธรรม
bulletศาลปกครอง
bulletศาลรัฐธรมนูญ
bulletสำนักงานอัยการสูงสุด
bulletกระทรวงยุติธรรม
bulletคณะกรรมการกฤษฎีกา
bulletกรมบังคับคดี
bulletสภาทนายความ
dot
หน่วยงานราชการสำคัญ
dot
bulletกระทรวงแรงงาน
bulletกรมการจัดหางาน
bulletกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
bulletกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
bulletสำนักงานประกันสังคม
bulletกรมสรรพากร
bulletกรมบัญชีกลาง
bulletกรมพัฒนาธุรกิจกาค้า
bulletกระทรวงอุตสาหกรรม
bulletกรมโรงงานอุตสาหกรรม
bulletกรมส่งเสริมอุตสาหรม
bulletการนิคมอุตสาหกรรม
dot
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน
dot
bulletสมบัติลีกัล
bulletเอกเซลสำหรับงาน HR โดย อ.สำเริง
bulletบทความดี ๆ จากโกป้อม
dot
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
dot
dot
Newsletter

dot


พยากรณ์อากาศวันนี้
..................................


ราคาน้ำมันวันนี้
..................................



ค่าเบี้ยเลี้ยง / ค่าล่วงเวลา คือ ค่าตอบแทนบริษัททัวร์ (เหมาจ่ายสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดชอบด้วยกฎหมาย) article

 

คำพิพากษาฎีกาที่ 7755 - 7774/2551
 
ค่าเบี้ยเลี้ยง / ค่าล่วงเวลา คือ  ค่าตอบแทนบริษัททัวร์ (เหมาจ่ายสูงกว่าที่กฎหมายกำหนดชอบด้วยกฎหมาย)
                               
                   คดีทั้งยี่สิบสำนวนนี้ศาลแรงงานกลางสั่งให้รวมพิจารณากับคดีอื่นอีกสิบสี่สำนวน   โดยให้เรียกโจทก์ทั้งยี่สิบสำนวนนี้ว่าโจทก์ที่ 1 ถึงที่ 12 ที่ 14 ที่ 17 ที่ 19ที่ 21 ถึงที่ 22 ที่ 24 ที่ 26 และที่ 28 ตามลำดับ แต่คดีอื่นยุติไปแล้วโดยโจทก์ถอนฟ้องในระหว่างการพิจารณาของศาลแรงงานกลางบางส่วน และยุติไปตามคำพิพากษาศาลแรงงานกลางบางส่วน คงขึ้นมาสู่การพิจารณาของศาลฎีกาเฉพาะคดียี่สิบสำนวนนี้
 
 
                                โจทก์ทั้งยี่สิบสำนวนฟ้องว่า จำเลยประกอบกิจการรับขนส่งคนโดยสาร(นักท่องเที่ยว) ทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ โจทก์ทั้งยี่สิบเข้าทำงานกับจำเลยเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2543 ตำแหน่งพนักงานขับรถ ได้รับค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ 5,100 บาท ต่อคน กำหนดจ่ายค่าจ้างทุกวันสิ้นเดือน จำเลยมีคำสั่งให้โจทก์ทั้งยี่สิบทำงานล่วงเวลาในวันทำงาน โจทก์ทั้งยี่สิบทำงานล่วงเวลาตามคำสั่งของจำเลยแล้วตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานของจำเลยโจทก์ทั้งยี่สิบมีเวลาทำงานตั้งแต่เวลา 8 นาฬิกา ถึง 17 นาฬิกา  เวลาพักระหว่าง  12 นาฬิกา ถึง 13 นาฬิกาและกำหนดค่าล่วงเวลาในอัตราไม่น้อยกว่า 1.5 เท่า ของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงโจทก์ทั้งยี่สิบมีหน้าที่ขับรถยนต์ของจำเลยพานักท่องเที่ยวของบริษัทลูกค้าของจำเลยไปท่องเที่ยวตามกำหนดการท่องเที่ยวในแต่ละครั้ง ในระหว่างทำงานโจทก์ทั้งยี่สิบต้องทำงานต่อเนื่องติดต่อกันไปจนเสร็จตามรายการการท่องเที่ยวที่กำหนดไว้ในแต่ละครั้ง ซึ่งการปฏิบัติงานแต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 5 วัน ถึง 7 วัน และต้องอยู่ในความควบคุมภายใต้บังคับบัญชาของจำเลย โจทก์ทั้งยี่สิบทำงานล่วงเวลาในวันทำงานปกติจึงมีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลา แต่จำเลยไม่จ่ายค่าล่วงเวลาให้ โจทก์ทั้งยี่สิบขอเรียกค่าล่วงเวลานับจากวันฟ้องย้อนหลังไปเป็นเวลา 2 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2545 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2547 โจทก์แต่ละคนขอเรียกค่าล่วงเวลาจากการทำงานล่วงเวลา 7,125 ชั่วโมง ขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าล่วงเวลาแก่โจทก์ทั้งยี่สิบคนละ 225,793 บาท 
 
