ReadyPlanet.com
dot dot
dot
ชมรมบริหารงานบุคคล
dot
bulletสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย
bulletชมรมบริหารงานบุคคล
bulletชมรมบริหารงานบุคคล อยุธยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลรังสิต
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคล อมตะนคร
bulletสมาคมการบริหารงานบุคคล (PAAs)
bulletชมรมบริหารงานบุคคลบางพลี
bulletชมรมนักบริหารงานบุคคลพัทยา
bulletชมรมบริหารงานบุคคลยุคใหม่
bulletชมรมผู้บริหารงานบุคคลจังหวัดราชบุรี
bulletงานบริหารงานบุคคล
bulletชมรมงานบริหารงานบุคคลกรุงเทพฯ
bulletชมรมบริหารงานบุคลสุขสวัสดิ์
dot
ติดต่อราชการศาล
dot
bulletศาลแรงงานกลาง
bulletศาลแรงงานภาค ๒
bulletศาลยุติธรรม
bulletศาลปกครอง
bulletศาลรัฐธรมนูญ
bulletสำนักงานอัยการสูงสุด
bulletกระทรวงยุติธรรม
bulletคณะกรรมการกฤษฎีกา
bulletกรมบังคับคดี
bulletสภาทนายความ
dot
หน่วยงานราชการสำคัญ
dot
bulletกระทรวงแรงงาน
bulletกรมการจัดหางาน
bulletกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน
bulletกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน
bulletสำนักงานประกันสังคม
bulletกรมสรรพากร
bulletกรมบัญชีกลาง
bulletกรมพัฒนาธุรกิจกาค้า
bulletกระทรวงอุตสาหกรรม
bulletกรมโรงงานอุตสาหกรรม
bulletกรมส่งเสริมอุตสาหรม
bulletการนิคมอุตสาหกรรม
dot
ลิ้งค์เพื่อนบ้าน
dot
bulletสมบัติลีกัล
bulletเอกเซลสำหรับงาน HR โดย อ.สำเริง
bulletบทความดี ๆ จากโกป้อม
dot
อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
dot
dot
Newsletter

dot


พยากรณ์อากาศวันนี้
..................................


ราคาน้ำมันวันนี้
..................................



ค่าชดเชยจากการเลิกจ้าง สามแสนบาทแรกได้รับยกเว้นภาษี / ไม่ต้องหัก ณ ที่จ่าย article

 

คำพิพากษาฎีกาที่ 1195/2551
 
 
เรื่อง ค่าชดเชยจากการเลิกจ้าง สามแสนบาทแรกได้รับยกเว้นภาษี / ไม่ต้องหัก ณ ที่จ่าย
 
 
 
จำเลยเลิกจ้างโจทก์ โดยจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย และหักภาษี ณ.ที่จ่ายไว้ เป็นการหักไม่ชอบด้วยกฎหมาย   เนื่องจากค่าชดเชยที่โจทก์ได้รับจากการเลิกจ้าง สามแสนบาทแรกได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี  จึงไม่จำต้องหักภาษี ณ.ที่จ่ายไว้   นายจ้างต้องคืนเงินค่าชดเชยส่วนที่จ่ายขาดไปแก่โจทก์
 
 
 
                               โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องว่า       โจทก์เป็นลูกจ้างของ
จำเลยตั้งแต่วันที่ 1  ตุลาคม  2547  ในตำแหน่งพนักงานแรงงานสัมพันธ์  ได้รับ
ค่าจ้างอัตราสุดท้ายเดือนละ 72,500  บาท  เป็นเงินเดือน 65,000  บาท    บัตรเติมน้ำมันแทนเงินสด  7,500   บาท  กำหนดจ่ายค่าจ้างทุกวันที่  30     ของทุก
เดือน ต่อมาจำเลยได้บอกเลิกจ้างโจทก์เมื่อวันที่  31  ตุลาคม  2548 โดยโจทก์
ไม่ได้กระทำความผิด   ไม่บอกกล่าวเลิกจ้างล่วงหน้า   ไม่จ่ายเงินค่าจ้างในเดือน
ที่เลิกจ้างและค่าชดเชย  ขอให้บังคับจำเลยจ่ายค่าจ้างค้างจ่าย   72,500   บาท
ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี 16,500 บาท   ค่าจ้างแทนการบอกกล่าว
ล่วงหน้า  72,500  บาท   ค่าชดเชย  217,500   บาท       พร้อมดอกเบี้ยอัตรา
ร้อยละ  15  ต่อปี      นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จและค่าเสียหาย
จากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม  880,000  บาท  พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5
ต่อปี  นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
 
