ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ชมรมบริหารงานบุคคล
dot
bulletสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย
bulletชมรมบริหารงานบุคคล
bulletชมรมบริหารงานบุคคล อยุธยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลรังสิต
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคล อมตะนคร
bulletสมาคมการบริหารงานบุคคล (PAAs)
bulletชมรมบริหารงานบุคคลบางพลี
bulletชมรมนักบริหารงานบุคคลพัทยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลยุคใหม่
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคลจังหวัดราชบุรี
bulletงานบริหารงานบุคคล
bulletชมรมงานบริหารงานบุคคลกรุงเทพฯ
bulletชมรมบริหารงานบุคลสุขสวัสดิ์
dot
ติดต่อราชการศาล
dot
bulletศาลแรงงานกลาง
bulletศาลแรงงานภาค ๒
bulletศาลยุติธรรม
bulletศาลปกครอง
bulletศาลรัฐธรมนูญ
bulletสำนักงานอัยการสูงสุด
bulletกระทรวงยุติธรรม
bulletคณะกรรมการกฤษฎีกา
bulletกรมบังคับคดี
bulletสภาทนายความ
dot
หน่วยงานราชการสำคัญ
dot
bulletกระทรวงแรงงาน
bulletกรมการจัดหางาน
bulletกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
bulletกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
bulletสำนักงานประกันสังคม
bulletกรมสรรพากร
bulletกรมบัญชีกลาง
bulletกรมพัฒนาธุรกิจกาค้า
bulletกระทรวงอุตสาหกรรม
bulletกรมโรงงานอุตสาหกรรม
bulletกรมส่งเสริมอุตสาหรม
bulletการนิคมอุตสาหกรรม
dot
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน
dot
bulletสมบัติลีกัล
bulletเอกเซลสำหรับงาน HR โดย อ.สำเริง
bulletบทความดี ๆ จากโกป้อม
dot
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
dot
dot
Newsletter

dot


พยากรณ์อากาศวันนี้
..................................


ราคาน้ำมันวันนี้
..................................



ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการผิดสัญญาจ้างภายใน 10 ปี นับจากวันที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้ article

 

 คำพิพากษาฎีกาที่ 714 - 715/2551

 

 ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากการผิดสัญญาจ้างภายใน 10 ปี นับจากวันที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้

  
 
                                คดีทั้งสองสำนวนนี้ศาลแรงงานภาค 2 สั่งให้พิจารณาเป็นคดีเดียวกันโดยให้เรียกโจทก์ทั้งสองสำนวนว่า โจทก์ และเรียกจำเลยทั้งสองสำนวนว่า จำเลยที่ 1 และที่ 2 ตามลำดับ
 
   
                                โจทก์ทั้งสองสำนวนฟ้องเป็นใจความว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทมหาชนจำกัด ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาศรีราชา จังหวัดชลบุรี เป็นสาขาหนึ่งของโจทก์ เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2528 จำเลยที่ 2 เข้าทำงานเป็นลูกจ้างของโจทก์ โดยมีจำเลยที่ 1 เป็นผู้ค้ำประกันการทำงานของจำเลยที่ 2 จำนวนเงินไม่เกิน 50,000 บาท เมื่อประมาณปี 2534  โจทก์มอบหมายให้จำเลยที่ 2 ปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้ช่วยผู้รักษาเงิน สาขาศรีราชา จังหวัดชลบุรี มีหน้าที่ดูแลบัญชีเงินฝากประจำของลูกค้า โดยปฏิบัติงานร่วมกับนายชัยยุทธ  พลายแก้วและนางมัณฑนา โพธิ์เงิน เมื่อลูกค้ารายนายอรุณและนางวรรณศิริ นุติเจริญกุล ขอเบิกถอนเงินจากบัญชีเงินฝากประจำจำนวน 17,000 บาท แต่จำเลยที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องโดยจ่ายเงินให้แก่ลูกค้าไปจำนวน 170,000 บาท เพราะเหตุที่ทำรายการผิดพลาด ต่อมาได้แก้ไขรายการและจัดทำสลิปปรับปรุงรายการโดยพลการและไม่ได้แจ้งให้ลูกค้าทราบ นายอรุณและนางวรรณศิริจึงยื่นฟ้องโจทก์เป็นจำเลยต่อศาลจังหวัดชลบุรี เพื่อให้โจทก์คืนเงินในบัญชีที่ตัดรายการผิดพลาด โจทก์แต่งตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงแล้วมีคำสั่งว่า จำเลยที่ 2  นายชัยยุทธและนางมัณฑนาร่วมกันปฏิบัติงานบกพร่อง ประมาทเลินเล่อ ขาดความรอบคอบระมัดระวังเท่าที่ควรในการปฏิบัติงานอันเป็นการผิดวินัยพนักงาน ลงโทษตัดเงินเดือนร้อยละ 15 มีกำหนด 3 เดือน ส่วนความรับผิดทางแพ่ง หากโจทก์แพ้คดี ได้รับความเสียหาย ก็จะให้จำเลยที่ 2 นายชัยยุทธและนางมัณฑนาร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายจนครบจำนวนต่อมาศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้โจทก์แพ้คดีและคืนเงิน โจทก์จึงนำเงินจำนวน 153,000 บาท เข้าบัญชีคืนให้แก่ลูกค้าเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2537 จำเลยที่ 2 นายชัยยุทธ และนางมัณฑนาจะต้องร่วมกันรับผิดชดใช้เงินจำนวนดังกล่าวคืนให้แก่โจทก์นายชัยยุทธชดใช้เงินจำนวน 51,000 บาทคืนให้แก่โจทก์แล้ว นางมัณฑนาผ่อนชำระเงินจำนวน 51,000 บาท แก่โจทก์ จำเลยที่ 2 จึงต้องรับผิดเป็นเงินจำนวน 51,000 บาท ส่วนจำเลยที่ 1 จะต้องรับผิดเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท โจทก์ทวงถามจำเลยที่ 1 แล้ว แต่จำเลยที่ 1 เพิกเฉย ขอให้บังคับจำเลยที่ 1 ชำระเงินจำนวน 50,000 บาท แก่โจทก์ พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จ และจำเลยที่ 2 ชำระเงินจำนวน 51,000 บาท แก่โจทก์พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
 