 
                                จำเลยทั้งยี่สิบสำนวนให้การว่า ฟ้องโจทก์ทั้งยี่สิบเคลือบคลุม โจทก์ทั้งยี่สิบทำงานตำแหน่งพนักงานขับรถยนต์โดยสารไม่ประจำทาง ทำงานเป็นช่วง ในการทำงานแต่ละครั้งมีเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดไม่แน่นอน จึงไม่อาจนำข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานในส่วนค่าล่วงเวลาอันเป็นข้อบังคับทั่วไปมาใช้บังคับ การทำงานของพนักงานขับรถมีระเบียบประเพณีปฏิบัติมานานหลายปีโดยพนักงานขับรถมีอัตราเงินเดือนเท่ากันทุกคน มีการจ่ายค่าล่วงเวลาให้โจทก์ทั้งยี่สิบทุกครั้งเมื่อสิ้นสุดการทำงานแต่ละครั้ง จำเลยจึงไม่ได้กำหนดเรื่องการทำงานล่วงเวลาของพนักงานขับรถให้ชัดเจนในข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน โจทก์ทั้งยี่สิบมีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลาตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 65 (8) และกฎกระทรวงฉบับที่ 12 พ.ศ.2541 ข้อ 6 เท่ากับอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ทำ จำเลยประกอบธุรกิจให้บริการรถยนต์เช่าเหมาคันจำเลยมีข้อตกลงกับบริษัทนำเที่ยวผู้เช่าเหมาโดยมัคคุเทศก์เป็นผู้กำหนดจ่ายค่าล่วงเวลาให้พนักงานขับรถซึ่งรวมทั้งโจทก์ทั้งยี่สิบในอัตราวันละ 300 บาท ถึง 500 บาท หรือมากว่านั้น ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และโจทก์ทั้งยี่สิบได้รับค่าล่วงเวลาไปเรียบร้อยแล้วทุกครั้ง โจทก์ทั้งยี่สิบทำงานเดือนละ 26 วัน เวลาทำงานล่วงเวลาตามคำฟ้องของโจทก์ทั้งยี่สิบเฉลี่ยแล้วเท่ากับวันละ 14.42 ชั่วโมง เมื่อรวมกับเวลาทำงานปกติ 9 ชั่วโมง โจทก์ทั้งยี่สิบจะทำงานวันละ 23 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งไม่สามารถทำได้ ขอให้ยกฟ้อง
 
 
                                ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้วฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยประกอบกิจการขนส่งทางบกโดยมีรถยนต์โดยสารไม่ประจำทางให้เช่า โจทก์ทั้งยี่สิบเป็นพนักงานขับรถยนต์ของจำเลย ได้รับค่าจ้างเดือนละ 5,100 บาท ทุกวันสิ้นเดือนบริษัทนำเที่ยวทำสัญญาให้จำเลยจัดหารถยนต์โดยสารพร้อมคนขับไปบริการนักท่องเที่ยวโดยมีมัคคุเทศก์ซึ่งเป็นตัวแทนของบริษัทนำเที่ยวเป็นผู้สั่งงานพนักงานขับรถตลอดเวลาที่นักท่องเที่ยวอยู่ในประเทศไทยตามรายการที่กำหนดไว้ซึ่งถือเป็นการเสร็จสิ้นภารกิจ 1 ครั้ง มัคคุเทศก์เป็นผู้จ่ายเงินพิเศษที่เรียกว่าค่าเบี้ยเลี้ยงหรือค่าทัวร์เฉพาะวันที่ปฏิบัติหน้าที่ขับรถให้แก่พนักงานขับรถวันละ 300 บาท  ถึง 500 บาทพนักงานขับรถต้องขับรถเฉลี่ยเดือนละ 18 วัน มีกำหนดเวลาทำงานปกติ 8 นาฬิกาถึง17 นาฬิกา พักระหว่าง 12 นาฬิกา ถึง 13 นาฬิกา ในวันปฏิบัติงานต้องทำงานเกินเวลาทำงานปกติถึง 8 ชั่วโมง แล้ววินิจฉัยว่า โจทก์ทั้งยี่สิบทำงานเกินกว่าที่พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 65 ( 8) และกฎกระทรวงฉบับที่ 12 (พ.ศ.2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ข้อ 3 กำหนดไว้ โจทก์ทั้งยี่สิบมีสิทธิได้รับค่าทำงานเกินเวลาในอัตราค่าจ้างทำงานปกติ แต่ไม่มีสิทธิได้รับค่าตอบแทน 1.5 เท่า ของค่าจ้างทำงานปกติ สัญญาระหว่างจำเลยกับบริษัทนำเที่ยวที่ให้บริษัทนำเที่ยวเป็นผู้จ่ายค่าตอบแทนการทำงานแก่พนักงานขับรถซึ่งเป็นลูกจ้างของจำเลยย่อมทำได้ไม่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย เงินที่มัคคุเทศก์จ่ายให้โจทก์ทั้งยี่สิบคนละ 300 บาท ต่อวัน เป็นค่าตอบแทนการทำงานเกินเวลาทำงานปกติของวันที่โจทก์แต่ละคนปฏิบัติงาน เมื่อคำนวณแล้วเป็นจำนวนที่เกินกว่าค่าจ้างทำงานปกติ 8 ชั่วโมง โจทก์ทั้งยี่สิบจึงไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยจ่ายค่าตอบแทนการทำงานเกินเวลาซ้ำอีก พิพากษายกฟ้อง
 