 
                               จำเลยให้การว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุม          นิติสัมพันธ์
ระหว่างโจทก์กับจำเลยไม่ใช่สัญญาจ้างแรงงาน      เลยทำสัญญาจ้างโจทก์เป็น
ที่ปรึกษาทางด้านแรงงานสัมพันธ์   มีกำหนดระยะเวลาของสัญญาแน่นอน  1  ปี
นับแต่วันที่  1  ตุลาคม  2547   ถึงวันที่  30  กันยายน  2548    โดยให้ค่าตอบ
แทนแก่โจทก์เดือนละ  65,000  บาท   สวัสดิการในการเติมน้ำมันตามความเป็น
จริงแต่ไม่เกินเดือนละ   6,300  บาท  ต่อมาในวันที่  30  กันยายน  2548    ซึ่ง
เป็นวันครบกำหนดสัญญาระหว่างโจทก์กับจำเลย        จำเลยแจ้งแก่โจทก์ว่าไม่
ประสงค์ต่อสัญญากับโจทก์โดยจำเลยขอจ่ายค่าชดเชยเท่ากับค่าตอบแทนอัตรา
สุดท้าย 90  วัน หักภาษีแล้วคงเหลือ 175,500  บาท และโจทก์ได้รับจากจำเลย
ไปแล้วเมื่อเป็นการเลิกจ้างตามกำหนดระยะเวลา      จำเลยจึงไม่ต้องจ่ายสินจ้าง
แทนการบอกกล่าวล่วงหน้าค่าชดเชยเพิ่มเติม       ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อน
ประจำปี      ค่าเสียหายจากการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม      และค่าจ้างค้างจ่ายใน
เดือนตุลาคม 2548    พร้อมดอกเบี้ยขอให้ยกฟ้อง
 
 
                                 ศาลแรงงานกลางพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า  ฟ้องโจทก์ไม่
เคลือบคลุม  จำเลยยอมให้โจทก์ทำงานต่อไปหลังวันที่  30 กันยายน 2548  ซึ่ง
เป็นวันสิ้นสุดสัญญาจ้างแรงงาน   เป็นการต่อสัญญาจ้างแรงงานออกไปโดยไม่มี
กำหนดระยะเวลา    จำเลยต้องจ่ายค่าจ้างเดือนตุลาคม   2548    โจทก์ยังไม่ได้
หยุดพักผ่อนประจำปี  6  วัน   จำเลยไม่ได้บอกกล่าวเลิกจ้างล่วงหน้าจำเลยต้อง
จ่ายค่าชดเชยเท่ากับค่าจ้าง  90  วัน  เป็นเงิน  195,000  บาท จำเลยจ่ายแล้ว 
175,500  บาท  ยังขาดอยู่ 19,500 บาท     จำเลยเจตนาไม่ต่ออายุสัญญาจ้าง
แรงงานกับโจทก์ตั้งแต่ก่อนครบกำหนดสัญญา  แต่ด้วยความบกพร่องของจำเลย
เองทำให้การแจ้งไม่ต่อสัญญาหรือบอกเลิกสัญญาล่าช้า ไปเป็นการเลิกจ้างที่ไม่
เป็นธรรมแล้วพิพากษาให้จำเลยจ่ายค่าจ้างค้างจ่าย  65,000  บาท        ค่าจ้าง
สำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี 13,000  บาท      ค่าชดเชยส่วนที่ขาด 19,500
บาท  พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 15  ต่อปี   สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า
65,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปี ดอกเบี้ยให้นับแต่วันเลิกจ้าง
(วันที่  2  พฤศจิกายน  2548)   จนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์
                               
                                จำเลยอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา
 
 
                                ศาลฎีกาแผนกคดีแรงงานตรวจสำนวนประชุมปรึกษาแล้วศาลแรงงานกลางฟังข้อเท็จจริงว่า         โจทก์เข้าทำงานกับจำเลยตั้งแต่วัน
ที่ 1 ตุลาคม 2547  โดยได้ทำสัญญาจ้างแรงงานมีกำหนด  12  เดือน  ตั้งแต่วัน
ที่ 1 ตุลาคม 2547 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2548  ตามสัญญาจ้างแรงงานเอกสาร
หมาย ล.1 เดิมนางนงลักษณ์ พึ่งสม ดำรงตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายบุคคล ต่อมานาง
สาวธัญธร  กิริยาพงษ์    ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้จัดการกลุ่มฝ่ายทรัพยากรบุคคลและ
การจัดการได้เข้าทำงานกับจำเลยแทนนางนงลักษณ์ก่อนมีการเลิกจ้างโจทก์ไม่
นานหลังจากครบกำหนดตามสัญญาจ้างแรงงานเอกสารหมาย  ล.1     แล้วในวัน
ที่ 12 และวันที่ 18 ตุลาคม 2548   โจทก์ได้ทำงานในฐานะผู้รับมอบอำนาจของ
จำเลย ต่อมาจำเลยได้บอกเลิกจ้างโจทก์ในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2548 จำเลยได้
จ่ายค่าชดเชยให้แก่โจทก์และโจทก์ได้รับไปแล้วเป็นจำนวนเงิน 175,500 บาท
                               