 
  
                                จำเลยทั้งสองให้การทำนองเดียวกันว่า จำเลยที่ 2 ปฏิบัติงานตามแบบแผนในทางปฏิบัติที่โจทก์รู้เห็นและยินยอมให้ปฏิบัติเพื่อความคล่องตัวและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า จำเลยที่ 2 ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ไม่ได้ทำรายการเบิกถอนเงินในบัญชีของลูกค้าผิดพลาด ไม่ได้แก้ไขรายการโดยพลการ ไม่ได้ประมาทเลินเล่อขาดความระมัดระวังในการปฏิบัติงานตามคำฟ้องของโจทก์ จำเลยที่ 2 ไม่ได้เป็นผู้ก่อให้เกิดความเสียหายให้แก่โจทก์ แต่เกิดจากการกระทำของลูกค้า จำเลยที่ 2จึงไม่ได้กระทำละเมิดต่อโจทก์และไม่ได้กระทำผิดสัญญาจ้างแรงงาน  คดีโจทก์ขาดอายุความแล้ว จำเลยทั้งสองไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ ขอให้ยกฟ้อง
  
  
                      ศาลแรงงานภาค พิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยที่ ชำระเงินจำนวน 51,000 บาท แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 31 พฤษภาคม 2547) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ โดยให้จำเลยที่ ร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 2  เป็นเงินจำนวน 50,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ
  
 
 
                             จำเลยทั้งสองอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
 
 
  