                    
                               โจทก์ที่ 1 ถึงที่ 12 ที่ 14 ที่ 17 ที่ 19 ที่ 21 ถึงที่ 22 ที่ 24 ที่ 26 และที่ 28 อุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
 
 
                                ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว มีปัญหาวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของโจทก์ทั้งยี่สิบว่าเงิน "ค่าเบี้ยเลี้ยง" ที่โจทก์ทั้งยี่สิบได้รับจากบริษัทนำเที่ยวหรือมัคคุเทศก์เป็น "ค่าตอบแทน" การทำงานล่วงเวลาตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 (มาตรา 65 (8) ประกอบกฎกระทรวงฉบับที่ 12 (พ.ศ.2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541  ข้อ 6หรือไม่ พิเคราะห์แล้วข้อเท็จจริงที่คู่ความไม่โต้แย้งกันได้ความว่า จำเลยให้บริษัทนำเที่ยวเช่ารถโดยมีการทำสัญญาจ้างขนส่งด้วยรถโดยสารปรับอากาศตามเอกสารหมาย ล.2 ถึง ล.4 และจำเลยให้พนักงานขับรถของจำเลยทำหน้าที่ขับรถให้บริษัทนำเที่ยวผู้เช่ารถ ระหว่างปฏิบัติหน้าที่พนักงานขับรถต้องปฏิบัติตามคำสั่งของบริษัทนำเที่ยวที่สั่งผ่านมัคคุเทศก์ให้นำนักท่องเที่ยวไปท่องเที่ยวตามสถานที่ที่กำหนด เห็นว่า ลักษณะงานของพนักงานขับรถของจำเลยซึ่งรวมทั้งโจทก์ทั้งยี่สิบเป็นงานที่ต้องทำนอกสำนักงานของจำเลย ไม่ใช่งานที่ทำในสำนักงานในระหว่างปฏิบัติงานโจทก์ทั้งยี่สิบต้องปฏิบัติงานของโจทก์ทั้งยี่สิบให้บริษัทนำเที่ยวการทำงานล่วงเวลาหรือไม่ขึ้นอยู่กับคำสั่งของบริษัทนำเที่ยวหรือมัคคุเทศก์ ตามเอกสารหมาย ล.2 ถึง ล.4 กำหนดให้บริษัทนำเที่ยวเป็นผู้จ่ายค่าล่วงเวลาให้โจทก์ทั้งยี่สิบในขณะเดียวกันจำเลยก็ยังคงจ่ายค่าจ้างให้โจทก์ทั้งยี่สิบเป็นเงินเดือนซึ่งเป็นค่าจ้างที่จ่ายสำหรับการปฏิบัติงานขับรถอันมีลักษณะงานที่ทำนอกสำนักงานของจำเลยอยู่แล้ว ส่วนเงิน "ค่าเบี้ยเลี้ยง" ที่บริษัทนำเที่ยวจ่ายหรือจ่ายผ่านมัคคุเทศก์ให้โจทก์ทั้งยี่สิบนั้นเป็นเงินที่จ่ายตามสัญญาเอกสารหมาย ล.2 ถึง ล.4 ตอบแทนการทำงานล่วงเวลาในระหว่างที่โจทก์ทั้งยี่สิบปฏิบัติงานภายใต้คำสั่งและอยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของบริษัทนำเที่ยวที่เรียกว่า "ค่าล่วงเวลา" นั่นเอง ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 65 (8) ประกอบกฎกระทรวงฉบับที่ 12 (พ.ศ.2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน  พ.ศ.2541 ข้อ 6 โจทก์ทั้งยี่สิบไม่มีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลาในการทำงานล่วงเวลาแต่มีสิทธิได้รับค่าตอบแทน ดังนั้นเงินที่เรียกว่า "ค่าเบี้ยเลี้ยง" หรือ "ค่าล่วงเวลา" ก็คือ "ค่าตอบแทน" การทำงานล่วงเวลาตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 มาตรา 65 (8) ประกอบกฎกระทรวงฉบับที่ 12 (พ.ศ.2541) ออกตามความในพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 ข้อ 6 ที่บริษัทนำเที่ยวจ่ายค่าล่วงเวลา (ค่าตอบแทน) เหมาจ่ายให้โจทก์ทั้งยี่สิบในอัตราสูงกว่าอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมงในวันทำงานของโจทก์ทั้งยี่สิบ และจ่ายให้แม้วันที่โจทก์ทั้งยี่สิบไม่ได้ทำงานล่วงเวลาก็เป็นไปเพื่อประโยชน์ของโจทก์ทั้งยี่สิบตามสัญญาเอกสารหมาย ล.2 ถึง ล.4 ไม่ทำให้เงินดังกล่าวกลายเป็นค่าเบี้ยเลี้ยงที่บริษัทนำเที่ยวจ่ายตอบแทนการที่โจทก์ทั้งยี่สิบออกไปทำงานนอกสำนักงานของจำเลย เมื่อโจทก์ทั้งยี่สิบได้รับค่าตอบแทนการทำงานล่วงเวลาครบถ้วนแล้วจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดจ่ายค่าตอบแทนการทำงานล่วงเวลาให้โจทก์ทั้งยี่สิบ อุทธรณ์ของโจทก์ทั้งยี่สิบฟังไม่ขึ้น
 