 
                                จำเลยอุทธรณ์ประการแรกว่า       จำเลยมิได้มีเจตนาให้
โจทก์ไปทำงานในฐานะผู้รับมอบอำนาจ     จำเลยหลังจากที่ครบกำหนดการจ้าง
ตามสัญญาจ้างแรงงานเอกสารหมาย ล.1      การที่โจทก์ไปทำการในฐานะผู้รับ
มอบอำนาจจำเลยเป็นการใช้สิทธิไม่สุจริต ไม่ก่อให้เกิดนิติสัมพันธ์ความเป็นนาย
จ้างลูกจ้างขึ้นใหม่หลังจากครบกำหนดการจ้างเดิมแล้ว       จำเลยจึงไม่ต้องจ่าย
ค่าจ้างในเดือนตุลาคม 2548  ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี และสินจ้าง
แทนการบอกกล่าวล่วงหน้าแก่โจทก์นั้น เห็นว่า  ตามคำฟ้องโจทก์แสดงว่าโจทก์
ทำงานตั้งแต่เดือนตุลาคม 2547 ถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2548   เป็นการทำงานเกิน
หนึ่งปีแล้วจำเลยเลิกจ้างโดยมิชอบ  จึงขอให้จำเลยจ่ายค่าจ้างของเดือนตุลาคม
2548  ค่าชดเชยจากการทำงานครบหนึ่งปีแต่ไม่ครบสามปี      ค่าจ้างสำหรับวัน
หยุดพักผ่อนประจำปี สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า และค่าเสียหายจากการ
เลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม   ซึ่งจำเลยให้การต่อสู้คำฟ้องโจทก์ส่วนนี้เพียงว่าโจทก์ไม่
ใช่ลูกจ้างจำเลยและเป็นการครบกำหนดตามสัญญาที่ตกลงกำหนดระยะเวลากัน
 
ไว้แน่นอนแล้ว       โดยไม่ได้ให้การต่อสู้ถึงการทำงานของโจทก์ในเดือนตุลาคม
2548     หลังจากที่ครบกำหนดระยะเวลาจ้างตามสัญญาจ้างแรงงานแต่อย่างใด
คำให้การจำเลยจึงไม่มีประเด็นว่าการที่โจทก์ทำงานให้จำเลยในเดือนตุลาคม
2548  เป็นการใช้สิทธิโดยไม่สุจริตหรือไม่     อุทธรณ์ของจำเลยดังกล่าวจึงเป็น
ข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบในศาลแรงงานกลาง  เป็นอุทธรณ์ที่ไม่ชอบ
ด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา  225  วรรคหนึ่ง     ประกอบ
พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาคดีแรงงาน         พ.ศ.  2522
มาตรา 31 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
                               