                    ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้ว ศาลแรงงานภาค 2 ฟังข้อเท็จจริงตามคำแถลงของคู่ความว่า โจทก์เป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทมหาชนจำกัด ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาศรีราชา จังหวัดชลบุรี เป็นสาขาหนึ่งของโจทก์ เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2528  จำเลยที่ เข้าทำงานเป็นลูกจ้างโจทก์ที่สาขาศรีราชา โดยมีจำเลยที่ เป็นผู้ค้ำประกันการทำงานของจำเลยที่ ต่อโจทก์จำนวนเงินไม่เกิน 50,000 บาท   เมื่อประมาณปี 2534 โจทก์มอบหมายให้จำเลยที่ ปฏิบัติงานในตำแหน่งผู้ช่วยผู้รักษาเงินของโจทก์สาขาศรีราชามีหน้าที่ดูแลบัญชีเงินฝากประจำของลูกค้าโจทก์สาขาศรีราชา โดยปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับนายชัยยุทธ พลายแก้ว และนางมัณฑนา โพธิ์เงิน เมื่อวันที่ กรกฎาคม 2534 ลูกค้ารายนายอรุณและนางวรรณศิริ นุติเจริญกุล ขอเบิกเงินจากบัญชีเงินฝากประจำเลขที่ 208-2-13540-3 นายชัยยุทธเป็นผู้เขียนใบถอนเงินให้แก่ลูกค้า ฉบับลงวันที่ กรกฎาคม 2534 ระบุตัวเลขจำนวน 17,000 บาท แต่ระบุเป็นตัวหนังสือว่า "หนึ่งแสนเจ็ดหมื่นบาท" ซึ่งไม่ตรงกัน แล้วนายชัยยุทธทำรายการถอนเงินโดยตัดบัญชีลูกค้าเพียงจำนวน 17,000 บาท นางมัณฑนาเป็นผู้อนุมัติสลิปถอนเงิน ในตอนเย็นของวันเกิดเหตุ นายชัยยุทธ นางมัณฑนา และจำเลยที่ พบว่ายอดเงินตามบัญชีไม่ตรงกับเอกสารถอนเงิน จึงทำรายการแก้ไขโดยทำสลิปเบิกเงินขึ้นมาอีก ฉบับ เป็นเงินจำนวน 153,000 บาท แล้วปรับปรุงบัญชีของลูกค้าโดยไม่ได้แจ้งให้ลูกค้าผู้จัดการสาขา และสมุห์บัญชีทราบ ครั้นเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2534 ลูกค้ามาฝากเงิน นายชัยยุทธ จึงนำสมุดบัญชีเงินฝากของลูกค้าไปปรับปรุงให้ตรงกับบัญชีของลูกค้าที่มีอยู่กับธนาคารโจทก์ซึ่งได้มีการแก้ไขไว้ในวันเกิดเหตุแล้ว แต่ลูกค้าไม่ยินยอมและยื่นฟ้องโจทก์เป็นจำเลยต่อศาลจังหวัดชลบุรี โจทก์มีคำสั่งฉบับลงวันที่ 16 ตุลาคม 2534 แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการปฏิบัติงานของพนักงานสาขาศรีราชาประกอบด้วยนายสมชัย ทรัพย์ทิพย์ หัวหน้าส่วนกลาง สำนักงานสาขาเขตภาคตะวันออก นายคมสัน จิตรการนทีกิจ หัวหน้าพนักงานกฎหมาย ส่วนว่าคดี ฝ่ายกฎหมายและนายสมปอง สุดเจริญ หัวหน้าแผนกเรื่องราวร้องทุกข์อุทธรณ์ ส่วนพนักงานสัมพันธ์ฝ่ายพนักงาน คณะกรรมการชุดดังกล่าวได้สอบสวนข้อเท็จจริงจากพยานบุคคลโดยบันทึกถ้อยคำของนายจตุรงค์ ตันติชินานนท์ นายชัยยุทธ พลายแก้ว นางมัณฑนา โพธิ์เงิน นางสาวศุภนิจ กังวิวรรธน์ นางพรภิชฌ์ สุทธิเสมอ นายศิริพันธ์ จันทรสมบัติและจำเลยที่ รวมทั้งรวบรวมเอกสารสำเนาใบถอนเงินที่เป็นปัญหาและเอกสารต่างๆ ไว้ ตามสำนวนการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการปฏิบัติงานของพนักงานสาขาศรีราชาเอกสารหมาย จ.แล้วโจทก์มีคำสั่งลงโทษตัดเงินเดือนจำเลยที่ ร้อยละ 15 มีกำหนด เดือน นับตั้งแต่การจ่ายเงินเดือนงวดประจำวันที่ 15 เมษายน 2535 เป็นต้นไป โดยมีหนังสือฉบับลงวันที่ เมษายน 2535 แจ้งไปยังนายศิริพันธ์ จันทรสมบัติ ผู้จัดการโจทก์สาขาศรีราชาและจำเลยที่ ได้ลงชื่อรับทราบไว้ท้ายหนังสือดังกล่าว ในหนังสือระบุว่า สำหรับความรับผิดชอบทางแพ่ง หากธนาคารเป็นฝ่ายแพ้คดี และได้รับความเสียหายจากกรณีดังกล่าวเป็นจำนวนเท่าใด ให้นายชัยยุทธ นางมัณฑนา และจำเลยที่ ร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายคืนให้โจทก์จนครบถ้วนต่อไป นายชัยยุทธ นางมัณฑนา และจำเลยที่ ร่วมกันทำหนังสือขอความเป็นธรรมและอุทธรณ์คำสั่ง ตามหนังสือเอกสารหมาย จ.และจ.หนังสือร้องขอความเป็นธรรมและอุทธรณ์คำสั่งระบุว่า กระทำการไม่รอบคอบไปบ้างแต่ไม่ทำให้ธนาคารเสียหายเพราะได้ดำเนินการไปตามเจตนาของลูกค้าที่ต้องการเบิกถอนเงินจำนวนดังกล่าว การแก้ไขรายละเอียดจำนวนเงินในสลิปใบถอนเงินและปรับปรุงรายการลงบัญชีในสลิปเป็นไปเพื่อรักษาประโยชน์ของธนาคารและได้พยายามติดตามลูกค้าแล้ว แต่ลูกค้าไม่ยอมมาพบคณะกรรมการพิจารณาเรื่องราวร้องทุกข์ของโจทก์มีมติยกคำร้องอุทธรณ์โดยให้ยืนตามคำสั่งลงโทษทางวินัยไว้ตามเดิม ตามรายงานคณะกรรมการพิจารณาเรื่องราวร้องทุกข์ฯ เอกสารหมาย จ.