ปวดท้องตรงกลาง เสี่ยงเป็นโรคอะไรบ้าง? ปวดแบบไหนควรพบแพทย์
รู้มั้ย? ตำแหน่งที่ปวดท้องบอกโรคได้ ซึ่งแพทย์เองก็ใช้วิธีนี้ร่วมกับลักษณะอาการปวด ในการวินิจฉัยอาการของคนไข้ด้วยเช่นกันยกตัวอย่างเช่นอาการ
ปวดท้องตรงกลางที่หลายคนอาจเป็นกันบ่อย วันนี้แอปฯ หมอดีมีคำตอบ ว่าถ้าปวดท้องตรงนี้ เสี่ยงเป็นอะไรได้บ้าง? แล้วปวดแบบไหน ควรพบแพทย์
ปวดท้องตรงกลาง บอกอาการและเสี่ยงเป็นโรคอะไรบ้าง? มาอ่านกัน!
การปวดท้องตรงกลางนั้น จริงๆ แล้วแบ่งได้เป็นหลายตำแหน่งย่อย ๆเราสามารถดูตำแหน่งที่ปวด รวมถึงอาการร่วมต่าง ๆ ที่มีเพื่อวินิจฉัยอาการเบื้องต้นได้ ดังนี้
วินิจฉัยตามตำแหน่งที่ปวด
ปวดท้องตรงกลาง บริเวณสะดือ
มักเป็นอาการเริ่มต้นของโรคที่เกิดจากอวัยวะในช่องท้อง ได้แก่ กระเพาะอาหารลำไส้เล็ก และลำไส้ใหญ่ การแยกสาเหตุต้องใช้ลักษณะอาการปวดและอาการร่วมอื่น ๆ ประกอบ เช่น หากมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนมักเกิดจากโรคกระเพาะอาหาร หากมีอาการท้องเสียเป็นน้ำมักเกิดจากลำไส้เล็ก หากมีอาการถ่ายเป็นมูกเลือดอาจเกิดจากลำไส้เล็กหรือลำไส้ใหญ่ แต่ถ้ามีอาการปวดบิดเป็นพัก ๆอาจมีสาเหตุจาก ความผิดปกติในท่อน้ำดี หรือท่อไต
ปวดท้องตรงกลาง เหนือสะดือ (ใต้ลิ้นปี่)
เกิดได้จากหลายสาเหตุด้วยกัน อาจเป็นความผิดปกติของ กระเพาะอาหาร หลอดอาหารตับอ่อน หรือถุงน้ำดี ในบางรายที่ปวดรุนแรงเป็นประจำ จนรู้สึกคลื่นไส้อาเจียน อาจเกี่ยวข้องกับโรคตับอ่อนอักเสบและบางรายก็พบว่าเป็นอาการเนื่องมาจากกรดไหลย้อน
ปวดท้องตรงกลาง ใต้สะดือ เหนือหัวหน่าว
เป็นไปได้จากหลายสาเหตุ ให้ลองนึกดี ๆว่าทำกิจกรรมที่ผิดปกติไปจากเดิมบ้างหรือไม่ เช่น ยกของหนักออกกำลังกายโดยใช้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องมากเกินไปและหากมีอาการร่วมที่เกี่ยวเนื่องกับตอนปวดปัสสาวะก็อาจเป็นสัญญาณของโรคที่เกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะได้เช่นกัน นอกจากนี้สำหรับผู้หญิงก็เสี่ยงเป็นอาการที่เกี่ยวกับมดลูกและประจำเดือนอีกด้วย
ปวดท้องตรงกลาง ค่อนไปทางบั้นเอวขวา
หากปวดมากบริเวณนี้เสี่ยงต่อโรคที่สำคัญคือไส้ติ่งอักเสบ นอกจากนั้นอาจเป็นโรคที่เกี่ยวกับท่อไตหรือปีกมดลูกในเพศหญิงดังนั้นการปวดในตำแหน่งนี้นอกจากการซักอาการโดยละเอียดยังต้องให้แพทย์ตรวจร่างกาย โดยเฉพาะการคลำหน้าท้องเพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องมากยิ่งขึ้น
ปวดท้องตรงกลาง ค่อนไปทางบั้นเอวซ้าย
หากมีอาการปวดรุนแรงมักจะเป็นอาการของลำไส้ใหญ่อักเสบ นอกจากนี้ต้องดูอาการร่วม เช่น หากปวดร้าวถึงต้นขาก็อาจเป็นอาการของนิ่วในท่อไตหรือถ้าปวดท้องบริเวณนี้ร้าวไปจนถึงหลัง มีไข้ หนาวสั่น ปัสสาวะขุ่นอาจเป็นอาการของกรวยไตอักเสบ
วินิจฉัยตามอาการร่วม
ปวดท้องตรงกลาง ร่วมกับอาการปวดหลัง
อาการปวดหลังเป็นอาการข้างเคียงของการปวดท้องเป็นระยะเวลานานหรือเรียกได้ว่า เกิดจากอาการเรื้อรัง ถือว่าอาการในขั้นที่ค่อนข้างหนักไม่ควรละเลย ควรปรึกษาแพทย์ เพราะถ้าปวดท้องแล้วลามมาปวดหลังอาจเป็นสัญญาณของโรคกรวยไตอักเสบ ซึ่งจะแสดงอาการร่วมกับการมีปัสสาวะสีขุ่นมีไข้ หนาวสั่นนอกจากนี้ยังอาจเป็นความผิดปกติของหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องท้องโป่งพองได้อีกด้วย
ปวดท้องตรงกลาง ร่วมกับอาเจียนเป็นประจำ
อาการปวดท้อง โดยที่มีอาการร่วมเป็นการคลื่นไส้ อาเจียนอาจบ่งชี้อาการเริ่มต้นของโรคกระเพาะอาหารเรื้อรัง โรคหลอดอาหารอักเสบโรคกรดไหลย้อน หรือนิ่วในถุงน้ำดี ควรไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยต่อไป
สังเกตอาการให้ดี หากปวดท้องตรงกลาง และปวดลักษณะนี้ ควรพบแพทย์
- ปวดนานมากกว่า 6 ชั่วโมง แล้วอาการเป็นมากขึ้น ปวดจนรับประทานอาหารไม่ได้ ไม่อยากอาหาร
- ปวดท้องและอาเจียนมาก มากกว่า 3-4 ครั้ง
- ปวดท้องมากขึ้นเมื่อขยับตัว
- ปวดที่บริเวณท้องน้อยด้านขวาอย่างหนัก
- ปวดท้องรุนแรง ปวดจนนอนไม่ได้
- ปวดร่วมกับมีเลือดออกจากช่องคลอด
- ปวดท้องแบบมีไข้ร่วมด้วย
ข้อมูลดีดี : หมอดี