 
                                จำเลยอุทธรณ์ประการสุดท้ายว่า     จำเลยได้จ่ายค่าชด
เชยให้แก่โจทก์เท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้ายเก้าสิบวันแล้ว    แต่ได้หักภาษี  ณ  ที่
จ่าย จำนวน 19,500 บาท  แล้วจ่ายส่วนที่เหลือ 175,000 บาท แก่โจทก์ การที่
ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลยต้องจ่ายค่าชดเชยแก่โจทก์เพิ่มอีก  19,500
บาท จึงไม่ชอบนั้น เห็นว่าตามประมวลรัษฎากร หมวด 3 ภาษีเงินได้ ส่วน 2 การ
เก็บภาษีจากบุคคลธรรม มาตรา  42  (17)   บัญญัติให้เงินได้ตามที่จะได้กำหนด
ยกเว้นโดยกฎกระทรวงเป็นเงินได้พึงประเมินประเภทที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้  ซึ่งตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509) ออก
ตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร     แก้ไขเพิ่มเติมโดยกฎ
กระทรวง ฉบับที่ 217  (พ.ศ.  2542)   ออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วย
การยกเว้นรัษฎากร ข้อ 2 (51) ระบุให้ “ค่าชดเชยที่ลูกจ้างได้รับตามกฎหมายว่า
ด้วยการคุ้มครองแรงงาน         และค่าชดเชยที่พนักงานได้รับตามกฎมายว่าด้วย
พนักงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์   แต่ไม่รวมถึงค่าชดเชยที่ลูกจ้างหรือพนักงานได้รับ
เพราะเหตุเกษียณอายุหรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง  ทั้งนี้ เฉพาะค่าชดเชยส่วนที่ไม่เกิน
ค่าจ้างหรือเงินเดือนค่าจ้างของการทำงานสามร้อยวันสุดท้ายแต่ไม่เกินสามแสน
บาท”    เป็นเงินได้ตาม  (17)  ของมาตรา  42    แห่งประมวลรัษฎากร    ดังนั้น
ค่าชดเชยที่จำเลยจ่ายให้โจทก์เมื่อเลิกจ้างเท่ากับค่าจ้างอัตราสุดท้ายเก้าสิบวัน
ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน  พ.ศ. 2541  มาตรา 118  (2)  ซึ่งเป็นค่า
ชดเชยส่วนที่ไม่เกินค่าจ้าง             หรือเงินเดือนค่าจ้างของการทำงานสามร้อย
วันสุดท้ายและ  ไม่เกินสามแสนบาทจึงเป็นเงินได้พึงประเมินที่โจทก์ได้รับยกเว้น
ไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากร      และกฎกระทรวง
ข้างต้น         และไม่ถือเป็นเงินได้เนื่องจากการจ้างแรงงานตามประมวลรัษฎากร
มาตรา  40 (1)  ซึ่งจำเลยเป็นผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินจะต้องหักภาษีเงินได้ไว้ทุก
คราวที่จ่ายเงินได้พึงประเมิน ณ ที่จ่าย ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 50 ประกอบ
มาตรา 3 จตุทศ   จำเลยจึงไม่มีสิทธิหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายจากค่าชดเชยที่ต้อง
จ่ายให้โจทก์         เมื่อจำเลยหักค่าชดเชยที่ต้องจ่ายแก่โจทก์จึงเป็นการจ่ายค่าชดเชยให้โจทก์ขาดไป  19,500   บาท  ที่ศาลแรงงานกลางพิพากษาให้จำเลย
จ่ายค่าชดเชยส่วนที่ขาด  19,500  บาท      พร้อมดอกเบี้ยแก่โจทก์จึงชอบแล้ว
อุทธรณ์ของจำเลยทุกข้อฟังไม่ขึ้น
 
 
 

 