และแจ้งมติไปยังผู้จัดการสาขาศรีราชาเพื่อแจ้งให้นายชัยยุทธ นางมัณฑนา และจำเลยที่ ทราบ โจทก์ทวงถามให้จำเลยที่ ชำระหนี้ และจำเลยที่ ได้รับหนังสือบอกกล่าวทวงถามแล้ว ต่อมาศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาถึงที่สุดในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 970/2535 ของศาลจังหวัดชลบุรี ระหว่างนายอรุณ นุติเจริญกุล ที่ กับพวกรวม คน โจทก์ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาศรีราชา จำเลย พิพากษาให้โจทก์แพ้คดี โจทก์จึงนำเงินจำนวน 153,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยจำนวน 39,206.25 บาท หักภาษี ณ ที่จ่าย ไว้จำนวน 5,880.94 บาท คงเหลือเงินจำนวน 186,325.31 บาท พร้อมกับค่าทนายความชั้นอุทธรณ์อีกจำนวน 2,000 บาท ฝากเข้าบัญชีเงินฝากประจำของลูกค้าแล้ว นายชัยยุทธชดใช้เงินคืนแก่โจทก์จำนวน 51,000 บาท และนางมัณฑนายินยอมผ่อนชำระชดใช้เงินคืนแก่โจทก์แล้วจำนวน 51,000 บาท แล้วศาลแรงงานภาค วินิจฉัยว่า จำเลยที่ ไม่ได้ตรวจดูจำนวนเงินที่เป็นตัวเลขให้แน่ชัด และมิได้ดำเนินการติดตามลูกค้าไปยืนยันในเวลาอันรวดเร็วว่ามีการทำรายการผิดพลาดและขอให้นำสมุดคู่ฝากมาปรับปรุงให้ถูกต้อง ทำให้เกิดเป็นข้อกล่าวอ้างแก่ลูกค้าในการฟ้องร้องโจทก์เป็นคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 905/2535 (ที่ถูก คดีหมายเลขดำที่ 970/2535) ของศาลจังหวัดชลบุรี ถือได้ว่าจำเลยที่ ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ขาดความรอบคอบระมัดระวังในการปฏิบัติงาน ประมาทเลินเล่อ อันเป็นการละเมิดต่อโจทก์และเป็นการปฏิบัติผิดสัญญาจ้างแรงงานต่อโจทก์ นายชัยยุทธ นางมัณฑนา และจำเลยที่ ได้มีโอกาสเบิกความเป็นพยานให้แก่โจทก์ในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 970/2535 ของศาลจังหวัดชลบุรีซึ่งแสดงว่า โจทก์ได้ให้โอกาสแก่จำเลยที่ ได้แก่ข้อกล่าวอ้างของลูกค้าอย่างเต็มที่แล้วแต่ศาลอุทธรณ์ก็พิพากษายืนตามคำพิพากษาของศาลจังหวัดชลบุรีให้โจทก์ชดใช้เงินจำนวน 153,000 บาทคืนให้แก่ลูกค้า ซึ่งโจทก์ได้ชดใช้เงินจำนวนดังกล่าวคืนให้แก่ลูกค้าแล้ว โจทก์ก็มีสิทธิที่จะไล่เบี้ยเอาจากนายชัยยุทธ นางมัณฑนาและจำเลยที่ ซึ่งเป็นผู้กระทำละเมิดและปฏิบัติผิดสัญญาจ้างแรงงาน ให้ร่วมกันชดใช้เงินจำนวนดังกล่าวคืนแก่โจทก์ได้ เมื่อนายชัยยุทธและนางมัณฑนาชดใช้เงินคืนแก่โจทก์รวมกันเป็นเงินจำนวน 102,000 บาท และยังขาดอยู่อีกจำนวน 51,000 บาท จำเลยที่ 2   ก็จะต้องรับผิดชำระเงินจำนวนดังกล่าวคืนให้แก่โจทก์พร้อมด้วยดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดอัตราร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 วรรคหนึ่งส่วนจำเลยที่ ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันการทำงานของจำเลยที่ ไว้กับโจทก์ ก็จะต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ ด้วย แต่ไม่เกินวงเงินที่จำกัดไว้ตามสัญญาค้ำประกันความเสียหายคือไม่เกินจำนวน 50,000 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยผิดนัดอัตราเดียวกัน เหตุคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ กรกฎาคม 2534 โจทก์แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงและดำเนินการสอบสวนความผิดทางวินัยแก่นายชัยยุทธ นางมัณฑนา และจำเลยที่ แล้วแจ้งผลการพิจารณาโทษทางวินัยให้จำเลยที่ ทราบเมื่อวันที่ เมษายน 2535 ซึ่งเมื่อนับถึงวันฟ้องเป็นเวลาเกิน 10 ปีแล้ว คดีโจทก์จึงขาดอายุความมูลละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 วรรคหนึ่ง แต่การที่นายชัยยุทธ นางมัณฑนา และจำเลยที่ กระทำการตามหน้าที่ แต่ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ขาดความรอบคอบระมัดระวังในการปฏิบัติงาน ประมาทเลินเล่อ นายชัยยุทธทำรายการเบิกถอนเงินในบัญชีของลูกค้าผิดพลาดและร่วมกับนางมัณฑนาดำเนินการแก้ไขรายการโดยพลการจนเป็นเหตุให้ลูกค้าฟ้องเรียกร้องเงินคืนจากโจทก์ และโจทก์ต้องชดใช้เงินคืนให้แก่ลูกค้าดังกล่าวคือนายอรุณและนางวรรณศิริ ตามคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 970/2535 ของศาลจังหวัดชลบุรีไปแล้ว โจทก์จึงมาใช้สิทธิไล่เบี้ยเอาแก่จำเลยที่ ผู้เป็นต้นเหตุ ทำความเสียหายและจำเลยที่ ซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันการทำงานของจำเลยที่ ไว้กับโจทก์ สิทธิของโจทก์ดังกล่าวจึงเป็นสิทธิไล่เบี้ยตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 76 วรรคหนึ่ง อายุความเกี่ยวกับสิทธิดังกล่าวไม่มีกฎหมายบัญญัติไว้โดยเฉพาะ ย่อมมีกำหนด 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 193/30 โดยจะต้องเริ่มนับแต่วันที่โจทก์ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่นายอรุณและนางวรรณศิริ คือวันที่   20 ธันวาคม 2537 ตามเอกสารการลงบัญชีหมาย จ.ซึ่งเป็นเวลาขณะที่อาจบังคับตามสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้นไป ตามมาตรา 193/12 เมื่อนับถึงวันฟ้องยังไม่ถึง 10 ปี คดีโจทก์จึงยังไม่ขาดอายุความ
 
