แผลในปาก เกิดจากอะไร กันแน่!!
1.ระบบภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติ
สามารถทำให้เกิด
การอักเสบของร่างกาย
เช่น โรคเอสแอลอี
2. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
ในช่วงที่มีประจำเดือน
3. เครียดสะสม
4. ดื่มน้ำน้อยเกินไป
5. พักผ่อนไม่เพียงพอ
6. มีแผลกดทับ
หรือเสียดสีจากฟันปลอม
ที่หลวมเกินไป
หรือเหล็กดัดฟันไม่พอดีกับฟัน
7. โรคเบาหวาน
ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกัน
โรคเอดส์ โรคเซลิแอค
โรคระบบภูมิคุ้มกัน
ตอบสนองต่อกลูเตน
8 ขาดสารอาหาร
เช่น วิตามินบี12
ขาดธาตุเหล็ก
ขาดวิตามินซี
เมื่อใดที่ควรไปพบแพทย์ ?
1 แผลร้อนในมีขนาดใหญ่กว่าปกติ
เป็นแผลร้อนในนานกว่า 2 สัปดาห์
2. แผลเดิมยังคงอยู่
แต่มีแผลใหม่เกิดขึ้นก่อนแผลเก่าจะหาย
หรือพบว่าเป็นแผลในปากบ่อย ๆ
3. แผลลุกลามไปยังบริเวณริมฝีปาก
มีแผลที่ไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด
4. มีอาการเจ็บปวดไม่สามารถ
ควบคุมได้ด้วยวิธีรักษาทางธรรมชาติ
หรือยาที่หาซื้อได้ด้วยตนเอง
5. รับประทานอาหาร
หรือดื่มเครื่องดื่มได้ลำบากมาก
มีอาการท้องเสียหรือ
มีไข้สูงในระหว่างที่เกิดแผลในปาก
วิตามินซี VS ภูมิต้านทานต่อโรคติดเชื้อ
พบว่าผู้ที่มีระดับวิตามินซีในร่างกายสูง
จะหายจากการเจ็บป่วยบางชนิด
เช่น ไข้หวัด การติดเชื้อไวรัสได้ช้า
กว่าคนที่ไม่ได้รับวิตามินซี
1. บรรเทาหวัดทานวิตามินซี 1,000 มก
วันละ 2 เวลา ช่วยให้ระดับฮิสตามีน
สารที่ทำให้น้ำตาน้ำมูกไหลลดลง 40%
#ช่วยรักษาแผลในปาก
2. วิตามินซี สร้างไฮโดรเจนเพอร์ออกไซด์#ฆ่าไวรัส
วันละ 1000 มก.
ช่วยสร้างเกราะป้องกันร่างกาย
ยังเป็น antioxidant
คอยเก็บกวาดอนุมูลอิสระ
ที่ทำให้ถุงลมปอดอักเสบ
ทำให้ผิวเม็ดเลือดแดงแข็งแรงป้องกันไวรัส
3. ผู้ที่เป็นเบาหวาน
วิตามินซีวันละ 1000 มก.
จะเข้าไปช่วยลดสารต้านอนุมูลอิสระ
การอักเสบของหลอดเลือด
ป้องกันอาการแทรกซ้อนต่างๆ
เช่น โรคหัวใจ โรคไตวาย
ข้อมูลดีดี: โรงพยาบาลศิครินทร์