อัพเดท ฎีกาน่าสนใจ

ขึ้นทะเบียนรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเกิน ๓๐ วัน ยังมีสิทธิได้รับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานได้ article
ลักษณะความผิดเดียวกัน แต่ระดับความร้ายแรงแตกต่างกัน นายจ้างพิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ผู้จัดการสาขา เสนอรายชื่อลูกค้าที่ขาดคุณสมบัติทำประกันชีวิต ถือว่าจงใจทำให้นายจ้างเสียหาย / ผิดร้ายแรง article
หยุดกิจการชั่วคราวตาม มาตรา ๗๕ article
สัญญาจ้างเป็นสัญญาต่างตอบแทน นายจ้างออกค่าใช้จ่ายในการเข้าทดสอบเพื่อรับเกียรติบัตร เมื่อทดสอบผ่านต้องทำงานกับนายจ้าง ๕ ปี บังคับใช้ได้ article
ศาลแรงงานกลางมีอำนาจสั่งรับพยานเอกสารได้ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาให้คู่ความอีกฝ่ายก็ตาม article
ประกอบธุรกิจแข่งขัน / ไปทำงานกับนายจ้างอื่น ในลักษณะผิดต่อสัญญาจ้าง เมื่อลูกจ้างได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้างตามสัญญาแล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะบังคับ / ห้ามทำงานตามเงื่อนไขในสัญญาจ้างอีกต่อไป article
คดีแรงงานเกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา แม้คดีอาญายกฟ้อง แต่พฤติกรรมการกระทำผิด เป็นเหตุให้นายจ้างไม่อาจไว้วางใจในการทำงานได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
เลิกจ้างเนื่องจากปรับโครงสร้างองค์กร แต่กำหนดรายชื่อไว้ล่วงหน้า ถือเป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม article
การหักลบกลบหนี้ หนี้อันเกิดจากสัญญาจ้าง กรณีลูกจ้างกระทำผิดกับสิทธิประโยชน์ที่มีสิทธิได้รับตามสัญญาจ้าง ถือเป็นมูลหนี้อันเป็นวัตถุอย่างเดียวกันหักลบกลบหนี้กันได้ article
เล่นการพนันฉลากกินรวบ เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย เป็นการฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน กรณีร้ายแรง article
กรณีไม่ถือเป็นการประกอบธุรกิจแข่งขันหรือไม่ถือว่าทำงานกับนายจ้างใหม่ในลักษณะธุรกิจเดียวกับนายจ้าง article
สัญญาฝึกอบรม นายจ้างกำหนดเบี้ยปรับได้ เป็นสัญญาที่เป็นธรรม article
ค้ำประกันการทำงาน หลักประกันการทำงาน การหักลบกลบหนี้ค่าเสียหายจากการทำงาน article
ใช้ตำแหน่งหน้าที่แสวงหาประโยชน์แต่ตนเอง เรียกรับเงินจากลูกค้า ถือเป็นการทุจริตต่อหน้าที่ article
ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชา มาทำงานสายประจำ ถือว่า กระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สหภาพแรงงานทำบันทักข้อตกลงเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้างกับนายจ้าง อันส่งผลกระทบต่อสิทธิหน้าที่ของสมาชิก ขัดกับข้อตกลงเดิมและมิได้ขอมติที่ประชุมใหญ่ ข้อตกลงดังกล่าวไม่อาจใช้บังคับได้ article
ขอเกษียณอายุก่อนกำหนดตามประกาศ ถือเป็นการสมัครใจเลิกสัญญาจ้างแรงงานต่อกัน มิใช่การเลิกจ้างหรือการเกษียณอายุ จึงไม่มีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยตามระเบียบกรณีเกษียณอายุ article
สถาบันวิจัยอันเป็นส่วนหนึ่งของกิจการมหาวิทยาลัยถือเป็นหน่วยงานของรัฐ ได้รับยกเว้น ไม่อยู่ภายใต้บังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา ๔ (๑) article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า จากการเลิกจ้างมีอายุความฟ้องร้องได้ภายใน ๑๐ ปี article
ทะเลาะวิวาทเรื่องส่วนตัวไม่ส่งผลกระทบต่อการบังคับบัญชา ไม่เป็นความผิด กรณีร้ายแรง ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ article
พี่น้องร่วมบิดา มารดาเดียวกัน มิใช่ทายาทผู้มีสิทธิรับเงินประโยชน์ทดแทนกรณีชราภาพ และเงินสงเคราะห์กรณีเสียชีวิต ตามพระราชบัญญัติ ประกันสังคม มาตรา ๗๓ และมาตรา ๗๗ article
ขับรถเร็วเกินกว่าข้อบังคับกำหนด เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนคำสั่งโยกย้าย เลิกจ้างได้ ถือเป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ประกาศใช้ระเบียบใหม่ ไม่ปรากฏว่ามีพนักงานโต้แย้งคัดค้าน ถือว่าทุกคนยินยอมปฏิบัติตามระเบียบ article