 
 
 
                   ปัญหาวินิจฉัยตามอุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองมีว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความแล้วหรือไม่ พิเคราะห์แล้ว โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยที่ 2 รับผิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นนายจ้างเพราะเหตุที่จำเลยที่ 2 ลูกจ้างของโจทก์ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ประมาทเลินเล่อ แก้ไขรายการบัญชีเงินฝากของลูกค้าโจทก์โดยไม่มีสิทธิ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหายโดยต้องนำเงินเข้าบัญชีคืนให้แก่ลูกค้ารายนายอรุณและนางวรรณศิริ นุติเจริญกุล ไปเป็นเงิน 153,000 บาท จึงเป็นการฟ้องให้จำเลยที่ 2 รับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาจ้างแรงงานระหว่างจำเลยที่ 2 กับโจทก์ เมื่อกฎหมายมิได้กำหนดอายุความในกรณีนี้ไว้โดยเฉพาะจึงมีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/30 โดยอายุความให้เริ่มนับแต่ขณะที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้นไป ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/12 คดีนี้จำเลยที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ประมาทเลินเล่อ แก้ไขรายการบัญชีเงินฝากของลูกค้าโจทก์ตั้งแต่วันที่ 2  กรกฎาคม 2534 โจทก์ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2534 ผลการสอบสวนได้ความว่า จำเลยที่ 2 นายชัยยุทธ พลายแก้ว นางมัณฑนา โพธิ์เงิน ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องประมาทเลินเล่อขาดความรอบคอบในการรักษาผลประโยชน์ของโจทก์เท่าที่ควร โจทก์มีคำสั่งลงโทษตัดเงินเดือนจำเลยที่ 2 นายชัยยุทธ และนางมัณฑนาคนละร้อยละ 15 มีกำหนด 3 เดือน นับตั้งแต่การจ่ายเงินเดือนงวดประจำวันที่ 15 เมษายน 2535 เป็นต้นไป โดยมีหนังสือฉบับลงวันที่ 9 เมษายน 2535 แจ้งไปยังนายศิริพันธ์ จันทรสมบัติ ผู้จัดการโจทก์สาขาศรีราชา และจำเลยที่ 2 ได้ลงชื่อรับทราบไว้ท้ายหนังสือดังกล่าว ดังนี้ อายุความเรียกร้องให้จำเลยที่ 2 รับผิดต่อโจทก์ตามสัญญาจ้างแรงงานอย่างช้าจึงเริ่มนับแต่วันที่โจทก์แจ้งผลการสอบสวนให้จำเลยที่ 2 ทราบ คือ วันที่ 9 เมษายน 2534 ซึ่งเป็นวันที่โจทก์อาจบังคับสิทธิเรียกร้องนี้ได้เป็นต้นไปโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสองวันที่ 31 พฤษภาคม 2547 จึงพ้นกำหนด 10 ปี ฟ้องโจทก์จึงขาดอายุความ ที่ศาลแรงงานภาค 2 วินิจฉัยว่าคดีโจทก์ยังไม่ขาดอายุความ โดยวินิจฉัยว่าโจทก์ใช้สิทธิไล่เบี้ยเอาแก่จำเลยที่ 2 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 76 วรรคหนึ่ง อายุความเริ่มนับแต่วันที่โจทก์ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่นายอรุณและนางวรรณศิริ นุติเจริญกุล คือวันที่ 20 ธันวาคม 2537 นั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา อุทธรณ์ของจำเลยทั้งสองฟังไม่ขึ้น
 
 
 
