ตำแหน่งปวดหัวบอกโรคได้จริงหรือ ?
อาการปวดหัวเป็นอาการที่พบได้บ่อยในคนทั่วไป แม้ส่วนมากจะไม่ก่อให้เกิดอันตราย และสามารถหายเองได้จากการกินยาหรือพักสักระยะ แต่ยังมีอาการปวดหัวบางประเภทที่อาจเป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงบางอย่าง ปวดหัวแบบไหนไม่ควรนิ่งนอนใจ และจริงไหมที่ตำแหน่งของการปวดสามารถบอกโรคได้ เรามาหาคำตอบกัน
อาการปวดหัว คืออะไร
อาการปวดบริเวณศีรษะหรือลำคอส่วนบน เกิดได้หลายรูปแบบ เช่น ปวดตลอดเวลา ปวดเป็นพัก ๆ ปวดตุ้บ ๆ ปวดแปล๊บ เป็นอาการที่พบได้บ่อยในทุกเพศทุกวัย
สาเหตุของอาการปวดหัว
แม้จะเป็นอาการปวดหัวเหมือนกัน แต่อาจเกิดจากสาเหตุที่แตกต่างกัน ดังนี้
· กล้ามเนื้อตึงตัวรอบศีรษะ
· โรคไมเกรน
· โรคอื่น ๆ เช่น มีสิ่งผิดปกติในสมอง
ตำแหน่งปวดหัวบอกโรคได้จริงหรือ
ตำแหน่งปวดหัวสามารถบอกโรคได้ในระดับหนึ่ง
1. ปวดหัวเหมือนมีอะไรมารัด เกิดจากกล้ามเนื้อตึงตัวหรือความเครียด เป็นอาการปวดที่พบได้บ่อย และไม่ได้มีความร้ายแรง
2. ปวดหัวข้างเดียว อาจเป็นไมเกรนหรือไม่ใช่ก็ได้
3. ปวดจากบ่าลามขึ้นไปที่หัว เป็นอาการของโรคออฟฟิศซินโดรม
4 ความเชื่อ ตำแหน่งปวดหัวบอกโรค
มีความเชื่อที่แชร์ต่อ ๆ กันมาว่าตำแหน่งของการปวดหัวสามารถบอกได้ว่าเป็นโรคอะไรอยู่ ความเชื่อเหล่านี้จริงหรือไม่
ความเชื่อที่ 1 ปวดหัวข้างเดียวเป็นไมเกรน
ความเชื่อนี้ไม่จริง ปวดไมเกรนมีลักษณะจำเพาะหลายอย่าง การปวดหัวข้างเดียวเป็นเพียงหนึ่งในอาการของไมเกรนเท่านั้น แต่คนไข้ยังต้องมีอาการอื่นๆ ตัด อีกถึงจะเรียกได้ว่าเป็นโรคไมเกรนจริง ๆ โรคนี้ส่วนใหญ่พบในวัยนักศึกษา วัยทำงาน แต่หากมีอายุ 40 ปีขึ้นไป แล้วไม่เคยปวดหัวมาก่อนมักไม่ใช่อาการของไมเกรน
ลักษณะของการปวดหัวไมเกรน
1. ปวดหัวตุ้บ ๆ เหมือนเส้นเลือดกำลังเต้นอยู่บนศีรษะ
2. ปวดหัวข้างเดียว อาจสลับข้างได้หรือปวดหัวทั้ง 2 ข้างได้
3. มีอาการปวดหัวอยู่ระยะเวลาหนึ่ง เช่น ปวดเป็นชั่วโมง และปวดรุนแรงถึงขั้นรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ทำงานไม่ไหว เป็นต้น
4. เมื่อปวดหัวรุนแรงระดับหนึ่ง คนไข้มักมีอาการคลื่นไส้
5. มีอาการแพ้แสง แพ้เสียง เมื่อเจอแสงจ้า เสียงดัง ๆ หรือได้กลิ่นฉุน เช่น น้ำหอม ควัน จะปวดหัวมากขึ้น
ความเชื่อที่ 2 ปวดตรงโหนกแก้ม กลางใบหน้า เป็นไซนัสอักเสบ
ความเชื่อนี้ไม่จริง อาการปวดตรงโหนกแก้มหรือปวดตรงใบหน้าเป็นอาการที่เกิดขึ้นกับคนไข้ไซนัสอักเสบบางราย แต่การปวดบริเวณนี้ยังเกิดจากสาเหตุอื่นได้ด้วย เช่น การปวดจากเส้นประสาทคู่ที่ 5 มักจะปวดบริเวณครึ่งล่างของใบหน้า มีความปวดร้าวเหมือนปวดฟัน
ความเชื่อที่ 3 ปวดหัว ปวดหู แถมปวดกราม เป็นโรคข้อต่อขากรรไกรอักเสบ
ความเชื่อนี้ไม่จริง อาการปวด 3 อย่างนี้อาจเกิดจากสาเหตุอื่นได้ เช่น ปวดหู อาจเป็นหูชั้นกลางหรือหูชั้นนอกอักเสบ หากปวดกรามอาจเกิดจากการกัดฟันตอนนอน แล้วส่งผลให้ปวดตอนกลางวัน อาการเหล่านี้เป็นโรคใกล้ตัวที่พบได้บ่อย ซึ่งหลายคนมองข้ามไป
ความเชื่อที่ 4 ปวดหัวรุนแรง ฉับพลัน เป็นโรคอันตรายทางสมอง
ความเชื่อนี้ไม่จริง เพราะหากเป็นอาการปวดหัวที่บ่งบอกถึงโรคทางสมอง คนไข้จะต้องมีอาการอื่นด้วย เช่น คลื่นไส้ อาเจียนอย่างรุนแรง ซึม อ่อนแรง
อาการปวดหัวที่ต้องระวัง
อาการปวดหัวแบบไหนที่ไม่ใช่การปวดแบบทั่วไป อาจเป็นสัญญาณอันตรายของโรคบางอย่างได้
1. ปวดหัวร่วมกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน
2. ปวดหัวตอนกลางคืนจนทำให้ตื่น
3. ปวดหัวแบบมีอาการทางระบบประสาทร่วมด้วย เช่น ชาครึ่งซีก ปากเบี้ยว อ่อนแรงครึ่งซีก ซึม รู้สึกตัวน้อยลง ชัก
คำแนะนำสำหรับคนปวดหัวบ่อย
แม้การกินยาเมื่อเริ่มมีอาการปวดหัวไมเกรนจะเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาโรคนี้ แต่ปัจจุบันยังมีการรักษาแบบ ตัด อีกแบบ เป็นการรักษาแบบป้องกัน โดยแพทย์จะให้ยาที่ช่วยลดความถี่ของการเกิดอาการปวดหัว ทำให้คนไข้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
อาการปวดหัวเป็นอาการที่พบได้ทั่วไป แต่หากปวดหัวบ่อยและรุนแรง หรือรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน แนะนำให้มาพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย และรับการรักษาที่ถูกต้องต่อไป
ข้อมูลดีดี :Rama Channel