เงินค่าตอบแทนพิเศษกับเงินโบนัส มีเงื่อนไขต่างกัน หลักเกณฑ์การจ่ายต่างกัน จึงต้องพิจารณาต่างกัน article
ทายาทผู้มีสิทธิได้รับเงินกองทุนเงินทดแทน article
ค่ารถแทนรถยนต์ประจำตำแหน่ง ไม่ถือเป็นค่าจ้าง และ ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปีสะสมให้ถือตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานที่กำหนดไว้ article
เจรจาให้ลาออก ลูกจ้างไม่ตกลง ขอเวลาตัดสินใจและหยุดงานไป นายจ้างแจ้งให้กลับเข้าทำงานตามปกติ ถือว่านายจ้างยังไม่มีเจตนาเลิกจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ แอบนอนหลับในเวลาทำงาน ถือเป็นเหตุในการเลิกจ้างได้ เลิกจ้างเป็นธรรม article
ลาออกโดยไม่สุจริต ไม่มีผลใช้บังคับ article
ทำความผิดคล้ายคลึงกันแต่ไม่เหมือนกัน พิจารณาลงโทษแตกต่างกันได้ article
ประกอบธุรกิจ บริการ ด่าลูกค้าด้วยถ้อยคำหยาบคาย " ควาย " ถือเป็นการกระทำความผิดกรณีร้ายแรง article
ข้อบังคับ ระบุให้ผู้บังคับบัญชาเหนือกว่ามีอำนาจแก้ไข เพิ่มโทษ หรือลดโทษได้ การยกเลิกคำสั่งลงโทษเดิมและให้ลงโทษใหม่หนักกว่าเดิมจึงสามารถทำได้ article
เลือกปฏิบัติในการลงโทษระเบียบการห้ามใส่ตุ้มหูมาทำงาน บังคับใช้ได้ แต่เลือกปฏิบัติในการลงโทษไม่ได้ article
ลงโทษพักงานโดยไม่จ่ายค่าจ้างและเตือนในคราวเดียวกันได้ ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน article
จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย article
ข้อตกลงรับเงินและยินยอมปลดหนี้ให้แก่กัน ถือเป็นการตกลงระงับข้อพิพาทแม้จะทำขึ้นก่อนคำสั่งเลิกจ้างมีผลใช้บังคับ article
ศาลแรงงานมีอำนาจรับฟังพยานหลักฐานที่คู่ความอ้างส่งศาลได้ แม้มิได้ระบุบัญชีพยานไว้ก็ตาม article
สัญญาจ้างห้ามลูกจ้างไปทำงานกับนายจ้างใหม่ที่ประกอบธุรกิจเช่นเดียวกันมีกำหนดเวลา บังคับใช้ได้ article
เลิกจ้างและรับเงินค่าชดเชย ใบรับเงิน ระบุขอสละสิทธิ์เรียกร้องเงินอื่นใดใช้บังคับได้ ลูกจ้างไม่มีสิทธิ์ฟ้องร้องสินจ้างและค่าเสียหายได้อีก article
เกษียณอายุ 60 ปี ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเงินค่าชดเชยนับแต่วันครบกำหนดเกษียณอายุ แม้นายจ้างไม่ได้บอกเลิกจ้างก็ตาม article
ปฏิบัติหน้าที่บกพร่องและเพิกเฉยไม่ดูแลผลประโยชน์ของนายจ้าง เป็นเหตุให้นายจ้างไม่ไว้วางใจในการทำงานได้เป็นการเลิกจ้างที่เป็นธรรม article
ละเลยต่อหน้าที่ ไม่รายงานเคพีไอ นายจ้างตักเตือนแล้ว ถือว่าผิดซ้ำคำเตือน เลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ทำสัญญาจ้างต่างด้าวทำงานในอาชีพต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว สัญญาจ้างถือเป็นโมฆะ article
ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง article
ศาลมีคำสั่งให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษาตามหลักฐานที่ปรากฏในสำนวน ในขณะที่ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นข้อพิพาทยังมีข้อโต้แย้งกันอยู่ ข้อเท็จจริงยังรับฟังไม่ยุติ ต้องสืบพยานใหม่และพิพากษาใหม่ไปตามรูปคดี article
แม้สัญญาจ้างไม่ได้ระบุระยะเวลาทดลองงานไว้ แต่นายจ้างก็สามารถประเมินผลการทำงานของลูกจ้างได้ article
การควบรวมกิจการ สิทธิและหน้าที่โอนไปเป็นของบริษัทใหม่ การจ่ายเงินสมทบบริษัทใหม่ที่ควบรวมจึงมีสิทธิจ่ายเงินสมทบในอัตราเดิมตามสิทธิ มิใช่ในอัตราบริษัทตั้งใหม่ article
เลิกจ้างรับเงินค่าชดเชยแล้วตกลงสละสิทธิ์จะไม่เรียกร้องผละประโยชน์ใดๆ ถือว่าสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายเป็นอันระงับไป article
รับเหมาก่อสร้าง ผู้รับเหมาต้องรับผิดชอบ จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมแทนผู้รับเหมาช่วง หากผู้รับเหมาช่วงไม่นำส่งเงินสมทบตามกฎหมายโดยคำนวณจากอัตราค่าจ้างที่ระบุตามแบบ ( ภ.ง.ด. 50 ) และบัญชีงบดุล article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานระบุห้ามทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกาย ผู้บังคับบัญชา เพื่อนพนักงาน ทั้งในสถานที่ทำงาน หรือสถานที่อื่นๆ ฝ่าฝืนถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง ใช้บังคับได้ไม่ขัดต่อกฎหมาย article