                                พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง



อัพเดท ฎีกาน่าสนใจ

ขึ้นทะเบียนรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเกิน ๓๐ วัน ยังมีสิทธิได้รับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานได้ article
ลักษณะความผิดเดียวกัน แต่ระดับความร้ายแรงแตกต่างกัน นายจ้างพิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ผู้จัดการสาขา เสนอรายชื่อลูกค้าที่ขาดคุณสมบัติทำประกันชีวิต ถือว่าจงใจทำให้นายจ้างเสียหาย / ผิดร้ายแรง article
หยุดกิจการชั่วคราวตาม มาตรา ๗๕ article
สัญญาจ้างเป็นสัญญาต่างตอบแทน นายจ้างออกค่าใช้จ่ายในการเข้าทดสอบเพื่อรับเกียรติบัตร เมื่อทดสอบผ่านต้องทำงานกับนายจ้าง ๕ ปี บังคับใช้ได้ article
ศาลแรงงานกลางมีอำนาจสั่งรับพยานเอกสารได้ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม article
ประกอบธุรกิจแข่งขัน / ไปทำงานกับนายจ้างอื่น ในลักษณะผิดต่อสัญญาจ้าง เมื่อลูกจ้างได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้างตามสัญญาแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะบังคับ / ห้ามทำงานตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างอีกต่อไป article
คดีแรงงานเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้คดีอาญายกฟ้อง แต่พฤติกรรมการกระทำผิด เป็นเหตุให้นายจ้างไม่อาจไว้วางใจในการทำงานได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
เลิกจ้างเนื่องจากปรับโครงสร้างองค์กร แต่กำหนดรายชื่อไว้ล่วงหน้า ถือเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม article
การหักลบกลบหนี้ หนี้อันเกิดจากสัญญาจ้าง กรณีลูกจ้างกระทำผิดกับสิทธิประโยชน์ที่มีสิทธิได้รับตามสัญญาจ้าง ถือเป็นมูลหนี้อันเป็นวัตถุอย่างเดียวกันหักลบกลบหนี้กันได้ article
เล่นการพนันฉลากกินรวบ เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน กรณีร้ายแรง article
กรณีไม่ถือเป็นการประกอบธุรกิจแข่งขันหรือไม่ถือว่าทำงานกับนายจ้างใหม่ในลักษณะธุรกิจเดียวกับนายจ้าง article
สัญญาฝึกอบรม นายจ้างกำหนดเบี้ยปรับได้ เป็นสัญญาที่เป็นธรรม article
ค้ำประกันการทำงาน หลักประกันการทำงาน การหักลบกลบหนี้ค่าเสียหายจากการทำงาน article
ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์แต่ตนเอง เรียกรับเงินจากลูกค้า ถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ article
ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา มาทำงานสายประจำ ถือว่า กระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สหภาพแรงงานทำบันทักข้อตกลงเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างกับนายจ้าง อันส่งผลกระทบต่อสิทธิหน้าที่ของสมาชิก ขัดกับข้อตกลงเดิมและมิได้ขอมติที่ประชุมใหญ่ ข้อตกลงดังกล่าวไม่อาจใช้บังคับได้ article
ขอเกษียณอายุก่อนกำหนดตามประกาศ ถือเป็นการสมัครใจเลิกสัญญาจ้างแรงงานต่อกัน มิใช่การเลิกจ้างหรือการเกษียณอายุ จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยตามระเบียบกรณีเกษียณอายุ article
สถาบันวิจัยอันเป็นส่วนหนึ่งของกิจการมหาวิทยาลัยถือเป็นหน่วยงานของรัฐ ได้รับยกเว้น ไม่อยู่ภายใต้บังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา ๔ (๑) article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า จากการเลิกจ้างมีอายุความฟ้องร้องได้ภายใน ๑๐ ปี article
ทะเลาะวิวาทเรื่องส่วนตัวไม่ส่งผลกระทบต่อการบังคับบัญชา ไม่เป็นความผิด กรณีร้ายแรง ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ article
พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน มิใช่ทายาทผู้มีสิทธิรับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ และเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ตามพระราชบัญญัติ ประกันสังคม มาตรา ๗๓ และมาตรา ๗๗ article
ขับรถเร็วเกินกว่าข้อบังคับกำหนด เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนคำสั่งโยกย้าย เลิกจ้างได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ประกาศใช้ระเบียบใหม่ ไม่ปรากฏว่ามีพนักงานโต้แย้งคัดค้าน ถือว่าทุกคนยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ article
เงินค่าตอบแทนพิเศษกับเงินโบนัส มีเงื่อนไขต่างกัน หลักเกณฑ์การจ่ายต่างกัน จึงต้องพิจารณาต่างกัน article
ทายาทผู้มีสิทธิได้รับเงินกองทุนเงินทดแทน article
ค่ารถแทนรถยนต์ประจำตำแหน่ง ไม่ถือเป็นค่าจ้าง และ ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสมให้ถือตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานที่กำหนดไว้ article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างไม่ตกลง ขอเวลาตัดสินใจและหยุดงานไป นายจ้างแจ้งให้กลับเข้าทำงานตามปกติ ถือว่านายจ้างยังไม่มีเจตนาเลิกจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ แอบนอนหลับในเวลาทำงาน ถือเป็นเหตุในการเลิกจ้างได้ เลิกจ้างเป็นธรรม article
ลาออกโดยไม่สุจริต ไม่มีผลใช้บังคับ article
ทำความผิดคล้ายคลึงกันแต่ไม่เหมือนกัน พิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ประกอบธุรกิจ บริการ ด่าลูกค้าด้วยถ้อยคำหยาบคาย " ควาย " ถือเป็นการกระทำความผิดกรณีร้ายแรง article
ข้อบังคับ ระบุให้ผู้บังคับบัญชาเหนือกว่ามีอำนาจแก้ไข เพิ่มโทษ หรือลดโทษได้ การยกเลิกคำสั่งลงโทษเดิมและให้ลงโทษใหม่หนักกว่าเดิมจึงสามารถทำได้ article
เลือกปฏิบัติในการลงโทษระเบียบการห้ามใส่ตุ้มหูมาทำงาน บังคับใช้ได้ แต่เลือกปฏิบัติในการลงโทษไม่ได้ article
ลงโทษพักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างและเตือนในคราวเดียวกันได้ ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน article
จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย article
ข้อตกลงรับเงินและยินยอมปลดหนี้ให้แก่กัน ถือเป็นการตกลงระงับข้อพิพาทแม้จะทำขึ้นก่อนคำสั่งเลิกจ้างมีผลใช้บังคับ article
ศาลแรงงานมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานที่คู่ความอ้างส่งศาลได้ แม้มิได้ระบุบัญชีพยานไว้ก็ตาม article
สัญญาจ้างห้ามลูกจ้างไปทำงานกับนายจ้างใหม่ที่ประกอบธุรกิจเช่นเดียวกันมีกำหนดเวลา บังคับใช้ได้ article
เลิกจ้างและรับเงินค่าชดเชย ใบรับเงิน ระบุขอสละสิทธิ์เรียกร้องเงินอื่นใดใช้บังคับได้ ลูกจ้างไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องสินจ้างและค่าเสียหายได้อีก article
เกษียณอายุ 60 ปี ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยนับแต่วันครบกำหนดเกษียณอายุ แม้นายจ้างไม่ได้บอกเลิกจ้างก็ตาม article
ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องและเพิกเฉยไม่ดูแลผลประโยชน์ของนายจ้าง เป็นเหตุให้นายจ้างไม่ไว้วางใจในการทำงานได้เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ละเลยต่อหน้าที่ ไม่รายงานเคพีไอ นายจ้างตักเตือนแล้ว ถือว่าผิดซ้ำคำเตือน เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ทำสัญญาจ้างต่างด้าวทำงานในอาชีพต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว สัญญาจ้างถือเป็นโมฆะ article
ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง article
ศาลมีคำสั่งให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษาตามหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน ในขณะที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ยุติ ต้องสืบพยานใหม่และพิพากษาใหม่ไปตามรูปคดี article
แม้สัญญาจ้างไม่ได้ระบุระยะเวลาทดลองงานไว้ แต่นายจ้างก็สามารถประเมินผลการทำงานของลูกจ้างได้ article
การควบรวมกิจการ สิทธิและหน้าที่โอนไปเป็นของบริษัทใหม่ การจ่ายเงินสมทบบริษัทใหม่ที่ควบรวมจึงมีสิทธิจ่ายเงินสมทบในอัตราเดิมตามสิทธิ มิใช่ในอัตราบริษัทตั้งใหม่ article
เลิกจ้างรับเงินค่าชดเชยแล้วตกลงสละสิทธิ์จะไม่เรียกร้องผละประโยชน์ใดๆ ถือว่าสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเป็นอันระงับไป article
รับเหมาก่อสร้าง ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบ จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมแทนผู้รับเหมาช่วง หากผู้รับเหมาช่วงไม่นำส่งเงินสมทบตามกฎหมายโดยคำนวณจากอัตราค่าจ้างที่ระบุตามแบบ ( ภ.ง.ด. 50 ) และบัญชีงบดุล article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานระบุห้ามทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกาย ผู้บังคับบัญชา เพื่อนพนักงาน ทั้งในสถานที่ทำงาน หรือสถานที่อื่นๆ ฝ่าฝืนถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง ใช้บังคับได้ไม่ขัดต่อกฎหมาย article
ไส้ติ่งอักเสบ แพทย์วินิจฉัยให้ผ่าตัด ถือเป็นกรณีฉุกเฉิน เบิกค่ารักษาได้ มีสิทธิรับเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ได้ article
ค่าเช่าที่พัก ค่าใช้จ่ายเดินทางเป็นสวัสดิการไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่ารถยนต์ซึ่งกำหนดเป็นสวัสดิการไว้ชัดเจนแยกจากฐานเงินเดือนปกติ ถือเป็นสวัสดิการไม่ใช่ค่าจ้าง article
ละเมิดข้อตกลงสภาพการจ้าง ละเมิดสัญญาจ้าง มีอายุความ 10 ปี มิใช่ 1 ปี article
พฤติกรรมการจ้างที่ถือว่าเป็นการจ้างแรงงาน ถือเป็นลูกจ้าง / นายจ้างตามกฎหมาย article
พนักงานขายรถยนต์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ประจำบูธ ตามที่ได้รับมอบหมาย ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
เลือกตั้งคณะกรรมการสหภาพฯ ขัดต่อข้อบังคับสหภาพหรือขัดต่อกฎหมาย ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบ article
ฝ่าฝืนสัญญาจ้าง กรณีห้ามทำการแข่งขันกับนายจ้างหรือทำธุรกิจคล้ายคลึงกับนายจ้างเป็นเวลา 2 ปี นับจากสิ้นสุดสัญญาต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้าง article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระบุให้นายจ้างเลิกจ้างเพราะเหตุคนล้นงาน ปรับลด ขนาดองค์กรได้ ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะเลิกจ้างลูกจ้างได้ article
ข้อบังคับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรณีตัดสิทธิ์รับเงินสมทบพร้อมผลประโยชน์หากกระทำผิดถูกปลดออกจากงานบังคับใช้ได้ article
ทะเลาะวิวาทกัน นอกเวลางาน นอกบริเวณบริษัทฯ ไม่ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนไม่ไปตรวจสารเสพติดซ้ำตามคำสั่งและนโยบาย ถือว่าฝ่าฝืน ข้อบังคับ หรือ ระเบียบ กรณีร้ายแรง article
วันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วน article
เป็นลูกจ้างที่มีอำนาจกระทำการแทนนายจ้างในการจ้างงาน ไม่มีสิทธิได้รับค่าทำงานในวันหยุด และลักทรัพย์เอาต้นไม้ของนายจ้างไป ถือว่ากระทำผิดอาญาแก่นายจ้าง เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ผลการทำงานดีมาโดยตลอดและไม่เคยกระทำผิดมาก่อน แต่ปีสุดท้ายผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ถือเป็นเหตุที่จะอ้างในการเลิกจ้าง article
ได้รับบาดเจ็บรายการเดียว เข้ารักษา 2 ครั้ง ถือว่าเป็นการรักษารายการเดียว นายจ้างสำรองจ่ายเพิ่มเติมไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ใช่ 200,000 บาท article