 
                                พิพากษายืน

 




ฎีกาบรรทัดฐาน

โยกย้ายตำแหน่งหน้าที่ชอบด้วยกฎหมาย article
สัญญาจ้างมีกำหนดระยะเวลาต่อสัญญาใหม่ เป็นสัญญาจ้างที่ไม่มีกำหนดระยะเวลา ต้องบอกกล่าว + ค่าชดเชย article
การโอนสิทธิความเป็นลูกจ้างตาม ป.พ.พ.แพ่งและพาณิชย์ มาตรา 577 article
เปลี่ยนแปลงข้อตกลงเกี่ยวกับสภาพการจ้างไม่เป็นคุณแก่ลูกจ้าง ลูกจ้างทราบเรื่องโดยตลอดมิ ได้คัดค้าน แต่ลาออกแล้วใช้สิทธิฟ้องเงินตามข้อตกลงภายหลัง ถือว่าใช้สิทธิโดยไม่สุจริตไม่มีอำนาจฟ้อง
ตกลงจ่ายเงินโบนัสทุกเดือนเป็นประจำแน่นอน ถือเป็นค่าจ้าง article
อายุความ มูลละเมิดอันมีความผิดทางอาญา หากในคดีอาญาอายุความมากกว่าให้ใช้อายุความตามนั้น article
ทำงานแม่บ้านร้านเสริมสวยถือเป็นลูกจ้าง article
เกษียณอายุ จ้างต่อ ตกลงไม่จ่ายค่าชดเชยกัน เป็นโมฆะต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย article
ฟ้องเพิกถอนคำสั่งพนักงานตรวจแรงงาน ต้องวางเงินศาลตามคำสั่งก่อน จึงจะใช้สิทธิฟ้องเพิกถอนคำสั่งได้ article
ค่าตำแหน่ง ค่ารถ ถือเป็นค่าจ้าง article
เปลี่ยนแปลง ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน (ไมได้ ! ) article
สัญญาจ้างแรงงานหรือสัญญาจ้างทำของ article
ค่าคอมมิชชั่น article
ค่าคอมมิชชั่นที่คำนวณจากยอดขาย ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่าเที่ยว ถือเป็นค่าจ้าง article
เหมาจ่ายเบี้ยเลี้ยงและค่าทำงานล่วงเวลา article
เดินโพยหวย ล่อซื้อและเลิกจ้างได้
ลักษณะงานที่ไม่อาจกำหนดเวลาทำงานที่แน่นอนได้ article
ตกลงเหมาจ่ายเบี้ยเลี้ยงในการขับรถรับส่งท่องเที่ยวสูงกว่าอัตราที่ควรได้รับถือว่าจ่ายค่าล่วงเวลาโดยชอบแล้ว
โยกย้ายตำแหน่งหน้าที่ไม่ชอบ article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด

เลขที่ 511/4 ถนนประชาอุทิศ 117/1 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร (10140)

โทร/Tel : 02 - 8159522, แฟกซ์/Fax : 02 - 8159523, มือถือ/Mobile : 081 - 7936156

อีเมล/E-mail : sawai.prm@gmail.com, เว็บไซต์/Web : www.parameelaw.com