ไส้ติ่งอักเสบ แพทย์วินิจฉัยให้ผ่าตัด ถือเป็นกรณีฉุกเฉิน เบิกค่ารักษาได้ มีสิทธิรับเงินทดแทนค่าบริการทางการแพทย์ได้ article
ค่าเช่าที่พัก ค่าใช้จ่ายเดินทางเป็นสวัสดิการไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่ารถยนต์ซึ่งกำหนดเป็นสวัสดิการไว้ชัดเจนแยกจากฐานเงินเดือนปกติ ถือเป็นสวัสดิการไม่ใช่ค่าจ้าง article
ละเมิดข้อตกลงสภาพการจ้าง ละเมิดสัญญาจ้าง มีอายุความ 10 ปี มิใช่ 1 ปี article
พฤติกรรมการจ้างที่ถือว่าเป็นการจ้างแรงงาน ถือเป็นลูกจ้าง / นายจ้างตามกฎหมาย article
พนักงานขายรถยนต์ไม่ปฏิบัติหน้าที่ประจำบูธ ตามที่ได้รับมอบหมาย ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
เลือกตั้งคณะกรรมการสหภาพฯ ขัดต่อข้อบังคับสหภาพหรือขัดต่อกฎหมาย ถือว่าเป็นการเลือกตั้งที่ไม่ชอบ article
ฝ่าฝืนสัญญาจ้าง กรณีห้ามทำการแข่งขันกับนายจ้างหรือทำธุรกิจคล้ายคลึงกับนายจ้างเป็นเวลา 2 ปี นับจากสิ้นสุดสัญญาต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่นายจ้าง article
ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระบุให้นายจ้างเลิกจ้างเพราะเหตุคนล้นงาน ปรับลด ขนาดองค์กรได้ ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะเลิกจ้างลูกจ้างได้ article
ข้อบังคับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ กรณีตัดสิทธิ์รับเงินสมทบพร้อมผลประโยชน์หากกระทำผิดถูกปลดออกจากงานบังคับใช้ได้ article
ทะเลาะวิวาทกัน นอกเวลางาน นอกบริเวณบริษัทฯ ไม่ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรง article
ฝ่าฝืนไม่ไปตรวจสารเสพติดซ้ำตามคำสั่งและนโยบาย ถือว่าฝ่าฝืน ข้อบังคับ หรือ ระเบียบ กรณีร้ายแรง article
วันหยุดพักผ่อนประจำปีตามส่วน article
เป็นลูกจ้างที่มีอำนาจกระทำการแทนนายจ้างในการจ้างงาน ไม่มีสิทธิได้รับค่าทำงานในวันหยุด และลักทรัพย์เอาต้นไม้ของนายจ้างไป ถือว่ากระทำผิดอาญาแก่นายจ้าง เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ผลการทำงานดีมาโดยตลอดและไม่เคยกระทำผิดมาก่อน แต่ปีสุดท้ายผลงานต่ำกว่ามาตรฐาน ไม่ถือเป็นเหตุที่จะอ้างในการเลิกจ้าง article
ได้รับบาดเจ็บรายการเดียว เข้ารักษา 2 ครั้ง ถือว่าเป็นการรักษารายการเดียว นายจ้างสำรองจ่ายเพิ่มเติมไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ใช่ 200,000 บาท article
ผู้บริหารบริษัท ฯ ถือเป็นลูกจ้างหรือไม่ ดูจาก_________ ? article
ขับรถออกนอกเส้นทาง แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อผู้บังคับบัญชา ถือเป็นความผิดกรณีร้ายแรงและก่อให้เกิดความเสียหายแก่นายจ้าง นายจ้างหักเงินประกันการทำงานได้ article
ค่าจ้างระหว่างพักงาน เมื่อข้อเท็จจริง ลูกจ้างกระทำความผิดจริง จึงไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างระหว่างพักงาน article
“ นายจ้าง ” ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน มาตรา 5 article
สัญญารักษาความลับ ข้อมูลทางการค้า (ห้ามประกอบหรือรับปฏิบัติงานแข่งขันนายจ้าง) มีกำหนด 2 ปี บังคับใช้ได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย และการกำหนดค่าเสียหาย ถือเป็นเบี้ยปรับตามกฎหมาย ศาลปรับลดได้ตามสมควร article
เงินรางวัลการขายประจำเดือน จ่ายตามเป้าหมายการขาย ที่กำหนดไว้ ไม่ถือเป็นค่าจ้าง article
ค่าโทรศัพท์ เหมาจ่าย ถือเป็นค่าจ้าง article
ละทิ้งหน้าที่ 3 วันทำการ โดยไม่มีเหตุอันสมควร เลิกจ้างเป็นธรรมไม่ต้องจ่ายค่าชดเชย article
ลาออกมีผลใช้บังคับแล้ว ออกหนังสือเลิกจ้างภายหลังใช้บังคับไม่ได้ article
ตกลงรับเงิน ไม่ติดใจฟ้องร้องอีกถือเป็นการตกลงประนีประนอมกันบังคับได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย
เลิกจ้างระหว่างทดลองงาน ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ข้อตกลงว่า “หากเกิดข้อพิพาทตามสัญญาจ้างแรงงาน ให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย” ไม่เกี่ยวกับสิทธิตามกฎหมายแรงงาน เมื่อเกิดสิทธิตามกฎหมาย ฟ้องศาลแรงงานได้ โดยไม่ต้องให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย article
เลิกจ้างด้วยเหตุอื่น อันมิใช่ความผิดเดิมที่เคยตักเตือน ไม่ใช่เหตุที่จะไม่จ่ายค่าชดเชย เลิกจ้างต้องจ่ายค่าชดเชยตามกฎหมาย article
นำรถยนต์ไปใช้ในกิจธุระส่วนตัว มีพฤติกรรมคดโกง ไม่ซื่อตรง พฤติกรรมส่อไปในทางทุจริต ไม่น่าไว้วางใจ ลงโทษปลดออกจากการทำงานได้ article
การกระทำที่กระทบต่อเกียรติ ชื่อเสียงของนายจ้าง และเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย แม้กระทำนอกสถานที่ทำงานและนอกเวลางาน ก็ถือว่า ฝ่าฝืนข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงานกรณีร้ายแรง article
สัญญาค้ำประกันการทำงานไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ต้องรับผิดชอบตลอดไป article
ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาเลิกจ้างได้ ถือว่าเลิกจ้างเป็นธรรมและความผิดที่ลงโทษแล้วจะนำมาลงโทษอีกไม่ได้ article
ผิดสัญญาจ้างไปทำงานกับคู่แข่ง นายจ้างฟ้องเรียกค่าเสียหายตามสัญญาได้ แต่ค่าเสียหาย เป็นดุลพินิจของศาลจะกำหนด article
จงใจกระทำผิดโดยผิดกฎหมายเป็นเหตุให้นายจ้างเสียหาย ถือว่า กระทำละเมิดต่อนายจ้าง ต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น article
ตกลงสละสิทธิ์เรียกร้องค่าเสียหาย ภายหลังเลิกจ้าง ใช้บังคับได้ ไม่เป็นโมฆะ article
ก้าวร้าวไม่ให้ความเคารพผู้บังคับบัญชา ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริตเลิกจ้างได้ โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
สินจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้ามิใช่ค่าจ้าง คิดดอกเบี้ยในอัตรา 7. 5 ต่อปี article
ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ของนายจ้างในเรื่องส่วนตัวเป็นประจำ ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่กาปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ลุล่วงไปโดยถูกต้องและสุจริต เลิกจ้างเป็นธรรม article
สั่งให้พนักงานขับรถ ขับรถออกนอกเส้นทางแต่ไม่ได้มีส่วนในการขับรถ ถือว่าผิดต่อสัญญาจ้าง แต่ไม่ต้องรับผิดอันมีผลโดยตรงจากมูลละเมิด ( ขับรถโดยประมาท ) article
จ่ายของสมนาคุณให้ลูกค้า โดยไม่ตรวจสอบบิลให้ถูกต้อง มิใช่ความผิดกรณีร้ายแรงไม่ใช่การทุจริตต่อหน้าที่ แต่ถือว่ากระทำการอันไม่สมแก่การปฏิบัติหน้าที่ของตนให้เสร็จลุล่วงไปโดยถูกต้อง และสุจริต เลิกจ้างได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวล่วงหน้า article
ฟ้องประเด็นละเมิด กระทำผิดสัญญาจ้าง ระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง มีอายุความ 10 ปี article
ตกลงยินยอมให้หักค่าจ้างชำระหนี้ตามสัญญาค้ำประกันเงินกู้ นายจ้างสามารถหักค่าจ้างได้ตามหนังสือยินยอมโดยไม่ต้องฟ้อง article
กระทำความผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้างและประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง article
“ งานโครงการตามมาตรา 118 วรรค 4 ” บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ว่าจ้างลูกจ้างทำงานตามโครงการที่รับเหมา ถือว่าจ้างงานในปกติธุรกิจของนายจ้าง มิใช่งานโครงการ article
เงินโบนัสต้องมีสภาพการเป็นพนักงานจนถึงวันกำหนดจ่าย ออกก่อนไม่มีสิทธิได้รับ article
ระเบียบกำหนดจ่ายเงินพิเศษ ( gratuity ) เนื่องจากเกษียณอายุ โดยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจ่ายแตกต่างจากการจ่ายค่าเชย ถือว่านายจ้างยังไม่ได้จ่ายค่าชดเยตามกฎหมาย article



Copyright © 2010 All Rights Reserved.

บริษัท กฎหมายปาระมี จำกัด

เลขที่ 511/4 ถนนประชาอุทิศ 117/1 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร (10140)

โทร/Tel : 02 - 8159522, แฟกซ์/Fax : 02 - 8159523, มือถือ/Mobile : 081 - 7936156

อีเมล/E-mail : sawai.prm@gmail.com, เว็บไซต์/Web : www.parameelaw.com