ผู้บริหารบริษัท ฯ ถือเป็นลูกจ้างหรือไม่ ดูจาก_________ ? article
ขับรถออกนอกเส้นทาง แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรงและก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้าง นายจ้างหักเงินประกันการทำงานได้ article
ค่าจ้างระหว่างพักงาน เมื่อข้อเท็จจริง ลูกจ้างกระทำความผิดจริง จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างระหว่างพักงาน article
“ นายจ้าง ” ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 article
สัญญารักษาความลับ ข้อมูลทางการค้า (ห้ามประกอบหรือรับปฏิบัติงานแข่งขันนายจ้าง) มีกำหนด 2 ปี บังคับใช้ได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย และการกำหนดค่าเสียหาย ถือเป็นเบี้ยปรับตามกฎหมาย ศาลปรับลดได้ตามสมควร article
เงินรางวัลการขายประจำเดือน จ่ายตามเป้าหมายการขาย ที่กำหนดไว้ ไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่าโทรศัพท์ เหมาจ่าย ถือเป็นค่าจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ 3 วันทำการ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เลิกจ้างเป็นธรรมไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ลาออกมีผลใช้บังคับแล้ว ออกหนังสือเลิกจ้างภายหลังใช้บังคับไม่ได้ article
ตกลงรับเงิน ไม่ติดใจฟ้องร้องอีกถือเป็นการตกลงประนีประนอมกันบังคับได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย
เลิกจ้างระหว่างทดลองงาน ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ข้อตกลงว่า “หากเกิดข้อพิพาทตามสัญญาจ้างแรงงาน ให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย” ไม่เกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมายแรงงาน เมื่อเกิดสิทธิตามกฎหมาย ฟ้องศาลแรงงานได้ โดยไม่ต้องให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย article
เลิกจ้างด้วยเหตุอื่น อันมิใช่ความผิดเดิมที่เคยตักเตือน ไม่ใช่เหตุที่จะไม่จ่ายค่าชดเชย เลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย article
นำรถยนต์ไปใช้ในกิจธุระส่วนตัว มีพฤติกรรมคดโกง ไม่ซื่อตรง พฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต ไม่น่าไว้วางใจ ลงโทษปลดออกจากการทำงานได้ article
การกระทำที่กระทบต่อเกียรติ ชื่อเสียงของนายจ้าง และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้กระทำนอกสถานที่ทำงานและนอกเวลางาน ก็ถือว่า ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกรณีร้ายแรง article
สัญญาค้ำประกันการทำงานไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ต้องรับผิดชอบตลอดไป article
ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเลิกจ้างได้ ถือว่าเลิกจ้างเป็นธรรมและความผิดที่ลงโทษแล้วจะนำมาลงโทษอีกไม่ได้ article
ผิดสัญญาจ้างไปทำงานกับคู่แข่ง นายจ้างฟ้องเรียกค่าเสียหายตามสัญญาได้ แต่ค่าเสียหาย เป็นดุลพินิจของศาลจะกำหนด article
จงใจกระทำผิดโดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้นายจ้างเสียหาย ถือว่า กระทำละเมิดต่อนายจ้าง ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น article
ตกลงสละสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย ภายหลังเลิกจ้าง ใช้บังคับได้ ไม่เป็นโมฆะ article
ก้าวร้าวไม่ให้ความเคารพผู้บังคับบัญชา ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้ามิใช่ค่าจ้าง คิดดอกเบี้ยในอัตรา 7. 5 ต่อปี article
ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของนายจ้างในเรื่องส่วนตัวเป็นประจำ ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่กาปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต เลิกจ้างเป็นธรรม article
สั่งให้พนักงานขับรถ ขับรถออกนอกเส้นทางแต่ไม่ได้มีส่วนในการขับรถ ถือว่าผิดต่อสัญญาจ้าง แต่ไม่ต้องรับผิดอันมีผลโดยตรงจากมูลละเมิด ( ขับรถโดยประมาท ) article
จ่ายของสมนาคุณให้ลูกค้า โดยไม่ตรวจสอบบิลให้ถูกต้อง มิใช่ความผิดกรณีร้ายแรงไม่ใช่การทุจริตต่อหน้าที่ แต่ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เสร็จลุล่วงไปโดยถูกต้อง และสุจริต เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ฟ้องประเด็นละเมิด กระทำผิดสัญญาจ้าง ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง มีอายุความ 10 ปี article
ตกลงยินยอมให้หักค่าจ้างชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันเงินกู้ นายจ้างสามารถหักค่าจ้างได้ตามหนังสือยินยอมโดยไม่ต้องฟ้อง article
กระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้างและประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง article
“ งานโครงการตามมาตรา 118 วรรค 4 ” บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ว่าจ้างลูกจ้างทำงานตามโครงการที่รับเหมา ถือว่าจ้างงานในปกติธุรกิจของนายจ้าง มิใช่งานโครงการ article
เงินโบนัสต้องมีสภาพการเป็นพนักงานจนถึงวันกำหนดจ่าย ออกก่อนไม่มีสิทธิได้รับ article
ระเบียบกำหนดจ่ายเงินพิเศษ ( gratuity ) เนื่องจากเกษียณอายุ โดยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายแตกต่างจากการจ่ายค่าเชย ถือว่านายจ้างยังไม่ได้จ่ายค่าชดเยตามกฎหมาย article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด

เลขที่ 511/4 ถนนประชาอุทิศ 117/1 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร (10140)

โทร/Tel : 02 - 8159522, แฟกซ์/Fax : 02 - 8159523, มือถือ/Mobile : 081 - 7936156

อีเมล/E-mail : sawai.prm@gmail.com, เว็บไซต์/Web : www.parameelaw.com