การใช้บุญที่ถูกต้องถึงจะได้ผล
พวกเราชาวพุทธแต่ละคนล้วนเคยทำบุญให้ทานมาแล้วทั้งสิ้น ทั้งในชาตินี้และในชาติก่อนถ้าจะนับบุญก็คงจะใหญ่เท่าภูเขาเลากา หรือเท่าก้อนโลก แต่ไม่รู้จักใช้บุญของตนเองให้เกิดประโยชน์ในปัจจุบันชาติ จึงต้องรอตายแล้วจึงไปรับบุญในสรวงสวรรค์ คนทำบุญจึงชอบบ่นว่าทำแต่บุญไม่เห็นได้ดีสักที ที่เป็นเช่นนี้เพราะเขาไม่เคยให้บุญแก่เทวดาที่รักษาตัวเอง ไม่เคยให้เทวดาและญาติทิพย์ที่อาศัยอยู่ในเขตบ้านเขตเรือน ไม่เคยให้เทวดาที่รักษาเจ้านายของตัวเอง เทวดาเหล่านั้นบางองค์อาจมีบุญน้อยมีฤทธิ์น้อยจึงไม่สามารถช่วยเหลืออะไรเราได้มาก แต่ถ้าเขาได้รับบุญจากเราบ่อยๆๆ เขาจะกลายเป็นเทวดาที่มีฤทธิ์ อำนาจ สามารถช่วยเหลือให้เราประสบความสำเร็จได้ดังใจหมาย บางคนอ้างว่าทำบุญทุกครั้งก็กรวดน้ำให้เทวดาและเจ้ากรรมนายเวรทุกครั้งก็ไม่เห็นมีอะไรเปลี่ยนแปลงโปรดเข้าใจว่าท่านให้ไม่เป็น เขาจึงไม่ได้รับ เช่น ให้ไม่เจาะจง หรือแสงบุญหมดแล้วจึงมากรวดน้ำให้เขาก็ไม่ได้รับเมื่อกำลังให้ของแก่ใคร ไม่ว่าจะถวายของแก่พระสงฆ์ ให้แก่พ่อ แม่ พี่น้อง ญาติ มิตร แม้เอาข้าวให้หมากินเอาอาหารโยนให้ปลากิน เอาเศษอาหารโปรยให้มดกิน ย่อมเกิดกระแสบุญขึ้น เป็นแสงเรืองรอง แผ่ออกจากตัวผู้กำลังให้ เพียงไม่กี่วินาที แสงนี้จะพุ่งหายขึ้นไปเบื้องบนแล้วสะสมเป็นกองบุญของผู้ให้อยู่บนเทวโลก ดังนั้นขณะให้ของแก่ใครจึงควรอธิษฐานจิตคิดทันทีว่า “บุญนี้จงเป็นของเทวดาผู้รักษา ตัวข้า” หรือ “บุญนี้จงเป็นของเจ้ากรรมนายเวรของข้า” หรือ “บุญนี้จงเป็นของเทวดา – ภูต – ผี – ปีศาจ – เปรต – ครุฑ – นาค – ยักษ์ ที่อาศัยอยู่ในเรือนสวนไร่นาหรือเคหะสถานบ้านเรือนของข้า” หรือ บุญนี้จงเป็นของเทวดาผู้รักษาบุตรของข้า เป็นต้น ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการแก้ไขในจุดไหน
ข้อมูลดีดี : หนังสือธรรมะ